Group Blog
 
All blogs
 

Snowpiercer (2013): ขบวนนี้พี่ขอยึด


Snowpiercer (2013): ขบวนนี้พี่ขอยึด

     เคยแสดงฝีมือให้คอหนังได้ประจักษ์มาแล้วเมื่อครั้ง The Host (2006) ในที่สุด ผกก.บองจุนโฮ ก็ขอโกอินเตอร์กับผลงานหนังไซไฟยุคสิ้นโลกเรื่องนี้ที่ขนดาราดังมาเพียบเชียว (อันที่จริงนี่คือหนังเกาหลีที่ใช้นักแสดงอินเตอร์มาเล่นมากกว่า)

    หนังดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนฝรั่งเศสเรื่อง Le Transperceneige อันเกี่ยวกับการเอาตัวรอดของคนกลุ่มหนึ่งบนขบวนรถไฟอันเป็นที่พึ่งสุดท้ายของมวลมนุษยชาติในยุคหลังวันสิ้นโลก      ต้องขอบอกว่าหนังไม่กะทำให้ดูเอามันส์กันอย่างเดียวเหมือนหนังฮอลลีวู้ดทั่วไป แต่แทรกสาระเรื่องราวเกี่ยวกับ 'การจัดช่วงชั้นทางสังคม' ที่เปรียบขบวนรถไฟแต่ละโบกี้เป็นช่วงชั้นทางสังคม เริ่มตั้งแต่ท้ายขบวนซึ่งเป็นของชนชั้นล่างเรื่อยไปจนถึงหัวขบวนที่เป็นของชนชั้นผู้นำ (อืม เข้าใจคิดนะเนี่ย)

     ดังนั้นด้านสาระเนี่ยหนังมีให้คอหนังได้เก็บไปขบคิดแน่นอน ในขณะที่ฉากแอ็คชั่นก็มีมาให้ไม่น้อย (อารมณ์ขันแบบหึๆ ก็มีแอบหยอดมาตลอด) แต่ดูเหมือนเส้นกราฟอารมณ์ของหนังจะขึ้นๆ ลงๆ อยู่ทั้งเรื่อง คือจะบู๊ก็บิ้วท์กันไปถึงระดับหนึ่งแล้วก็มีช่วงดร็อปอารมณ์ลงมา สักพักก็บู๊กันอีก หนังเลยดูไม่ค่อยสุด ในขณะที่บางอย่างก็ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลให้คนดูช่างจับผิดได้เอ๊ะได้อ๊ะอยู่เรื่อย


ถ้าจะถามว่าหนังดีมั้ยก็ตอบได้เลยว่าดีมีสาระด้วย ผกก.แกทำหน้าที่ได้ดีไม่เสียฟอร์ม แต่ถ้าจะดูเอาสนุกเอามันส์อย่างเดียวก็อาจจะตอบโจทย์ได้ไม่ค่อยดีนัก ให้ไป 7/10 ครับ


     ปล.เฮีย ซองกังโฮ กับหนู โคอาซอง จาก The Host ยังตามมาเล่นบทเป็นสองพ่อลูกในหนังเรื่องนี้ได้อีก อิอิ







 

Create Date : 07 ธันวาคม 2556    
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 4:48:06 น.
Counter : 2891 Pageviews.  

The Wolverine (2013): เรื่องแน่นอกของนายฟ้อนเล็บ

The Wolverine (2013): เรื่องแน่นอกของนายฟ้อนเล็บ

     ท่าน Hugh Jackman กลับมาสวมบทบาทฮีโร่พันธุ์นอกคอก Wolverine เป็นครั้งที่หก (และฉายเดี่ยวเป็นครั้งที่สอง) คราวนี้พี่แกขอพาไปทัวร์ญี่ปุ่นซะด้วยนะ นับเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศที่ไม่เลวเลยทีเดียวเชียว

      หนังดำเนินเรื่องราวต่อจาก X-Men: The Last Stand (2006) ซึ่งนับเป็นความฉลาดของผู้สร้างเพราะนอกจะสามารถวางตัวในจักรวาลของหนังชุด X-Men ได้แบบต่อเนื่องเนียนๆ แล้วยังเปิดโอกาสให้ใส่ความเป็นดราม่ารำพึงรำพันลงไปได้อีกด้วยแน่ะ

James Mangold ผกก.จอมจับฉ่ายที่ทำหนังไปซะทุกแนว (แต่ก็ทำได้ดีซะทุกเรื่องอีกต่างหาก) ทำหน้าที่ได้ดีตามคาด แม้ว่าฉากโชว์ของจะน้อยกว่าภาคที่แล้ว แต่กลับดูดีถึงคุณภาพกว่าชนิดเห็นๆ (ภาคที่แล้ว'เยอะ'ไปนิดเนอะ) แถมยังแนบความเป็นดราม่าลงไปไม่ให้หนังเบาหวิวไร้อารมณ์ความรู้สึก แม้ว่าหลายครั้งจะดราม่าเพ้อๆ ซะจนทำเอาจังหวะหนังนิ่งไปบ้างก็ตามที (ถ้ามองในแง่หนังฮีโร่นะ)

      ไม่รู้สินะ ไอ้เราก็ไม่ใช่แฟนของเหล่า X-Men เสียด้วยสิ การกลับมาของ Wolverine ในครั้งนี้เลยไม่ค่อยชวนให้ตื่นเต้นตื้นตันน้ำตาจะไหลสักเท่าไร ถ้าจะถามว่าหนังดีมั้ย? ก็ต้องตอบว่าดี สนุกมั้ย? ก็สนุกอยู่ แต่ชอบมั้ย? ก็ขอบอกว่า เฉยๆ ล่ะน่ะ


6/10 ครับ




*รีวิวภาคแรกภายในบล็อก*




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 28 กรกฎาคม 2556 6:50:53 น.
Counter : 3150 Pageviews.  

Only God Forgives (2013): กระตุกโหดคุณตำหนวด

Only God Forgives (2013): กระตุกโหดคุณตำหนวด

     หลังจากกอดคอกันรุ่งจาก Drive (2011) หนุ่ม Ryan Gosling กับ ผกก.Nicolas Winding Refn จึงขอกลับมาแท็กทีมกันอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้มาทำเท่กันถึงไทยแลนด์แดนสไมล์ของเราเลยทีเดียว

      เอาแค่ไตเติ้ลเรื่องก็เล่นขึ้นฟ้อนท์ไทยหราเป็นที่ภาคภูมิใจ (?) ของคอหนังชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง แต่หนังโดยรวมนั้นค่อนข้างจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนดูหนังส่วนใหญ่เท่าใดนัก เพราะมีความอาร์ตความแนว ความนิ่ง มีนั่นโน่นนี่ มาให้นักดูหนังคิดเยอะได้ตีความ ส่วนคอหนังบ้านๆ (อย่างเรา) อาจจะไม่ค่อยหือไม่ค่อยอือเท่าใดนัก ดังนั้นต้องมีเสียงแตกว่าชอบหรือไม่ชอบหนังกันแน่นอน

      ที่น่าสนใจคือดูเหมือน ผกก.แกจะสั่งให้บรรดานักแสดงทุกคนตีหน้าตาย วางตัวนิ่งๆ ทำตัวเงียบๆ ห้ามว่อกแว่กในทุกสถานการณ์ ชนิดที่ว่าบางอารมณ์ดูเผินๆ นึกว่ากำลังดูภาพนิ่งอยู่ก็มิปาน แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาได้ที่สุด (สำหรับเรา) คงไม่พ้นเฮียสายเชีย วงศ์วิโรจน์ ที่หนังต่างชาติถ่ายในไทยเรื่องไหนเรื่องนั้นต้องมีแกโผล่มาแจมได้เกือบทุกเรื่องเชียว

      ไอ้เรามันก็ไม่ใช่พวกดูหนังแบบเจาะลึกตีความเลยไม่ค่อยอินกับหนังเท่าไหร่ แต่คิดว่าอย่างน้อยหนังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในการประกาศก้องแก่ชาวโลกว่า "อย่ามาแหยมกับตำหนวดไทยนะเฟ้ย" แหล่ะนะ ;P

สำหรับคอหนังบ้านๆ ไม่ชอบคิดเยอะ ให้ 5/10 ก็สมเหตุสมผลดีแล้ว (นักดูหนังบางคนอาจชอบมากก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเน้อ)




*รีวิวหนังของ ผกก.Nicolas Winding Refn เรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*




 

Create Date : 25 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 25 กรกฎาคม 2556 3:52:16 น.
Counter : 2716 Pageviews.  

Red 2 (2013): หง่อมอีกทีต้องมีเธอ

Red 2 (2013): หง่อมอีกทีต้องมีเธอ

     ใครจะไปคิดว่าป๋าเหม่ง Bruce Willis ในหนังบู๊รวมพลคนพันธุ์หง่อมที่ออกฉายเมื่อปี 2010 นั้นจะฮิตเกินคาด ว่าแล้วก็ต้องมีภาคต่อออกมาดูดเงินจากมิตรรักแฟนหนังกันอีกจนได้ ซึ่งคราวนี้หนังก็ขยายสเกลใหญ่โตในแบบสหประชาชาติมากขึ้น แต่ก็ไม่ละทิ้งแนวคิดหลักประจำเรื่องที่ว่า "อย่าได้คิดมองข้ามหรือดูถูกคนแก่ๆ เชียวนะเฟ้ย" เพราะพวกท่านมีทั้งความเก๋า ประสบการณ์ รอยยับย่นบนใบหน้า และฟันปลอมที่เพียบพร้อมกว่าคนรุ่นใหม่เยอะ จนนับเป็นหนังที่สมควรมีไว้เปิดดูในวันผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นอย่างยิ่ง

      ภาคนี้เปลี่ยนตัว ผกก.เป็นคุณ Dean Parisot ที่ชอบทำหนังตลกแบบผู้ใหญ่ๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนังจึงออกมาดูได้สบายๆ เพลินๆ เดินตามสูตรสำเร็จจากภาคแรกเป๊ะๆ คือขายเสน่ห์ของบรรดานักแสดงรุ่นเก๋า สลับกับการแทรกฉากบู๊เว่อร์ๆ เท่ๆ พอเป็นกระษัย ซึ่งเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วมั้งที่จะมอบความบันเทิงให้แก่ท่านผู้ชมทั้งหลายได้

      หนังมีบางช่วงที่ดูเรื่อยๆ คุยๆ ลากยาวไปบ้างตามประสาคนแก่ที่ชอบคุยเฟื่องเรื่องความหลังครั้งยังเอ๊าะกัน ถ้าจะดูให้สนุกขึ้นไปอีกนิดก็แนะนำให้ดูฉบับพากย์ไทยโดยพันธมิตร ที่ปล่อยมุกเรียกเสียงฮาได้ตลอด ชอบจริงๆ

ดูเพลินๆ เรื่อยๆ พอๆ กับภาคแรก แต่ในแบบที่อินเตอร์กว่า ให้ไป 6/10 ครับ




*รีวิวหนัง Red ภาคแรกภายในบล็อก*




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2556 1:32:12 น.
Counter : 2261 Pageviews.  

Trance (2013): ปล้นปั่นจิต

Trance (2013): ปล้นปั่นจิต

     นับตั้งแต่ 127 Hours (2010) ผกก.ขวัญใจผู้ใหญ่แนว Danny Boyle หายไปรับจ็อบซะนาน กว่าจะกลับมาอีกครั้งกับหนังทริลเลอร์/อาชญากรรมชวนงงตึ๊บเรื่องนี้

      แม้หนังจะเริ่มต้นด้วยแนวปล้นเหนือเมฆ แต่พอฉายๆ ไป อันที่จริงแล้วหนังมันเน้นไปที่เรื่องราวของการสะกดจิต การเล่นกับจิตของตัวละคร และสมการความรักที่ไม่ลงตัวมากกว่านะ

      ดังนั้นหลายช่วงหลายตอนของหนังเลยอาจดูเบื่อๆ งงๆ อยู่บ้าง แต่ยังดีที่ลายเซ็นของตัว ผกก.แกยังอยู่ครบ ทั้งการตัดต่อที่ฉับไวชวนลุ้น มุมกล้องที่เก๋ไก๋และงดงาม เพลงประกอบเท่ๆ และตบตูดด้วยการหักมุมสองสามตลบให้ได้หงายเงิบกันพอท้วมๆ

      หากกะจะดูหนังปล้นคงจะต้องผิดหวัง แต่หากอยากดูอะไรเท่ๆ เก๋ๆ ตามสไตล์แกละก็ได้เลย แม้ว่าอาจจะถือว่านี่เป็นหนังที่ดูยากหากเทียบกับงานยุคหลังๆ ของแกก็ตามที แต่ก็ไม่ถึงกับต้องยืมบันไดชาวบ้านมาปีนดูหรอกนะ สำหรับคนหัวช้าบางคน (อย่างเรา) คงต้องกลับมาดูอีกสักรอบสองรอบแล้วจะเก็ตอะไรได้มากกว่านี้


ไม่โดดเด่นโดนใจเท่ากับสองสามเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็ยังถือว่าโดดเด้งมากพอสำหรับการรับชมล่ะนะ ให้ไปเลย 7/10 จ้า




*รีวิวหนังของ ผกก.Danny Boyle เรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*




 

Create Date : 18 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 18 กรกฎาคม 2556 1:29:14 น.
Counter : 4298 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.