โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
Yoga Vidya Gurukul- 13 March 2551-New friends, New course

13 March 2008

04.45 ตื่นขึ้นมาแต่เช้าไม่รู้จะตื่นมาทำไมเนี่ย ก็เลยบันทึกไว้หน่อย และแล้วพอถึงเวลาตี 5ก็ได้ยินเสียงระฆังดังขึ้น บ่งบอกว่าชักนอนต่อไม่ได้แล้ว และแล้วคนอื่นๆก็ค่อยๆลุกขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นานเฮลเทอร์ก็แสดงตัวให้ฉันเห็นจริงๆว่าเธอมาจากนรก เธอบ่นออกมาว่าเธอไม่ได้นอนเลยราวๆสองชั่วโมง เพราะว่าได้ยินเสียงคนกรน ซึ่งฉันกับวาลาเรียบอกว่าไม่ได้ยินอะไรเลย ฉันก็ยืนยันเพราะว่านั่งพิมพ์คอมถึงเที่ยงคืน ก็ไม่เห็นมีอะไร เธอเลยกล่าวโทษว่า มิน่าเธอถึงต้องใช้ที่ปิดตาเพราะแสงแยงเข้าตา ซึ่งฉันก็ชักโมโหจึงบอกไปว่า งั้นก็ดีแล้วหละ เพราะคืนต่อไปฉันก็คงจะต้องจดบันทึกอีกนะแหละ


เราไปที่ห้องทำสมาธิ ห้องค่อนข้างเล็ก เพราะคนที่มาคอร์สมีจำนวนมากกว่าปกติ ซึ่งก็ไม่มีใครไปนั่งหน้าอีกตามเคย แต่ก็ดี เพราะฉันต้องการให้เสียงในวีดีโอชัดสักนิดนึง ตอนแรกฉันไม่ได้อัดไว้มากเพราะว่าไฟฟ้ามีจำกัดในตอนเช้าทำให้ไม่สามารถชาร์จแบตได้ จึงต้องทำอย่างระมัดระวังไม่ให้ในส่วนของวิชาการต้องหายไป เพราะฉันฟังภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดียไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ
อาสนะเป็นการทำแบบง่ายๆก่อน เพราะเรามาศึกษาเพื่อบำบัด ไม่ได้ไปแข็งขันกับใคร ซึ่งแน่นอนก็มีการแสดงรายละเอียดแบบเป็นขั้นเป็นตอน จากง่ายๆ เพราะผู้ถูกบำบัดแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งเราต้องรู้ขีดความสามารถของแต่ละคน

ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมดเรียกว่าน้อยมาก ซึ่งก็หวังว่าวีดีโอน่าจะช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่คิดไปคิดมาก็คงเหมือนกันถ้าภาษาอังกฤษยังคงต่ำต้อยน่าสงสารเช่นนี้ อย่างไรก็ตามฉันก็ได้บอกเพื่อนๆไปแล้วซึ่งวาลาเรียก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเธอก็เข้าใจได้ไม่หมดเหมือนกันจึงมีเคที่คอยเสริมให้
เราฝึกอาสนะกันในพื้นที่จำกัดนิดนึง เพราะเป็นห้องโถงใหม่ ซึ่งคน20คนที่รวมอยูในนั้นก็ขนาดไม่เบาทีเดียว ใครที่เคยคิดว่าครูสอนโยคะจะต้องมีขนาดเล็กๆผอมๆเป็นไม้เสียบลูกชิ้นละก็ มาที่นี่แล้วคงต้องคิดใหม่ละนะ

เราทานอาหารเช้ากันด้วยความเงียบ แต่ก็มีบ้างที่เผลอหลุดปากออกมา ซึ่งบางทีก็ยั้งได้ บางทีก็ไม่ แต่ก็เพิ่งวันแรกเอง เราก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา บางคนก็ต้องการที่จะรู้จักคนอื่นด้วย ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมห้อง

และแล้วเลคเชอร์แรกก็เริ่มขึ้น กูรูจี (จี แปลว่าเพื่อน ฟังดูน่ารักจังที่เรียกคุณครูที่รัก) และแล้วก็เหมือนประกาศิตที่ไม่มีวันลบเลือน พอเริ่มเลคเชอร์ปุ๊ป หนังตาก็เริ่มหนักทันที ดีว่าพยายามพยุงตัวไว้ไม่งั้น ล้มทั้งนั่งแน่นอน (ก็นั่งกะพื้นนี่นา) ไม่ใช่ว่าฉันเห็นว่าอัดวีดีโอไว้แล้วจะหลับได้นะ ก็ต้องพยายามทำความเข้าใจเสียก่อน เพราะภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาบรรพบุรุษ ฉันคงต้องพยายามมากเป็นสองเท่า สามเท่าละนะ

เหมือนสวรรค์ประทาน เวลาของโยคะนิทราก็มาถึง ซึ่งก็ตะกุกตะกักนิดหน่อย เพราะว่าไม่มีไฟฟ้า เลยต้องใช้เครื่องปั่นไฟช่วย เพื่อเปิดแผนการฝึกตามซีดี หลายคนที่อยากพักผ่อนเพราะทนกับการเปลี่ยนเวลาไม่ไหว จึงขอนอนไปเลย ก็ไม่ซีเรียสอะไร เพราะถือว่าเพิ่งวันแรกๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งฉันก็จะกึ่งหลับๆไป แต่ก็ไม่ถึงกับต้องให้ใครปลุกขึ้นมาเมื่อจบการฝึก

วาลาเรียพบว่าตัวเองทำโทรศัพท์หายไป ซึ่งเธอกังวลใจมาก เพราะถ้าใครใช้โทร ก็หมายความว่าเธอต้องจ่ายถึง สามยูโรต่อนาทีทีเดียว

ตอนบ่ายเรามีกรรมโยคะ กรรมโยคะ หมายถึงการบำเพ็ญประโยชน์ เป็นการทำที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนกลับมา ห้องของฉันต้องทำความสะอาดห้องโถงที่เราใช้ฝึกโยคะ ซึ่งก็สกปรกน่าดู เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีคนใช้ เว้นมานาน แต่ดีว่าเรามีกันหกคน จึงทำให้งานก็เสร็จได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเดินกลับมาที่ห้องก็พบว่าเฮลเทอร์เตรียมตัวย้ายออกไปแล้วเพราะว่าเธอทนเสียงกรนไม่ไหว จึงขอแยกไปอยู่คนเดียว ซึ่งก็โอเคอยู่ เพราะพอหลังการฝึกอาสนะ ก็มีหญิงสาวจากเม็กซิโกคนใหม่ ท่าทางน่ารักเข้ามาแทน เธอชื่อเฟอนันดา พวกเราจึงเล่าถึงอาถรรพ์ของเตียงมุมนี้ให้ฟังว่า ย้ายออกไปสองคนแล้ว เธอเป็นคนที่สาม ซึ่งถ้าย้ายไปอีกก็หมายความว่าเราสามคนต้องผิดปกติแน่นอน

หลังทานข้าว เราก็มีการเข้ากลุ่มฟังความคิดเห็นและศึกษาความหมายและผลของการฝึกมันตราบางประการ ซึ่งก็ตามเคย เข้าใจไม่หมดอีกแล้ว แหงะ





Create Date : 27 มีนาคม 2551
Last Update : 15 สิงหาคม 2551 17:24:21 น. 0 comments
Counter : 703 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.