โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
Yoga Vidya Gurukul - 2 April 08-Walking to Trimbak

Namaste

2 April 2008

ฉันตื่นมาแฟนันดาเธอหายไปจากเตียงแล้ว คงไปฝึกโยคะที่โถง พวกเราประหลาดใจมากเพราะเธอไม่ส่งเสียงใดๆเลย หรือว่าฉันคงจะเพลียเกินไป

เคที่จะไปกับรถแท๊กซี่เพื่อไปทริมบาก แต่ฉัน วาลาเรียและแฟนันดาตกลงว่าจะเดินไป เราออกมาเมื่อทุกคนไปหมดแล้ว ดื่มชาก่อนจะเริ่มเดิน

ตอนแรกฉันนึกว่าเธอจะพาฉันเดินไปตามถนน แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่(โห สำนวนเสี่ยวมากๆ) เธอพาฉันเดินลัดทุ่ง โดยมีเป้าหมายโดยการมองไปที่ทริมบาก ฉันมองเห็นสถานวิปัสสนาอยู่ไกลลิบๆ

อากาศขมุกขมัวเล็กน้อย ทำให้การเดินเป็นไปอย่างสบายๆ เพราะไม่มีแดด เราเดินไปเรื่อยๆ ตามทางที่เห็นว่ามีคนเดิน ตอนแรกวาลาเรียอยากถ่ายรูปกับวัว แต่เธอกลับโดนวัวร้องฮื่อใส่ เธอเลยยืนแค่ห่างๆ เพราะอยากถนอมชีวิตไว้นิดนึง

ระหว่างทางเดินเราจะเห็นบ้านคนบ้าง และตามทุ่งก็ยังมีแอ่งน้ำนิดหน่อย ซึ่งเราคาดว่าถ้าเป็นฤดูมรสุมมันคงจะเป็นคลองเล็กๆ แต่ขณะนี้มันแห้งมาก ไม่มีน้ำสำหรับการเพาะปลูกใดๆ

เราผลัดกันเดินนำหน้า ตามแต่สมควร ขณะที่ฉันอยู่ด้านหน้ากลางทุ่งนั้นเอง ฉันได้ยินเสียงหญ้าแห้งขยับ และมีเสียงแกรกอยู่ไม่ไกล พอมองไปฉันก็เห็นสีเขียวๆเหลือบเหลือง เคลื่อนอยู่ไม่ไกลห่างออกไปแค่เมตรกว่าๆเอง ฉันกางแขนออกห้ามไม่ให้ทั้งสองเดินเข้ามา แล้วร้องออกไปว่า “งู” (ภาษาอังกฤษนะ) เท่านั้นเอง ทั้งสองก็กระโดดแหย๋งกลับไปทางเดิมทันที โดยที่มีฉันตามไปติดๆ มันตัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่ฉันเห็นที่อารามซะอีก เราตัดสินใจที่จะเดินต่อไป เพราะมาถึงกว่าครึ่งทางแล้ว และมันก็อันตรายพอกันกับการเดินย้อนกลับไป นี่ถ้าน้องเฌอมาด้วย ฉันคงไม่ทำอย่างนี้เด็ดขาด เรายังคงคืบหน้าต่อไป โดยเพิ่มความระมัดระวังเป็นสองเท่า

และแล้วเราก็มาถึงถนนจนได้ แต่ก็ยังต้องเดินอีกหนึ่งกิโลกว่าจะถึงทริมบาก ระหว่างทางที่เราเดินไปก็เห็นรถของเพื่อนๆสวนทางกลับมา โอ พระเจ้าจอร์จ เรายังไม่ไปไหนกันเลยเนี่ย

แต่ก็ไม่รีบร้อนอะไร ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเราก็มาถึงทริมบาก ซึ่งมาถึงเราก็พากันไปหาของกินกันก่อนเลย โดนสองคนแค่ดื่มชากันขนมหนึ่งชิ้น ของฉันเพิ่มขนมปังชุปแป้งทอดด้วย(เรียกว่า ปาโกร่า) ซึ่งแฟนันดาบอกว่าฉันเลือกร้านดี สะอาด เพราะสังเกตุได้จากคนเยอะ

ฉันซื้อของมาเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นกล่องใส่เครื่องเทศ ป้ายโอม ที่คั่นหนังสือ ลูกประคำ และกระดิ่ง เอาไว้ใช้ในการสอนโยคะ ซึ่งที่นี่ก็ราคาไม่แพงเลย ถึงแม้ฉันจะต่อราคาได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่ทำ(ในบางครั้ง)

ระหว่างที่ซื้อผลไม้ เราก็เจอกับกลุ่มที่มาขึ้นภูเขา พวกเขากลับลงมากันแล้ว พวกเขาชอบมากๆ แต่ฉันเคยขึ้นมาแล้วจึงรู้สึกเฉยๆ

เรานั่งรถแท๊กซี่แบบแชร์กันไป สามคน 100 รูปี ตอนแรกก็สบายดีหรอก แล้วคนขับก็แวะรับมาเรื่อย ก็รู้หรอกนะว่ามันต้องแวะรับคนอื่นด้วย แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้นี่นา ก็รถกระป๊อบ้านเราน่ะแหละ แต่อัดทั้งข้างหน้าข้างหลัง รวมคนขับด้วยแล้วก็ 12 คนพอดีเลย แหงะ รู้สึกว่าตัวเองผอมไปทันใจ

ตอนแรกเราตกลงกับคนขับว่าไปบิ๊กบาร์ช่า แต่สุดท้าย แขกก็ยังเป็นแขก แถมยังพูดภาษาอังกฤษไม่รู้เรื่องอีก ทำให้เราต้องลงตรงขอบนอก เพราะเขาบอกว่ามันมีอณาเขต รถกระป๊อเข้าไม่ได้ ทำให้เราต้องเสียอีก 20 รูปี เพื่อไปบิ๊กบาร์ซ่า ฉันและแฟนันดาใช้เวลาอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตทั้งวัน ส่วนวาลาเรียก็ไปหาหมอฟัน เธอบอกว่าถูกกว่าที่ปารีสเป็นสิบเท่า ดังนั้นยอมเสียเวลาดีกว่าเสียตังค์เพราะเธอตกงานอยู่ ตอนนี้รัฐบาลเป็นคนให้เงินเธอใช้จ่าย แต่เธอสามารถอยู่นอกประเทศได้แค่ 35 วันต่อปีเท่านั้น หลังจากจบคอร์ส เธอต้องเดินทางกลับทันที

ฉันอัพโหลดรูปมาใส่บล็อกไม่ได้อีกตามเคย แย่จัง

ฉันแวะไปอัดรูปให้สาวๆในห้องครัว ฉันว่าพวกเธอต้องดีใจมากๆแน่นอน

Hari Om



แก๊งตีนผี เอ้ย ผู้ร่วมผจญภัย

ขี้วัวสารพัดประโยชน์

สระอโนดาด(รู้สึกว่าจะเขียนผิดนะเนี่ย)

สีสันแห่งอินเดีย

สีสันที่สอง

บรรดาถั่วต่างๆ

รูปเคารพของพระศิวะและพระนางปาราวตี

ตัวเลขอินเดียในปฏิทิน


Create Date : 11 เมษายน 2551
Last Update : 15 สิงหาคม 2551 17:56:33 น. 0 comments
Counter : 1518 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.