เ น ป า ล วััันที่ 7-กัดฟัน ไว้ลาย
เนปาล วันที่เจ็ด บันทึกวันที่ 10 มกราคม 2557 วันนี้ตื่นสาย กว่าจะทำอะไรเสร็จและออกเดินทางก็ปาไปเกือบเก้าโมงแล้ว เช้านี้สั่งไข่ต้มและเก็บไว้เหมือนเคยหนึ่งฟอง ฉันจำต้องแลกเงินกับเจ้าของโรงแรม เรทไม่ดีแต่ไม่มีเงินเหลือแล้ว จึงแลกเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทางเดินจากจินูไปสิไวยเป็นทางลงในช่วงต้น ลงไปถึงธารน้ำขนาดไหลที่ไปไหลรวมกับอีกสายหนึ่ง ตรงที่ลงมาถึงเป็นสามแยกพอดี ฉันข้ามธารน้ำแล้วมองย้อนกลับไปที่ภูเขาลูกที่ฉันเดินลงมา นึกอัศจรรย์ใจ....ฉันมองไม่เห็นทางที่เดินลงมาถ้าไม่มีคนเดินอยู่ ธรรมชาติซ่อนเร้นไว้อย่างแนบเนียนจึงไม่น่าแปลกใจที่ทางง่ายๆก็อาจจะมีคนหลงป่าได้(เช่นฉัน) จากตรงนั้นก็เป็นทางเดินขึ้นแล้วเลาะเขาไป คุณมานย้ำว่าห้ามข้ามแม่น้ำไปฝั่งซ้ายเพราะจะใช้เวลามากขึ้น รู้ละทำไมย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามข้ามไปอีกฝั่งเด็ดขาด ฝั่งซ้ายเดินในร่มเป็นส่วนใหญ่ ฝั่งขวาของแม่น้ำโดนแดดเต็มๆ น่าย้ายไปเดินฝั่งซ้ายจริงๆ แต่ฝั่งซ้ายจะมีทางเดินขึ้นยอดเขาด้วย นั่นก็จะทำให้ฉันใช้เวลามากเกินกว่าที่ควรเป็น ดังนั้น...เดินฝั่งขวาไปนะอีหนูเอ้ย!! สาวหมวยขี้ลืม หมวกก็หล่นหาย แว่นกันแดดก็หล่นส้วม เฮ้ออออออ เอาหน้าสู้แดดกันต่อไป ดีว่าทาSPF30 ไว้ ขำผู้ชายชาวเกาหลีบางคน ทาซะหน้าขาววอกเลย ระหว่างทางโดนเบียดโดยฝูงแกะ ลืมไปว่าเวลาฝูงสัตว์เดินผ่านควรยืนข้างใน สัตว์เดินเบียดกันโย้มาด้านนอก ทำเอาฉันโงนเงนผวาเกือบตกเขา ฉันได้มีโอกาสหันไปชื่นชมธรรมชาติด้านหลังอีกครั้งตรงมุมที่ได้ความงดงามเหมาะเจาะพอดีทั้งภูเขาและสายน้ำ สายน้ำช่างเชี่ยวกราดกระทบกันก้อนหินขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่จนไม่น่าเชื่อ ได้หยุดพักทานซุปร้อนๆกับไข่ต้มที่มีอยู่และถามทางกับเจ้าของร้าน เจ้าของย้ำให้ดูป้ายให้ดี เพราะถ้าเดินเลยแยกจะไปกรานดุกซึ่งจะเสียเวลามาก ฉันค่อยๆเดิน คราวนี้ไม่พลาด แต่สองสาวชาวต่างชาติไปผิดทางต้องเดินย้อนกลับมา ฉันถามทั้งสองคนได้ความว่าจะไปขึ้นรสบัสกลับโพคราเหมือนกัน ฉันพยายามเร่งฝีเท้าตามเธอให้ทัน เพราะว่าสีไวยอยู่ไม่ไกลแล้ว เผื่อไม่มีรถบัสจะได้แชร์ค่ารถกันได้ ไกด์คนหนึ่งบอกว่าจะมีรถบัสช่วงเก้าโมงและบ่ายสองโมง ตอนนี้บ่ายโมงกว่าเขาไม่แน่ใจว่ารถไปรึยัง ฉันเดินไปถึงเห็นสองสาวกำลังต่อรองกับบรรดาแท๊กซี่ ฉันรีบวิ่งไปขอร่วมทางด้วย แต่ค่าแท๊กชี้จากนี่ไปโพคราตั้ง5000รูปี หรือถ้าไปแค่นายาพูลก็คนละพันรูปีซึ่งเราคงจ่ายกันไม่ไหว สองสาวก็หมดเงินด้วย เธอสองคนตัดสินใจนอนค้างหนึ่งคืนแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยจับรถบัสกลับ แต่ฉันไม่มีเวลาขนาดนั้นจึงตัดสินใจเดิน แม้ว่าบรรดาแท๊กซี่จะพยายามเรียกเพียงใดก็ตาม ฉันออกเดินไปนายาพูลอีกครั้ง แต่เดินไปได้ไม่นานก็มีรถจี๊ปคันหนึ่งแล่นตามมาถามว่าจะไปมั๊ย ฉันบอกว่าแชร์นะ เท่าไหร่ ปรากฎว่าเขาบอกมาที่ 300 รูปีไปนายาพูล ฉันเลยขึ้นไป นึกในใจ ...กูว่าแล้ว...แขกลองของอีกแล้ว ฉันพิจารณาแล้วรถคันนี้คงต้องการตีกลับไปนายาพูลอยู่แล้ว ดังนั้นแม้มีผู้โดยสารแค่คนเดียวเขาก็คุ้มกว่าตีรถเปล่ากลับ เพราะคู่แข่งแท๊กซี่และจี๊ปที่ใหม่กว่าหลายคัน หนทางกลับแม้ว่ามันจะดูเป็นถนนก็ตามแต่ก็เหมือนขับอยู่ในป่าเพราะมีก้อนหินและหลุมเต็มไปหมด จนเริ่มรู้สึกสงสารเจ้าของรถขึ้นมา แต่ก็ต้องประหยัดเงินไว้นี่นา สงสารกระเป๋าที่เริ่มแห้งเหมือนกัน >_< พอมาถึงที่พักอีกจุดหนึ่งมีคนโบกให้รถหยุด เขาคุยกันภาษาท้องถิ่นโหวกเหวก ฉันรู้สึกว่า...เหมือนจะโดนเตะออกตรงนี้แฮะ แล้วก็จริงด้วย! แหมแทงหวยน่าจะถูกอย่างนี้นะ(ไม่เคยซื้อหวยนะ แต่เหมือนเป็นคำพูดที่ติดปากน่ะ) พวกเขาจะขึ้นไปกานดรุกแต่ไม่มีรถเปล่าขึ้นไปฉันก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเขามาอยู่ตรงนี้เหมือนกัน แต่ชายหัวหน้ากรุ๊ปเจรจากับฉันว่าเขาขอรถขึ้นไปกานดรุกสักยี่สิบนาที เฮ้อออออ ทำไงได้เนี่ย เจ้าของรถให้มาถามฉัน มันเป็นโอกาสที่เขาจะได้เงินมากกว่าจากฉันแค่ 300รูปี ฉันจึงยอมลงจากรถ ฉันไม่รีบเท่าไหร่ นั่งรอได้
Create Date : 23 มกราคม 2557
Last Update : 23 มกราคม 2557 16:10:38 น.
Counter : 728 Pageviews.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [? ]
สาวน้อย(อิอิ)ธรรมดา ที่มีพี่ๅน้องแสนฉลาด พี่สาวคนโตจบดอกเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร พี่ชายคนโตจบศิลปะแต่ได้ผันตัวเองมาทำงานภาพยนตร์จนเป็นผู้กำกับ พี่ชายคนเล็กก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสื่อสารที่คนเขาแย่งตัวกัน ส่วนน้องสาวคนเล็กก็เป็นหมอฟันประจำตัวให้เราน่ะเอง ส่วนตัวเองเรียนจบมาทางด้านภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่มายา แต่ดันผ่าอยากศึกษาด้านธรรมะและโยคะ เพราะความล้มเหลวด้านชีวิตครอบครัวเป็นเหตุ วันดีคืนดีจึงนั่งเครื่องบิน บินไปอินเดียที่เป็นแหล่งกำเนิดโยคะและศึกษาอย่างจริงจัง (เที่ยวอย่างจริงจังด้วย) ที่ Yoga Vidya Gurukul ณ เมืองนาสิก ประเทศอินเดีย เมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.2549 ตอนนี้ก็รับสอนโยคะอย่างจริงจังมาก็เริ่มปีที่ห้าแล้ว ในปี 2553 ได้จบหลักสูตรต่างๆทุกหลักสูตรที่มีอยู่ในสถาบันแล้ว รวมทั้งศึกษาศาสตร์อื่นๆมามากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็น โยคะบำบัด อายุรเวท เรกิ ธรรมชาติบำบัด :-D ตอนนี้เริ่มสอนอีกครั้งแล้วค่ะ ถ้าสนใจเรียนเป็นกลุ่มหรือเรียนตัวต่อตัวหรือเป็นวิทยากร ก็ติดต่อมาได้นะคะ Tel.+66 (0)85 1420201