มิถุนายน 2555

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
19
20
21
22
24
25
26
27
28
29
 
All Blog
Swagat ร้านอาหารอินเดีย ย่านจิมซาจุ่ย


ชื่อร้าน
: SWAGAT
รายการอาหาร : Indian Cuisine
ที่ตั้งร้าน : Chungking Mansion, Tsim Sha Tsui, Hongkong
พิกัด GPS : 22° 17' 46.42" N 114° 10' 21.18" E






กล้องตัวใหม่คู่ใจวัยป้า ไม่สบายมาหลายสัปดาห์แล้วค่ะ
ป้าเดซี่ก็ว่าจะ...ว่าจะ...เอาไปเข้าศูนย์ แต่ก็ไม่ได้ไปซักที
อาการป่วยคือ พอถ่ายภาพแล้วมีเงาดำเป็นแนวยาวพาดผ่านตรงกลางภาพเลย
ทีแรกนึกว่าเลนส์สกปรก ลองเปลี่ยนเลนส์ดู ก็ไม่หาย
เลยแน่ใจว่าเป็นที่กล้อง อาจมีเศษผง เศษฝุ่นปลิวเข้าไปในเซ็นเซ่อร์

ปรกติศูนย์บริการ Canon ฮ่องกงเนี่ย เค้ามีบริการรับส่งถึงบ้านด้วย
อิชั้นเคยเอาเลนส์คิทไปเช็ค ขาไป-ไปเอง ขากลับให้เค้ามาส่ง
เค้าคิดค่าส่งแค่ 60 กว่าเหรียญนะ ถ้าจำไม่ผิด
พอกล้องป่วย หะแรกก็อยากจะโทรฯให้เค้ามารับเหมือนกัน
แต่ด้วยความที่อยากรู้ด้วยว่ามันเป็นอะไร ยังไง
เลยรอวันว่างเอามาส่งศูนย์เอง

จนเมื่อวานว่างค่ะ เลยเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากฝั่งฮ่องกงไปเกาลูน
ศูนย์บริการ Canon ตั้งอยู่ที่อาคาร I-Square ชั้น 20 ถนนปักกิ่ง จิมซาจุ่ย
วันนี้ในศูนย์คนน้อยเชียว นั่งรอแค่ 2 คิวเท่านั้น

สาวสวยฝ่ายบริการลูกค้าของ Canon หยิบจับดูอยู่แป๊บเดียว
ก็บอกว่ามีผมหล่นเข้าไปในเซ็นเซอร์หนิ แว๊กกกกกก
แล้วเธอก็นำไปให้ช่างจัดการให้ ไม่ถึง 2 นาทีเรียบร้อยค่ะ

อิชั้นเอากล้องมาลอง เงาดำอำมหิตที่ทำเอาเป็นกังวลมาหลายอาทิตย์
หายสนิทเป็นปลิดทิ้ง อิอิ นี่แหละหนา ผลของการขยันเปลี่ยนเลนส์
รวมทั้งผลของการไม่ได้ใช้แชมพูบำรุงรากผมให้แข็งแรง

พอออกมาจากศูนย์ อิชั้นก็มองหาที่รับประทานมื้อเช้าควบบ่ายทันทีค่ะ
ตึก I-Square นี้ตั้งอยู่เยื้องกับ Chungking Mansion อันโด่งดัง
หลายคนอาจจะทราบว่า ที่นี่เคยเป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์จีนเรื่อง ...
Chungking Express หนังอาร์ตของผู้กำกับติสต์อย่าง Wong Ka Wai

จุงกิงแมนชั่นทำให้อิชั้นคิดถึงพาหุรัดนะ
อารมณ์ได้เลย เพราะเต็มไปด้วยคนแขก และสินค้าแขก
สำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารแขกด้วยแล้ว
มาที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารอินเดียมากมาย
รสชาติอร่อย และที่สำคัญคือ ราคาไม่แพง








อย่างวันนี้ เราก็มากันที่ร้านประจำ "ประจำ" ในที่นี้หมายถึง
ถ้ามาแถวนี้ แล้วอยากรับประทานอาหารแขกทีไร ต้องมาร้านนี้
แต่ครั้งสุดท้ายที่มา ก็หลายปีดีดักแล้วค่ะ อิอิ

และเนื่องจากวันนี้มาทำธุระ คือเอากล้องมาเข้าศูนย์
ทีแรกนึกว่าคงต้องทิ้งไว้ ก็เลยเอามาแต่กล้องไม่ได้ใส่เลนส์มา
แล้วก็ตั้งใจไปช็อปปิ้งต่อที่ Fa Yuen Street
ภาพในบล็อกนี้เลยไม่ได้ใช้กล้องตัวใหญ่ แต่ใช้มือถือถ่ายนะคะ
ภาพไม่สวยไม่ชัดสักเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วย









ภายในร้านก็เป็นห้องแอร์เล็ก ๆ มีโต๊ะอยู่ไม่กี่ตัว
น่าจะรับลูกค้าได้ไม่เกิน 20 คนล่ะค่ะ
อย่างวันนี้เข้าไปตอนบ่ายโมงนิด ๆ โต๊ะเราเป็นโต๊ะแรกเลย









สั่งอาหารเสร็จ เค้าก็เอาซอส 2 อย่างนี้มาเสิร์ฟ
ถ้วยแรกเป็นซอสมินท์โยเกิร์ต
อีกถ้วยเหมือนจะเป็นซอสมะขาม รสชาติเหมือนชัทนีย์ค่ะ










Pakora
ผักชุบแป้งทอด ร้านนี้ใช้ดอกกะหล่ำกับมะเขือม่วง
อร่อยเหมือนผักชุบแป้งทอดทั่วไป
แต่ที่แปลกคือเค้าโรยพริกไทยมาเพียบเลย
ถ้ารับประทานเปล่า ๆ แล้วรู้สึกเลี่ยน
ก็จิ้มซอสทั้ง 2 อย่างข้างบน แหม ...เข้ากั๊น เข้ากัน









Papadam
พาพาดัม อิชั้นสั่งแบบรสจัดไป
ก็นึกว่าจะเป็นพาพาดัมกระเทียมอย่างที่เคยรับประทานที่อื่น
พอยกมาเสิร์ฟเท่านั้น ทำเอาอึ้ง
เค้าโรยมะเขือเทศกับหอมแดงหั่นเต๋ามาด้วย
สวยอ่ะ เพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นที่แรก บิแล้วจิ้มกับซอส อร่อยเลิศ









ปากอร่าเคี้ยวเพลินเป็นอย่างยิ่ง ซอสก็ยังเหลืออีกเยอะ
เลยสั่ง Vegetable Samosa ซาโมซ่าไส้ผักเพิ่มมาอีกจานนึงค่ะ









Vegetable Samosa
ซาโมซ่าไส้ผัก
ที่เคยรับประทานที่เมืองไทย ส่วนใหญ่จะเป็นไส้มันหั่นเต๋า
ผสมกับกะหล่ำปลีและแครอทขูดฝอย
แต่ร้านนี้เน้นมันเยอะไปหน่อย จานนี้ไม่โดนเท่าไหร่ค่ะ









Shish Kebab
คาบับแกะ สั่งแบบรสจัดไป
เสิร์ฟมาบนจานร้อนจำนวน 4 ชิ้นควันโขมงโฉงเฉงเชียว
มากัน 2 คน หาร 2 แบ่งผักจำนวนเท่ากันอย่างลงตัว
อร่อยมากค่ะ อร่อยกว่าร้านประจำอย่าง Akbar ที่นานาอีก









ผัดผักที่ใส่มาด้วยมีแครอท กะหล่ำปลี หอมแดง
โดนความร้อนแล้วหวาน อร่อย กลมกล่อม
อยากกระทืบไลค์ให้จมธรณีกับจานนี้









Chicken Kurma
แกงกุรหม่าไก่
แกงของอินเดียเนี่ย ไม่ค่อยน่ารับประทานเท่าไหร่
เพราะแทบไม่มีสีสันอื่นเลย นอกจากสีน้ำแกง
ไม่เหมือนแกงไทยที่เค้าจะใส่ผักเขียว พริกแดงแต่งหน้าด้วยเนอะ
ชามนี้อร่อยเหมือนกับร้านอื่น ๆ ทั่วไปค่ะ








Navratan Kurma
นาวราทัน แปลว่ามณี 9 ชนิด
ในทีนี้เป็นชื่ออาหาร หมายถึงแกงผัก 9 อย่าง
แต่ชามนี้ไม่รู้จะมีผักถึง 9 ชนิดหรือเปล่านะ
จากที่สังเกตุดู เค้าใช้ผักแช่แข็งน่ะแหละ
ที่บ้านก็เคยมีติดบ้านไว้เหมือนกัน อิอิ









คุณฝรั่งชอบรับประทาน Naan กับแกง
เธอสั่งนานกระเทียมรสเข้มข้นมา









ส่วนอิชั้นชอบข้าวมากกว่า ขอเป็น Pilau Rice จานเบ้อเริ่มเลย
ใครทานไม่เป็น ทางร้านเค้าก็มีข้าวขาวธรรมดาขายด้วย









ของคาวหมด ก็ต่อกันด้วยของหวาน
ของอิชั้นก็เลือกที่เคยรับประทานบ่อย ๆ Gulab Jamun
อธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะว่าเป็นอะไร
น่าจะทำจากแป้งกับไข่ปั้นเป็นก้อน แล้วลอยในน้ำเชื่อม
หวาน ๆ มัน ๆ ดีค่ะ








ของคุณฝรั่งก็มีของหวานปิดท้ายเหมือนกัน
มีชื่อว่า Rasmalai เป็นแป้งในครีมซอส


อิชั้นนั่งพิมพ์และโพสท์รูปในบล็อกนี้
ระหว่างชมโทรทัศน์กับพ่อบ้านและลูกบ้าน
โพสท์รูปไปก็ถามคุณพ่อบ้านไปว่าจานนั้น จานนี้เรียกว่าอะไร
อิชั้นจำชื่อไม่ได้ เรียกไม่ถูก เน้นรับประทานอย่างเดียว
โชว์รูปไหน เธอก็บอกชื่อได้คล่องแคล่วในทุกรายการ ทุกเมนู
เรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารอินเดียตัวจริงเลยนะเนี่ย

อ่ะ .. ขอบอกราคาไว้นิดนึงนะคะ
มื้อนี้สั่งลืมตายเพราะหิวกันทั้งสองคน
รวมน้ำเปล่า 2 ขวดแล้ว มื้อนี้ 397 เหรียญ
นับว่าไม่แพงเลยค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับการไปร้านอื่นในฮ่องกง

สำหรับใครที่พักแถวจิมซาจุ่ย แล้วมองร้านอาหารอินเดีย
อิชั้นแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้านเล็ก ๆ เงียบ ๆ น่านั่ง
ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของจุงกิงแมนชั่น ทางเข้าถนน Peking Road
Swagat อร่อย คุ้มค่า น่าลองจริง ๆ ค่ะ

พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ




Create Date : 03 มิถุนายน 2555
Last Update : 14 กันยายน 2556 14:41:57 น.
Counter : 4565 Pageviews.

0 comments

ป้าเดซี่
Location :
堅尼地城  Hong Kong SAR

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]





เจ้าของบล็อกนี้มีชื่อไซเบอร์ว่า "ป้าเดซี่" ค่ะ ย้ายตามครอบครัวมาปักหลักและทำงานที่ฮ่องกงเป็นปีที่ 8

เป็นมนุษย์เงินเดือนไทยในต่างแดนมาก็หลายงาน ตั้งแต่เลขานุการผู้บริหาร พนักงานติดตามเร่งรัดหนี้สิน นักแปล ล่าม ฯลฯ

ปัจจุบันเป็นนักแปลอิสระสัญชาติไทยประจำบริษัทรับจองห้องพักออนไลน์สัญชาติดัตช์มากว่า 4 ปี เป็นผู้จัดการชุมชนออนไลน์สัญชาติไทยประจำบริษัทศึกษาวิจัยทางการตลาดสัญชาติฝรั่งเศสมากว่า 3 ปี และเป็นจิตอาสาทำงานแปลเอกสารให้กับมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ประเทศไทยมากว่า 4 ปีค่ะ

บล็อกนี้ก็เป็นบล็อกเกี่ยวกับการใช้ชีวิต และอาการวิปริตทางความคิดและจิตใจของผู้หญิงไทยสายสามัญคนหนึ่ง ซึ่งมาใช้ชีวิตแบบสุขบ้าง ทุกข์บ้างในฮ่องกง

หวังว่าทุกท่านที่พลัดหลงเข้ามาในบล็อกนี้คงได้รับความไร้สาระกลับออกไปบ้างตามยถากรรมนะคะ