โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย

ชีวิตส่วนใหญ่ไม่เคยเดินเป็นเส้นตรงหรอก

ชีวิตส่วนใหญ่ไม่เคยเดินเป็นเส้นตรงหรอกครับ

มันมักจะพาเราอ้อมไปอ้อมมา แวะนู่นนั่นนี่เสมอ


ผู้ชายคนนึงเรียนโรงเรียนการแพทย์
เขาฝันอยากเป็นศัลยแพทย์
แต่หลังจากไปเป็นทหาร เป็นแพทย์สนาม
เขากลับพบว่ามันไม่ใช่ตัวเขา
เขาน่าจะเป็นช่างภาพ

แต่เมื่อลองเป็นช่างภาพดู
เขากลับพบว่าเขาเก่งไม่พอที่จะทำมันให้เป็นอาชีพ
ในเวลาต่อมาเขากลายเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้า
มีหน้าที่จัดตู้โชว์หุ่นแสดงเสื้อผ้าผู้ชายให้ออกมาดูดี
เขาเริ่มพบว่า เออ! นี่แหละ ตัวฉัน

เขาได้เลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว
กลายเป็นฝ่ายจัดซื้อเสื้อผ้าชาย
กลายเป็นดีไซเนอร์ และกลายเป็นเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าในที่สุด
เขาชื่อ "จิออร์จิโอ อาร์มานี่"
รู้จักเขามั้ยครับ?


ผู้หญิงอีกคนหัวดี เรียนเก่ง ไอคิวสูง จบศิลปะ
เธอหน้าตาดี ทางบ้านเลยบอกลองประกวดนางงามสิ
ผมคือตกรอบประจำจนเกือบหมดความมั่นใจ

แต่นั่นก็ทำให้แมวมองเห็นเธอและชวนเธอไปเป็นนางแบบ
เธอกลายเป็นนางแบบดังระดับประเทศ
ถ่ายโฆษณามากมาย

แต่คืนนึงที่เงียบสงัด เธอคุยกับตัวเองแล้วพบว่า
เธออยู่ในธุรกิจที่ไม่ใช่ตัวเธอเลย
เธออยากเป็นมากกว่าไม้แขวนเสื้อเดินได้บนแคทวอล์ค
เธออยากสร้างสรรค์อะไรมากกว่านี้

เธออยากเป็นนักแสดง
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เธอได้เล่น ไม่มีบทพูดให้เธอด้วยซ้ำ
แต่นั่นแหละมันตอบเสียงเรียกร้องในหัวใจเธอ

เธอเริ่มมีบทพูดในละครทีวีหลายๆ เรื่อง
แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ดังมากมาย
ถ้าเธอจะท้อแท้บ้าง มันก็น่าจะสมควรอยู่ใช่มั้ยครับ

10 กว่าปีเป็นเวลาที่นานไม่น้อย
กว่าโลกจะรู้จักเธอเล็กๆ ในบทที่เล่นคู่กับอาร์โนล ชวาซเนกเกอร์
และในเรื่องถัดมาเธอถึงจะเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก
ในหนังเรื่อง "Basic Instinct"
เธอชื่อ "ชารอน สโตน"
รู้จักเธอมั้ยครับ?


ครับ! ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้แหละ
มันชอบพาเราไปในที่ๆ เหมือนจะไม่เกี่ยว พาฉันมาที่นี่ทำไม
มันชอบพาเราไปหกล้ม เหมือนจะแกล้งให้เรายอมแพ้
เพื่อมันจะได้หัวเราะเยาะเราว่าเรามันอ่อนแอเหลือเกิน


ชีวิตผมเองก็เคยเป็นแบบนี้
ชีวิตใครหลายคนก็อาจจะกำลังเป็นแบบนี้อยู่
สับสน ว้าวุ่น นี่ฉันมาถูกทางหรือเปล่า?
ท้อแท้ สิ้นหวัง ทำไมชีวิตต้องทดสอบกันขนาดนั้น?

แต่ในที่สุด ถ้าอดทนมากพอและไม่หยุดค้นหา
เราจะเจอกับสิ่งที่ฝัน
และฝันนั้นจะกลายเป็นความจริง


มันไม่ใช่คำปลอบประโลมโลกสวย
เพราะคนที่เชื่อ
ก็จะพบว่าประโยคข้างบนมันเป็น "เรื่องจริง"
ส่วนคนที่ไม่เชื่อ
ก็จะพบว่าประโยคข้างบนเป็นเรื่องจริงที่มัน "ไม่จริง"
ทุกคนมีความจริงในเวอร์ชั่นของตัวเอง
เอาเป็นว่าเลือกความเชื่อในแบบที่จะทำให้ชีวิตเราดีก็แล้วกันครับ


ชีวิตส่วนใหญ่ไม่เคยเดินเป็นเส้นตรงหรอก
มันมักจะพาเราอ้อมไปอ้อมมา แวะนู่นนั่นนี่เสมอ
ขอแค่โดยรวม มันไปข้างหน้าก็พอแล้ว
ล้มบ้างอะไรบ้าง เป็นธรรมดา
สับสนบ้างวุ่นวายบ้าง เป็นเรื่องธรรมชาติครับ
อย่าหยุดเดินก็แล้วกัน


ขอบคุณ คุณบอย จาก https://www.facebook.com/thisisboysthought








 

Create Date : 31 มีนาคม 2557   
Last Update : 31 มีนาคม 2557 10:11:27 น.   
Counter : 1337 Pageviews.  

Your Passion



You don't choose your passions; 


your passions choose you.




 

Create Date : 29 มีนาคม 2557   
Last Update : 6 กรกฎาคม 2559 17:47:32 น.   
Counter : 934 Pageviews.  

ชาตินี้คุณอยากประสบความสำเร็จจริงหรือเปล่า???



ชาตินี้คุณอยากประสบความสำเร็จจริงหรือเปล่า???
ถ้าอยาก...แล้วอะไรที่ทำให้คุณไม่ลงมือทำมันซะที?

เรื่องราวของคุณน้ำเป็นตัวอย่างที่ดีอีกตัวอย่างหนึ่ง
ที่เมื่อเธอก้าวข้ามสิ่งที่ฉุดรั้งเธอไว้ได้
เธอก็ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม

ขอบคุณคุณน้ำและคุณวิชญ์สำหรับเรื่องราวดีๆ 
เรื่องราวของคนหนึ่งคน อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครหลายๆ คนได้
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นักล่าฝันทุกคน
ก้าวข้ามสิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้จากความสำเร็จ
ขอให้เริ่มต้น ลงมือทำ เปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง
แล้วชีวิตคุณจะประสบความสำเร็จอย่างที่คุณต้องการ 

เตรียมตัวพบกับหลักสูตร "Fast Track To Change"
หลักสูตรที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณภายใน 7 ชั่วโมง!!!
โดย "Aiyara Academy" เร็วๆ นี้ โปรดติดตาม 

โทร.08 5260 1555 , 09 8848 2489

Line ID : boonthis

บุญ ไอยรา

สยามกุญชร เอราวัณ ทีม



***********************************************


ชาตินี้คุณอยากประสบความสำเร็จหรือเปล่าครับ ถามจริง...? 

ถ้าคุณตอบว่าอยาก ก็ต้องลองถามตัวเอง ว่าชีวิตทุกวันนี้มันพาคุณไปสู่จุดหมายที่ตัวเองต้องการได้หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ ยินดีด้วย...!!! คุณคือคนประเภท "รับใช้ความฝันตัวเอง" ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะอะไร คุณสามารถยืดอกภูมิใจได้ว่านี่คือเส้นทางที่คุณตัดสินใจก้าวเข้ามาด้วยสองขาของคุณ คุณคือผู้ที่กำลังทำให้ชีวิตของตัวเองประสบความสำเร็จ... แต่ถ้าคำตอบของคุณคือไม่หละ คุณไม่ชอบไลฟ์สไตล์ของตัวเองทุกวันนี้ เบื่อ สิ้นหวัง หดหู่ เป็นว่าเล่น คำถามคือคุณคิดจะเปลี่ยนแปลงมันหรือเปล่า...!?! ถ้าคุณตอบว่าใช่ คุณอยากเปลี่ยนแปลง วันนี้คุณเจอเส้นทางแล้วหรือยัง...??? 

คุณควรจะรู้เรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง สังคมไทยเป็นสังคมที่รักการวิพากษ์ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่คุณทำจะกลายเป็นประเด็นให้คนอื่น "พูดถึง" ทั้งต่อหน้าและลับหลังได้เสมอ ปัญหาคือคำพูดของคนด้วยกันเองมีอานุภาพในการฆ่าคนด้วยกันเองมากกว่าที่คิด ทุกคนรู้ ไม่มีใครอยากโดนกระสุนคำพูดมนุษย์สาดเข้าร่างตัวเอง แต่น่าแปลก คนส่วนใหญ่สนุกกับการสาดกระสุนคำพูดมนุษย์ใส่คนอื่น... มันสนุกที่คนยิง แต่คนถูกยิงหนะ ไม่สนุกหรอก "น้ำ" ก็เป็นหนึ่งในนั้น

น้ำ เป็นสาวน้อยคนหนึ่งที่เหมือนคนทั่วๆไป อยากร่ำรวยเงินทอง อยากได้รับการยอมรับ และต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นอย่างสูง บุคลิกของเธอดูขาดความเชื่อมั่น ขาดความมั่นใจ แต่ผมมองเข้าไปในตาน้ำคล้ายๆว่าเห็นความมุ่งมั่นบางอย่างที่ซ่อนเร้นเอาไว้ น้ำมาหาผมเพราะต้องการดูไพ่ Tarot และคาดหวังว่าไพ่ Tarot จะช่วยชี้เส้นทางที่จะทำให้เธอสมปรารถนาในชีวิต เธอเล่าให้ฟังว่าทุกวันนี้เธอไม่ค่อยชอบชีวิตตัวเองเท่าไหร่ อยากจะเปลี่ยนแปลง แต่เธอไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ และอยากให้ไพ่ Tarot ช่วยแนะนำว่าเธอควรจะทำอย่างไร...? ผมจึงเริ่มปฏิบัติการสำรวจชีวิตน้ำด้วยไพ่ Tarot ทันที และไพ่ใบแรกที่น้ำได้คือไพ่ "3 เหรียญ"

ผมไม่อธิบายอะไรให้เสียเวลา ผมหงายหน้าไพ่ให้น้ำได้เห็นถนัดๆ ผมถามน้ำว่าเธอรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นไพ่ใบนี้ มีอะไรที่สะดุดตาสะดุดใจเธอหรือไม่ น้ำมองไพ่แล้วขมวดคิ้วไปมา ก่อนจะเอื้อนเอ่ยเสียงหวาน... 

"ดูเขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำ เขาพยายามที่จะสร้างผลงาน เขาดูรักมันนะ แต่มันดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน อืม...!!! ดูเขาพยายามที่จะไม่สนใจสิ่งรอบข้างด้วย ใช่...เขาไม่สนใจอะไรเลย เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำอยู่ เขาพยายามทุ่มเทสมาธิ จดจ่อกับมัน เขาทำมันด้วยความสุข" น้ำพูด "แต่ก็อย่างว่า มันดูไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย" น้ำเน้น...พร้อมชี้นิ้วโฟกัสไปที่นกยูงตัวนั้น

นี่คือความสนุกของการดูไพ่ Tarot คือต่อให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องไพ่ Tarot อย่างน้ำยังสามารถสื่อสารกับไพ่ได้โดยมีผมคอยกระตุ้นให้ใจของน้ำกับไพ่สื่อสารกัน ง่ายมากๆ อาจจะดูเหมือนเป็นวิธีทางจิตวิทยา แต่ผมกล้าเปิดเผยเคล็ดลับได้เลยว่าสิ่งที่น้ำรู้สึกจากไพ่ ไม่ได้เกิดจากการมโนไปเอง แต่นั่นเกิดจากการสื่อสารระหว่างไพ่ Tarot กับน้ำ เป็นการสื่อสารด้วยหัวใจที่ปรารถนาดีของน้ำต่อตัวเองอย่างแท้จริง...!!! ดังนั้น คุณน้ำในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงลูกค้าของผม ใช่ ผมดึงความเป็น Tarot Reader ในตัวเธอออกมา 

ผมคุยกับน้ำซักพักหนึ่ง ลองซักถามว่าชีวิตเธอโดยปรกติเป็นอย่างไรบ้าง พอเธอเล่าให้ผมฟัง มันทำให้ผมรู้ว่าเธอมีทัศนคติต่อตัวเองไม่ดีเท่าไหร่ น้ำบอกผมว่า เธอทำงานหลายอย่าง มีความสุขดี เธอทั้งช่วยญาติขายของออนไลน์ เป็นติวเตอร์สอนพิเศษทุกเย็นวันธรรมดา และวันหยุดก็รับจ็อบงานฝีมือหารายได้พิเศษอีก ใช่ เธอทำ 3 อาชีพ...!!! 

แต่คนในครอบครัวของเธอบอกว่าเธอไม่จดจ่อ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน โดยเฉพาะแม่ของเธอที่มักถามเธอเกี่ยวกับอนาคต พร้อมทั้งมีความผิดหวังนิดๆที่ลูกของตัวเองยังไม่มีทีท่าว่าจะประสบความสำเร็จ เลยทำให้น้ำสูญเสียความเชื่อมั่นไปทีละเล็ก ทีละน้อย จนในทีสุดแสงแห่งความมั่นใจในโชคชะตาก็หรี่ลงจนมองไม่เห็น อนาคตของน้ำในความรู้สึกของน้ำก็จะมีแต่ตัวคุณน้ำที่หายนะ ล้มเหลว ไร้ซึ่งหนทางแห่งความหวัง และเธอไม่มีความสุข เพราะนอกจากแม่แล้ว ก็ยังมีญาติ มีคนนอก ที่ไม่เข้าใจเธอ และค่อนข้างดูแคลนเธอ

แต่เดี๋ยวก่อน หน้าที่ของ Tarot Reader ไม่ได้มีแค่บอกว่าอนาคตของเธอจะเป็นอย่างไรเท่านั้น เราต้องทำตัวเองให้เป็น เอโดคาว่า โคนัน (สำหรับใครที่ไม่รู้จัก โคนันคือการ์ตูนนักสืบที่โด่งดังครับ) เราต้องลงมือค้นหาหลักฐาน และหาสิ่งที่เชื่อถือได้มายืนยันให้น้ำ ว่าแท้ที่จริง ความคิดและทัศนคติที่เธอมีต่อตัวเอง รวมถึงอนาคตที่เธอมองเห็น เป็นจริงหรือไม่ ถ้าจริงเพราะอะไร และถ้าไม่จริง เพราะอะไร...!!!

กลับไปที่ไพ่ 3 เหรียญ ผมชี้ให้คุณน้ำมองเห็นอะไรบางอย่างที่ไพ่บอกกับผม แต่คุณน้ำมองข้ามไป ผมเชื่อมั่นว่าทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้จะเห็นด้วยกับผม นกยูงตัวนั้นที่น้ำบอกว่ามันเป็นแค่ "ของไม่เป็นชิ้นเป็นอัน" แท้ที่จริงสำหรับผม และคนอื่นที่เป็นคนยืนดูภายนอก กลับมองว่ามันคือ "ประติมากรรมระดับสุดยอด...!!!" ผมบอกเธอว่า "เห้ย มันไม่เป็นชิ้นเป็นอันตรงไหน นี่มันเป็นความสามารถพิเศษที่ไม่ใช่ใครๆก็ทำได้นะ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า"

คุณน้ำได้ฟังอย่างนั้น ก็นิ่งไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะยืดตัวพร้อมทำท่าทบทวนอะไรบางอย่าง ก่อนจะทุบทกตัวเองว่าใช่ 

ผมชี้ย้ำอีกหลายๆครั้งให้น้ำเห็นทันทีว่าในสายตาของคุณน้ำ คุณน้ำมองสิ่งตรงหน้าเป็นแค่ "ของที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน" แต่ในสายตาคนรอบข้าง คุณน้ำคือศิลปินที่สร้างสรรค์ประติมากรรม ที่ต้องใช้ความสามารถ ใช้ความพยายาม ใช้การฝึกฝน ใช้ทักษะที่ได้จากการทุ่มเทอย่างหนัก นกยูงตัวนี้ไม่ใช่ใครก็ทำได้ เขาจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ และเป็นศิลปินด้วยนะ ลองบอกผมอีกซักครั้งสิครับ ว่าคุณน้ำทำอะไรนะ "ขายของออนไลน์ เป็น Tutor และรับจ็อบทำ DIY ทุกวันเสาร์ อาทิตย์" คุณน้ำมีรายได้สามทาง ในขณะที่คนอื่นหารายได้ทางเดียวก็เต็มกลืนแล้ว คุณน้ำสามารถดูแลตัวเองได้ หาเงินส่งให้ครอบครัวได้ เป็นนายตัวเองได้ ยังมีหน้ามาบอกอีกเหรอว่าทั้งชีวิตตัวเอง ทำแต่สิ่งไม่เป็นชิ้นเป็นอัน...เข้าใจอะไรผิดหรือแล้ว

จากคนที่ดูขาดความมั่นใจ ประกายดาวแห่งความหวังเริ่มสาดส่องไปที่เธออีกครั้ง คุณน้ำเริ่มตาเปล่งแสงเหมือนอุนตร้าแมน เธอเริ่มพินิจพิเคราะห์ถึงสิ่งที่เธอทำได้และเคยทำ น้ำเริ่มเล่าให้ผมฟังในหลายๆเรื่อง เช่นเรื่องที่เธอสามารถทำงานฝีมือจนคนรอบข้างประทับใจได้หลายต่อหลายครั้ง เรื่องที่คนมักจะมาขอคำปรึกษาเรื่องการประกอบอาชีพ เรื่องที่เธอสามารถช่วยเหลือคนที่ประสบกับปัญหาในชีวิตได้ และอีกหลายๆเรื่องที่ผมเล่ายังไงก็เล่าไม่หมด ความคิดคนก็แบบนี้ เปิดประตูให้ถูกห้องความมั่นใจและความศรัทธาก็จะเพิ่มพูน เธอเริ่มเกิดคำถามว่าสาเหตุจริงๆที่เธอไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเธอเชื่อว่าตัวเองไม่ดี หรือเชื่อที่คนอื่นพูดว่าตัวเองไม่ดีกันแน่ จากนั้นเธอก็เปรยๆกับผมว่าต่อไปนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครดูถูกเธออีกแล้ว เธอจะทำให้คนที่มองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามมองเธอใหม่ ใช่ น้ำจะสู้อีกครั้ง ต่อไปนี้เธอจะรับใช้ความฝันตัวเอง

เธอขอให้ผมช่วยดูไพ่ให้เธอว่าถ้าเธอตัดสินใจจะสร้างธุรกิจของเธอเองจริงๆ จะเป็นอย่างไร ได้ไพ่ 1 เหรียญ สิ่งที่ไพ่สื่อสาร ให้ผมกับคุณน้ำรับรู้และรู้สึกตรงกัน...!!! มันบอกถึงความทรงพลังที่ออกมาจากไพ่ตรงกัน เราแทบจะพูดพร้อมกันว่าไพ่บอกว่า "ลุย...!!! และประสบความสำเร็จแน่" แน่นอน คำว่าประสบความสำเร็จไม่ใช่คำที่ผมพูด แต่ไพ่ Tarot พูดกับน้ำต่างหาก 

น้ำขอบคุณผม ผมขอบคุณน้ำ ผมช่วยทำให้คุณน้ำมองเห็นด้านที่สุดยอดของตัวเอง คุณน้ำช่วยทำให้ผมคิดว่าได้ว่าผมพยายามเพียงพอกับชีวิตตัวเองแล้วหรือยัง เป็นการเรียนรู้ทั้งสองฝ่ายระหว่าง Tarot Reader กับลูกค้า เธอลาผมไปพร้อมกับคำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้ไพ่ Tarot ผิดหวัง... การดูไพ่ Tarot ในวันนั้นจบเพียงเท่านี้ ผมกับเธอก็ลาจากกัน

จบครับ ขอบคุณที่ตามอ่านนะครับ

..........................................

เป็นอย่างไรบ้างครับเรื่องของน้ำ ความจริงแล้ว ผะ ผะ ผม จะ จะ จะ
จะบ้าเหรอ...!!! จบครึ่งๆกลางๆแบบนี้ได้ยังไง คนอ่านจะพาลเสียอารมณ์

1 สัปดาห์ต่อมา ข้อความใน line ปรากฏขึ้น 1 ข้อความ ผมเปิดดูปรากฏว่าเป็นข้อความจากคุณน้ำนี่เอง คุณน้ำส่งไลน์มาขอบคุณผม พร้อมกับบอกว่าเธอได้ตัดสินใจที่จะทำตามความฝันของตัวเองแล้ว หลังจากที่คุยกับผม น้ำตัดสินใจทำธุรกิจที่ตัวเองอยากทำมานาน แต่ไม่กล้าที่จะทำ เธอตัดสินใจจะสร้างความสำเร็จให้กับตัวเองด้วยการนำความสามารถทั้ง 3 อาชีพ และประสบการณ์ในการทำงานรับใช้คนอื่นมานานมาเริ่มธุรกิจ เธอบอกผมว่าเธอกลัวมากๆในตอนแรก ขาดความเชื่อมั่น ทำให้เธอเป็นคนที่ไม่กล้าจะรับใช้ความฝันตัวเอง ละสิ่งที่ได้กลับมาแบบไม่คาดฝัน 

"ไม่น่าเชื่อเลยคุณวิชญ์ ว่าคนอย่างน้ำจะสามารถประสบความสำเร็จได้ คุณวิชญ์รู้มั้ยว่าน้ำเปิดธุรกิจของตัวเอง น้ำทำเงินได้เท่าไหร่ 50,000 บาท...!!! 50,000 บาที่ได้ภายในสัปดาห์เดียว หูย... ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างน้ำจะทำได้ รู้อย่างนี้ทำตั้งนานแล้ว ต้องขอบคุณไพ่ Tarot ที่ทำให้น้ำมีความมั่นใจ ตอนนี้น้ำไม่กลัวอะไรอีกแล้ว" 

ผมยิ้มในใจ นึกถึงไพ่ Tarot รูป 3 เหรียญพร้อมส่งให้เธอดูอีกที เธอเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบผมว่า 

"ชายคนในไพ่ดูเขาไม่เหมือนเดิมนะ ดูเขามีความมั่นใจ เขาพร้อมที่จะประสบความสำเร็จ ดูเขาภาคภูมิใจในตัวเองมาก ใช่ เขาไม่ใช่ชายคนเดิมอีกต่อไปแล้ว...!!! ไม่น่าเชื่อว่าไพ่จะให้ความหมายที่แตกต่างจากเดิมขนาดนี้"

น้ำกล้าเปลี่ยนแปลงเส้นทางตัวเอง พลิกชีวิตแค่เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความสามารถของตัวเอง ซึ่งความมั่นใจผมว่ามันเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่สุดและสำคัญที่สุดของความสำเร็จแล้ว น้ำแค่ค้นพบว่าตัวเองอยากประสบความสำเร็จ แต่ชีวิตในปัจจุบันที่เธอกำลังใช้มันไม่สามารถตอบโจทย์เธอได้ เธอเลยเปลี่ยนจากคนที่ไม่กล้าจะรับใช้ความฝันตัวเอง เป็นคนที่กล้าจะยอมรับในความสามารถของตัว และลุยโดยเอาความฝันของตัวเองเป็นเดิมพัน คนจริงมันต้องแบบนี้ คือลงมือทำก่อน ค่อยเชื่อว่าข้าห่วย คนบางคนเชื่อว่าตัวเองห่วยตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำอะไร อย่างนี้เกิดยากครับ...!

หลังจากคุณน้ำเล่าถึงความสำเร็จของตัวเอง ผมปิด line วาง ipad ลงข้างเก้าอี้ คุณน้ำสอนบทเรียนสำคัญอย่างหนึ่งให้กับผม คือเสียงของความฝันของผมบางทียังดังไม่พอ เพราะตอนนี้ได้ยินแต่เสียงคำว่า "ได้เยอะกว่าตูอีก" ดังลั่น...!?!

วิชญ์

https://www.facebook.com/vittarot




****************************************











 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 6 กรกฎาคม 2559 17:46:12 น.   
Counter : 949 Pageviews.  

“อย่าปฏิเสธโอกาส"

“อย่าปฏิเสธโอกาส"

หลายคนไม่มีโอกาส แต่พยายามที่จะไขว่คว้าโอกาส
ในทางกลับกัน บางคนก็ปฏิเสธโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

แล้วเราล่ะ "พยายามไขว่คว้าหาโอกาส"

หรือ "ปฏิเสธโอกาส" เพียงเพราะ...โอกาส...มาในรูปแบบที่เราไม่คาดคิด

วันนี้ลองลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองดูสักครั้งก่อนที่คุณจะต้องเสียโอกาสไป 

ขอบคุณแรงบันดาลใจดีๆ จาก www.MakeTHEDifference.org





 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2557 22:07:28 น.   
Counter : 1231 Pageviews.  

Boy : "จดหมายฉบับสุดท้าย" กับ "เป้าหมายชีวิต"

เมื่อวานนี้มีสองเรื่องที่เปลี่ยนชีวิตผม
และมันอาจเปลี่ยนชีวิตคุณด้วย

ผมมีโอกาสได้เข้าสัมมนาฝึกการพู
แต่สิ่งที่ผมได้รับ กลับเป็นเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากการพูด

ตอนต้นชั่วโมง
วิทยากรให้ทุกคนขึ้นมาประกาศเป้าหมายชีวิต
แล้วพอก่อนจบคอร์ส
วิทยากรก็ให้ทุกคนเขียนจดหมายฉบับสุดท้ายถึงคนที่เรารัก
ว่าถ้าเราจะต้องตาย เราจะเขียนอะไรบ้าง?

ผมให้ทายครับว่า
"อะไรคือเป้าหมายยอดฮิตของคนใน พ.ศ. นี้?"

"เป้าหมายของฉันคือมีอิสรภาพทางการเงิน"
ใช่! อิสรภาพทางการเงินกลายเป็น default ของความฝันไปแล้ว
มันกลายเป็นค่าเริ่มต้นของความฝันที่ใครๆ ก็อยากมี

คนยุคนี้ไม่มีความสุขกับงานที่ทำอยู่
ทุกคนอยากหลุดจากวงจรนี้ เพื่อไปทำอย่างอื่น
อยากเที่ยว อยากใช้เวลากับครอบครัว

อีกครั้งครับ ผมให้ทายว่า
"คนส่วนใหญ่เขียนจดหมายฉบับสุดท้ายว่าอะไร?"

"ฉันน่าจะมีเวลาดีๆ ร่วมกันกับเธอมากกว่านี้ ฉันขอโทษ"
ใช่! คนส่วนใหญ่ไม่มีเวลาให้คนที่เขารัก
ไม่มีเวลาให้พ่อแม่ ไม่มีเวลาให้คนรัก ไม่มีเวลาเล่นกับลูก

ว่าแต่ "จดหมายฉบับสุดท้าย" กับ "เป้าหมายชีวิต"
มันเกี่ยวกันยังไง?

เกี่ยวสุดๆ เลยครับ
ถ้าไปถอดรหัสดู จะพบว่าทั้งหมดที่คนเราต้องการก็คือ
"อยากใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่รักและคนที่รัก"

อิสรภาพทางการเงินจึงเป็นสิ่งที่คนใฝ่ฝันกันในยุคนี้
เพราะมันเจาะเข้าไปใจกลางความต้องการของมนุษย์

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าปัญหาก็คือ
มันมักจะบอกให้เราเอาความสุขไปฝากไว้ที่ปลายทาง
ต้องมีอิสรภาพทางการเงินก่อนเท่านั้น
ฉันถึงจะได้ไปทำสิ่งที่รัก ได้อยู่กับคนที่รัก

แต่จะดีกว่ามั้ยครับถ้าเรามีความสุขระหว่างทางด้วย
ซึ่งถ้าอยากได้แบบสุขระหว่างทางด้วย
ผมมี 3 ขั้นตอนมาฝากครับ

ขั้นแรก ประเมินค่าใช้จ่ายต่อเดือนบวกกับเงินออม
สมมติว่าออกมาเท่ากับ 100,000 บาท

ขั้นที่สอง หางานที่ทำแล้วใช้เวลาน้อยที่สุ
เพื่อให้ได้เงิน 100,000 บาทนั้น
เช่น เป็นวิทยากรค่าตัววันละ 1 หมื่น ก็ทำงานแค่ 10 วัน
เท่านี้เราก็เหลือเวลาว่างอีกตั้ง 20 วัน/เดือน

ขั้นที่สาม เอาเงินเก็บในขั้นแรกไปลงทุน
จนผลตอบแทนเริ่มมาช่วยจ่ายค่าใช้จ่ายได้บางส่วน
ซึ่งก็แปลว่าเราจะใช้เวลาทำงานน้อยลงไปอีก

ผมบอกได้เลยครับ เมื่อชีวิตมีเวลาเหลือ
เราจะคิดไอเดียอะไรดีๆ ได้เยอะเลย
แต่ถ้ายังต้องคิดเรื่องทำมาหากินทุกวัน
สมองมันจะตื้อ คิดอะไรก็ไม่ออกครับ

เคล็ดลับมันอยู่ที่ขั้นที่สอง
ที่ทำให้เรามีเวลากับคนที่เรารักตั้งแต่ยังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน
เพราะเราเริ่มมีอิสรภาพทางเวลาบ้างแล้ว

ผมไม่ได้บอกว่ามันง่ายที่จะหางานที่ทำน้อยวัน แต่มากเงิน
แต่นั่นล่ะครับคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นกัน
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาทำงานนานเกินไ
แต่กลับได้ค่าตอบแทนน้อยเกินไป

อีกครั้ง ผมไม่ได้บอกว่ามันง่าย
แต่ถ้ามันเป็นเป้าหมายของชีวิตเรา
และเราไม่อยากเขียนจดหมายฉบับสุดท้ายในชีวิตว่า
"ฉันน่าจะมีเวลาดีๆ ร่วมกันกับเธอมากกว่านี้ ฉันขอโทษ"
เราก็ต้องเริ่มทำอะไรบางอย่างได้แล้ว
เริ่มวันนี้เลยดีมั้ยครับ?


https://www.facebook.com/thisisboysthought




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2557 21:36:43 น.   
Counter : 921 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  

sriphat
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




โลกนี้มีเรื่องราวดีๆ ไว้ให้แบ่งปันกันมากมาย
New Comments
[Add sriphat's blog to your web]