Group Blog
 
All blogs
 

กฏเหล็กจาก Zombieland (2009)

*กฏเหล็กจาก Zombieland*
ในหนัง Zombieland มีมุกเด็ดอย่างหนึ่งคือการนำเสนอ "กฏของโคลัมบัส" ที่สามารถช่วยให้เอาชีวิตรอดในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ได้ ซึ่งทั้งหมดมีถึง 32 ข้อ แต่บางข้อก็ไม่ได้ถูกเอ่ยในหนัง ทางบล็อกเลยรวบรวมบรรดากฏที่ได้เห็นกันในหนังมาให้อ่านกัน เผื่อว่าพี่น้องได้เจอสถานการณ์ซอมบี้ครองเมืองเข้า จะได้ใช้กฏเหล่านี้เอาตัวรอดได้ไงล่ะ เหอๆ


คำเตือน: โปรดอย่าซีเรียสกับรูปที่ใช้ประกอบกฏแต่ละข้อ ที่ไม่ได้ตรงเป๊ะๆ เหมือนกับที่เห็นในหนังนะครับ บอกไว้ก่อนจะได้ไม่หาว่าผมมั่ว (อันที่จริงก็มั่วจริงๆ น่ะแหล่ะ อิอิ)




  • กฏข้อ 1.ตุ้ยนักมักตายก่อน: ในโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ หรือในหนังซอมบี้ คุณเห็นคนอ้วนที่สามารถรอดชีวิตอยู่ได้สักกี่คนกันล่ะ? ดังนั้นฟิตหุ่นคุณไว้ให้ดีก็แล้วกัน เมื่อถึงเวลาต้องหนีจะได้หนีแบบพริ้วๆ






  • กฏข้อ 2. ส้วมนั้นอันตรายถึงชีวิต: สถานที่แคบๆ มีทางเข้าออกเพียงทางเดียว นั้นอันตรายยิ่งนัก ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงตู้เสื้อผ้า หรือห้องเล็กๆ อย่างส้วมด้วยนะ(อึไปเสียวไปล่ะงานนี้)






  • กฏข้อ 3. เข็มขัดนิรภัยมีไว้ให้รัด: ถ้าซอมบี้เกลื่อนเมือง คงไม่มีใครอึดพอที่จะวิ่งหนีไปได้ตลอดแน่ๆ ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่จะขับรถหนี และแน่นอนอุบัติเหตุทางรถยนต์ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ คุณคงไม่อยากลอยละลิ่วทะลุกระจกออกจากรถไปยังอ้อมกอดอุ่นๆ ของเหล่าซอมบี้กระหายเลือดหรอกนะ






  • กฏข้อ 4. ซ้ำอีกทีอุ่นใจจัง: มีปืนไว้ป้องกันตัวน่ะดี แต่คงไม่ดีแน่ถ้าซอมบี้ที่เราเพิ่งยิงร่วงไปเมื่อกี้ ยังลุกขึ้นมาได้อีก ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ "เฮ้ยยย มันยังไม่ตายนี่หว่า?!!" เป็นประโยคสุดท้ายในชีวิตคุณล่ะก็ ให้รีบซ้ำที่หัวมันอีกสักนัด จะสามารถสร้างความอุ่นใจให้ได้ไม่ใช่น้อย





  • กฏข้อ 6. อาวุธอยู่รอบตัวเรา: การไม่มีปืนไม่ได้หมายความว่าเราจะป้องกันตัวเองไม่ได้ เพราะสิ่งของเครื่องใช้รอบข้าง เช่นกะทะ กรรไกรตัดหญ้า ไม้เบสบอล หรือแม้แต่ฝาชักโครก สามารถช่วยให้คุณเอาชีวิตรอดได้เหมือนกัน เอาเป็นว่าอะไรที่ทำให้เจ็บตัวได้ นั่นแหล่ะคืออาวุธพิฆาตของคุณ




  • กฏข้อ 7. จะบ้าหอบฟางไปทำไม: ในภาวะเช่นนี้ ความคล่องตัวเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงไม่ควรหอบข้าวของไปพะรุงพะรัง ไม่งั้นเราอาจจะกลายเป็นอาหารของซอมบี้เพราะมัวแต่ห่วงสัมภาระของเราก็เป็นได้





  • กฏข้อ 10. อย่าทำตัวเป็นฮีโร่: คนฉลาดย่อมรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง หลายครั้งที่หนุ่มๆ พยายามทำเท่เพื่อเอาชนะใจสาวๆ แล้วก็จบลงด้วยการที่เขากลายเป็นอาหารอันโอชะของซอมบี้ไปในที่สุด จำไว้ว่า "เป็นคนเป็นที่ขี้ขลาด ย่อมจะดีกว่า เป็นซอมบี้ที่กล้าหาญ"ไว้ให้แม่น





  • กฏข้อ 18. อบอุ่นร่างกายไว้ให้พร้อมเสมอ: เราไม่มีทางจะรู้เลยว่าจะเจอเหล่าซอมบี้ในเวลาไหน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องฉลาด ที่จะวอร์มอัพร่างกายให้ตื่นตัวอยู่เสมอ เพื่อความยืดหยุ่น ความคล่องตัว ชีวิตเราจะได้ยืนยาวขึ้นอีกสักนิด






  • กฏข้อ 22. จงรู้ทางหนีทีไล่เอาไว้: ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่า การไร้ซึ่งแผนการหนีที่ดี ถ้าอยากจะเป็นฮีโร่ หรือถ้าอยากจะมีชีวิตยืนยาวต่อไปล่ะก็ พึงระลึกไว้เสมอว่า "ประตูอยู่ไหนฟะ?"





  • กฏข้อ 31. ตรวจเบาะหลังให้ดี: คงไม่ต้องบอกว่ามีกี่คนแล้วที่โดนหม่ำ เพียงเพราะว่าเขาลืมที่จะเช็คเบาะหลังในรถให้ดีก่อน ว่ามีซอมบี้แอบนอนคุ้ดคู้รอท่าอยู่ที่เบาะหลังหรือเปล่า ต้องหัดเช็คให้เป็นนิสัยเลยนะ




  • กฏข้อ 32. จงหาความสุขใส่ตัวซะบ้าง: โลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ก็หดหู่พออยู่แล้ว บางทีการได้ไปนอนในบ้านหรูๆ ของชาวบ้าน พังข้าวของตามร้านรวง หรือทุบรถเล่นซะบ้าง ก็รื่นเริงบันเทิงใจดีไม่หยอก ใครจะไปรู้ล่ะว่า เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานได้สักแค่ไหนเนอะ

ในหนังได้แสดงให้เห็นกฏเพียงบางข้อเท่านั้น ยังมีอีกหลายข้อที่ไม่ได้ถูกเอ่ยถึงซึ่งคาดว่าน่าจะได้เห็นกันตอนหนังออกเป็นดีวีดีแล้ว ยังไงถ้าสนใจก็สามารถเข้าไปหาดูเพิ่มเติมได้ตามเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับหนังเลยจ้า





*แปลข้อมูลแบบผิดๆ ถูกๆ มั่วๆ จาก wikipedia และเว็บ horror-movies.ca เน้อ*




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 14 เมษายน 2553 19:44:24 น.
Counter : 6039 Pageviews.  

20 + 1 ศิลปินที่มีภาพลักษณ์น่ากลัวที่สุด


อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าภาพลักษณ์ของศิลปินนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากพอๆ หรืออาจจะมากกว่างานดนตรีของพวกเขาเองด้วยซ้ำ เพราะว่านอกจากภาพลักษณ์จะสามารถสื่อได้ถึงผลงานและตัวตนของพวกเขาแล้ว ยังสามารถเกื้อหนุนเขาให้เป็นที่จดจำมากขึ้นอีกด้วย เช่นบางคนฝีมือห่วยแต่ภาพลักษณ์เป็นที่น่าจดจำก็พอจะทำให้ดังกับเขาได้ แต่หากบางคนมีฝีมือดีอยู่แล้วถ้าภาพลักษณ์เตะตาด้วยก็จะยิ่งดีใหญ่เลย โดยเฉพาะศิลปินแนวเมทัลที่แนวดนตรีนั้นแรงอยู่แล้ว ถ้าได้ภาพลักษณ์แรงๆ มาช่วยหนุนด้วยอีกแรงก็คงจะดีไม่น้อย และนี่ล้วนเป็นเหล่าศิลปินที่โด่งดังและได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมือที่สำคัญคือพวกเขามีภาพลักษณ์ที่แรงและน่ากลัวที่สุด โดยทั้งนี้ทางเราไม่ได้เรียงลำดับตามความน่ากลัวแต่จะขอจัดเรียงลำดับตามตัวอักษรชื่อของศิลปิน ส่วนจะมีใครบ้างเชิญชมกันเลยจ้า...




Averse Sefira
วงแบล็คเมทัลจาก ออสติน, เท็กซัส ตั้งวงเมื่อปี 1996 ปัจจุบันออกอัลบั้มมาแล้ว 4 ชุด วงนี้โหดได้แบบไม่ต้องลงแป้งมากเท่าวงอื่นๆ แค่แต่งหน้านิดๆ เพิ่มน้ำแดงอีกนิดหน่อย แถมด้วยเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งก็เดินในซอยแบบหมาไม่กล้าเห่าแล้ว





Alice Cooper
บรรพบุรุษของศิลปินแนว "Shock Rock" ที่เริ่มต้นนำความสยองเข้ามาใช้กับรูปลักษณ์และการแสดงได้อย่างโจษจัน จนปัจจุบันแม้ว่าจะแก่แฮ่ก อายุกว่า 60 ขวบแล้วก็ยังได้รับการยกย่องจากเหล่าขาร็อคอยู่ ถึงขนาดได้อันดับที่ 20 ของ "ศิลปินฮาร์ดร็อคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" โดยการจัดอันดับของ VH1 เชียวนะจ้ะ




Cradle of Filth
วงเมทัลจากอังกฤษ ตั้งวงตั้งแต่ปี 1991 นับเป็นตัวอย่างที่ดีของศิลปินที่ใช้รูปลักษณ์มาเกื้อหนุนผลงานของตนอย่างได้ผล เพราะพวกเขาดังระเบิดระเบ้อในวงกว้าง นับเป็นวงเมทัลรุ่นใหม่ที่ดังที่สุดวงหนึ่งในยุคนี้





Dark Funeral
วงแบล็คเมทัลจากสตอกโฮล์ม, สวีเดน ตั้งวงเมื่อปี 1993 ที่ผลงานเน้นในเรื่องนับถือซาตานและต่อต้านพระคริสต์อย่างหลายๆ วงในแนวแบล็คเมทัล ภาพลักษณ์เลยต้องดุแบบที่เห็น แถมเวลาถ่ายรูปยังถืออาวุธ(โบราณ)ครบมือแบบนี้ ใครไม่กลัว(โดนเฉาะกระบาล)ก็แปลกแล้ว





Dimmu Borgir
วงซิมโฟนิคแบล็คเมทัลจาก นอร์เวย์ ชื่อวงแปลว่า "Dark Cities" หรือ "Dark Fortresses" ที่โบ๊ะแป้งเน้นความขาวซีดกับชุดดำโดยไม่เน้นเลือดหรือศาสตราวุธไปทำศึกที่ไหน แต่ก็น่ากลัวแบบขรึมๆ อยู่ใช่ย่อยเชียว





Gorgoroth
วงแบล็คเมทัลจากนอร์เวย์ ตั้งวงในปี 1992 โดยนาย Infernus (ปัจจุบันเป็นสมาชิกยุคก่อตั้งเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่) โดยชื่อวงได้มาจากชื่อของที่ราบสูงมรณะแห่งดินแดนมอร์ดอร์ ในวรรณกรรมแนวแฟนตาซี The Lord of the Rings ที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง สมาชิกแต่ละคนแต่งองค์ทรงเครื่องมาอย่างโหดไม่พอ การแสดงสดก็ใช่ย่อยเพราะในการแสดงสดเมื่อ วันที่ 1 ก.พ. 2004 มีการนำเอาหัวแกะ(จริงๆ)นับสิบๆ หัว มาเสียบประดับเวที และเอาเลือดแกะกว่า 80 ลิตรมาละเลงทั่วเวที (เหม็นน่าดูล่ะคราวนี้) แถมด้วยการเอาหนุ่มสาวเปลือย 4 คน มาตรึงไว้บนกางเขน(ตรึงแบบปลอมๆ) ตลอดการแสดงอีกต่างหาก อืม...แสดงสดครั้งนั้นคงจะทั้งโหด ทั้งมันส์ ทั้งเหม็น ทั้งสยิว กันพิลึกเลยเชียวล่ะ




Gwar
วงเมทัลคอสตูมหลุดโลกรุ่นเก๋าที่ฟอร์มวงตั้งแต่ปี 1985 และเปลี่ยนสมาชิกเป็นว่าเล่นแต่ก็ยังอยู่ยงคงกระพันมาจนทุกวันนี้ ส่วนงานเพลงเน้นลูกฮา ลูกบ้า ลูกโหด ดูไปดูมาพวกเขาเหมือนสัตว์ประหลาดที่หลุดมาจากหนังขบวนการเรนเจอร์อะไรทั้งหลายแหล่ได้เลยนะเนี่ย





Insane Clown Posse
คู่หูฮิปฮอปเนื้อหาเน้นเรื่องเล้นลับสยองขวัญจาก ดีทรอยท์, มิชิแกน ถึงจะดูไม่โหดเท่าเหล่าศิลปินเมทัล แต่ถ้าเทียบกับศิลปินแนวฮิปฮอปด้วยกันที่ชอบทำเพลงเกี่ยวกับ หลีหญิงและแก็งค์แล้วล่ะก็ สองคนนี้กินขาด!





KCAVEMEN
วงเมทัลหน้ากากผีที่รูปลักษณ์ลึกลับบ้าบอได้ใจ ชื่อสมาชิกแต่ละคนในวงก็แปลกพิลึกคือ GLOB, PLOP, DONG, OOGH บ้าขนาดไหนคิดดูพวกเขาเอาเพลงการ์ตูนเด็กอย่าง Sponge Bob Square Pants มาทำเป็นเพลงเดธเมทัลเฉยเลย (ดูคลิปเพลงนี้ได้โดย คลิกที่นี่)





GG Allin
เจ้าของฉายา "ผู้ก่อการร้ายแห่งร็อคแอนด์โรล" ผู้ล่วงลับ (ตายปี 93 เมื่ออายุ 36) ซึ่งคงไม่ได้รับฉายานี้มาได้แบบฟลุคๆ แต่ได้มาเพราะลีลาการแสดงสดที่เถื่อนสุดๆ อาทิ แก้ผ้าร้องเพลง, ฉี่บนเวที, เอาขี้ตนเองทาหน้า, ทำร้ายร่างกายตนเอง, ซ้อมคนดู(ดูมันทำ) แม้งานดนตรีของเขาที่พูดเรื่องการเมือง, การเหยียดผิว, การเหยียดเพศ, ชอบเลี้ยงต้อย จะไม่ได้รับการต้อนรับจากนักวิจารณ์นักก็ตาม แต่ก็มีแฟนๆ กลุ่มหนึ่งชื่นชอบเทิดทูนในตัวเขา จนเขาเสพยาเกินขนาดตายไปในปี 93 นั่นเอง





King Diamond
เป็นศิลปินที่เมคอัพหน้าตารุ่นแรกๆ อีกคน ที่มาด้วยเสียงร้องที่แหลมสูงมาก จนเป็นพิมพ์นิยมของเสียงร้องแนวเมทัลมาจนทุกวันนี้ และถึงเขาจะ 50 กว่าขวบแล้วทุกวันนี้ก็ยังหากินได้อยู่ เพราะคนจดจำเมคอัพแกและอีกอย่างมันปิดรอยเหี่ยวย่นได้ดีนักแล





Kiss
วงระดับตำนานที่แต่ละคนในวงมีเอกลักษณ์ประจำตัวที่เด่นมากจนดังคับฟ้าในยุค 70 และถือเป็นต้นแบบของวงที่สมาชิกแต่ละคนต้องมีเอกลักษณ์แปลกๆ ของตนเองในทุกวันนี้ สำหรับลุงๆ แล้วทุกวันนี้ก็ยังเมคอัพขึ้นเวทีหาเงินเข้ากระเป๋า แถมยังมีการทำหุ่นฟิกเกอร์รูปพวกลุงขายทำเงินอีกคำรบหนึ่งด้วย เจ๋งมะ?





Lordi
วงเมทัลเน้นคอสตูมตัวประหลาดสุดพิลึกจาก เฮลซิงกิ, ฟินแลนด์ ซึ่งนับเป็นวงที่ต้องใช้เวลาเมคอัพนานกว่าวงอื่นๆ อยู่พอสมควรกว่าจะออกมาเป็นอย่างที่เห็นแต่ผลที่ได้ก็คุ้มค่า เพราะใครๆ ก็จำได้ ใครๆ ก็รู้จักพวกเขา "เหล่าสัตว์ประหลาดจากแห่งฟินแลนด์" จะว่าไปแล้วพวกเขาเหมือนพวกสัตว์ประหลาดจากหนังสยองขวัญเกรดบีเลยนะเนี่ย





Marduk
วงแบล็คเมทัลจากสวีเดน ที่ชื่อวงได้มาจากชื่อของเทพเจ้าของบาบิโลนในสมัยโบราณ ซึ่งทางวงตั้งใจจะตั้งตนเองเป็น "วงที่ดูหมิ่นศาสนามากที่สุดในโลก" และอย่างที่เห็นในรูป ต่อให้หนาวแค่ไหนก็ขอโหดไว้ก่อน และงานนี้เปลืองน้ำแดงอีกละ (เหอๆ)





Marilyn Manson
คงจะไม่เอ่ยถึงคนนี้ไม่ได้ ด้วยภาพลักษณ์แบบตัวประหลาดไร้เพศที่ออกอัลบั้มมาแต่ละชุดก็จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ตามไปด้วยทุกครั้ง ทำให้เขาโด่งดังคับทุ่งในยุค 90 และด้วยการที่เคยเรียนในโรงเรียนประจำของคาทอลิคในสมัยเด็กๆ ทำให้เขามักทำเพลงที่ต่อต้านศาสนา จนเหล่าผู้ปกครองของเด็กๆ พากันเกลียดขี้หน้าเพราะหาว่าเขาจะเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กๆ แม้ทุกวันนี้ชื่อเสียงเขาจะซาๆ ลง แต่มีใครบ้างที่ไม่รู้จักเขาล่ะ?




Mayhem
วงแบล็คเมทัลรุ่นเก๋าจากนอร์เวย์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกและมีอิทธิพลต่อวงการเพลงแบล็คเมทัลของนอร์เวย์ ที่เป็นตำนานกล่าวขานมาจนทุกวันนี้คือเมื่อปี 91 นาย "Dead" นักร้องนำของวงได้ฆ่าตัวตายโดยการเอามีดกรีดข้อมือ และเอาลูกซองเป่าสมองตนเอง ต่อมาเมื่อมือกีต้าร์ของวงคือนาย "Euronymous" กลับมาพบศพเข้า กลับไม่ได้รีบแจ้งตำรวจแต่เดินไปร้านค้าแถวนั้นเพื่อซื้อกล้องแบบใช้แล้วทิ้งมา แล้วเขาจัดแจงแต่งองค์ประกอบศิลป์กับศพเพื่อนซะหน่อยจนเป็นที่พอใจ แล้วก็บรรจงถ่ายรูปศพเพื่อนเก็บไว้ดู ต่อมาบางรูปที่ถ่ายมาก็หลุดไปกลายเป็นปกซีดีผีบันทึกการแสดงสดที่ชื่อว่า "Dawn of the Black Hearts" (ใครอยากเห็นปกอัลบั้มชุดนั้น คลิกที่นี่)




Mushroomhead
วงเมทัลจาก คลีฟแลนด์, โอไฮโอ้ ก่อตั้งวงเมื่อปี 93 ซึ่งมีสมาชิกวงถึง 8 ตัว เอ๊ยคน แต่ละคนเนี่ยโหดได้ใจทั้งนั้น กว่าจะออกมาอย่างทุกวันนี้พวกเขาเปลี่ยนหน้ากากไปหลายแบบแล้ว จนหลายคนสับสนกับวงที่แต่งตัวสไตล์คล้ายๆ กันอย่าง Slipknot แต่พวกเขาก็ยืดอกพกถุงออกมาเคลมด้วยความภาคภูมิใจว่า วง Slipknot ต่างหากล่ะที่ลอกเลียนเอาสไตล์การแต่งตัวของพวกเขาไปใช้ (แต่ไหง Slipknot กลับดังกว่าฟะ?)





Ozzy Osbourne

นักร้องนำวง Black Sabbath ซึ่งเปรียบดั่งบิดาแห่งเฮฟวี่เมทัล ตอนป๋าแกเริ่มออกอัลบั้มเดี่ยวในช่วงยุค 80 ก็เล่นกับรูปลักษณ์น่ากลัวๆ จนนักฟังเพลงบ้านเราตั้งฉายาให้ว่า "ไอ้หมูผี" คิดดูละกันในการแสดงสดครั้งหนึ่ง ป๋าเล่นจับค้างคาวขึ้นมากัดหัวขาดเฉยเลย มาตอนหลังป๋ามาสารภาพเสียงอ่อยๆ ว่า "ก็ตอนนั้นป๋าไม่รู้ว่ามันเป็นของจริงนี่" (ฮา)




Rob Zombie
อีตา Rob Zombie ยุบวง White Zombie มาออกอัลบั้มเดี่ยวในปี 98 พร้อมกับภาพลัษณ์เหมือนผีดิบแห่งวงการร็อค ทำให้แผ่นเสียงเขาขายดิบขายดีเหมือนแจกฟรี จนได้แผ่นเสียงทองคำ ส่งผลให้เขากลายเป็นซอมบี้ที่รวยที่สุดในโลกไปในบัดดล และด้วยความที่คลุกคลีและหลงใหลในเรื่องราวสยองขวัญมาตลอดทำให้ในปี 2003 อีตา Rob ผันตัวไปกำกับหนังสยองเรื่อง "House of 1000 Corpses" และแกก็ติดใจการกำกับหนังเรื่อยมาจนบัดเดี๋ยวนี้





Slipknot
วงเมทัลใส่หน้ากากที่ดังที่สุดในยุคนี้ ดังชนิดที่ว่ามีหลายคนที่แม้จะไม่เคยฟังเพลงของพวกเขา แต่ก็ยังอุตสาห์ซื้อโปสเตอร์ของพวกเขาไปแปะเท่ๆ ในห้องนอนก็มี พวกเขาฟอร์มวงปี 95 ด้วยสมาชิกจำนวนถึง 9 คน กับหน้ากากอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน ทำให้เป็นที่ถูกใจวัยโจ๋ โด่งดังตั้งแต่ชุดแรกที่ออกเมื่อปี 99 มาทุกวันนี้ถึงพวกเขาจะเปิดเผยหน้าตาจริงๆ ของพวกเขาแล้ว แต่แฟนๆ ก็ยังยอมรับพวกเขาเสมอ ขอให้อย่าเลิกใส่หน้ากากก็เป็นพอ (ดูหน้าตาจริงๆ พวกเขาแต่ละคนได้โดย คลิกที่นี่)


+



Amy Winehouse

ที่ผ่านมา 20 รายล้วนแต่เป็นศิลปินที่แต่งหน้าทาปากของตนให้ออกมาดูน่ากลัว แต่รายนี้น่ากลัวโดยไม่ต้องแต่ง ก็แค่เพียงทำตัวขี้เหล้าเมายา และหาทะเลาะกับชาวบ้านไปทั่ว ผลก็จะออกมาอย่างที่เห็น ซึ่งบางคนอาจบอกว่าเป็นเพราะเธอโด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อย (ปัจจุบันอายุ 25 ขวบเท่านั้น) ก็หวังว่าเมื่อเธอมีอายุมากขึ้น ชีวิตเธอคงจะเข้ารูปเข้ารอยมากกว่านี้ เพราะจะว่าไปแล้ว ถ้าไม่นับเรื่องชีวิตส่วนตัวอันเหลวแหลกของเธอ เสียงร้องและผลงานเพลงของเธอนั้นช่างวิเศษดีแท้จริงๆ ไม่ใช่เหรอ?


ปล.หากเพื่อนๆ ยังคิดว่ามีศิลปินรายไหนที่น่ากลัวอีก แต่ยังไม่ได้ถูกกล่าวถึงในที่นี้ก็โปรดคอมเม้นท์กันมาได้เลยนะครับ จะเป็นศิลปินชาติไหนก็ได้ทั้งนั้นเน้อ
ยินดีและขอบคุณล่วงหน้า ที่สนใจเข้ามาชมนะครับ...



* การจัดอันดับนี้คัดและลอกข้อมูลบางส่วนมาจาก wikipedia.org และ //www.comcast.net




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2552    
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 10:34:18 น.
Counter : 2525 Pageviews.  

10 อันดับรูปถ่ายสุดเห่ยของศิลปิน

ภาพลักษณ์ของเหล่าศิลปินเพลงนั้นก็สำคัญมากเกือบจะพอๆ กับผลงานเพลงของเขา ดังนั้นเราจึงมักได้เห็นรูปสวยๆ เท่ห์ๆ ของศิลปินเหล่านั้นออกมาให้ยลอยู่เสมอ แต่ในยุคอินเตอร์เน็ตเช่นทุกวันนี้ ศิลปินสมัครเล่นที่ไหนก็สามารถโชว์ผลงานตนเองต่อชาวโลกได้ง่ายๆ เช่นในเว็บเล็กๆ ที่ชื่อว่า MySpace แต่บางทีเขาอาจลืมคำนึงเรื่องภาพลักษณ์ของตนไปหรือไม่ก็อาจจะคิดว่าภาพลักษณ์ของเขาที่ออกมาดูดีที่สุดแล้ว(ซึ่งอันที่จริงมันเห่ย) เราจึงได้รวบรวมภาพสุดเห่ยของบรรดาศิลปินต่างๆ มา 10 ราย จะเป็นใครบ้างไปดูกันเล๊ย..


อันดับ 10

Freedom Fighters
แนวเพลง: คริสเตียน/อินดี้/ป็อป พังค์
ภูมิลำเนา: วิสคอนซิน, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: พวกเขาคงคิดว่า "ก่อนอื่นเราต้องตั้งวง แล้วก็หารถตู้มาสักคัน..แล้วสาวๆ ก็จะกรี๊ดเราเอง."



อันดับที่ 9

Red September
แนวเพลง: ป็อป พังค์/อัลเทอร์เนทีฟ/ร็อค
ภูมิลำเนา: มิชิแกน, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: จริงอยู่ที่ว่าไม่มีใครแก่เกินไปที่จะร็อค แต่ขอยกเว้นน้าสักคนได้ป่ะ อิอิ.



อันดับ 8

Josh Bozeman
แนวเพลง: ร็อค/คริสเตียน/อคูสติก
ภูมิลำเนา: ลอสแองเจิลลิส, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: ตัวอย่างที่ดีของการเลือก เสื้อผิด, เก้าอี้ผิด, สถานที่ผิด, ตากล้องผิด ว่าแต่ว่าไอ้คนข้างหลังนั่นใครฟะ?! (อิอิ)



อันดับที่ 7

The Bomb Band
แนวเพลง: ฮิปฮอป/อาร์แอนด์บี/เร็กเก้
ภูมิลำเนา: นิวยอร์ค, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: พวกเขาจะทำให้วงบอยแบนด์ที่คุณเคยแหว่ะ ดูเท่ห์ไปในบัดดล




อันดับ 6

White Chocolate
แนวเพลง: แนวทดลอง/อีโม/ฮิปฮอป
ภูมิลำเนา: เท็กซัส, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: %@#!&*+*-!!?




อันดับที่ 5

Diskreetse Mango Trio
แนวเพลง: โฟล์คร็อค/โฟล์ค/ป็อป
ภูมิลำเนา: เอสโทเนีย
ความเห็นต่อรูป: คำว่า Trio เป็นคำนาม มีความหมายว่า..
1.องค์ประกอบทางดนตรีที่ประกอบด้วยเสียงร้องสามเสียงหรือเครื่องดนตรีสามชนิด
2.การแสดงดนตรีหรือเต้นรำสามคน
3.กลุ่มที่ประกอบด้วยคนสามคน
ปล. แล้วพวกนี้มาทำบ้าอะไรกันตั้ง 6 คนเนี่ย!?



อันดับที่ 4

Jesus Unit
แนวเพลง: คริสเตียนฮิปฮอป-แร็พ
ภูมิลำเนา: จอร์เจีย, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: สารที่จะสื่อน่ะดี แต่วิธีการน่ะสิ เอิ่ม...




อันดับที่ 3

Icy Hot Stuntaz
แนวเพลง: แร็พ/ฮิปฮอป
ภูมิลำเนา: จอร์เจีย, อเมริกา
ความเห็นต่อรูป: ด้วยความช่วยเหลือเล็กน้อยๆ จากโฟโต้ช็อป พวกเขาเลยเฉิดฉายไฉไลอย่างที่เห็น




ศึกชิงแชมป์ระหว่าง

Escro ปะทะ The Flash Brothers
แนวเพลง: ฮิปฮอป/อาร์แอนด์บี/ป็อป และ โปรเกรสซีฟ เฮ้าส์/อิเลคโทรนิก้า/เฮ้าส์
ภูมิลำเนา: เนบร้าสก้า, อเมริกา และ เทล อาวีฟ, อิสราเอล
ความเห็นต่อรูป: ศึกชิงแชมป์ภาพศิลปินสุดเห่ยแห่งศัตวรรษระหว่าง สามหนุ่มสุดเท่ห์ส่งตรงจากไร่ข้าวโพด และ สามหนุ่มหัวเหม่งสุดล้ำจากอิสราเอล ศึกครั้งนี้คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ชี้ชะตา..

ปล.อันดับเหล่านี้ถูกคัดเลือกมาจากการจัดอันดับของเว็บ spinner.com
ท่านสามารถเข้าไปชมการจัดอันดับเต็มๆ 20 อันดับได้ที่ //www.spinner.com/2007/05/11/the-20-worst-band-photos-no-20/







 

Create Date : 22 มิถุนายน 2552    
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 10:33:22 น.
Counter : 1078 Pageviews.  

มุกหากินของหนังสยองขวัญ


เคยดูหนังประมาณนี้ใช่ไหม? สาวสวยคนหนึ่งอยู่บ้านคนเดียว เธอได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากห้องใต้ถุนและลงไปสืบหาต้นตอ จังหวะดนดรีตื่นเต้นขื้นเมื่อเธอมองไปรอบๆ มีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหว และ เฮ้อ.. ค่อยยังชั่วหน่อย! มันเป็นแค่แมว แต่ที่กำลังซุ่มอยู่ข้างหลังเธอ เราเห็นชายสวมหน้ากากมือถือมีดพร้าด้ามเบ้อเริ่ม เธอหวีดร้องและวิ่งออกไปข้างนอกเข้าไปในป่าที่อยู่ใกล้ๆ ตอนแรกก็หนีไปได้ไกลแล้วแต่ก็สะดุดล้มลง ทำให้ฆารกรมีเวลามากพอที่จะจับเธอเจี๋ยนเป็นชิ้นๆได้ หลายๆ เรื่องมักจะมามุกประมาณนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะหนังสยองคลาสสิคหรือหนังรีเม็คห่วยๆ ก็ตาม เราจึงได้รวบรวมบรรดามุกสุดฮิตของบรรดาหนังสยองมาจำนวนหนึ่งให้อ่านกันสนุกๆ ครับ




1. รักสนุกจะทุกข์ถนัด
คิดว่าหนังสยองจะมีแต่แค่เลือด, ความแหวะและความระทึกขวัญแค่นั้นหรอ? คิดใหม่ได้เลย เพราะหนังประเภทนี้ยังแฝงคำเตือนเกี่ยวกับการต่อต้านการมีเซ็กซ์นอกสมรส ยาเสพติดและเหล้าไว้ด้วย ใครก็ตามที่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอบายมุขเหล่านี้มักจบลงด้วยการถูกเจี๋ยนซะทุกรายไป ในขณะที่สาวทึนทึกเจ้าระเบียบมักจะรอดชีวิตไปมีเซ็กซ์ในภายหลังได้ จะว่าไปแล้วเจ๊ระเบียบรัตน์น่าจะเป็นแฟนหนังสยองขวัญตัวยงเลยนะเนี่ย



2. ฉายเดี่ยว เสียวสุดๆ
คำถาม: ถ้ามีเสียงแปลกๆ อันไม่ชอบมาพากลแว่วมาจากมุมมืดของห้องใต้ดิน ห้องใต้หลังคาอันมืดมิดหรือไม่ก็สวนหลังบ้านที่มืดตื๋อคุณจะทำยังไง? ถ้าคุณอยู่ในหนังสยองขวัญล่ะก็ คุณจะออกไปดูด้วยตัวคุณเองและแน่นอน อย่าลืมคว้าเอาไม้เบสบอลไปด้วยเสมอล่ะ(อาวุธที่เจ๋งที่สุดสำหรับต่อกรกับฆาตกรสุดโหด!) และในกรณีที่ฆาตกรยังไม่รู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน คุณจะตะโกนออกไปว่า"มีใครอยู่ตรงนั้นไหม?" เพราะเขาจะต้องตอบมาอย่างแน่นอนว่า "นี่ผมเอง ฆาตกรอันแสนเป็นมิตรของคุณไงคร้าบ!"



3. มีหนังสยองขวัญกี่เรื่องที่ตัวละครคิดจะเปลี่ยนหลอดไฟบ้างไหม?
ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น เสียงแปลกๆ ในห้องใต้ดินหรือห้องใต้หลังคา เหยื่อแสนบื้อของเราจะต้องสำรวจอย่างเสียไม่ได้ แต่อนิจจาสวิทช์ไฟดันไม่ทำงาน หรือว่าฆาตกรจะตัดไฟฟ้าหรือบางคนจะเปลี่ยนหลอดไฟนะ? ดีที่เผอิญพวกเขาเจอไฟฉายพอดีเลย! ไม่ก็ถ้ามีสไตล์หน่อยล่ะก็เจอเทียนก็ได้อ่ะ



4. ใครอยู่นั่นอ่ะ! ไม่ใช่นี่หว่า แค่แมวเองนี่.
ขณะที่ตัวละครชนิดที่เรียกว่า"กำลังจะกลายเป็นเหยื่อ"ของเรากำลังคลำทางอยู่ในความมืดนั้น พวกนั้น(และพวกเรา) มักหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหลอนสุดๆ ไปกับอาณาจักรของบรรดาสิงสาราสัตว์ โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นแมวแต่บางทีอาจจะเป็นตัวแร็คคูนไม่ก็งู แต่ถ้าแมวร้องเหมียวในช่วงที่ 1 ก็มักจะเป็นพันธะว่าแมวตัวนั้นจะต้องกลายเป็นศพในช่วงที่ 3 ถูกฆ่าโดยฆาตกรที่ซุ่มอยู่ในเงามืดมาโดยตลอด. ถ้าสัตว์เลี้ยงพวกนั้นพูดได้ล่ะก็ มันคงจะบอกเราว่าเจ้าของๆ พวกมันนั้นปัญญาอ่อนมากแค่ไหน



5."มันคงจะเป็นแค่เสียงลมน่ะ."
นี่เป็นการวิงวอนต่อนักเขียนบทในฮอลลีวู้ดว่า 'ได้โปรดอย่าพิมพ์ประโยคนี้อีกเล๊ยย' จริงๆ นะ ใครเขาจะพูดแบบนั้นกัน? เราถึงได้ยินมันครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงเวลาที่เหยื่อ(ส่วนใหญ่จะอยู่ในกระท่อมไม้ในป่า)ได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากทางโน้น และรู้อะไรไหม มันไม่ใช่ลมสักหน่อย ด้วยประการฉะนี้คุณ เอ็ม ไนท์ ไชยมาลัน เลยเอามุขนี้มาใช้ดุ่ยๆ ใน 'The Happening'(2008) มันซะเลย ด้วยความจริงที่ว่าเป็นสายลมต่างหากที่ฆ่าผู้คน แถมเป็นสายลมที่หัวเสียสุดๆ ซะด้วยสิ




6. รวมกันเราอยู่แยกหมู่เราตาย
ประโยคนี้พูดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครในหนังสยองขวัญรู้จักประโยคนี้สักคน บรรดาเหยื่อพากันแยกทางกันไปเสมอ ไม่ว่าจะไปหาเพื่อนที่หายไปหรือไม่ก็ไปหาทางออก และเป็นกรณีพิเศษถ้าพวกเขาเป็นสาวอื๋มและโง่ ลองคิดดูสิ เพื่อนๆ ของแอช ทุกคนในเรื่อง 'The Evil Dead' (1981) คงไม่ตายกันหมดหรอกถ้าพวกเขาอยู่ด้วยกันตลอด




7. ว่าด้วยเรื่องของโทรศัพท์ในหนัง
ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่ฆาตกรในหนังสยองขวัญชำนาญเป็นพิเศษก็คงจะเป็น การวางแผนล่วงหน้า พวกเขารู้ว่าบรรดาเหยื่อของพวกเขาจะต้องพยายามที่จะโทรขอความช่วยเหลือในทันทีที่เริ่มสติแตก ด้วยเหตุนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเห็นช่วงเวลาที่หนึ่งในพวกเขายกหูโทรศัพท์เพื่อที่จะพบว่า..ใครบางคนตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว! ทำได้ดีมากคุณพี่ โชคดีไปนะที่ไม่มีใครสักคนที่มีมือถือ หรืออย่างน้อยก็มีปัญหาเรื่องสัญญาณมือถือ ถึงตอนนั้นคุณคงต้องคิดถึงพนักงานขององค์การโทรศัพท์ที่สุดเลยเป็นแน่




8."เดี๋ยวฉันกลับมานะ." ซะเมื่อไหร่ล่ะ!
เป็นการบอกใบ้ที่แจ่มแจ้งแดงแจ๋ที่สุดเลยเมื่อมีใครสักคนพูดคำว่า "เดี๋ยวฉันกลับมานะ" มักจะไม่ได้กลับมา อันที่จริงแล้ว ภายในห้านาที เขาจะนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ถูกประตูโรงรถทับซะเละตุ้มเป๊ะ ถูกขวานตัดอวัยวะบางส่วนออกในห้องน้ำ และถ้าคุณบอกคนอื่นว่า "อยู่นี่แหล่ะนะ" ก็เท่ากับการออกคำสั่งให้พวกเขา"นั่งนิ่งๆ แล้วรอให้ไอ้โรคจิตที่มีตะขอที่มือมาทำให้ให้นายกลายสภาพเป็นเนื้อสะเต๊ะซะดีๆ"




9.เงาในกระจก (ห้องน้ำ)
นี่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่คาดเดาได้ง่ายที่สุดแต่ก็ได้ผลชะงัดนัก จึงไม่แปลกใจเลยว่ากว่า 86% ของหนังสยองจะต้องเอามุกนี้มาใช้ ตัวละครหลักหรือไม่ก็คนที่กำลังจะกลายเป็นเหยื่อ อยู่ในห้องน้ำ ล้างหน้าของหล่อนหรือไม่ก็แปรงฟันอยู่ หล่อนมองไปที่อื่นแว่บหนึ่งแล้วก็มองกลับไปที่กระจกที่กำลังสะท้อนเงาของใครบางคน(หรือบางอย่าง) ที่น่าสยดสยองอยู่ข้างหลังพวกเขา ต่อจากนั้นก็ถึงคิวต้องกรี๊ดแล้วล่ะครับพี่น้อง




10. พวกผีเนี่ย ไฮเทคกันดีจัง
รู้มั้ยอะไรที่เจ๋ง? เทคโนโลยีไง จริงๆ นะ แม้แต่ผีก็ชอบมัน อันที่จริงแล้วพวกมันสิงสู่อยู่ในมือถือ, เว็บไซต์ แม้แต่วีดีโอเทป(เห็นได้ชัดว่าพวกนั้นไม่ได้รู้เลยว่าเดี๋ยวนี้คนเขาดูแต่ดีวีดีกันแล้ว อิอิ) บางครั้งบางคราวก็โทรไปหาเหยื่อผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้รู้ตัวว่าโทรศัพท์ของพวกเขาจะทำร้ายพวกเขาเอง หรือไม่ก็ปีนป่ายออกมาจากจอทีวีอย่างน่าอัศจรรย์เพื่อที่จะทำให้ชาวบ้านขาดใจ อย่างน้อยพวกที่อยู่หลังเขาก็ปลอดภัยจากพวกผีไฮเทคล่ะเนอะ




11. ความขัดข้องของเครื่องยนต์
โอ้ ขอบคุณสวรรค์! คนที่กำลังจะกลายเป็นเหยื่อหนีไปที่รถของเขาหรือเธอได้ คว้ากุญแจมาเปิดประตู(หลังจากมือสั่นเสียบหล่น เสียบหล่นไป 3-4 ที) สตาร์ทเครื่องยนต์..และดันสตาร์ทไม่ติดครั้งแล้วครั้งเล่า โอ้ย แม่เจ้า-- ฆาตกรใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว แต่เครื่องยนต์นี่สตาร์ทไม่ติดสักที! ฆาตกรใกล้เข้ามา..ใกล้เข้ามา..และตอนนี้เขาอยู่ที่ประตูแล้ว กำลังยื่นมือมาเปิดประตูรถ(ไม่ก็ดีกว่านั้นหน่อย คือทุบหน้าต่างรถแตก) และ.. สำเร็จแล้ว! รถสตาร์ทติด รีบออกรถหนีไปเร็ว แต่โดยปกติแล้วไอ้โรคจิตมักจะกระโดดเกาะหลังคาหรือเกาะกันชนไปด้วยไม่ใช่เหรอ?




12. ดนตรีแสนเร่งจังหวะ
หัวใจของคุณจะรู้ได้แม่นเลยว่าจะเริ่มฉากระทึกเมื่อไหร่ในเรื่อง นั่นก็เพราะว่าเสียงดนตรีมันฟ้องอยู่ เมื่อจังหวะกระชั้นขึ้น การเต้นของหัวใจของคุณก็เช่นกัน มันเป็นเคล็ดลับที่เก่าแก่ที่สุดในวงการหนัง แย่เลยที่บรรดาเหยื่อทั้งหลายคงไม่ได้ยินเสียงดนตรีประกอบหนังเหมือนพวกเรา




13. พ่อแม่ไม่เข้าใจฉัน
ไบเบิ้ลสอนว่าเด็กๆ มักจะพูดความจริง แต่ผู้สร้างหนังสยองขวัญต้องไม่ได้อ่านไบเบิ้ลแน่ หลายครั้ง มีแค่เด็กๆ ที่เห็นเฟอร์นิเจอร์บินว่อนไปมาและคุยกับคนตาย และไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอธิบายแก่พ่อแม่มากแค่ไหนผู้ปกครองของพวกเขาจะเชื่อพวกเขาไหม? ไม่.. มันเป็นแค่จินตนาการของเด็กๆน่า โง่สิ้นดี! พวกผู้ใหญ่มักจะเชื่อว่าเป็นความจริงเมื่อมันสายเกินไปแล้ว--แต่สำหรับเด็กๆ มันไม่เคยสายเกินไปที่จะพูดว่า "เห็นมะหนูบอกแล้ว"




14. พี่ดำตายก่อนเสมอ
เมื่อไหร่ก็ตามที่มีตัวละครผิวดำในหนังสยองขวัญ-- เขามักจะเป็นคนสนุกสนานหรือไม่ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง-- ดูเขาให้ดีๆ และก็บอกลาได้เลย เพราะไม่ต้องสงสัยเลย เมื่อฆาตกรปรากฏตัว เพื่อนผิวสีของเรามักเป็นรายแรกที่เจอดี เราจะไม่มานั่งใคร่ครวญว่าทำไม แน่ทีเดียว คนดำยังถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ตายอย่างกล้าหาญ.. และตายแบบไม่ธรรมดาอยู่เสมอ




15. อยู่ต่ออีกหน่อยก็ได้น่า..
ไม่ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายแค่ไหนเกิดขึ้นในหนังสยองขวัญ ไม่ว่าจะในบ้านผีสิง หรือ เมืองอันน่าขนลุก คนที่อยุ่ในนั้นก็ไม่ยอมไปไหน ไม่ว่าชาวบ้านจะเพิ่งตายไป ตัวประหลาดกลายพันธุ์ตะลอนอยู่ถามถนน กำแพงมีเลือดไหลออกมา..ไม่มีปัญหา! พวกเขาจะอยู่ต่อและไปจนไปเจอต้นตอของปัญหาอยู่เสมอ แน่นอน ถ้าตัวละครในหนังสยองขวัญเอาใจใส่ในคำแนะนำของเราบ้างและออกไปซะจากที่นั่น หนังคงจะสั้นกว่าละครทีวีซะอีกมั้ง




15. ฆ่าฉันเลย...ฆ่าอีกทีก็ยังได้
ฆาตกรไม่มีทางตาย อย่างน้อยก็ในภาคแรกล่ะเอ้า ตัวอย่างเช่น เกลน โคลส ที่เพิ่งจมน้ำไป อยู่ๆ ก็โผล่ออกมาจากอ่างน้ำใน'Fatal Attaction' (1987) ออเดรย์ที่ 2 แสยะยิ้มในตอนจบของ 'Little Shop of Horrors' (1986) หรือไม่ก็ ไมเคิล ไมเออร์ส ในตอนไหนก็ได้ของ 'Halloween' แม้ว่าหัวใจของพวกเขาจะหยุดเต้นไปแล้วและตายจนตัวแข็งทื่อไปแล้วก็ตาม ตัวโกงผู้น่ารำคาญเหล่านั้นหาทางกลับมาเจี๋ยนพ่อแม่พี่น้องได้อีกเสมอ--ก็มันแค้นนี่นา




17 ฆาตกรจอมอืดอาด
เหล่าตัวโกงในหนังสยองขวัญอาจจะตัวใหญ่บึ้ม แข็งแรงดูราวกับว่าฆ่าไม่มีทางตายแต่ถ้ามีบางอย่างที่ไม่ค่อยเข้าท่านั่นคือฝีเท้าของพวกเขานั่นเอง พวกตัวร้ายเหล่านี้ดูเหมือนว่าไม่เคยวิ่งไล่เหยื่อของพวกเขาเลย(หรือแม้แต่จะเดินเร็วๆ ก็ตาม) กลับเดินทอดน่องอย่างสบายใจตามเหยื่อไปเหมือนนักกอล์ฟเดินเล่นในสนามกอล์ฟ แต่แน่นอนพวกเขาได้ตัวของพวกเหยื่อเสมอต้องขอบคุณสิ่งที่ทำให้พวกเหยื่อสะดุดล้มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือไม่ก็ความสามารถอันอัศจรรย์ของพวกเขาที่สามารถอยู่สองที่ในเวลาเดียวกันได้




18. สาวๆ ห่วงสวย หนุ่มๆ เลยซวย
หนังสัตว์ประหลาด/หนังเฉือดนิ่มๆ มักมีฉากไล่ล่าคนหนุ่มสาว ทั้งคู่วิ่งหนีด้วยความกลัวเข้าไปในป่า เราไม่ได้พูดถึงความเร็วในการวิ่งระดับดาวรุ่งกรีฑาโอลิมปิคหรืออะไรอย่างอื่น แต่ที่จริงแล้วมันยากสำหรับสาวๆ ที่จะวิ่งมากกว่าสองสามก้าวโดยไม่ได้สะดุดอะไรล้มลงไป แล้วพลอยทำให้หนุ่มๆ ต้องหยุดช่วยเธอในช่วงเวลานั้นด้วย แน่นอน มันคงจะช่วยได้มากถ้าเธอถอดรองเท้าส้นสูงอันไม่มีประโยชน์ทิ้งเสีย--เพราะแฟชั่นคงไม่ใช่เรื่องแรกที่ต้องคำนึงถึงแล้วสำหรับการ เอ่อ..เอาชีวิตรอด




19. คุณตำรวจครับ หายหัวไปไหนกันหมด?
บางครั้งเหยื่อไปถึงโทรศัพท์ได้ก่อนสายถูกตัด และพวกเขาแม้แต่ติดต่อตำรวจได้ด้วย จากนั้นล่ะ พวกตำรวจก็.. ก)ค่อยๆ นวยนาดมายังที่เกิดเหตุ แถมจะยังมาไม่ถึงจนกระทั่งฆาตกรไปซะแล้ว โดยทิ้งบ้านที่เต็มไปด้วยศพของบรรดาเป้าหมายไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย หรือ ข) มา แต่ไม่พบอะไรผิดปกติและจากไปด้วยการตักเตือนว่า"อย่าให้ลูกๆ ของพวกคุณทำให้เราเสียเวลาอีกจะดีกว่า" ถ้าพวกโรคจิตจอมโหด จะถูกดึงดูดใจให้ไปที่ร้านโดนัทบ้างก็ดีเนอะ




20.เรื่องนี้ 'ชมรมคนรักปืน' ไม่มีเอี่ยว
หนังเชือดนิ่มๆ แท้จริงแล้วเป็นเรื่องของกลุ่มคนโรคจิต พวกนั้นอยากจะฆาตรกรรมเหยื่อของพวกนั้นอย่างเลือดเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำลังแก้แค้นคนที่ทำความผิดแก่ตนไว้ (ดู 'I Know What You Did Last Summer'(1997)เป็นตัวอย่าง) พวกนั้นแค่ไปที่ร้านขายปืนแถวบ้าน เลือกปืนสักกระบอกและก็เริ่มยิงๆๆ ก็ได้ แต่อย่างที่เรารู้กัน ใช้ปืนมันอาจจะง่ายเกินไป พวกนั้นเลยสนใจอาวุธที่มันไม่ธรรมดาขึ้นมาหน่อย เช่นมีดพร้า ตะขอ เลื่อยไฟฟ้า(แว๊ก!) . พวกนั้นไม่มีความปราณีบ้างเลยหรือไงเนี่ย?



21. คนแปลกหน้าใจอารีย์
คนแปลกหน้าดูเหมือนว่าจะช่วยเหลืออะไรได้เป็นอย่างดี ถูกมั้ย? ผิด ดูอย่างที่ เจเน็ท ลีห์ ผู้น่าสงสารเจอเข้าในหนังเรื่อง 'Psycho'(1960) สิ นอร์แมน เบทส์ ไม่ใช่คนดีจริงๆ หรอก หรือไม่ก็อย่าง โรสแมรี่ เจอกับเพื่อนบ้านที่คอยเอาใจเกินเหตุใน 'Rosemary's Baby' (1968) กับคนแปลกหน้าแล้ว กฏก็ง่ายๆ คือ ยิ่งพวกนั้นดีกับเราเท่าไหร่ พวกนั้นยิ่งอยากทำร้ายเรามากเท่านั้น




22. วิ่งหนีไปซะ! ไม่ เดี๋ยว วิ่งกลับเข้ามาข้างในก่อน!
คำถาม: คุณถูกสะกดรอยตามโดยพวกจิตวิปลาสที่ชอบฆ่าคน อยู่ในบ้านร้างหรือไม่ก็ในห้องพักในโรงแรมอันน่ากลัว หลังจากสติแตกอยู่พักหนึ่ง คุณก็ออกไปข้างนอกได้ คุณจะ.. ก) รีบไปที่ถนนแล้ววิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต หรือ ข) หันหลังกลับและรีบกลับเข้าไปข้างในยังที่ๆ "ปลอดภัย"? ถ้าคุณเป็นคนปกติ คุณจะเลือก "ก." แต่ถ้าคุณอยู่ในหนังสยองขวัญ คุณจะเลือก "ข." และก็อย่าลืมล็อคประตูห้องด้วยล่ะ! นั่นทำให้พวกฆาตกรเข้ามาทำอะไรไม่ได้นะจะบอกให้




23. ไม่ใช่แค่เพียงจินตนาการของพวกเขาหรอก
พึงระวังเพื่อนที่มองไม่เห็นในโลกนี้ให้ดี ถ้าเด็กๆ มีเพื่อนใน"จินตนาการ" ล่ะก็ คุณพนันได้เลยว่า หนูคนนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องเหนือธรรมชาติเข้าแล้ว อาจมีเรื่องน่ากลัวและหรือมีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ ถ้าที่แท้พวกนั้นไม่ใช่ตัวการที่ทำเรื่องพวกนั้นเองล่ะก็ อย่างน้อยพวกนั้นก็อาจมีส่วนในการกระตุ้นให้เด็กๆ ทำเรื่องไม่ดีก็ได้




24. เด็กก็โหดได้ในหนัง
เด็กๆ ควรจะต้องดูน่ารัก ไม่น่ากลัว แต่สาวน้อยในเรื่อง 'The Ring'(2002) เรามองไปที่หนูแล้ว....มันทำให้เรากลัวหัวหดจริงๆ! และแม้แต่เด็กๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเด็กดีอย่าง--แดเมี่ยนในเรื่อง 'The Omen'(1976) แมคคัลเลย์ คัลกิ้นในเรื่อง 'The Good Son'(1993) สาวน้อยผมทองที่ไว้ผมเปียในเรื่อง 'The Bad Seed'(1956)-- กลับกลายเป็นว่าชั่วร้ายสุดๆ ไปเลย นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการฆ่าคนเลยนะเนี่ย




25. อะไรแจ่มแจ้งปานนั้น?
แน่นอนว่าคนที่ดูน่ากลัวคือฆาตกร เขาเพิ่งออกมาจากคุก..เพื่อจะฆาตรกรรม และนั่นก็แค่สิ่งที่มือเขียนบทต้องการให้บรรดาตัวละครในหนัง-- และบรรดาคนดู--ให้คิดอย่างนั้นจนกระทั่งมาถึงค่อนเรื่อง กลายเป็นว่าผู้ต้องสงสัยรายนั้นกลับถูกพบกลายเป็นศพถูก เชือด/รัดคอ/แช่แข็ง และบางครั้งกลายเป็นว่าหมอนั่นพยายามจะช่วยให้คนอื่นหนีรอดจากฆาตกรตัวจริงด้วยอีกต่างหาก




26.ศพไอ้ตัวร้ายย่องหายไปซะแล้ว.
ในหนังสยองขวัญเกือบจะทุกเรื่อง จะมีช่วงเวลาที่ปรากฏว่าฆาตกรโดนยิง ถูกแทง ถูกทับ ถูกโยนออกไปทางหน้าต่าง หรืออะไรอย่างอื่นที่ทำให้ตายได้ ภาพตัดไปที่บรรดาตัวเอกที่ถอนหายใจอย่างโล่งอก พยุงเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ อะไรก็แล้วแต่ พอตัดกลับไปที่นักฆ่าอีกทีเพื่อให้แน่ใจว่ามันตายแล้วและ...จ๊ากกก!? มันหายไปแล้ว! ตัวร้ายที่น่ารำคาญพวกนั้น ดูเหมือนจะมีชีวิตมากว่าแมวเก้าชีวิตซะอีก แถมชอบที่จะย่องจากไปแบบเงียบๆ-- เพื่อให้แน่ใจว่าอาจเป็นไปได้ที่จะมีภาคต่อออกมาอีก อ่ะนะ


  • นำมาจากบทความชื่อ Horror Movie Cliches จากเว็บ moviefone.com




 

Create Date : 22 มิถุนายน 2552    
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 18:15:19 น.
Counter : 2194 Pageviews.  

11 ศิลปินสาวสุดเซอร์

ทุกวันนี้ศิลปินนักร้องสาวสวยมากความสามารถมีเยอะแยะ แต่ถ้าพ่วงความเป็นตัวของตัวเองชนิดเซอร์ติสท์แตกเข้าไปด้วยล่ะก็ อาจจะมีน้อยนิดเพียงหยิบมือ และนี่ก็คือบางส่วนในจำนวนนั้นที่รวบรวมมา โดยไม่ได้เรียงตามลำดับความเซอร์หรือความสวยแต่ประการใด.



อัลบั้มแนะนำ : One of the Boys (2008)
1.Katy Perry สาววัย 24 (เกิต 25 ต.ค.1984) จากแคลิฟอร์เนีย เปิดตัวด้วยอัลบั้มชุดแรกที่ชื่อ
One of the Boys (2008) ก็ต้องดูต่อไปว่าเธอจะใช้ความแปลกแบบมีสไตล์ของเธอไปได้ไกล
แค่ไหน.






อัลบั้มแนะนำ : Ys (2007)
2.Joanna Newsom อายุ 26 (เกิต 18 ม.ค.1982) มีเสียงร้องแหลมเล็กแปลกหู ดนตรีก็แปลก ตัวจริงก็ยังสวยแบบแปลกๆอีกด้วยส่วนเพลงของเธอจะแปลกแค่ไหนต้องลองฟังดู.





อัลบั้มแนะนำ : Jukebox (2008)
3.Chan Marshall, หรือ Cat Power อายุ 36 (เกิด 21 ม.ค.1972) สาวคนนี้แค่ชื่อก็แปลกแล้ว นักร้องอะไรใช้ชื่อว่า Cat Power แต่ผลงานเธอมีคุณภาพโดยสม่ำเสมอมาโดยตลอด.






อัลบั้มแนะนำ : Homogenic (1997)
4.Bjork อายุ 43 (เกิด 21 พ.ย.1965) พูดถึงความเซอร์ถ้าไม่มีคนนี้อยู่ในโผก็ยังไงๆ อยู่่ เพราะคนนี้เข้าขั้นเจ้าแม่เลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นตัวของตัวเองแบบสุดกู่ของเธอ ทำให้ประชาชีไม่รักก็เกลียดเธอไปเลยทีเดียว.




อัลบั้มแนะนำ : Kala (2007)
5.M.I.A. อายุ 31 (เกิด 17 ก.ค.1977) สาวเชื้อสายศรีลังกาคนนี้มีชื่อจริงว่า Mathangi Arulpragasam และออกผลงานสุดเปรี้ยวในอังกฤษแถมแต่งตัวได้ชนิดที่..ดูในรูปเอาก็แล้วกัน แค่นี้ยังไม่แปลกพออีกหรอ.





อัลบั้มแนะนำ :The Reminder (2006)
6.Feist อายุ 32 (เกิดปี 13 ก.พ. 1976) สาวแคนาเดี้ยนคนนี้ออกจะแปลกแบบเท่ๆ แถมทำเพลงได้เพราะอีกด้วย ที่สำคัญ MV เธอล้วนแต่สร้างสรรค์ทั้งนั้น.


อัลบั้มแนะนำ : Tidal (1996)
7.Fiona Apple อายุ 30 (เกิด 13 ก.ย.1977) สาวคนนี้แรกๆ ก็มาแรงแต่ตอนนี้แม้จะซาๆ ไป
แต่ก็ยังออกผลงานคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง.


อัลบั้มแนะนำ : Black to Black (2006)
8.Amy Winehouse อายุ 25 (เกิด 14 ก.ย.1983) อันที่จริงเธอก็ไม่ได้สวยอะไรหรอก แต่ที่เธอติดโผ ก็เพราะช่วงที่ผ่านมาเป็นปีทองของเธอคือได้ทั้งเงินทั้งกล่อง แม้เธอจะมีภาพพจน์แบบคนติดยาอยู่ก็ตาม.
อัลบั้มแนะนำ The Sweet Escape (2006)
9.Gwen Stefani อายุ 38 (เกิด 3 ต.ค.1969) ถ้าจะพูดถึงความเซอร์แบบหรูหราต้องยกให้อดีตสาวร็อคคนนี้เลย.


อัลบั้มแนะนำ : Rabbit Fur Coat (2006)
10.Jenny Lewis อายุ 31 (เกิด 8 ม.ค.1977) สาวนักร้องนำวง Rilo Kiley ที่เก๋เสมอมาจนมาออกอัลบั้มเดี่ยวก็ยังคงความเก๋ไว้ได้เป็นอย่างดี.




อัลบั้มแนะนำ : Show Your Bones (2006)

11.Karen O แห่งวง Yeahs Yeahs Yeahs อายุ 29 (เกิด 22 พ.ย.1978) สาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี-โปแลนด์ คนนี้เขาเก๋าจริง เพราะคนธรรมดาไม่สามารถใส่ชุดแบบเธอได้.


ปล.จากการจัดโผของเว็บ rhapsody.com




 

Create Date : 22 มิถุนายน 2552    
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 10:33:47 น.
Counter : 946 Pageviews.  


Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.