โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

Dungtrin : แปลงพลังแห่งความอยาก เป็นการลงมือทำ

คุณไม่สามารถบังคับจิตให้พอใจในสิ่งที่กำลังมี
แต่สามารถยอมรับตามจริงว่า
จิตกำลังอยากได้สิ่งที่ยังไม่มี หรือกระทั่งไม่อาจมีได้

เมื่อมีบางสิ่งอยู่แล้ว
แต่ยังอยากได้อีกสิ่งที่เกินจำเป็น
ถ้า ‘คิด’ ทุกคนเหมือนจะคิดได้ว่า ‘จงพอใจในสิ่งที่มี’
แต่ถ้า ‘ยอมรับ’ ก็ต้องบอกว่า
‘ไม่มีใครรู้วิธีบังคับตัวเองให้พอใจแต่ในสิ่งที่มีอยู่’

คุณแกล้งสร้างความรู้สึกไม่ได้
แต่ยอมรับความรู้สึกที่มีอยู่แล้วได้
เช่น เมื่อเกิดความอยาก
ให้รู้สึกถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้
หรือยอมรับสภาพกระสับกระส่ายทางกายใจที่ปรากฏ
เมื่อใด ‘รู้สึก’ และ ‘ยอมรับ’ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
เมื่อนั้นสติจะติดพ่วงตามมา
เหมือนใจสว่าง โล่ง คลาย
แล้วเห็นความอยากเป็นตัวป่วนจิตให้ปั่นหมุน
วกวนอยู่กับอนาคตที่ยังไม่เกิด
ไม่หยุดอยู่ปัจจุบันที่เกิดแล้ว

หลังจากเห็นสภาพความจริง
เกี่ยวกับอาการอยากมีอยากเป็นได้สองสามครั้ง
แรงกดดันและความกระสับกระส่ายจะลดลงทันทีที่เกิดสติ
แล้วกลายเป็นความรู้เห็นว่า
อาการอยากไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่า
‘ปรุงแต่งจิตให้แย่ลง’ ชั่วคราว
จะแย่แค่ไหนก็สุดแล้วแต่จะอยากเพียงใด

เมื่อใดเห็นจิตแย่ลงอย่างสูญเปล่า
เมื่อนั้นคุณจะเกิดความฉลาดทางจิต
เห็นว่าตอนไม่อยาก จิตก็ดีอยู่แล้ว
เห็นบ่อยเข้าก็เกิด ‘ความพอใจในจิตที่ไม่อยาก’
ซึ่งก็ส่งผลให้ ‘พอใจในสิ่งที่มีอยู่’ ไปในตัว
ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องแกล้งปรุงแต่ง
ก็เป็นไปเองตามธรรมดาของเหตุทางจิตที่ถูกต้อง


พลังความอยากได้อันพลุ่งพล่าน

ถ้าแปลงเป็นพลังแห่งการ ‘ลงมือทำเป็นขั้นเป็นตอน’
ในที่สุดเมื่อทำสำเร็จ ได้สิ่งที่ต้องการ
ความพลุ่งพล่านย่อมลดระดับลงเป็นธรรมดา

แต่ถ้ามีเพียงแรงดันของความอยากอันพลุ่งพล่าน
ไม่มีการแปลงเป็นพลังการกระทำใดๆเลย
หรือเรียกร้องรอคอยเอาจากคนอื่นท่าเดียว
ในที่สุดก็ไม่ได้อะไรเลย
นอกจากความพลุ่งพล่านอันวกไปวนมาอยู่ในตัว

ขั้นตอนของชีวิตแบบพุทธ
คือการแปลงความอยากเป็นพลังงานการกระทำ
ถ้าหวังร่ำรวย พระพุทธเจ้าก็ตรัสให้ขยันหา ขยันเก็บ
แม้หวังถึงที่สุดทุกข์ด้วยการบรรลุมรรคผล
พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่าให้ใช้ตัณหาดับตัณหา
คือ เมื่อได้ยินว่ามีผู้บรรลุมรรคผล
ก็เกิดแรงบันดาลใจ เกิดความปรารถนาจะได้บรรลุบ้าง
แล้วศึกษาหาทางที่ถูกต้อง
เพียรพยายามทำมรรคผลให้เกิด
ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการ
‘มีสติรู้ตัณหา’ และ ‘คายคืนตัณหา’

ชีวิตแบบพุทธ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม
‘ต้อง’ เริ่มต้นด้วยความอยาก หรือความปรารถนา
ตั้งเป้าว่าจะเอาอะไรให้ได้
จากนั้นจึงลงมือเอาจริงเพื่อดับความอยาก

ทางโลกดับความอยากเพื่อรอก่อความอยากครั้งหน้า
ทางธรรมดับความอยากเพื่อไม่ต้องมีอยากครั้งใหม่อีก

ตอน ‘มโนไปเอง’
เอาแต่อยู่กับความคิดในหัวของตัวเอง
คุณอาจรู้สึกเหมือน ‘ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง’
หรือไม่อีกทีก็ ‘ทำได้ทุกอย่าง’ เกินจริง

ต่อเมื่อออกจากความคิดในหัว เลิกมโน
หันมาอยู่กับการลงมือทำจริง
จากสิ่งที่ริเริ่มคิด
หรือจากปัญหาที่ติดอยู่
แบบไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย
เอาง่ายๆเท่าที่ทำได้เลย
ตัวตนแบบคิดไปเองจะค่อยๆเลือนหา
กลายเป็นตัวตนโง่ๆ ตัวตนฉลาดๆ
ผลัดกันโผล่โฉมออกมาให้รู้ตัวทีละนิดว่า
ทำอะไรได้แค่ไหน ยังต้องเรียนรู้อะไรถึงค่อยทำได

ทุกคนจะรู้จักตัวเองจริงๆจากความโง่ที่หายไป
ไม่ใช่จากความฉลาดที่มีอยู่ก่อน


— แนะนำหนังสือ
ชื่อหนังสือ: เซนในการทำงานอย่างเซียน
ดาวน์โหลดอีบุ๊กฟรี: //dungtrin.com/zen
สั่งซื้อออนไลน์: เล่มละ ๒๙ บาท //bit.ly/1gRNRUB
ดูวิธีสั่งซื้ออย่างละเอียดได้ที่ //bit.ly/1iISnJz


— ทำบุญสร้างโรงพยาบาล —
//on.fb.me/1gPKopl

- หมายเหตุ -
เนื้อหาในสเตตัสเป็นงานเขียนใหม่ในแต่ละวัน
ไม่มีอยู่ในหนังสือที่ประชาสัมพันธ์

Ref : https://www.facebook.com/dungtrin?fref=ts




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2557   
Last Update : 5 พฤษภาคม 2557 17:59:42 น.   
Counter : 694 Pageviews.  

"ทำไง ถ้าอ่านหนังสือเยอะแล้ว ยังไม่ค่อยก้าวหน้า?"

"ทำไง ถ้าอ่านหนังสือเยอะแล้ว ยังไม่ค่อยก้าวหน้า?"


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ติดหนังสือประเภท "พัฒนาตนเอง"

แต่อ่านแล้ว ข้อมูลเยอะแล้ว ยังไงก็ไม่เห็นก้าวหน้า

ผมขอสรุปให้เลย


ถ้าผมต้องให้คำแนะนำอย่างเดียว ที่สำคัญที่สุด ในการดึงศักยภาพคุณออกมาให้ได้

คำแนะนำนั้น คือ…


"จงเรียนรู้การตั้งเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพ"


เพราะการเจออุปสรรคใหญ่ๆ จะทำให้คุณ "อึด"ขึ้น

เพราะเป้าหมายใหญ่ที่โดนใจ มันทำให้คุณอยากทำงาน


"เป้าหมายเล็ก ไม่ทำให้เลือดใครฉีดพุ่งได้" - มาร์คุส ออรีเลียส จักรพรรดิแห่งโรม


ทิป #1 :

ถ้าคุณตั้งเป้าแล้ว มันไม่ได้ทำให้คุณ"เกรงๆ"นิดๆ …แปลว่า เป้าคุณยังใหญ่ไม่พอ


ทิป # 2:

ถ้าคุณตั้งเป้าเสร็จแล้ว รู้หมดเลยว่าทุกขั้นต้องทำอะไรบ้าง …นั่นเรียกว่า "งาน" ไม่ได้เรียกว่า "เป้าหมาย"

เพราะ "เป้าหมาย" มีไว้เพื่อ "ยืดคุณออก" (stretch)
ไม่ใช่ให้คุณอยู่ที่เดิม
ถ้ารู้หมดแล้ว ว่าต้องทำอะไร ก็แสดงว่า ไม่ต้องทำอะไรใหม่ๆ ที่คุณต้องเกรงๆนิดๆ ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า (ตื่นเต้นไปอีกแบบ)

เป้าหมายที่เป็นแค่ "งาน" ไม่เร้าใจ จะทำให้คุณเบื่อ แล้วก็เลิกไป
นี่เป็นเหตุผลที่ ถ้างานคุณไม่ท้าทายอีกแล้ว คนที่อยากก้าวหน้าจริง ก็จะหางานใหม่ (แม้งานเก่ารายได้ดี)


ทิป # 3:

เป้าหมายที่ดี คืออันที่หัวใจคุณต้องการจริงๆ (อย่ามองไปข้างนอก หรือเอาที่ "คิด"ว่าตนทำได้")
คุณไม่รู้หรอก ว่าคุณทำได้มากแค่ไหน อย่าเอาความคิด (แคบๆ)ของเราตอนนี้ มาเป็นตัวตัดสิน ว่าอะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้

สุดท้าย…

อย่าลืม ประเด็นสำคัญของการมีเป้าหมายที่ท้าทาย คือ...

มัน "บังคับ" ให้คุณต้องเก่งขึ้น ดีขึ้น

คุณจึงจะได้เป้าหมายนั้นมา


https://www.facebook.com/#/BunditUngrangsee?fref=nf




 

Create Date : 21 เมษายน 2557   
Last Update : 21 เมษายน 2557 20:09:41 น.   
Counter : 984 Pageviews.  

ทำมาเยอะแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ

เรามักจะพูดว่า "เราทำมาเยอะแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ"

แต่จริงๆ แล้ว เราพยายามกันมากจริงๆ หรือเปล่า?

ผมได้อ่านข้อความที่ ต้นแบบความสำเร็จของผมคนหนึ่งได้โพสต์เอาไว้
ซึ่งผมเห็นด้วยเต็มที่ 100% และผมเองก็เคยมีประสบการณ์ไม่ต่างกัน

ผมขอยกข้อความนั้นมาให้คุณอ่านดูนะครับ ไม่รู้ว่าคุณจะเห็นด้วยกับบทความนี้ เหมือนผมหรือเปล่า?

--------------------------------------------

ผู้คนมักจะถามผมว่า "เบรนดอน, ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมฉันถึงล้มเหลว ทั้งๆ ที่ฉันก็ได้ทดลองทำทุกอย่างแล้ว"

"เยี่ยมไปเลย" ฉันตอบกลับไป "แสดงรายการให้ฉันดูหน่อยสิ"

พวกเขาขมวดคิ้ว และถามว่าผมหมายความว่าอย่างไร?

"ดี ถ้าคุณได้ทดลองทำทุกอย่างแล้ว มันแน่นอนว่าคุณจะมีรายการของกลยุทธ์ พร้อมทั้งแผนมากมาย ที่คุณได้พยายามทำ และติดตามผลอย่างแน่นอน

ดังนั้น คุณช่วงส่งรายการต่างๆ เหล่านั้นมาให้ฉัน และอย่าลืมที่จะใส่รายละเอียดของช่วงเวลาที่คุณได้ทดลองใช้กลยุทธ์หรือแผนการนั้นๆ เพื่อที่ผมจะได้ทราบว่า คุณใช้เวลาในการทำตามแผนเหล่านั้นนานเท่าไหร่ แล้วอย่างลืมเล่าถึงผลลัพธ์ที่คุณได้รับจากแต่ละกลยุทธ์ของคุณด้วยนะ"

และที่พวกเขาตอบกลับมาก็คือ......... "ความว่างเปล่า"

--------------------------------------------

หากว่าเราต้องการสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริงๆ

วันนี้เราอาจต้องเริ่มต้นตั้งคำถามใหม่กับตัวของเราเองครับ

"เพื่อจะทำให้เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้เป็นจริง อะไรคือสิ่งที่ฉันต้องลงมือทำทันทีในตอนนี้?"

ถ้าได้คำตอบแล้ว อย่ารอช้านะครับ



https://www.facebook.com/photo.php?fbid=796451957039329&set=a.273257286025468.73299.100000235972558&type=1&theater






 

Create Date : 17 เมษายน 2557   
Last Update : 17 เมษายน 2557 14:09:47 น.   
Counter : 582 Pageviews.  

ไม่ต้องไฮโซก็ลงทุนคอนโดได้ -อัญพัชร์ ทรัพย์ยืนยง









 

Create Date : 09 เมษายน 2557   
Last Update : 9 เมษายน 2557 13:14:39 น.   
Counter : 1052 Pageviews.  

Boy : หาเป้าหมายของเราให้เจอ

90% ของปัญหา "ความเครียด" ยุคนี้
เกิดจากการที่เรา "เอาไม่อยู่"
และที่เรา "เอาไม่อยู่"
ก็เกิดจากเรามี "หลายเรื่อง" ต้องทำพร้อมๆ กันมากเกินไป
และที่เรามีหลายเรื่องที่ต้องทำมากเกินไป
ก็เกิดจากเรา "โฟกัสมั่วไปหมด"

และที่เราโฟกัสมั่วไปหมด
ก็เกิดจากเราไม่รู้ว่า
"ไอ้สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันๆ มันสอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตมั้ย?"

เพราะฉะนั้นคงไม่ผิดถ้าผมจะพูดว่า
ยังไงๆ เราก็ต้องหาเป้าหมายในชีวิตให้เจอ
เพราะมันคือจุด checkpoint ให้เรารู้ตัวเสมอว่า
เรามาถูกทางมั้ย?

คนสำเร็จถึงยิ่งสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเขามีเป้าหมายภาพใหญ่ในชีวิตเอาไว้เช็คตลอดว่า
"สิ่งที่ฉันทำในแต่ละวันนั้น
มันกำลังค่อยๆ พาฉันไปสู่เป้าหมายนั้นหรือเปล่า?
ถ้าใช่ ฉันจะทำต่อแบบสุดๆ
ถ้าไม่ใช่ ฉันจะได้หยุด"

ในขณะที่คนส่วนใหญ่กลับไม่รู้เลยว่า
นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่?
เขาไม่เคยแม้แต่จะคิดถามตัวเองสักนิดว่า
ไอ้ที่ทำอยู่ทุกวันๆ มันใช่รึเปล่าวะ?

เพราะฉะนั้นวิธีหยุดความเครียด
ทั้งเรื่องการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพหรืออะไรก็แล้วแต่
วิธีที่ดีที่สุดก็คือ


"หาเป้าหมายของเราให้เจอ"

แล้วเราจะได้เพ่งสมาธิ ทุ่มกำลังกายใจได้ถูกที่ถูกทาง

แว่นขยายจะรวมแสงแดดให้แผดเผาใบไม้ไหม้ได้
มันก็ต้องโฟกัสให้ตรงจุด รวมแสงจนแรงพอ
คนเราก็แบบนั้นเลยครับ
ถ้าเป้าหมายชัด ถ้าโฟกัสใช่
ชีวิตจะพุ่งแรงสุดๆ แบบฉุดไม่อยู่

กระดาษมา ปากกาพร้อม
จรดเขียนสิ่งที่ชีวิตต้องการลงไ

"อะไรคือสิ่งที่เราอยากมี อยากเป็น อยากเห็น อยากให้กับโลกนี้?"

แปะมันไว้ข้างฝา ปรับเปลี่ยนมันตามความเหมาะสม
นับทุกความสำเร็จ ไม่ว่ามันจะเล็กแค่ไหน

ให้อภัยตัวเองทุกความล้มเหลว ไม่ว่ามันจะใหญ่แค่ไหน
เดินต่อไป ไปต่อไป
ก้าวไม่ต้องใหญ่ แต่ขอให้ไปให้ถูกทาง

ถามตัวเองทุกวันว่า

"สิ่งที่ฉันทำในแต่ละวันนั้น
มันกำลังค่อยๆ พาฉันไปสู่เป้าหมายนั้นหรือเปล่า?
ถ้าใช่ ฉันจะทำต่อแบบสุดๆ
ถ้าไม่ใช่ ฉันจะได้หยุด"

ผมรับประกันครับว่า
ทำแบบนี้แล้วทุกอย่างที่คุณต้องการ
คุณจะได้มันมาครอบครองอย่างแน่นอน
เอ้า! เริ่มเลยครับ กระดาษ ปากกา มาเล้ย!

https://www.facebook.com/thisisboysthought?fref=ts




 

Create Date : 09 เมษายน 2557   
Last Update : 9 เมษายน 2557 13:01:23 น.   
Counter : 682 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]