โยคะเป็นไปเพื่อดับการปรุงแต่งของจิต
Group Blog
 
All blogs
 

ก า ร ล้ า ง พิ ษ ล ำ ไ ส้ และ ตั บ Colon cleanse and Liver cleanse ตอนที่ 3

สวัสดีค่ะ

จากช่วงที่ผ่านมาได้หาข้อมูลมาเรื่อยๆเพื่อให้เข้าใจว่าทำไมต้องล้างพิษลำไส้ และสิ่งที่หมวยทานเข้าไปเพื่อล้างพิษลำไส้นั้นทำงานอย่างไร

มาเริ่มกันด้วย Psyllium Hush หรือเยื่อหุ้มเมล็ดเทียนเกล็ดหอยค่ะ ข้อมูลจากบ้ายสุขภาพดี คลีนิกการแพทย์แผนไทยค่ะ

ไซเลี่ยม ฮัสค์ (Psyllium Seed Hush)

 เป็นพืชเส้นในอาหารจากธรรมชาติที่ได้จากต้นไซเลี่ยม ชีด ฮัสด์ (Psyllium Hush Power Tree) และเป็นไฟเบอร์ (Fiber) ชนิดที่สามารถละลายน้ำได้ (Soluble) เมื่อผสมกับน้ำ หรือ เครื่องดื่ม เช่น กาแฟก็จะพองตัวเป็นลักษณะคล้ายเจล หรือ วุ้น เมื่อรับประทานแล้วจะทำให้อิ่ม

มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือบริหารในการควบคุมน้ำหนัก (Good for Diet or Weight Management) ช่วยลดไขในในเลือด และเบาหวานได้ดี (Reduce Blood Cholesterol Levels and Anti-diabetic)

ลดความเสี่ยงเส้นเลือดตีบในหัวใจ (Reduce Risks of Cardiovascular Diseases)

ไซเลี่ยม ฮัสต์ ช่วยระบบการการย่อยอาหาร และช่วยดีท๊อก หรือล้างภายในลำไส้ได้ดีขึ้น (Beneficial to The Digestive System and Cleansing & Nourishing the Intestinal)

ลดอาหารท้องผูก ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งในลำไส้ใหญ่ (Prevention of Colon Cancers) และช่วยลดการดูดซึมของมัน

PSYLIUM HUSK (เปลือก / ผิว / เมล็ดไซเลียม)

ไซเลียม เปลือกเมล็ดไซเลี่ยมฮัสก์คุณสมบัติในการพองตัวสูง เมื่อรับประทานเข้าไปจะขยายตัวในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ดังนั้นปริมาณอาหารที่ได้รับน้อยลงน้ำหนักตัวจึงลดลง นอกจากนี้ใยอาหารในไซเลี่ยมยังช่วยดักจับไขมัน และน้ำดีในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งช่วยลดปริมาณไขมันเข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย

ไซเลี่ยม ซีด ฮัสค์ (Phyllium Seed Husk) มีชื่อไทยว่าเทียนเกล็ดหอยซึ่งมีถินกำเนิดจากประเทศ อิหร่านอินเดีย และตะวันออกกลาง เป็นประเภทไม่ล้มลุก นำเอาเมล็ดแก่ มาใช้ซึ่งมีสารมิวซิเลจ(mucilage) 10% เมื่อแช่น้ำจะพองตัวได้ถึง 25 เท่า สามารถดูดซับน้ำตาลและไขมัน ช่วยลดการดูดซึมของไขมัน ช่วยลดการดูดซึมของไขมันและพลังงานที่จะเข้าสู่ร่างกายได้ทำให้ระบบการทำงานและการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก อีกทั้งทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว ช่วยในการลดความอ้วนได้อย่างดี

นอกจากนี้เทียนเกล็ดหอยที่มีไฟเบอร์ที่มีลักษณะเป็นเจล ประกอบด้วย ไมโคร-โพลีแซคคาไรด์ (micro-polysaccharides) และเซลลูโลส (cellulose) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยหล่อเลี้ยงลำไส้ซึ่งเป็นทางผ่านของกากอาหาร

เปลือกเมล็ด Psyllium (Psyllium seed husk) ไม่ได้ให้สารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายเหมือนพืชอื่นๆ แต่จะให้ใยอาหาร (fiber) และ mucilage (10-30%) ซึ่งมีประโยชน์ดังต่อไปนี้ :

1 ท้องผูก : ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระทำให้ลำไส้บีบตัวจึงช่วยระบายได้ดี 

2 ริดสีดวงทวาร : เนื่องจากใยอาหารมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ จึงทำให้อุจจาระอ่อนตัวและง่ายต่อการขับถ่าย โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids)

3.การควบคุมน้ำหนัก : เมื่อรับประทานเปลือกเมล็ด psyllium ที่พองตัวเต็มที่แล้ว ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมงจะทำให้ทานอาหารได้น้อยลง

4.กำจัดสารพิษในลำไส้ : อาศัยคุณสมบัติในการดูดซับที่ดีของใยอาหาร ลำไส้จะถูกทำความสะอาดเมื่อใยอาหารเหล่านี้เคลื่อนตัวผ่านไป สารพิษหรือสารตกค้างอื่นๆ ก็จะถูกกำจัดออกไป

5.ช่วยควบคุมโลเลสเตอรอล :

จากผลการวิจัยพบว่าเปลือกเมล็ด psyllium มีคุณสมบัติในการลดระดับโลเลสเตอ รอลชนิดเลว (LDL, Low Density Lipoprotein)2 แต่ไม่มีผลต่อระดับของคลอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL, High Density Lipoprotein)  

 ประโยชน์ของเปลือกเมล็ด psyllium ยังมีอีกมากมาย เช่น ใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวาน โรคท้องเสีย ลำไส้อักเสบ ฯลฯ การใช้ให้ถูกวิธี นั่นก็คือ ผู้ใหญ่ควรรับประทานครั้งละ 1 ช้อนชา (5 กรัม) วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง ควรโปรยผงเปลือกเมล็ด psyllium ลงในน้ำดื่ม 1 แก้ว พร้อมการคนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดการพองตัวเต็มที่ หลังการรับประทานผลิตภัณฑ์แล้ว ควรดื่มน้ำตามอีกหนึ่งแก้วเพื่อให้การพองตัวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น หากใช้อย่างถูกวิธีแล้วเปลือกเมล็ด psyllium ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากพืชชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูง

วันนี้เอาข้อมูลตัวแรกไปก่อนละกันนะคะ เดี๋ยวค่อยมาดูว่ามันทำงานคู่กับตัวอื่นอย่างไรค่ะ

-/|-




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2555    
Last Update : 4 ตุลาคม 2555 11:11:20 น.
Counter : 4999 Pageviews.  

ก า ร ล้ า ง พิ ษ ล ำ ไ ส้ และ ตั บ Colon cleanse and Liver cleanse ตอนที่ 2

กลับมาตอนบ่ายๆหลังจากทานส้มตำและขนมครกแล้วSmiley

เรามาต่อกันที่ตอน 2 นะคะ เรื่องของการล้างพิษลำไส้และตับค่ะ

ตอนที่ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์จากอเมริกามาทดลองดูก็เพราะเคยทำงานในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบคุยบวกกับมีเวลาว่างทั้งวันก็เลยพาตัวเองไปคุยกับบรรดาพนักงานบ้าง แม่ครัวบ้าง ก็พอจะได้เห็นว่าเขามีอะไรกันบ้างและเป็นผลิตภัณฑ์ของอะไร ซึ่งทางรีสอร์ตก็ไม่ได้ปิดข้อมูลอะไรนะคะ ก็บอกรายละเอียดให้ฟังคร่าวๆว่ามีอะไรอย่างไรเพราะว่าเขาขายชาวต่างชาติจึงต้องมีที่มาที่ไปชัดเจนค่ะ

ผ่านมาสองปีนับจากตอนนั้น หมวยก็เลยลองสั่งมาดูบ้างเพื่อทดลองว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำงานอย่างไร แต่เนื่องจากเป็นการสั่งมาจากอเมริกาทำให้ผลิตภัณฑ์มีราคาสูง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะต้องการศึกษาข้อมูลต่างๆน่ะเองSmiley  ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่เป็นของArise and Shine ค่ะ ถ้าไปทำที่รีสอร์ตราคาจะสูวอยู่แต่เข้าใจได้ค่ะ เพราะว่าจะมีการนวดท้อง อบสมุนไพร มีการสวนทวารและมีโยคะกับนั่งสมาธิรวมถึงเครื่องดื่มล้างพิษตับและซุปกับน้ำผลไม้ด้วย ซึ่งพอคิดแล้วราคาก็สมเหตุสมผลอยู่ค่ะ แต่เนื่องจากเบี้ยน้อยก็เลยสั่งมาทำเองเป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ แต่ราคาก็ยังสูงค่ะ รวมค่าส่งกับภาษีก็ปาไปเกือบหมื่น!!!Smiley เล่นเอาผอมลงเพราะทรัพย์จางเลย

โดยเริ่มต้นก็จะมีดินเบนโตไนท์และผงซีเลี่ยมเขย่าให้เข้ากันและดื่มทุก 3 ชั่วโมงรวม 5 ครั้ง
//a6.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/539258_4661008566091_97856604_n.jpg
จากนั้นมีสารอาหารสมุนไพรเม็ด 2 อย่างๆละ 3 แคปซูล รวม 6 เม็ด ทั้งหมด 5 ครั้งซึ่งจะสลับกับเครื่องดื่มข้างต้นทุกชั่วโมงครึ่ง และก็มีน้ำผลไม้ทั้งน้ำแครอท น้ำมะพร้าว มีซุปใสให้ทานตอนเช้ากลางวันเย็น และที่สำคัญอีกตัวคือลิเวอร์ฟลัชดริ๊งค์(ล้างตับ)ในตอนเช้าประมาณ 8โมงครึ่งและ ห้าโมงเย็น

ส่วนประกอบของลิเวอร์ฟลัชดริ๊ง
-น้ำมันมะกอก 2ชต.หรือ 1/3 ของแก้ว
-น้ำผลไม้รสเปรี้ยว เช่นสับปะรดหรือส้ม อีก 2/3 ของแก้ว
-กระเทียมสัก 1-2 กลีบ(ตามแต่ขนาดกระเทียม)
-ขิง 1 แง่ง

-มะนาวนิดหน่อย
-พริกเคเย่นป่น ประมาณ 500 มก. หรือ1/4 ชช.
ปั่นให้ละเอียดแล้วดื่มทันที ถ้าปล่อยทิ้งไว้น้ำมันจะแยกตัวทำให้ทานยากค่ะ

ช่วงสัปดาห์แรกนั้นอิ่มตลอด เพราะเดี๋ยวก็ดื่มดีท็อกซ์ดริ้งค์ เดี๋ยวก็สมุนไพรเม็ด เดี๋ยวก็ลิเวอร์ฟลัช แป๊ปๆก็น้ำผลไม้ กับซุป ช่วงนั้นก็นึกอยู่ในใจนะ...นี่เรากำลังทำอะไรหว่าเนี่ย? Smiley

แต่ผลปรากฎว่าสัปดาห์แรกน้ำหนักหายไปหนึ่งกิโลครึ่ง!!! และมาหายไปในสัปดาห์ที่สองอีกเกือบสองกิโลกรัม!! Smiley ใครๆก็เห็นว่าลดลงและหน้าไม่โทรมและยังกระฉับกระเฉงดีอยู่

พอเข้าสัปดาห์ที่สามก็ตัดสินใจคงโปรแกรมในลักษณะสบายๆเพื่อให้น้ำหนักลดลงแบบเรื่อยๆไม่หักโหมแต่ปัญหามันมีอยู่ว่า... สมุนไพรและอะไรต่างๆที่ฝรั่งจัดไว้นั้นตรงตามกำหนดเป๊ะเลย มันจะต้องมีช่วงค่อยๆปรับตัวเข้าสู่ปกติแล้วผลิตภัณฑ์ทั้งหมดก็จะหมดเกลี้ยงพอดี (ยอมรับเลยว่าทำผลิตภัณฑ์เก่งมากๆ)

เดี๋ยวค่อยมาคุยต่อนะคะว่าผลิตภัณฑ์แต่ละตัวและเครื่องดื่มทำงานอย่างไร ตอนนี้ขอตัวไปรับลูกก่อนนะคะ

-/|-




 

Create Date : 14 กันยายน 2555    
Last Update : 14 กันยายน 2555 16:10:13 น.
Counter : 1380 Pageviews.  

ก า ร ล้ า ง พิ ษ ล ำ ไ ส้ และ ตั บ Colon cleanse and Liver cleanse ตอนที่ 1

หริโอมค่ะ


         พักนี้หมวยไปเล่นในเฟสบุ๊คบ่อยเลยไม่ค่อยได้เข้ามาอัพเดตข้อมูลต่างๆ แต่ไม่ได้ลืมนะคะ ถ้าอยากติดตามในเฟสบุ๊คก็ เข้าไปหาหน้าเพจ yoga gita bangkok ค่ะ

มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ Smiley
          เนื่องมาจากช่วงเดือนสิงหาคมหมวยได้จัดการล้างพิษร่างกายและล้างพิษตับ จึงได้เกิดเป็นเหตุของการศึกษาว่าแนวคิดและขั้นตอนเป็นอย่างไร เพื่อจะได้นำออกเผยแพร่กับเพื่อนๆและพี่น้องที่สนใจค่ะ  ตอนแรกหมวยก็สั่งเป็นผลิตภัณฑ์จากอเมริกามาเนื่องจากเคยทำงานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งแล้วเขาใช้ผลิตภัณฑ์จากที่นั่น  จากการปฏิบัติและพบว่าได้ผลดีมาก เป็นคอร์ส 2 อาทิตย์ พอครบสองอาทิตย์ก็สามารถสังเกตุอะไรได้หลายๆอย่างเช่น กลิ่นปากเปรี้ยวๆตอนเช้าๆไม่มี คล่องตัว มาพร้อมกับใบหน้าที่สดใส กระฝ้าจางลง น้ำหนักลดหายไปเกือบ 4 กก.และต้นขา สะโพกเล็กลงจนนักเรียนโยคะเห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น จึงเกิดความสนใจใคร่รู้ขึ้นมา
          บางคนก็สงสัยว่าเป็นครูสอนโยคะแล้วยังต้องมีการล้างพิษลดน้ำหนักอีกเหรอ  อันนี้ก็เป็นการทดลองส่วนตัวค่ะ เนื่องจากมีคนสอบถามกันมากเรื่องของการฝึกโยคะเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งพอหมวยบอกว่าต้องปรับพฤติกรรมการกินการนอนนะ....เขาก็มักจะหายไป บางคนก็ถามทำนองว่าฝึกสัก 10 ครั้ง น้ำหนักจะหายไปมั๊ย ซึ่งก็บอกกันตามตรงว่า...คุณสะสมมันมานานเท่าไหร่แล้ว จะให้ฝึกแค่ 10 ครั้งแล้วส่วนเกินมันหายไปก็ออกจะเวอร์ไปหน่อยมั๊ย โยคะไม่ใช่ยาวิเศษที่พอฝึกปุ๊ปก็ได้ดังใจปรารถนา พอเป็นดังนี้ก็เลยว่าจะลองทำให้คุณๆเขาดูว่าน้ำหนักขึ้นได้อย่างไร และหายได้อย่างไร
          ในช่วงที่ปล่อยให้น้ำหนักขึ้นถ้าเล่าไปคุณอาจจะไม่เชื่อก็ได้ อาจจะนึกว่าเอาแต่กินนอนละมั๊ง แต่ความจริงคือ หมวยงานเยอะมากกกกกกSmiley สอนก็เยอะ และเรียนด้วย แถมยังต้องขับรถไปโคราชเพื่อขุดปลูกต้นไม้ เรียกว่าออกแรงเยอะกว่าปกติมาก แต่ก็ไม่ได้ดูแลเรื่องการทานอาหาร ทานครบ 3 มื้อเต็มที่ แถมด้วยกาแฟเย็นเกือบทุกวันและขนมที่มักจะทานกับลูกอย่างเพลิดเพลิน น้ำหนักจึงได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมาถึง 6 กิโลกรัมเท่ากับที่เคยมีน้ำหนักสูงสุดเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ก็ยังสอนโยคะได้ตามปกติ ท่าโยคะก็ทำได้เหมือนเดินแต่ความคล่องตัวน้อยลงบ้าง พอมาถึงตรงนี้ก็คิดว่าถึงเวลาที่เราจะต้องทำอะไรบางอย่างให้คนเห็นแล้วว่าวิธีการทำให้สบายตัวขึ้นนั้นเป็นอย่างไรได้บ้าง
หมวยจึงเริ่มจากการล้างพิษค่ะ  อ่านไม่ผิดค่ะ ล้างพิษร่างกาย เพราะสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายนั้นเริ่มต้นมาจากการทำงานของอวัยวะที่ผิดปกติ การทำงานของอวัยวะที่ผิดปกติเกิดจากการทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ไม่เหมาะสมในแง่ของการทานมากเกินไป ทานอาหารซ้ำๆเดิมๆ ทานอาหารไม่ครบหมู่ จึงอาจทำให้เกิดการทำงานของอวัยวะบางอย่างที่เกินพิกัด หรือต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เกิดการตกค้างของอาหารที่นานขึ้นจึงทำให้ลำไส้เต็มไปด้วยแก๊สและของเสีย ดังนั้นหากต้องการล้างพิษหรือปรับสภาวะร่างกายก็ต้องเริ่มจากการเอาของเสียออกไปก่อนค่ะ
          บางคนคิดว่าการอดอาหารก็จะช่วยให้อวัยวะได้พักก็ไม่เถียงนะคะ แต่ที่ควรปฏิบัติก่อนนั่นคือการกำจัดของเสียค่ะ เพราะถ้าคุณให้อวัยวะพักตัวแต่ยังมีของเสียอยู่ก็จะทำให้เกิดพิษในร่างกายมากขึ้น จึงควรเอาออกไปก่อนค่ะ อันนี้คือจุดที่ 1 นะคะ
          จุดที่ 2 ที่เราต้องเอามาคิดถึงเยอะๆคือการกำจัดไขมันที่ไม่ดีที่เป็นส่วนเกินออก ซึ่งคงจะไม่มีอวัยวะใดทำงานได้ดีไปกว่า ตับ ค่ะ
ตับจะสร้างน้ำดีไปเก็บที่ถุงน้ำดี น้ำดีจะถูกกระตุ้นให้ไหลออกมาย่อยไขมันเมื่อมีอาหารอยุ่ในกระเพาะอาหาร น้ำดีจะถูกส่งไปที่ลำไส้เล็กเพื่อย่อยไขมันและดูดซึม แต่หากมีไขมันให้ย่อยมากจนเกินไปมันก็จะสะสมในร่างกายตามอวัยวะต่างๆซึ่งรวมถึงตับด้วย พอตับถูกพอกไปด้วยไขมันก็ทำงานไม่ค่อยได้ น้ำดีก็ไม่พอ ก็เกิดเป็นปัญหาไขมันพอกพูนวนเวียนอยู่เช่นนี้ แต่การจะแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้อยู่ที่การลดการทานไขมันลงเท่านั้น แต่อยู่ที่คุณภาพของไขมันที่คุณรับประทานเข้าไปด้วย เพราะเมื่อตับสร้างน้ำดีไม่พอ สิ่งที่เราทำได้จึงควรเติมไขมันดีเข้าไปให้ดันไขมันไม่ดีออกมา ร่วมกับการทานอาหารที่เหมาะสมก็จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้นค่ะ

Smiley เมื่อคิดได้ดังนัั้น เราก็ควรจะปฏิบัติให้ครบวงจรซะ มีการดึงไขมันออกและมีกากใยนำออกมาค่ะ

รู้สึกว่าจะเล่ายาวเดี๋ยวคราวหน้ามาต่อกันตอนที่ 2 ละกัน ดูว่าปฏิบัติอะไรอย่างไรบ้างSmiley

หริโอมตัสสัส
-/|-




 

Create Date : 14 กันยายน 2555    
Last Update : 14 กันยายน 2555 12:12:41 น.
Counter : 2304 Pageviews.  

ก า แ ฟ กับ ก า ร ตึ ง ข อ ง ร่ า ง ก า ย

หริโอมค่ะ

วันนี้มาในเรื่องของเครื่องดื่มยอดฮิตที่หลายๆคนดื่มกันเป็นประจำค่ะ นั่นก็คือกาแฟ


จริงๆแล้วดิฉันก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของกาแฟหรอกนะคะ แต่ที่จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้เพราะช่วงนี้กำลังออกกำลังกายเพิ่มขึ้นและนึกขึ้นมาได้ว่าเคยได้ยินลูกศิษย์ท่านหนึ่งโพสบนเฟสบุ๊คว่าจะงดกาแฟซะเพราะกาแฟทำให้ร่างกายแข็งตึง ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากหรอกค่ะ เพราะเขาก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มว่าเพราะอะไร และฉันเองก็ดื่มกาแฟเป็นประจำประมาณสัปดาห์ละ 5-7 แก้วก็ไม่ได้เห็นว่าจะมีอะไรทำให้ตึงไปกว่าเดิม ที่ยังคงดื่มอยู่เพราะมันเป็นเครื่องดื่มที่เขาเรียกว่าโซเชียลดริ้งหรือเครื่องดื่มในการเข้าสังคม ซึ่งน่าจะจริงตามนั้นเพราะถ้าเราบังเอิญเจอเพื่อนในเวลาที่เราอิ่มแล้วแต่ต้องการพูดคุยกันต่อก็ไม่น่าจะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งในร้านเครื่องดื่ม หาเครื่องดื่มกันคนละแก้วแล้วนั่งคุยสักชั่วโมงให้พอเพลิดเพลินกันไป และนอกจากนี้การเข้าร้านกาแฟก็ยังมีส่วนในการสร้างเพื่อนใหม่ไม่ให้เกิดการหง๋อยเหงา ซึ่งทำให้เราสามารถมีเพื่อนได้ตั้งแต่พนักงานบริการจนถึงเจ้าของร้านหรือเป็นเพื่อนกับคนที่เจอหน้ากันที่ร้านกาแฟเป็นประจำก็ได้ แต่มาตอนหลังนี้เริ่มศึกษาแพทย์แผนไทยด้วยจึงทำให้อยากทราบสาเหตุว่าเพราะอะไรจึงกล่าวร้ายกาแฟเช่นนั้นได้

แน่นอนว่าใครๆก็ทราบว่าในกาแฟมีคาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นประสาทให้เกิดความสดชื่น กาแฟหนึ่งแก้วสามารถลดความเมื่อยล้าได้ประมาณครึ่งวัน และกาแฟยังมีผลต่อการขยายตัวของหลอดลมทำให้เราได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นจึงทำให้รู้สึกสดชื่น และนอกจากนี้กาแฟยังกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้เกิดการขับถ่าย ผู้คนจึงนิยมดื่มกาแฟในตอนเช้าเพราะเหตุนี้

แต่อีกด้านหนึ่งของกาแฟที่ผู้คนมักจะไม่ค่อยใส่ใจนั่นก็คือ ถ้าเราดื่มเป็นประจำอาจจะทำให้ร่างกายเคยชินกันการถูกกระตุ้น หากวันไหนไม่ได้มีการกระตุ้นก็จะเกิดอาการกระวนกระวาย มือสั่นได้

เออ แล้วที่พูดมานี่เกี่ยวกับอาการตัวตึงตรงไหนเนี่ย?

ตรงนี้ค่ะ นอกจากที่กว่าไว้เล็กน้อยข้างต้น กาแฟทำให้เกิดการสูญเสียเกลือแร่ในร่างกายค่ะ กาแฟจะกระตุ้นการขับปัสสาวะ ถ้าคุณดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการสูญเสียเกลือแร่มากเกินไป และกาแฟกระตุ้นให้เกิดการหลั่งน้ำย่อยที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการเป็นกรดในกระแสเลือด ร่างกายจะดูดซึมแร่ธาตุไม่ได้ถ้าอยู่ในภาวะกรด จึงต้องมีการปรับสมดุลให้ร่างกายหรือเลือดเป็นด่าง ซึ่งต้องใช้เกลือแร่ต่างๆมากมาย โปแตสเซียมและแคลเซียมก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เพราะโปแตสเซียมและแคลเซียมเป็นด่างจึงได้ถูกละลายออกมาจากกล้ามเนื้อและกระดูกเพื่อปรับสมดุลให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆเข้าสู่ร่างกายได้ แต่หากภาวะความเป็นกรดมีมากก็ทำให้เกิดการละลายของเกลือแร่ต่างๆเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น และโดยมากโปแตสเซียมและแคลเซียมจะถูกขับออกไปจากร่างกายซึ่งจะไม่เหมือนแร่ธาตุอื่นๆหรือโซเดียมที่ถูกกรองเก็บไว้โดยไต

เมื่อเราขาดโปแตสเซียมและแคลเซียมก็จะมีผลต่อการหดเกร็งของกล้ามเนื้อค่ะ ทำให้ความสามารถในการหดและคลายตัวลดลง บางครั้งอาจจะหดแต่ไม่คลาย นานๆเข้าก็ทำให้เกิดการเมื่อยล้าและรู้สึกได้ว่าตัวตึงค่ะ และหากเกิดอาการเหล่านี้กับกล้ามเนื้อหัวใจขึ้นมา...มันก็คงจะจบไม่สวยเท่าไหร่นะค

และอีกสาเหตุนึงที่เกิดขึ้นได้นั่นคือเมื่อเราดื่มกาแฟและเกิดการตื่นตัวทำให้เรามักจะหลอกตัวเองว่ากระปรี้กระเปร่าดีอยู่ ไม่จำเป็นต้องไปออกกำลังกายให้เกิดการตื่นตัวหรือกระตุ้นร่างกายและเกิดการเจ็บตัวจากการออกกำลังกาย แต่กาแฟก็จะต่างจากการออกกำลังกายตรงที่ กาแฟเป็นการกระตุ้นจากภายนอก แต่การออกกำลังกายเป็นการสร้างจากภายใน เมื่อเรามีการบริหารร่างกายเป็นประจำ จะทำให้เกิดการสร้างสมพลังงานในร่างกายไว้ตามกล้ามเนื้อต่างๆให้พร้อมใช้งาน ต่างจากการดื่มกาแฟที่เป็นการกระตุ้นเพื่อดึงเอาสารเหล่านี้ออกมาใช้งานค่ะ

แต่ถ้าคุณชอบดื่มกาแฟจริงๆ การดื่มกาแฟก็สามารถช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นออกกำลังกายได้ดีหากดื่มก่อนการออกกำลังกายสักครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เพื่อทำให้มีกำลังมากขึ้น แต่ระหว่างออกกำลังกายและหลังออกกำลังกายแล้วก็ไม่ควรดื่มกาแฟอีกค่ะ เพราะจะทำให้เกิดการขับน้ำออกมากและทำให้เกิดการสูญเสียเกลือแร่มากเกินไปค่ะ

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ไม่ได้จะต่อต้านไม่ให้ดื่มกาแฟนะคะเพราะทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อด้อยค่ะ ขึ้นอยู่กับการเลือกปฏิบัติของเราค่ะ โดยรวมๆแล้วหากคุณชอบดื่มกาแฟก็ควรปฏิบัติดังนี้ค่ะ

--ไม่ควรดื่มกาแฟในขณะที่ท้
องว่างหรือมีแผลในกระเพาะอาหารเพราะกาแฟเพิ่มการผลิตน้ำย่อย จะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางหรือปัญหาแผลในกระเพาะอาหารรุนแรงเพิ่มขึ้น รวมถึงอาจทำให้ตับทำงานได้ไม่ดีก็ได้ ควรดื่มกาแฟหลังอาหารสักครึ่งชั่วโมงจะดีกว่าค่ะ หรือว่าต้องมีของว่างทานคู่กันเสมอ

--ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอแล
ะทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนค่ะ

--ระหว่างหรือหลังการออกกำลังกายควรมีน้ำเกลือแร่หรือน้ำมะพร้าวอ่อนไม่แข่เย็นดื่มเพื่อให้เกลือแร่ในร่างกายกลับสู่สภาวะปกติ




 

Create Date : 29 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2555 7:49:35 น.
Counter : 1735 Pageviews.  

โ ย ค ะ กับ ก า ร อ อ ก ก ำ ลั ง ก า ย Yoga & Exercise

หริโอมค่ะ
หายกันไปนานเลย (อีกแล้ว) ช่วงนี้ดิฉันยุ่งมากเลยเพราะต้องแบ่งภาคไปเรียนแพทย์แผนไทยและต้องแบ่งเวลาไปช่วยงานที่คลินิก แค่นั้นไม่พอ...ตอนนี้ก็อยากรู้เรื่องของกล้ามเนื้อ จึงได้แบ่งเวลาไปเช้าฝึกกล้ามเนื้อและฝึกเวทด้วยเล็กน้อย ทำให้เราเห็นความแตกต่างทั้งข้อดีข้อเด่นของแต่ละอย่างด้วย

เมื่อก่อนนี้ดิฉันก็ได้ฝึกทั้งโยคะและการออกกำลังไปควบคู่กัน แต่มาพักหลังได้หยุดการปีนหน้าผาและการออกกำลังอื่นๆออกไปและทำให้เหมือนๆขาดออะไรไปจึงได้ลองไปเข้าฝึกกำลังและวิ่ง เพื่อดูว่าแต่ละอย่างนั้นมีความสำคัญกับร่างกายอย่างไรบ้าง

หลังจากผ่านไปได้ไม่กี่วันก็ทำให้พอเข้าใจบ้างค่ะ...

ปัจจุบันคนเรามักทานอาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดความเฉื่อยสูงเช่น อาหารแช่แข็ง ชีส หรืออาหารของประเทศหนาว ไม่ใช่อาหารพื้นบ้านหรืออาหารที่เป็นผลผลิตในประเทศของตนเอง  อาหารที่เป็นผลผลิตในประเทศและตามฤดูกาลจะมีความเหมาะสมกับคนในประเทศนั้นๆเหมาะกับกิจกรรมและสภาวะแวดล้อมค่ะ เมื่อเราทานอาหารเหล่านั้นมากก็ทำให้เกิดความเฉื่อยต้องมีการกระตุ้นให้เกิดการขยับตัวเพื่อลดความเฉื่อย การออกกำลังกายสามารถทำได้ดีตรงนั้น เมื่อเราออกกำลังกายสม่ำเสมอจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งเอนโดรฟินในปริมาณที่สูง แต่เนื่องจากเอนโดรฟินนั้นมีปริมาณที่สูงและหลั่งออกมาอย่างรวดเร็วแล้วจะค่อยๆลดลงและหมดไปในชั่วเวลาไม่นาน บางคนอาจจะคิดว่าถ้ายังงั้นการออกกำลังกายก็น่าจะดีกว่าการฝึกโยคะในแง่นี้   แต่ในอีกมุมหนึ่งคือการแกว่งขึ้นและลงของปริมาณเอนโดรฟินที่หลั่งออกมาบ่อยๆ อาจทำให้คนเกิดอาการเสพติดสารเอนโดรฟิน ทำให้ออกกำลังกายมากเกินความจำเป็น ซึ่งอาจจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมหรือดูผอมเกร็ง

การฝึกโยคะแม้ว่าบางคลาสอาจจะไม่ดูหวือหวาตื่นเต้น ดูเรียบๆนิ่งๆ แต่เมื่อฝึกไปนานๆจะทำให้เกิดการยอมรับในความเป็นตัวตนและรู้จักตนเองดีขึ้น สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นตัวกระตุ้นการหลั่งของเอนโดรฟินในร่างกาย ดังนั้นการหลั่งเอนโดรฟินจากการฝึกโยคะ จึงเป็นการหลั่งแบบเรื่อยๆน้อยๆแต่เป็นระยะเวลานาน แม้ว่าจะหยุดฝึกไปหลายชั่วโมงแล้วก็ยังมีผลให้เราสังเกตุได้เช่นการนอนหลับที่ดีขึ้น ไม่เหมือนที่เราเหนื่อยมากๆจากการออกกำลังแล้วก็ฟุบหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า หลายๆคนรู้สึกได้ว่าสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น หลับลึกโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยความเหนื่อยล้า ไม่มีความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ เป็นการหลับเพราะร่างกายสดชื่นและไร้ซึ่งความกังวลค่ะ

ทางเทรนเนอร์ได้บอกกับดิฉันว่าเป็นการฝึกโดยใช้แรงต้าน จะทำให้เรามีการต้านทานสิ่งต่างๆที่เข้ามาได้ดีขึ้น  ซึ่งน่าจะต่างจากโยคะเพราะโยคะเป็นการฝึกให้ยอมรับตัวตนและความเป็นจริง

แต่อย่างไรก็ตามดิฉันคิดว่าทั้งสองส่วนนั้นก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติไปควบคู่กัน คลาสโยคะที่ดีจึงควรมีทั้งสองสิ่งนี้ด้วยค่ะ สร้างทั้งแรงต้านทานและการยอมรับค่ะ

สงสัยต้องเอาตรงนี้ไปสอนเพิ่มเติมให้นักเรียนคอร์สครูในครั้งหน้าซะแล้ว




 

Create Date : 09 เมษายน 2555    
Last Update : 9 เมษายน 2555 16:14:03 น.
Counter : 1117 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

หมวยเกี๊ยะA2
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง

ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ

วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย)
ที่ Yoga Vidya Gurukul
ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย
เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549

ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว

ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D

ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร
ก็ติดต่อมาได้นะคะ
Tel.+66 (0)85 1420201
[Add หมวยเกี๊ยะA2's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.