โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

Life 101 : กฎทองของการใช้เงิน = "ไม่มีเงิน...ไม่ต้องใช้"

» กฎทองของการใช้เงิน = "ไม่มีเงิน...ไม่ต้องใช้"

บริษัทบัตรเครดิตโทรศัพท์มาแจ้งว่า... ไม่สามารถไม่คิดค่าบริการประจำปีได้เหมือนปีก่อน ๆ “เพราะปีนี้ทั้งปีคุณไม่ได้ใช้บัตรเลย!”

ก็จริง! ผมมีบัตรเครดิตสองใบ ทั้งปีทั้งชาติไม่เคยใช้บัตรพวกนี้เลยจริง ๆ บัตรเครดิตมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินและไปต่างประเทศเท่านั้น เชื่อว่าบริษัทบัตรเครดิตที่ไหนในโลกก็ไม่ชอบลูกค้าแบบนี้เท่าไร!

ผมคงติดนิสัยมาจากพ่อแม่ที่ไม่ใช้เงินหากไม่มีเงินสดในมือ ได้รับการอบรมสั่งสอนมาแต่เด็กว่า การกู้ยืมเงินจากใครเป็นข้อห้ามในการใช้ชีวิต ยกเว้นจำเป็นจริง ๆ ผู้ใหญ่หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การแบกหนี้หนักกว่าแบกกระสอบข้าวสารเสียอีก

หลักง่าย ๆ คือ “ไม่มีเงินไม่ต้องใช้”

โตในสภาพแวดล้อมแบบนี้ การซื้อของแบบเอาสินค้ามาใช้ก่อน แล้วจ่ายทีหลังจึงไม่ค่อยถูกจริตเท่าไร และไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจหรืออิจฉาใครที่พกบัตรเครดิตสิบใบ บัตรทอง บัตรเพชร บัตรแพลตตินัมใด ๆ

======


ปรัชญาการใช้ชีวิตแบบ “ไม่มีเงินไม่ต้องใช้” สวนทางกับการดำเนินชีวิตของคนจำนวนมากที่ได้รับการกรอกหูจากนายธนาคารว่า คนมีหนี้เป็นคนมีเครดิต ยิ่งมีหนี้มาก ยิ่งแสดงว่ามีเครดิตดี!

คำว่า เครดิต มีนัยของ ‘เกียรติ’ ฟังดูดี น่าเป็นหนี้!

แปลก! ใช้ชีวิตมาหลายสิบปี ผมไม่ค่อยเจอคนที่คิดแบบ “ไม่มีเงินไม่ต้องใช้” นาน ๆ จะเจอสักคนสองคนที่ใช้ปรัชญานี้

ผมมีญาติห่าง ๆ คนหนึ่งซึ่งเมื่อทราบจากหมอว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็ง ไม่มีทางรักษา ก็กลับบ้าน ไม่ยอมเสียค่ารักษาต่อสักสลึง เพราะไหน ๆ ก็จะตายแล้ว ไม่อยากสร้างหนี้สินให้ลูกหลานต้องแบกรับภาระ

คติ “ไม่มีเงินไม่ต้องใช้” ดีตรงที่ทำให้เราสามารถคุม ‘น้ำหนักส่วนเกิน’ ของชีวิตได้ ไปไหนมาไหนก็พกพาเงินสดเท่าที่พออยู่รอดในโลกภายนอก กระเป๋าสตางค์ก็เบากว่าด้วย พอเงินหมดกระเป๋าก็หยุดซื้อ บัตรเครดิตทำหน้าที่เป็นกองหลังกรณีฉุกเฉินเท่านั้น

======


บ่อยครั้งเราได้ยินนักเศรษฐศาสตร์บอกว่า ประชาชนควรใช้จ่ายมาก ๆ เงินจะได้หมุนเวียน คนจะมีงานทำ ประเทศจะเจริญ จะจริงหรือไม่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ผมเห็นคนหมดตัวมาเยอะแล้วเพราะไม่รู้จักระงับกิเลส

บางคนไม่มีเงิน ชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็ยังอุตส่าห์เข็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาอวดเพื่อนจนได้ จะจ่ายหนี้อย่างไรก็ไปตายเอาดาบหน้า ตอนนี้ขอเท่ไว้ก่อน

เมื่อใช้กิเลสเป็นเข็มทิศ เห็นช้างขี้ขี้ตามช้าง ยึดคติ “ใช้ก่อนผ่อนทีหลัง” จนเป็นนิสัย ชีวิตก็ต้องเดินตามค่านิยมที่นักการตลาดสร้างให้ไม่สิ้นสุด เพราะบริโภคนิยมไม่เคยจบ

ลองพิจารณาดูว่า สินค้าทั้งหมดที่เราซื้อในแต่ละเดือน มีกี่ชิ้นที่เข้าข่าย ‘จำเป็นจริงๆ’ บางครั้งเราอาจแปลกใจที่พบว่า ไม่มีเลย

ระบบบริโภคนิยมซึ่งมีศูนย์การค้าดักหน้าดักหลัง สินค้าสวยงามล่อตาล่อใจรอบตัว ยากเหลือเกินที่จะเราไม่ใช้บัตรเครดิต

เราอาจโทษสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราต้องใช้เงินมาก แต่ความจริงคือมันอยู่ในใจเราต่างหาก

======


นักเขียน Anna Lappe เคยกล่าวว่า “ทุกครั้งที่คุณใช้จ่ายเงินทอง คุณกำลังออกเสียงเลือกโลกแบบที่คุณต้องการ”

อยากได้โลกแบบบริโภคนิยม หรือโลกแบบพอเพียงก็ขึ้นกับการใช้เงินของเรา

“ไม่มีเงินไม่ต้องใช้” อาจเป็นทัศนคติของคนหัวเก่าหาเช้ากินค่ำ แต่มันก็ช่วยให้หลายครอบครัวส่งลูกหลายคนเรียนจบมหาวิทยาลัยมาแล้ว

การใช้ชีวิตพอเพียงไม่เพียงแต่ประหยัดเงินเท่านั้น มันยังทำให้ชีวิตไม่รุ่มร่าม ก็เหมือนงานออกแบบตามหลัก Minimalism คือออกแบบชีวิตให้ง่าย ๆ เพรียว กินพออยู่ อยู่อย่างสะอาด เรียบง่าย

ความน้อยไม่ได้แปลว่าต้องเป็นนักบวช แต่หมายถึงความหมดจดงดงามของความพอดี

อาจจะเป็นวิถีชีวิตที่ทำยาก แต่หากเรามองเห็นความงามของชีวิตแบบนี้ มันก็ไม่ยากเท่าไร มันอยู่ที่ความตั้งใจ


======


สามสิบปีมาแล้ว ผมกับเพื่อนคนไทยกลุ่มหนึ่งในอเมริกาไปเที่ยว แอตแลนติก ซิตี้ เมืองการพนันฝั่งตะวันออกของอเมริกา แอตแลนติก ซิตี้ ตั้งอยู่ที่รัฐ นิว เจอร์ซีย์ จากนิวยอร์กสามารถเดินทางไปที่นั่นโดยรถบัสชั้นหนึ่งฟรี

เมื่อไปถึงจุดหมาย ผู้โดยสารทุกคนได้รับแจกเงินคนละห้าดอลลาร์เพื่อให้ไปเล่นพนัน ครั้นตอนเย็นก็จะรับกลับไปนิวยอร์กตามเดิม

หนึ่งวันในบ่อนพนันหลายแห่งที่ แอตแลนติก ซิตี้ ใคร ๆ ที่ได้รับเงินห้าดอลลาร์ก็ใช้มันเล่นพนัน

หลายคนชนะได้เงินเพิ่มเป็นหลายสิบหลายร้อยเหรียญ เมื่อนั้นเองที่หยุดไม่อยู่ ต้องเล่นต่อ จนเมื่อถึงเวลาที่รถบัสมารับกลับบ้าน

ปรากฏว่าทุกคนที่ใช้เงินแจกฟรีไปเล่นพนัน นอกจากจะเสียเงินห้าดอลลาร์หมด และยังเสียเงินในกระเป๋าของตัวเองเพิ่มอีกด้วย

เจ้าของบ่อนเชื่อมั่นล้านเปอร์เซ็นต์ว่า การแจกเงินให้ลองเล่นพนันนั้นสร้างกิเลสใหญ่พอทำให้แขกเล่นต่อ เงินแจกฟรีเป็นแค่ ‘เหยื่อล่อปลา’ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีคนไทยสองคนในกลุ่มตั้งใจแต่แรกว่าจะไม่เล่นพนัน “มีเงินก็ไม่ต้องใช้” พวกเขากลับบ้านพร้อมเงินฟรีในมือ พิสูจน์ว่าความมุ่งมั่นอยู่ที่ใจ และการเอาชนะกิเลสเป็นไปได้

======


Credit : วินทร์ เลียววาริณ | www.winbookclub.com


#Life101Page #LifeManagement




 

Create Date : 12 ธันวาคม 2556   
Last Update : 31 ธันวาคม 2556 16:09:45 น.   
Counter : 900 Pageviews.  

ครูอ้อย : เข็มทิศแห่งความมั่งคั่ง

คุณยืนบนขาของตัวเอง ไปได้ทางการเงินหรือเปล่า 

หลายคนคิดว่าตัวเองไปได้ทางการเงิน แต่พอให้เขียนออกมา
คนเป็นหนี้เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นหนี้เท่าไร

บางคนเพิ่งรู้ว่าตัวเองไม่มีเงินสดมีทรัพย์สินที่ขายไม่ได้อยู่บ้าง 
หากเกิดอะไรขึ้นรายได้หยุดอยู่ต่อไปได้ไม่ถึง 3 เดือน

ลองเขียน รายรับ ลบ รายจ่ายต่อเดือน คงเหลือเท่าไร

ทรัพย์สิน ลบหนี้สิน เหลือสินทรัพย์คงเหลือเท่าไร 
เอาเฉพาะสิ่งที่อยู่ในชื่อของเราแล้ว ในราคาที่ขายได้จริง 
มรดก หรือทรัพย์ที่อยู่ในชื่อคู่สมรส ที่ยังไม่โอนเป็นชื่อของเราไม่นับ

เงินสดในมือหากเกินเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น จะอยู่ได้อีกนานเท่าไร

วิศวกรสามีภรรยาคู่หนึ่ง ทำแบบฝึกหัดนี้ในห้องเรียนเข็มทิศ แล้วพบว่า 
การทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาอยู่กับลูก เป็นวิศวกรมือดีมา 15 ปี 
เหลือเพียงแค่บ้านที่หักหนี้สินแล้ว ไม่ถึงล้าน มีเงินสดไม่ถึงสองแสน 
จนต้องตั้งคำถามว่า หากทำแบบนี้ต่อไปอีกสิบปี คุ้มมั๊ยกับการลงแรงและหัวใจ 
ต้องห่างไกลครอบครัวแต่ไม่เหลืออะไรให้มั่นคง

หมอคนหนึ่งหาเงินได้เยอะ แต่สามีเก็บเงินหมด ที่ผ่านมาเธอรู้สึกไม่ค่อยมีแรง
เหมือนขาดเลือด ในการค้าการทำงานเงินก็เหมือนเลือด ขาดเลือดร่างกายก็ไม่มีแรง
ทำงานแล้วไม่เคยได้สัมผัสกับผลที่ลงแรงไปก็ขาดกำลังใจเป็นธรรมดา

แอร์โฮสเตทคนหนึ่ง ทำงานมายี่สิบปี ไม่ได้อยู่บ้านดูแลสามีที่รัก 
บอกว่าทำเพื่อเงิน พอให้นับว่าเหลือเงินสดเท่าไร ปรากฏว่า
เหลือเงินสดน้อยมากๆเลย ได้รู้ว่า งานที่ทำมาทำให้เครียดใช้เงินเยอะ 
สุดท้ายไม่มีทั้งเงิน ทั้งเวลาให้ครอบครัว ให้ตัวเอง 

เลยได้ทบทวนตัวเองใหม่ว่ากำลังหนีอะไร หนีการอยู่ร่วมกับครอบครัว 
พอเข้าใจก็เริ่มมีความสุขอยู่กับครอบครัวได้อบอุ่น 

จะเลือกทำงานอะไรก็เลือกเพราะรักงานนั้นไม่ใช่เพราะหนีครอบครัว 

ใช่...
มีคนจำนวนมากที่เลือกทำงานห่างบ้านเพราะรัก แต่ไม่สามารถอยู่ใกล้กับ
ครอบครัวได้ เพราะเจ็บเกินไป การได้รู้ว่าทำอะไรเพราะอะไร 
ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

ก่อนจะออกเดินทาง เราต้องรู้ว่าขณะนี้เราอยู่ที่ไหน มีทรัพยากรในด้านต่างๆ
อย่างไร เงินทุนที่เรามี ชื่อเสียง คนที่เรารู้จัก ความสามารถพิเศษ 
ท้องถิ่นที่เราอยู่รู้จักคุ้นชิน ทุกอย่างถูกนำมาคำนวณในการประเมิน
สถานะการณ์ของตัวเอง ประเมินสิ่งแวดล้อมภายนอก

ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ ยืนบนขาตัวเองได้ พึ่งพาตัวเองได้
ทั้งด้านการเงินและจิตใจ

ขอบคุณข้อคิดดีๆ จาก
หนังสือเข็มทิศชีวิต 5 มั่งคั่ง








 

Create Date : 10 ธันวาคม 2556   
Last Update : 31 ธันวาคม 2556 16:10:42 น.   
Counter : 1309 Pageviews.  

"Aiyara Rally" ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ธุรกิจขายตรงในประเทศไทย...

ชาวไอยราที่รัก

เดือนนี้ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของไอยรากำลังถูกเขียนขึ้นอีก...

ภายใต้แผนปฏิบัติการ "Aiyara Rally"

ซึ่งเป็นการแข่งขันผลงานในรูปแบบ "แรลลี่" 
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ธุรกิจขายตรงในประเทศไทย...

บนเส้นทางสูการสร้างประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว

แต่ต้องมาจาก
การประสานพลังของทุกคนในองค์กรที่จะมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานตามแผน... ภายใต้

วิสัยทัศน์เดียวกัน One Vision
ปณิธานเดียวกัน One Mission
เป้าหมายเดียวกัน. One Goal
ทิศทางเดียวกัน. One Direction
พลังหนึ่งเดียวกัน. One Force
เป็นเสียงเดียวกัน. One Voice

พร้อมกับเดือนแห่งการสร้างประวัติศาสตร์....
เป็นเดือนแห่งความปลื้มปิติของปวงชนชาวไทย
เพราะเป็นเดือนเฉลิมพระชนม์พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...พ่อหลวงของชาติ...

นอกจากนี้ยังเป็นเดือนอัศจรรย์ที่มี 5 วันอาทิตย์ 5 วันจันทร์ 5 วันอังคาร...
ซึ่งจะเกิดขึ้นทุก 823 ปี...เรียกว่า ..."ถุงเงิน" ในรอบ 1,000 ปี...


ในวาระที่สรรพมงคลได้เวียนมาบรรจบด้วยกัน 

ขอน้อมอาราธนาองค์พระพิฆเนศได้ทรงโปรดแผ่พระบารมี...
ขจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งหลาย ประทานสติปัญญาในการทำงาน 
และประสิทธิความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงานให้กับครอบครัวชาวไอยราทุกคน...

และขอน้อมอาราธนาพระแม่ลักษมี...
มหาเทพีแห่งโชคลาภ...
ได้ทรงโปรดประทานพรให้ชาวไอยราทุกคน

" คิดงานให้ได้งาน...คิดเงินให้ได้เงิน...คิดลาภให้ได้ลาภ"

สิ้นคำขอพร... 
"โปรขั้นเทพ" ก็บังเกิดขึ้นในฉับพลัน....
โปรยปรายสู่มหานครไอยรา... 
ชาวไอยราต่าง..ร่าเริง รุ่งเรือง ร่ำรวย ทุกพื้นปฐพี...!!!

ถ้าจะบอกให้หัวใจอย่าเพิ่งวาย... 
นี่อาจจะเป็นเพียงแค่ออร์เดริฟ... ใครจะรู้???

แต่ที่แน่ๆ ของชัวร์คว้าไว้ก่อน...

คุณได้สิทธิ์นั้นทันที...!!!

จากอาก๋งและอาป๋าแห่งไอยรา...อิอิ
5 ธค 2556

สมัครร่วมแข่งขัน
โทร.08 5260 1555
Line ID : boonthis
บุญ ไอยรา
สยามกุญชร เอราวัณทีม

ดูรายละเอียดการแข่งขัน Aiyara Rally 2013 ที่ 





















 

Create Date : 05 ธันวาคม 2556   
Last Update : 5 ธันวาคม 2556 18:00:59 น.   
Counter : 773 Pageviews.  

ดังตฤณ : ชีวิตนี้...มีค่า...

ชีวิตนี้...มีค่า...ใช้เวลาที่มีอยู่...ให้เกิดคุณค่า...

ขอบคุณ คุณดังตฤณ และ ทีมงานค่ะ


ดังตฤณ DUNGTRIN
• ก่อนจะเห็นว่าเวลามีค่าเพียงใด
ต้องเห็นให้ได้ก่อนว่า "ชีวิตทั้งชีวิต" มีค่าขนาดไหน ?

: ชีวิตมีค่าตรงที่..
เรามีเวลาก่อสร้าง "ต้นเหตุของความสุข"

และมีเวลาทำลาย "ต้นเหตุของความทุกข์"

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• คนที่เห็นทุกนาทีมีค่า
ไม่ใช่คนเอาเวลาไปทำงานจนหมด
แต่เป็นคนที่มองอยู่ตลอดเวลาว่า
กำลังเอาเวลาไปทำอะไรอยู่ ?

• นาทีเดียวถ้าพักผ่อนอย่างเต็มที่
จิตเป็นอิสระจากความเกาะเกี่ยวกับทุกสิ่ง
อาจมีค่ายิ่งกว่าการพักร้อนสิบวันของคนแบกงานไว้เต็มหัว

: หากขาดความสามารถที่จะพักผ่อน
เวลาพักผ่อน ก็คือเวลาเอาไว้สำหรับว้าวุ่น

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ชั่วโมงเดียวถ้าทำงานอย่างฉลาดคิด
ฉลาดทำตามแผน
ฉลาดเดินหน้าเข้าหาเป้าหมาย
อาจมีค่ายิ่งกว่าการทำงานสิบวันของคนทำงานขาดระบบ

: หากขาดความสามารถในการทำงาน
เวลาทำงานก็ไม่ต่างจากเวลานั่งฟุ้งซ่านเล่น

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ชีวิตที่มีเป้าหมาย คือชีวิตที่มี "สติ"
รู้อยู่เห็นอยู่ว่า เราขยับเข้าใกล้เป้าหมายไปแค่ไหนแล้ว

: สำหรับเป้าหมายของชาวพุทธ
คือ เรียนรู้ที่จะ "ดูความจริง"
และความจริงที่น่าดู
ก็คือความจริงเกี่ยวกับ "กาย ใจ"

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• วันเดียวที่ดูกายใจเป็น
เห็นว่าไม่มีอะไรที่เที่ยง
ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา
ก็มีค่ากว่าร้อยปีของคนส่วนใหญ่อีกค่อนโลก
ซึ่งไม่มีสักวันได้เห็นความจริงนี้

: ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

" ผู้พิจารณาเห็นความเกิดดับแห่งสังขาร
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปีของผู้ไม่พิจารณาเห็น "

( พระธรรมบท )

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ผู้ที่ฉลาดแบ่งเวลา วางแผนการใช้เวลา
ย่อมเข้าถึงความเป็นชาวพุทธที่ถามตัวเองได้อย่างไม่เก้อเขินว่า

" วันคืนล่วงไป บัดนี้เราทำาอะไรอยู่ ? "

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

• ที่สุดของความคุ้มในชีวิต
มิใช่การใช้ชีวิตได้ตามอำเภอใจ
แต่เป็นการได้หลุดพ้น
จากการครอบงำตามอำเภอใจของชีวิตต่างหาก


‪#‎ดังตฤณ‬
 //www.facebook.com/dungtrin

________________

Admins : TUNYAR LARNDAO MAWANTHA
( ̄▽ ̄) ~ (^▽^) ~ (>‿◠)// จัดให้จ้า
 //www.facebook.com/DungtrinFanClub




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 31 ธันวาคม 2556 16:11:57 น.   
Counter : 723 Pageviews.  

Money Coach : อิสรภาพทางการเงิน คือ การเดินทาง มิใช่จุดหมายปลายทาง

รวย 6 มิติ ... 

ผมเคยเป็นคนหนึ่งที่มุ่งมั่นกับการหาเงิน จนหลายๆครั้งลืมคิด ลืมมองถึงความสำเร็จในด้านอื่นๆ

ด้วยคิดว่า "มีเงิน" แล้วจะมีความสุข และความสำเร็จอื่นๆ จะตามมาเอง ...

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ... ไม่ใช่เลย การที่เราไม่ได้กำหนดระดับความสำเร็จในด้านอื่นๆไว้ ทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนา รวมถึงเสียโอกาสในการสร้างความสุขให้กับตัวเองในระหว่างมุ่งหน้าสู่อิสรภาพทางการเงิน

ตั้งแต่ 2004 เป็นต้นมา ผมจึงปรับเป้าหมายชีวิต ให้มั่งคั่งร่ำรวยใน 6 มิติไปพร้อมๆ กัน ในแต่ละปี

ต่อไปนี้คือตัวอย่างเป้าหมายรวย 6 มิติ ของผมในปี 2004 ครับ ... (เป้าหมายไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ควรเป็นเรื่องที่จะทำให้เรามีความสุข หากทำมันสำเร็จ)

มิติด้านสุขภาพ: ออกกำลัง 180 วันใน 1 ปี / ลดระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำกว่า 120

มิดิด้านครอบครัว: พาแม่ไปทานเข้านอกบ้านทุกสองสัปดาห์ พาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดปีละ 2 ครั้ง (มีนาคม กับตุลาคม)

มิติด้านการงาน: พัฒนาธุรกิจที่ปรึกษาให้มีลูกค้าประจำ 10 ราย (ลูกค้าเป้าหมาย ปตท. ปูนซีเมนต์ไทย การไฟฟ้า ฯลฯ)

มิติด้านการเงิน: เพิ่มรายได้จากทรัพย์สิน 20,000 บาท/เดือน และเพิ่มเงินเก็บในบัญชี 1 ล้านบาท

มิติด้านการพัฒนาตัวเอง: พัฒนาภาษาอังกฤษให้สามารถพูดและบรรยายเป็นภาษาอังกฤษได้

มิติด้านสังคม: บรรยายหารายได้มอบได้มูลนิธิเด็ก 100,000 บาท

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างที่คุณผู้อ่านอาจนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้

จำไว้ว่า ...ถ้าคุณรวยแค่เงิน คุณก็จะมีแค่เงิน ...

แต่ถ้าคุณรวย 6 มิติ ในแบบที่ผมทำ คุณจะรวยทรัพย์ และรวยสุข รวยอย่างมีคุณค่า มีชีวิตที่อุดมไปด้วยความรักและความหวัง

อิสรภาพทางการเงิน คือ การเดินทาง มิใช่จุดหมายปลายทาง

อย่าปล่อยให้การเดินทางของคุณอ้างว้างจนลืมมองความสุขความสำเร็จในด้านอื่น จงเก็บเกี่ยวมันไปด้วยระหว่างเดินทางนะครับ

*Republished เพื่อให้ทุกคนเริ่มคิดกำหนดเป้าหมายและวางแผนชีวิตสำหรับปีใหม่กันครับ





ติดตามอ่านเรื่องราวดีๆ ได้ที่




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2556   
Last Update : 31 ธันวาคม 2556 16:13:25 น.   
Counter : 680 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]