ชื่อร้าน : SWAGATรายการอาหาร : Indian Cuisineที่ตั้งร้าน : Chungking Mansion, Tsim Sha Tsui, Hongkongพิกัด GPS : 22° 17' 46.42" N 114° 10' 21.18" E กล้องตัวใหม่คู่ใจวัยป้า ไม่สบายมาหลายสัปดาห์แล้วค่ะป้าเดซี่ก็ว่าจะ...ว่าจะ...เอาไปเข้าศูนย์ แต่ก็ไม่ได้ไปซักทีอาการป่วยคือ พอถ่ายภาพแล้วมีเงาดำเป็นแนวยาวพาดผ่านตรงกลางภาพเลยทีแรกนึกว่าเลนส์สกปรก ลองเปลี่ยนเลนส์ดู ก็ไม่หายเลยแน่ใจว่าเป็นที่กล้อง อาจมีเศษผง เศษฝุ่นปลิวเข้าไปในเซ็นเซ่อร์ปรกติศูนย์บริการ Canon ฮ่องกงเนี่ย เค้ามีบริการรับส่งถึงบ้านด้วยอิชั้นเคยเอาเลนส์คิทไปเช็ค ขาไป-ไปเอง ขากลับให้เค้ามาส่งเค้าคิดค่าส่งแค่ 60 กว่าเหรียญนะ ถ้าจำไม่ผิดพอกล้องป่วย หะแรกก็อยากจะโทรฯให้เค้ามารับเหมือนกันแต่ด้วยความที่อยากรู้ด้วยว่ามันเป็นอะไร ยังไง เลยรอวันว่างเอามาส่งศูนย์เองจนเมื่อวานว่างค่ะ เลยเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากฝั่งฮ่องกงไปเกาลูนศูนย์บริการ Canon ตั้งอยู่ที่อาคาร I-Square ชั้น 20 ถนนปักกิ่ง จิมซาจุ่ยวันนี้ในศูนย์คนน้อยเชียว นั่งรอแค่ 2 คิวเท่านั้น สาวสวยฝ่ายบริการลูกค้าของ Canon หยิบจับดูอยู่แป๊บเดียวก็บอกว่ามีผมหล่นเข้าไปในเซ็นเซอร์หนิ แว๊กกกกกกแล้วเธอก็นำไปให้ช่างจัดการให้ ไม่ถึง 2 นาทีเรียบร้อยค่ะอิชั้นเอากล้องมาลอง เงาดำอำมหิตที่ทำเอาเป็นกังวลมาหลายอาทิตย์หายสนิทเป็นปลิดทิ้ง อิอิ นี่แหละหนา ผลของการขยันเปลี่ยนเลนส์รวมทั้งผลของการไม่ได้ใช้แชมพูบำรุงรากผมให้แข็งแรง พอออกมาจากศูนย์ อิชั้นก็มองหาที่รับประทานมื้อเช้าควบบ่ายทันทีค่ะตึก I-Square นี้ตั้งอยู่เยื้องกับ Chungking Mansion อันโด่งดังหลายคนอาจจะทราบว่า ที่นี่เคยเป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์จีนเรื่อง ...Chungking Express หนังอาร์ตของผู้กำกับติสต์อย่าง Wong Ka Waiจุงกิงแมนชั่นทำให้อิชั้นคิดถึงพาหุรัดนะอารมณ์ได้เลย เพราะเต็มไปด้วยคนแขก และสินค้าแขกสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารแขกด้วยแล้วมาที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารอินเดียมากมาย รสชาติอร่อย และที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงอย่างวันนี้ เราก็มากันที่ร้านประจำ "ประจำ" ในที่นี้หมายถึง ถ้ามาแถวนี้ แล้วอยากรับประทานอาหารแขกทีไร ต้องมาร้านนี้ แต่ครั้งสุดท้ายที่มา ก็หลายปีดีดักแล้วค่ะ อิอิและเนื่องจากวันนี้มาทำธุระ คือเอากล้องมาเข้าศูนย์ ทีแรกนึกว่าคงต้องทิ้งไว้ ก็เลยเอามาแต่กล้องไม่ได้ใส่เลนส์มาแล้วก็ตั้งใจไปช็อปปิ้งต่อที่ Fa Yuen Streetภาพในบล็อกนี้เลยไม่ได้ใช้กล้องตัวใหญ่ แต่ใช้มือถือถ่ายนะคะ ภาพไม่สวยไม่ชัดสักเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยภายในร้านก็เป็นห้องแอร์เล็ก ๆ มีโต๊ะอยู่ไม่กี่ตัวน่าจะรับลูกค้าได้ไม่เกิน 20 คนล่ะค่ะอย่างวันนี้เข้าไปตอนบ่ายโมงนิด ๆ โต๊ะเราเป็นโต๊ะแรกเลยสั่งอาหารเสร็จ เค้าก็เอาซอส 2 อย่างนี้มาเสิร์ฟถ้วยแรกเป็นซอสมินท์โยเกิร์ต อีกถ้วยเหมือนจะเป็นซอสมะขาม รสชาติเหมือนชัทนีย์ค่ะPakora ผักชุบแป้งทอด ร้านนี้ใช้ดอกกะหล่ำกับมะเขือม่วง อร่อยเหมือนผักชุบแป้งทอดทั่วไป แต่ที่แปลกคือเค้าโรยพริกไทยมาเพียบเลยถ้ารับประทานเปล่า ๆ แล้วรู้สึกเลี่ยน ก็จิ้มซอสทั้ง 2 อย่างข้างบน แหม ...เข้ากั๊น เข้ากันPapadam พาพาดัม อิชั้นสั่งแบบรสจัดไป ก็นึกว่าจะเป็นพาพาดัมกระเทียมอย่างที่เคยรับประทานที่อื่นพอยกมาเสิร์ฟเท่านั้น ทำเอาอึ้ง เค้าโรยมะเขือเทศกับหอมแดงหั่นเต๋ามาด้วย สวยอ่ะ เพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นที่แรก บิแล้วจิ้มกับซอส อร่อยเลิศปากอร่าเคี้ยวเพลินเป็นอย่างยิ่ง ซอสก็ยังเหลืออีกเยอะเลยสั่ง Vegetable Samosa ซาโมซ่าไส้ผักเพิ่มมาอีกจานนึงค่ะVegetable Samosa ซาโมซ่าไส้ผักที่เคยรับประทานที่เมืองไทย ส่วนใหญ่จะเป็นไส้มันหั่นเต๋าผสมกับกะหล่ำปลีและแครอทขูดฝอยแต่ร้านนี้เน้นมันเยอะไปหน่อย จานนี้ไม่โดนเท่าไหร่ค่ะShish Kebab คาบับแกะ สั่งแบบรสจัดไปเสิร์ฟมาบนจานร้อนจำนวน 4 ชิ้นควันโขมงโฉงเฉงเชียวมากัน 2 คน หาร 2 แบ่งผักจำนวนเท่ากันอย่างลงตัวอร่อยมากค่ะ อร่อยกว่าร้านประจำอย่าง Akbar ที่นานาอีกผัดผักที่ใส่มาด้วยมีแครอท กะหล่ำปลี หอมแดงโดนความร้อนแล้วหวาน อร่อย กลมกล่อมอยากกระทืบไลค์ให้จมธรณีกับจานนี้ Chicken Kurma แกงกุรหม่าไก่แกงของอินเดียเนี่ย ไม่ค่อยน่ารับประทานเท่าไหร่เพราะแทบไม่มีสีสันอื่นเลย นอกจากสีน้ำแกงไม่เหมือนแกงไทยที่เค้าจะใส่ผักเขียว พริกแดงแต่งหน้าด้วยเนอะชามนี้อร่อยเหมือนกับร้านอื่น ๆ ทั่วไปค่ะNavratan Kurma นาวราทัน แปลว่ามณี 9 ชนิดในทีนี้เป็นชื่ออาหาร หมายถึงแกงผัก 9 อย่าง แต่ชามนี้ไม่รู้จะมีผักถึง 9 ชนิดหรือเปล่านะจากที่สังเกตุดู เค้าใช้ผักแช่แข็งน่ะแหละ ที่บ้านก็เคยมีติดบ้านไว้เหมือนกัน อิอิคุณฝรั่งชอบรับประทาน Naan กับแกง เธอสั่งนานกระเทียมรสเข้มข้นมาส่วนอิชั้นชอบข้าวมากกว่า ขอเป็น Pilau Rice จานเบ้อเริ่มเลยใครทานไม่เป็น ทางร้านเค้าก็มีข้าวขาวธรรมดาขายด้วย ของคาวหมด ก็ต่อกันด้วยของหวาน ของอิชั้นก็เลือกที่เคยรับประทานบ่อย ๆ Gulab Jamunอธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะว่าเป็นอะไรน่าจะทำจากแป้งกับไข่ปั้นเป็นก้อน แล้วลอยในน้ำเชื่อมหวาน ๆ มัน ๆ ดีค่ะ ของคุณฝรั่งก็มีของหวานปิดท้ายเหมือนกันมีชื่อว่า Rasmalai เป็นแป้งในครีมซอส อิชั้นนั่งพิมพ์และโพสท์รูปในบล็อกนี้ระหว่างชมโทรทัศน์กับพ่อบ้านและลูกบ้านโพสท์รูปไปก็ถามคุณพ่อบ้านไปว่าจานนั้น จานนี้เรียกว่าอะไร อิชั้นจำชื่อไม่ได้ เรียกไม่ถูก เน้นรับประทานอย่างเดียวโชว์รูปไหน เธอก็บอกชื่อได้คล่องแคล่วในทุกรายการ ทุกเมนูเรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารอินเดียตัวจริงเลยนะเนี่ยอ่ะ .. ขอบอกราคาไว้นิดนึงนะคะ มื้อนี้สั่งลืมตายเพราะหิวกันทั้งสองคน รวมน้ำเปล่า 2 ขวดแล้ว มื้อนี้ 397 เหรียญ นับว่าไม่แพงเลยค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับการไปร้านอื่นในฮ่องกง สำหรับใครที่พักแถวจิมซาจุ่ย แล้วมองร้านอาหารอินเดียอิชั้นแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้านเล็ก ๆ เงียบ ๆ น่านั่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ของจุงกิงแมนชั่น ทางเข้าถนน Peking RoadSwagat อร่อย คุ้มค่า น่าลองจริง ๆ ค่ะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ
กล้องตัวใหม่คู่ใจวัยป้า ไม่สบายมาหลายสัปดาห์แล้วค่ะป้าเดซี่ก็ว่าจะ...ว่าจะ...เอาไปเข้าศูนย์ แต่ก็ไม่ได้ไปซักทีอาการป่วยคือ พอถ่ายภาพแล้วมีเงาดำเป็นแนวยาวพาดผ่านตรงกลางภาพเลยทีแรกนึกว่าเลนส์สกปรก ลองเปลี่ยนเลนส์ดู ก็ไม่หายเลยแน่ใจว่าเป็นที่กล้อง อาจมีเศษผง เศษฝุ่นปลิวเข้าไปในเซ็นเซ่อร์ปรกติศูนย์บริการ Canon ฮ่องกงเนี่ย เค้ามีบริการรับส่งถึงบ้านด้วยอิชั้นเคยเอาเลนส์คิทไปเช็ค ขาไป-ไปเอง ขากลับให้เค้ามาส่งเค้าคิดค่าส่งแค่ 60 กว่าเหรียญนะ ถ้าจำไม่ผิดพอกล้องป่วย หะแรกก็อยากจะโทรฯให้เค้ามารับเหมือนกันแต่ด้วยความที่อยากรู้ด้วยว่ามันเป็นอะไร ยังไง เลยรอวันว่างเอามาส่งศูนย์เองจนเมื่อวานว่างค่ะ เลยเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลจากฝั่งฮ่องกงไปเกาลูนศูนย์บริการ Canon ตั้งอยู่ที่อาคาร I-Square ชั้น 20 ถนนปักกิ่ง จิมซาจุ่ยวันนี้ในศูนย์คนน้อยเชียว นั่งรอแค่ 2 คิวเท่านั้น
สาวสวยฝ่ายบริการลูกค้าของ Canon หยิบจับดูอยู่แป๊บเดียวก็บอกว่ามีผมหล่นเข้าไปในเซ็นเซอร์หนิ แว๊กกกกกกแล้วเธอก็นำไปให้ช่างจัดการให้ ไม่ถึง 2 นาทีเรียบร้อยค่ะอิชั้นเอากล้องมาลอง เงาดำอำมหิตที่ทำเอาเป็นกังวลมาหลายอาทิตย์หายสนิทเป็นปลิดทิ้ง อิอิ นี่แหละหนา ผลของการขยันเปลี่ยนเลนส์รวมทั้งผลของการไม่ได้ใช้แชมพูบำรุงรากผมให้แข็งแรง พอออกมาจากศูนย์ อิชั้นก็มองหาที่รับประทานมื้อเช้าควบบ่ายทันทีค่ะตึก I-Square นี้ตั้งอยู่เยื้องกับ Chungking Mansion อันโด่งดังหลายคนอาจจะทราบว่า ที่นี่เคยเป็นโลเคชั่นในภาพยนตร์จีนเรื่อง ...Chungking Express หนังอาร์ตของผู้กำกับติสต์อย่าง Wong Ka Waiจุงกิงแมนชั่นทำให้อิชั้นคิดถึงพาหุรัดนะอารมณ์ได้เลย เพราะเต็มไปด้วยคนแขก และสินค้าแขกสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารแขกด้วยแล้วมาที่นี่ไม่ผิดหวังค่ะ เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารอินเดียมากมาย รสชาติอร่อย และที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงอย่างวันนี้ เราก็มากันที่ร้านประจำ "ประจำ" ในที่นี้หมายถึง ถ้ามาแถวนี้ แล้วอยากรับประทานอาหารแขกทีไร ต้องมาร้านนี้ แต่ครั้งสุดท้ายที่มา ก็หลายปีดีดักแล้วค่ะ อิอิและเนื่องจากวันนี้มาทำธุระ คือเอากล้องมาเข้าศูนย์ ทีแรกนึกว่าคงต้องทิ้งไว้ ก็เลยเอามาแต่กล้องไม่ได้ใส่เลนส์มาแล้วก็ตั้งใจไปช็อปปิ้งต่อที่ Fa Yuen Streetภาพในบล็อกนี้เลยไม่ได้ใช้กล้องตัวใหญ่ แต่ใช้มือถือถ่ายนะคะ ภาพไม่สวยไม่ชัดสักเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยภายในร้านก็เป็นห้องแอร์เล็ก ๆ มีโต๊ะอยู่ไม่กี่ตัวน่าจะรับลูกค้าได้ไม่เกิน 20 คนล่ะค่ะอย่างวันนี้เข้าไปตอนบ่ายโมงนิด ๆ โต๊ะเราเป็นโต๊ะแรกเลยสั่งอาหารเสร็จ เค้าก็เอาซอส 2 อย่างนี้มาเสิร์ฟถ้วยแรกเป็นซอสมินท์โยเกิร์ต อีกถ้วยเหมือนจะเป็นซอสมะขาม รสชาติเหมือนชัทนีย์ค่ะPakora ผักชุบแป้งทอด ร้านนี้ใช้ดอกกะหล่ำกับมะเขือม่วง อร่อยเหมือนผักชุบแป้งทอดทั่วไป แต่ที่แปลกคือเค้าโรยพริกไทยมาเพียบเลยถ้ารับประทานเปล่า ๆ แล้วรู้สึกเลี่ยน ก็จิ้มซอสทั้ง 2 อย่างข้างบน แหม ...เข้ากั๊น เข้ากันPapadam พาพาดัม อิชั้นสั่งแบบรสจัดไป ก็นึกว่าจะเป็นพาพาดัมกระเทียมอย่างที่เคยรับประทานที่อื่นพอยกมาเสิร์ฟเท่านั้น ทำเอาอึ้ง เค้าโรยมะเขือเทศกับหอมแดงหั่นเต๋ามาด้วย สวยอ่ะ เพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นที่แรก บิแล้วจิ้มกับซอส อร่อยเลิศปากอร่าเคี้ยวเพลินเป็นอย่างยิ่ง ซอสก็ยังเหลืออีกเยอะเลยสั่ง Vegetable Samosa ซาโมซ่าไส้ผักเพิ่มมาอีกจานนึงค่ะVegetable Samosa ซาโมซ่าไส้ผักที่เคยรับประทานที่เมืองไทย ส่วนใหญ่จะเป็นไส้มันหั่นเต๋าผสมกับกะหล่ำปลีและแครอทขูดฝอยแต่ร้านนี้เน้นมันเยอะไปหน่อย จานนี้ไม่โดนเท่าไหร่ค่ะShish Kebab คาบับแกะ สั่งแบบรสจัดไปเสิร์ฟมาบนจานร้อนจำนวน 4 ชิ้นควันโขมงโฉงเฉงเชียวมากัน 2 คน หาร 2 แบ่งผักจำนวนเท่ากันอย่างลงตัวอร่อยมากค่ะ อร่อยกว่าร้านประจำอย่าง Akbar ที่นานาอีกผัดผักที่ใส่มาด้วยมีแครอท กะหล่ำปลี หอมแดงโดนความร้อนแล้วหวาน อร่อย กลมกล่อมอยากกระทืบไลค์ให้จมธรณีกับจานนี้ Chicken Kurma แกงกุรหม่าไก่แกงของอินเดียเนี่ย ไม่ค่อยน่ารับประทานเท่าไหร่เพราะแทบไม่มีสีสันอื่นเลย นอกจากสีน้ำแกงไม่เหมือนแกงไทยที่เค้าจะใส่ผักเขียว พริกแดงแต่งหน้าด้วยเนอะชามนี้อร่อยเหมือนกับร้านอื่น ๆ ทั่วไปค่ะNavratan Kurma นาวราทัน แปลว่ามณี 9 ชนิดในทีนี้เป็นชื่ออาหาร หมายถึงแกงผัก 9 อย่าง แต่ชามนี้ไม่รู้จะมีผักถึง 9 ชนิดหรือเปล่านะจากที่สังเกตุดู เค้าใช้ผักแช่แข็งน่ะแหละ ที่บ้านก็เคยมีติดบ้านไว้เหมือนกัน อิอิคุณฝรั่งชอบรับประทาน Naan กับแกง เธอสั่งนานกระเทียมรสเข้มข้นมาส่วนอิชั้นชอบข้าวมากกว่า ขอเป็น Pilau Rice จานเบ้อเริ่มเลยใครทานไม่เป็น ทางร้านเค้าก็มีข้าวขาวธรรมดาขายด้วย ของคาวหมด ก็ต่อกันด้วยของหวาน ของอิชั้นก็เลือกที่เคยรับประทานบ่อย ๆ Gulab Jamunอธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะว่าเป็นอะไรน่าจะทำจากแป้งกับไข่ปั้นเป็นก้อน แล้วลอยในน้ำเชื่อมหวาน ๆ มัน ๆ ดีค่ะ ของคุณฝรั่งก็มีของหวานปิดท้ายเหมือนกันมีชื่อว่า Rasmalai เป็นแป้งในครีมซอส อิชั้นนั่งพิมพ์และโพสท์รูปในบล็อกนี้ระหว่างชมโทรทัศน์กับพ่อบ้านและลูกบ้านโพสท์รูปไปก็ถามคุณพ่อบ้านไปว่าจานนั้น จานนี้เรียกว่าอะไร อิชั้นจำชื่อไม่ได้ เรียกไม่ถูก เน้นรับประทานอย่างเดียวโชว์รูปไหน เธอก็บอกชื่อได้คล่องแคล่วในทุกรายการ ทุกเมนูเรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารอินเดียตัวจริงเลยนะเนี่ยอ่ะ .. ขอบอกราคาไว้นิดนึงนะคะ มื้อนี้สั่งลืมตายเพราะหิวกันทั้งสองคน รวมน้ำเปล่า 2 ขวดแล้ว มื้อนี้ 397 เหรียญ นับว่าไม่แพงเลยค่ะ เมื่อเปรียบเทียบกับการไปร้านอื่นในฮ่องกง สำหรับใครที่พักแถวจิมซาจุ่ย แล้วมองร้านอาหารอินเดียอิชั้นแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ร้านเล็ก ๆ เงียบ ๆ น่านั่งตั้งอยู่บนชั้น 2 ของจุงกิงแมนชั่น ทางเข้าถนน Peking RoadSwagat อร่อย คุ้มค่า น่าลองจริง ๆ ค่ะ พบกันใหม่บล็อกหน้า สวัสดีค่ะ