โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 
โ ย ค ะ กับ แ พ ท ย์ แ ผ น ไท ย และ ท่ า อ า ส น ะ กับ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า สุ ข ภ า พ

หริโอมค่ะ

ชื่อหัวข้อยาวนะเนี่ยยยย จะมีเนื้อหาอะไรขนาดไหนน้อ?

พอดีได้แรงกระตุ้นจากคุณวนิดา ตัวแทนจำหน่ายเสื่อแมนดูกะ เพราะเห็นหมวยหายไปนาน วันนี้เลยโผล่มาซะหน่อย จริงๆมีเรื่องคิดว่าจะเขียนไว้เยอะแต่เวลาเขียนไม่ค่อยมี เพราะไปเริ่มเรียนแพทย์แผนไทยตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้วค่ะ จึงทำให้เวลาน้อยจริงๆ

บางทีหลายๆคนอาจจะนึกว่า....สงสัยครูหมวยจะหมดมุขเขียนก็คราวนี้ละ

ยังค่ะ ยังมีได้เรื่อยๆ ตามแต่เวลาจะอำนวย ถ้าคนที่มาเรียนที่บ้านโยคะคีตาก็จะพบว่าหมวยมีเรื่องพูดคุยทุกวันนะคะ ไม่ได้มาถึงสอนเลย มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากเป็นประจำค่ะ และจากความที่ตั้งใจสอนและให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่านักเรียนจะมีมากมีน้อยทำให้สามารถยืนยันจริงๆว่า สอนโยคะนั้น ยิ่งให้ก็ยิ่งได้วิชาความรู้มากขึ้น จึงทำให้มีอะไรก็สอนหมด ไม่เคยแทงกั๊กไว้เลยค่ะ เรียกว่าคนที่มาเรียนคลาสทั่วไปก็ได้ความรู้เหมือนในคอร์สครู แต่ถ้าถามสมาชิกเหล่านั้นว่ามาเรียนคอร์สครูโยคะมั๊ย? ส่วนใหญ่ก็จะส่ายหน้าแล้วพูดเหมือนกันว่า ไม่ไหวค่ะ ถ้าการเป็นครูโยคะต้องมีสิ่งที่ต้องจำและเรียนรู้มากเหมือนที่ครูหมวยสอนก็ขอบายดีกว่า เป็นนักเรียนไปเรื่อยๆแหละดีแล้ววววว เป็นงั้นไป

เอาหล่ะ วันนี้หมวยตั้งใจจะมาคุยในหัวข้อ One Stop Service ค่ะ

เออ เริ่มเรื่องก็งงแล้ว

เรื่องมันมีอยู่ว่า หมวยไปเรียนแพทย์แผนไทยเรื่องพืชวัตถุเมื่ออาทิตย์ก่อน และตอนท้ายชั่วโมงก็ได้เรียนถามข้อสงสัยกับอาจารย์เรื่องของสมุนไพรที่รักษาอาการอัลไซเมอร์หรือการการความจำเสื่อมซึ่งคุณพ่อเป็นอยู่

หมวย : อาจารย์คะ คุณพ่อหนูเป็นอัลไซเมอร์ค่ะ ได้ยินว่าพรมมิรักษาได้คุณแม่เลยหามาปลูกเต็มเลยแต่ไม่รู้ว่าจะนำมาใช้ยังไงดี

อาจารย์ : ค่ะ พรมมิ รักษาได้ครูก็ใช้รักษาคนไข้อยู่ สามารถนำมาอบแห้งแล้วบดใส่แคปซูลได้ค่ะ หายค่ะ แต่ที่ครูใช้จะไม่ได้ใช้พรมมิเดี่ยวๆนะคะ จะต้องมีตำรับยาอื่นที่ทานควบคู่กับกับพรมมิ เป็นตำรับที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดเพื่อนำพรมมิไปที่สมองได้ดีขึ้นและถ้าเพิ่มการไหลเวียนของเลือดแล้วก็ต้องมีหลอดเลือดที่แข็งแรงและยืดหยุ่นด้วยค่ะ ไม่งั้นเส้นเลือดจะฉีกขาดได้ก็จะอันตราย หากไม่เสริมด้วยตำรับพวกนี้ พรมมิก็จะไม่ได้ผลดีหรืออาจจะไม่ได้ผลค่ะ

ได้ฟังดังนั้นความรู้และคำตอบใหม่ก็แตกขึ้นมาในปัญญาทันที

เช่นเดียวกับการแก้ไขสุขภาพด้วยท่าอาสนะในโยคะ

บ่อยครั้งที่ผู้ฝึกโยคะมักจะได้รับคำถามเช่น "ฝึกโยคะเหรอ เห็นเขาว่าดีมาก นี่ๆ ฉันปวดหลังมากเลยมีท่าไหนช่วยได้บ้างล่ะ"

นี่แหละค่ะที่เรียกว่า อาการ One Stop Service !! คือต้องการท่าเดียวแก้อาการที่เป็นให้หาย!!

ซึ่งท่าอาสนะที่แก้อาการก็มีค่ะ ในแต่ละท่าจะมีบอกว่าท่าที่แก้โรคนั้นโรคนี้ แก้อาการนั้นอาการนี้ แต่ถ้าอาสนะเหล่านั้นไม่สามารถแก้อาการให้หายสนิทหรือบางทีก็จะไม่ได้ผล ถ้าขาดองค์ประกอบสนับสนุนจากท่าอาสนะอื่นๆค่ะ

ยกตัวอย่างท่าง่ายๆเช่นการก้มตัว หรือท่ายืดหลังเช่น ปัจฉิโมทนาสนะ Paschimotanasan เพียงการก้มตัวไปข้างหน้า ท่านี้จะมีประโยชน์กับผู้มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อง ท้องบวมใหญ่ ช่วยทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น และยืดเส้นด้านหลัง กระตุ้นระบบประสาทที่กระดูกสันหลัง

หากคุณต้องการปฏิบัติท่าปัจฉิโมทนาสนะให้ได้ผลดีและก้มไปด้านหน้ามากขึ้น คุณจะต้องฝึกการบิดตัว ยืดด้านข้างลำตัว และเพิ่มความยืดหยุ่นของสะโพกด้วยค่ะ เห็นมั๊ยคะว่า การจะให้ได้ผลจากท่าอาสนะนั้นๆได้เต็มที่จะต้องอาศัยองค์ประกอบสนับสนุนอื่นๆด้วยค่ะ และนอกจากนี้ การทานอาหารและท่าการดำเนินชีวิตประจำวันก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนด้วย ต้องมีสติมากขึ้นเพื่อสังเกตุการเปลี่ยนแปลงต่างๆจะได้ระมัดระวังสุขภาพตัวเองได้ ไม่งั้นก็แก้กันไม่จบไม่สิ้น

ดังนั้น จึงไม่มีท่าอาสนะที่แก้อาการทางสุขภาพโดยตรงโดยไม่ต้องทำท่าอื่นประกอบค่ะ ไม่มี One Stop Service Asana ในโยคะแน่นอน

หริโอมตัสสัส



Create Date : 19 มกราคม 2555
Last Update : 19 มกราคม 2555 18:58:55 น. 2 comments
Counter : 923 Pageviews.

 
เคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับเสื่อโยคะของครูค่ะ เอ๋เป็นมือใหม่หัดเล่นโยคะ เนื่องจากมีปัญหากระดูกหลังเคลื่อนค่ะ


โดย: อวิกา มโหธร IP: 223.24.228.192 วันที่: 24 มกราคม 2555 เวลา:22:20:57 น.  

 
ตอนนี้หมวยเรียนแพทย์แผนไทยอยู่ กำลังศึกษาเรื่องกล้ามเนื้อและกระดูกเป็นส่วนตัวอยู่


โดย: หมวยเกี๊ยะA2 วันที่: 8 เมษายน 2555 เวลา:11:41:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.