Group Blog
 
All blogs
 

The Nightshifter/ Morto Não Fala (2018): ผีเมียดุ


The Nightshifter/ Morto Não Fala (2018): ผีเมียดุ

[บราซิล]

   สำหรับท่านชายทั้งหลายคงไม่มีอะไรที่น่าเกรงกลัวไปกว่าเมียดุอีกแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าเมียดุอีกนั่นก็คือผีเมียดุ 😱 หนังผีบราซิลเรื่องนี้ขอเอาข้อเท็จจริงอันน่าสยดสยองนี้ไปทำหนังว่าด้วยเรื่องราวของไอ้หนุ่มที่ทำงานในห้องดับจิตซึ่งสามารถพูดคุยกับคนตายได้ แต่แล้วไปๆ มาๆ ก็ดันงานเข้าเจอผีเมียดุของตัวเองตามอาฆาตซะงั้น 😱😱

    แน่นอนที่หนังที่เกี่ยวกับห้องดับจิตแบบนี้ต้องมีฉากแหว่ะมาด้วย ซึ่งเอฟเฟกต์พวกศพคนตายก็ทำได้ค่อนข้างดีดูไม่ปลอมเท่าไหร่ และถึงหนังจะเปลี่ยนจากหนังคุยกับผีไปเป็นหนังผีเฮี้ยนอย่างน่าเสียดายทั้งๆ ที่ยังมีอะไรให้ได้เล่นกว่านี้ แต่ก็ยังถือว่าทำได้โอเค มีช่วงเวลาหลอนๆ มาฝากอยู่

    ใครที่เป็นคนขี้เกรงใจเมีย (กลัวเมีย) คงดูแล้วอินกับหนังเป็นพิเศษ ขนาดเราที่เป็นคนไม่กลัวผี ดูแล้วยังเสียวสันหลังวาบๆ ไม่ใช่ว่าหนังมันน่ากลัวมากนะ แต่กลัวว่าอนาคตเมียจะดุไม่เลิกแบบในหนังน่ะสิ อิอิ 😛

2.75/5 

 
 




 

Create Date : 23 มกราคม 2564    
Last Update : 23 มกราคม 2564 19:33:11 น.
Counter : 1080 Pageviews.  

My Sweet Orange Tree (2013): จินตนาการบรรเจิดของเจ้าหนูจอมซน

บราซิล


My Sweet Orange Tree/Meu Pé de Laranja Lima (2013): จินตนาการบรรเจิดของเจ้าหนูจอมซน

     หนังดราม่าที่สร้างจากหนังสือนวนิยายชื่อเดียวกันของ Jose Mauro de Vasconcelos (ชื่อฉบับแปลไทย "ต้นส้มแสนรัก") ที่นับเป็นนวนิยายประจำชาติของชาวบราซิลเลยทีเดียว เพราะถูกเลือกไปบรรจุในหลักสูตรของโรงเรียนประถม ตัวหนังสือเองก็ขายไปแล้วกว่า 271,000 เล่มนับตั้งแต่เริ่มตีพิมพ์ในปี ค.ศ.1968 ทั้งยังถูกนำไปสร้างเป็นละครทีวี หนังโรงมาแล้วสองครั้ง

      ส่วนเวอร์ชั่นล่าสุดโดย ผกก.Marcos Bernstein นี้ก็เล่าเรื่องของ Zeze หนูน้อยจอมซนยิ่งกว่าลิงที่มีชีวิตความเป็นอยู่ยากจน แม่ก็ทำงานจนไม่มีเวลาเอาใจใส่ ส่วนพ่อที่ตกงานก็เมาไปวันๆ แถมยังชอบกระทืบ Zeze เป็นงานอดิเรกซะอีก

      ถึงแม้จะมีความเป็นอยู่บัดซบเช่นนี้แต่ Zeze ยังมีความสุขตามประสาเด็กๆ ได้อยู่ ด้วยความที่เป็นเด็กฉลาดเจ้าจินตนาการ จึงได้ใช้จินตนาการอันบรรเจิดของตนนี่แหล่ะ หลีกลี้หนีความจริงอันแสนบัดซบไปได้

      ไอ้เราไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อนเลยไม่อาจเปรียบเทียบทั้งสองเวอร์ชั่นได้ว่าต่างกันยังไง แต่ถ้ามองเฉพาะตัวหนังแล้วนี่คือหนังดราม่าสะท้อนปัญหาครอบครัว สังคมของชาวบราซิล หรือเป็นหนังก้าวพ้นวัยที่ดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว แถมบางอารมณ์ของหนังชวนให้นึกถึง Cinema Paradiso (1988) เสียด้วยสิ

      หนังบอกว่านอกจากการศึกษาแล้ว สิ่งที่สำคัญในการบ่มเพาะเยาวชนให้เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคมก็คือครอบครัวที่น่าจะสำคัญมากกว่าการศึกษาเสียอีกนะ

หนังดีให้แง่คิดแบบนี้ให้ไปโลด 7/10 ครั่บ





 

Create Date : 07 สิงหาคม 2556    
Last Update : 7 สิงหาคม 2556 23:11:14 น.
Counter : 2885 Pageviews.  

Juan of the Dead (2011): ก๊วนเห่ยถล่มซอมบี้


คิวบา


Juan of the Dead (2011) :
นอกจากหนังแวมไพร์ที่ฮิตกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ไม่ยอมตกเทรนด์ซะทีในยุคนี้แล้ว ก็ยังมีหนังซอมบี้ที่ฮิตเสมอต้นเสมอปลายไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ลองคิดดูก็แล้วกันว่าขนาดประเทศคอมมิวนิสต์อย่างคิวบา ก็ยังอุตส่าห์มีหนังซอมบี้กับเขาด้วยเหมือนกัน ป๊าด!?

หนังซอมบี้จากคิวบามาแล้วจ้า
หนังว่าด้วยเรื่องราวของ Juan หนุ่มใหญ่สุดต๊อกต๋อยที่หน้าตาท่าทางอย่างกับขี้เมาแถวบ้านท่าน ที่พบช่องรวยท่ามกลางวิกฤตการณ์ซอมบี้ครองคิวบา ด้วยการรวมกลุ่มกับพรรคพวกเปิดบริการ "รับกำจัดซอมบี้ทั่วราชอาณาจักร" แก่บรรดาชาวบ้านที่ไม่กล้าจัดการกับญาติมิตรของตนที่กลายเป็นซอมบี้ จนเกิดเรื่องราวโหดมันส์ฮาต่างๆ ตามมามากมาย

หน้าตาพระเอกอย่างกับขี้เมาแถวบ้าน
ดูจากชื่อเรื่องก็พอจะเดาได้ว่าคงออกมาตลกสไตล์เดียวกับ Shaun of the Dead (2004) ซึ่งมุกต่างๆ เนี่ยบ้าบอ คาเฟ่ อย่างกับหนังตลกไทยซะไม่มี ชนิดที่ว่าถ้าเปลี่ยนเอาแก๊งค์สามช่าไปเล่นเนี่ยก็คงไปกันได้เนียนๆ เลย (แต่ในแบบที่ไม่ทะลึ่งหรือพ่นคำหยาบนะ) ดังนั้นรสนิยมของคนคิวบากับคนไทยน่าจะไปกันได้ไม่น้อยนะเนี่ย ซึ่งไม่ใช่ไม่ดีนะ หลายมุกเล่นเอาขำได้ไม่เลวเลยเหมือนกัน

มุกตลกอย่างกับหนังไทย
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือการที่ได้เห็นประเทศคิวบามีหนังสไตล์นี้ออกมา แม้ว่าจะมาแบบตลกโหดมันส์ฮาเหมือนหนังแนวนี้ทั่วไป (แต่ออกบ้าบอเยอะนิดนึง) หนังก็ยังแฝงแนวคิดเกี่ยวกับสภาพสังคม การเมืองของที่โน่นมาด้วย แม้ว่าตัว ผกก.จะบอกว่าไม่ได้จงใจแฝงประเด็นเหล่านั้นเข้ามาก็ตามอย่างเช่นการที่คนคิวบานิยมหนีตายไปไมอามี่ หรือการมองซอมบี้ว่าเป็นพวกต่อต้านระบอบเป็นต้น

อาวุธประจำตัวของพระเอกคือ เอิ่ม..ไม้พาย
ถึงรวมๆ แล้วจะไม่ได้สนุกหรือฮาสุดๆ แต่ก็นับว่าน่าพอใจทีเดียวโดยเฉพาะการที่เป็นหนังจากคิวบาอย่างนี้ นี่เห็นหนังได้เดินสายไปฉายตามเทศกาลหนังต่างๆ ทั่วโลกก็น่าดีใจไปด้วย ข้อคิดส่งท้ายที่หนังบอกว่าถึงชาวคิวบาจะรู้ว่าประเทศตนมีปัญหา หลายคนถึงกับละทิ้งประเทศตนไปยังประเทศที่เจริญกว่า แต่สุดท้ายแล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่พร้อมจะยืนหยัดอยู่เพื่อวันที่ดีกว่าของคิวบาอีกครั้ง ประมาณว่าบ้านเกิดเมืองนอนใคร ใครก็ต้องรักล่ะเนอะ ;)
  • + หนังซอมบี้ตลกโหดมันส์ฮาจากคิวบาที่ทำออกมาได้ตลกดี มีแฝงสาระแบบเนียนๆ ใครไม่เคยดูหนังคิวบาเชิญทางนี้โลด
  • - มุกออกแนวหนังตลกไทยไปนิด และเล่นๆ ไปหน่อย




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2555    
Last Update : 28 มิถุนายน 2555 19:28:41 น.
Counter : 7863 Pageviews.  

The Squad (2011): ปั่นจิตให้หารคลั่ง


โคลัมเบีย


The Squad (2011) :
ถ้าหากเอ่ยถึงประเทศ'โคลัมเบีย'แล้ว พวกเราส่วนใหญ่คงไม่ค่อยจะหือจะอือกันสักเท่าไหร่นัก นอกจากจะเคยเห็นภาพลักษณ์ที่ส่งผ่านมาทางหนังฮอลลีวู้ดว่าเป็นดินแดนแห่งนักค้ายาเสพติด ออกแนวเถื่อนๆ หน่อย และการที่นักร้องสาวสุดเซ็กซี่ Shakira ก็เป็นชาวโคลัมเบียเหมือนกัน แต่ถ้าเอ่ยถึงหนังโคลัมเบียขึ้นมา หลายคนคงจะเกาหัวเกาตูดแกรกๆ พลางบ่นพึมพำว่ามันมีด้วยเหรอ? (วะ)

เมื่อทหารต้องเจอสงครามประสาท
แหม่ ประเทศเขาก็ไม่ได้หลังเขาซะขนาดนั้นที่ถึงกับจะไม่มีอุตสาหกรรมหนังของตน และหนังแนวจิตวิทยาระทึกขวัญเรื่องนี้ก็คือข้อพิสูจน์ให้เห็นว่าหนังโคลัมเบียก็ไม่ใช่ขี้ๆ นะเว้ยครับท่าน ด้วยเรื่องราวของทหารเก้านายที่มีภารกิจต้องไปตรวจสอบดูว่าทำไมอยู่ๆ ทหารที่ประจำการยังฐานบนยอดเขาไกลปืนเที่ยงแห่งหนึ่งถึงขาดการติดต่อไปดื้อๆ ซึ่งเมื่อพวกเขาไปถึงก็พบเรื่องราวลึกลับ สุดสยองหลอนจิตปั่นประสาทเกิดขึ้นมากมาย จนพี่หารเราถึงกับสติแตกไปตามๆ กันเลยทีเดียว

งานนี้ปืนกลก็คงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
หนังเปิดเรื่องมาอย่างจริงจัง น่าเชื่อถือ แม้จะเป็นหนังทุนน้อยแต่ก็ดูไม่กิ๊กก๊อกแต่อย่างใด แต่พล็อตประมาณนี้มันช่างบังเอิญดูคล้ายกับหนังบอสเนียที่ออกฉายปีเดียวกันอย่าง The Enemy (2011) ชอบกลนะ ในด้านที่เล่นกับเรื่องราวชวนสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับปีศาจ มนต์ดำ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่ก็มุ่งเน้นด้านจิตวิทยามากกว่าว่าตกลงคนมันบ้าหลอนกันไปเองหรือเพราะฝีมือของปีศาจกันแน่

หน้าตาพี่แกอารมณ์ประมาณนี้ตลอดทั้งเรื่อง
แต่ถ้าให้เทียบกันแล้ว เรื่องโน้นของบอสเนียทำได้ดีกว่าแยะ เพราะในเรื่องนี้ถึงจะประสบความสำเร็จในการนำเสนออย่างจริงจัง และมอบความกดดัน อึมครึมแก่คนดูได้ดี แต่ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องล้วนทำตัวสติแตกไปคนละทาง ชนิดที่ไม่มีใครที่คนดูพอจะสามารถฝากผีฝากไข้ให้เป็นพระเอกได้เลย จนกลายเป็นหนังที่ปั่นประสาทคนดูให้เครียดกันสถานเดียว ไม่ได้มีอะไรที่น่าประทับใจแต่อย่างใดไปซะงั้น

นี่ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นเน้อ
แต่เอานะ นี่คือหนังโคลัมเบียเรื่องแรกที่เราได้ดู และไม่ใช่จะมีหลุดมาให้ดูกันบ่อยๆ ถึงหนังโดยรวมจะไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ แต่ทำได้ขนาดนี้ก็นับว่าไม่เลวแล้วล่ะ ใครที่อยากเพิ่มความกดดันเข้ามาในชีวิตบ้าง หนังเรื่องนี้ก็คือช้อยส์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว (เหอๆ) ยังไงเราก็หวังว่าจะได้ดูหนังโคลัมเบียเรื่องอื่นๆ อีกในอนาคตเน้อ จุ๊บๆ :)
  • + งานสร้างดูดีไม่กิ๊กก๊อก ใครอยากดูหนังโคลัมเบียว่าหน้าตาเป็นยังไงก็เชิญโลด
  • - ดูแล้วเครียดสถานเดียว บทบาทตัวละครไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ จนคนดูไม่รู้สึกอยากผูกพันเอาใจช่วยให้รอด




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2555    
Last Update : 26 มิถุนายน 2555 17:50:51 น.
Counter : 3699 Pageviews.  

Miss Bala (2011): นางงามอันตราย


เม็กซิโก


Miss Bala (2011) :

Laura สาวเม็กซิกันบ้านๆ ผู้ใฝ่ฝันจะประกวดนางงาม ซึ่งเธอก็ได้เข้าประกวดสมใจเสียด้วยสิ แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกคาเฟ่ชนิดที่เธอคงขำไม่ออกแน่ เมื่อเธอต้องเข้าไปพัวพันอย่างไม่เต็มใจกับแก๊งค์ค้ายาขาโหด และต้องตกอยู่ท่ามกลางสงครามยาเสพติดที่บู๊กันดุเดือดเลือดพล่านอย่างกับสงครามกลางเมือง จนอนาคตของนางงามอย่างเธออาจจะจบลงแบบไม่งดงามซะแล้วสิเนี่ย


นางงามเวทีนี้โจรเป็นสปอนเซอร์
หนังดราม่าอาชญากรรมจาก เม็กซิโก เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจหนักๆ จากเรื่องจริงสุดฉาวในปี ค.ศ.2008 ของ Laura Zúñiga นางงามคนดัง (ในขณะนั้น) ที่โดนจับพร้อมแก๊งค์ค้ายาอาวุธหนักเต็มคันรถ จนเธอถูกกองประกวดถอดตำแหน่งคืนแทบไม่ทัน ซึ่งในเวอร์ชั่นหนังนี้ก็ทำได้โดดเด้งดูดีถูกใจนักวิจารณ์จนถึงขั้นถูกส่งเป็นตัวแทนของเม็กซิโกเข้าชิงรางวัลออสก้าร์สาขาหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมในครั้งที่ผ่านมาด้วยนะ (แต่ตกรอบแห้วรับประทาน)


เม็กซิโกยังเป็นประเทศที่ไม่น่าอยู่เช่นเดิม
หนังเดินเรื่องเรื่อยๆ แต่ก็ประสบความสำเร็จในการเสนอความเป็นเมืองเถื่อนไม่น่าอยู่อาศัยของเม็กซิโกแบบที่เราเห็นมานักต่อนักในหนังหลายๆ เรื่อง (หรือที่เม็กซิโกจะเถื่อนจริงๆ หว่า?) ไม่ว่าจะเป็นแก๊งค์ค้ายาที่ถืออาวุธหนักไปไหนมาไหนชนิดไม่แคร์สื่อ การคอรัปชั่นของข้าราชการทั้งทหารตำรวจ สงครามยาเสพติดสุดรุนแรงที่ฝ่ายอเมริกาต้องเข้ามาร่วมรบด้วย และที่ประชดประชันสุดๆ คือการใช้อิทธิพลมืดลามไปล็อคสเป็คถึงเวทีประกวดนางงามด้วย


นางเอกเราสลดตลอดทั้งเรื่อง
หนังเสนอโลกอาชญากรรมของเม็กซิโกอย่างจริงจัง รุนแรง แต่ไม่เร้งเร้า บางคนอาจจะติว่านางเอกดูเซื่องๆ โง่ๆ ไม่หือไม่อือไปหน่อยมั้ย คือชีเชื่อฟังโจรตลอดจนตัวเองโดนหางเลขไปด้วย ซึ่งมันก็จริง เพราะหนังไม่ได้แสดงให้เห็นชัดๆ ว่าทำไมนางเอกถึงยอมพวกโจรนัก (กลัวตาย? กลัวคนที่รักได้รับอันตราย? บลาๆๆ) แต่ก็นะ คนเรามันคิดไม่เหมือนกันนี่ ที่สำคัญคือเธอไม่ใช่สาวมะกันสุดมั่นซึ่งพร้อมจะเอาคืนกับเหล่าร้ายแบบที่เราเห็นจนคุ้นชินในหนังฝรั่งส่วนใหญ่เน้อ


หน้าตาของ Laura Zúñiga ตัวจริง
มีซีนหนึ่งที่ถ่ายทอดให้เห็นภาพการเกิดระเบิดและกลุ่มควันจากการต่อสู้ระหว่างแก๊งค์ค้ายาและตำรวจในแถบกลางเมืองและภาพของคู่บ่าวสาวเพิ่งแต่งงานที่กำลังจะไปฮันนีมูนพร้อมๆ กัน ซึ่งดูเหมือนว่าบ่าวสาวคู่นี้จะไม่สนใจใยดีกับภาพความรุนแรงที่ปรากฏ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งมาคิดๆ ดูแล้ว แค่ซีนนี้ซีนเดียวก็อาจจะบ่งบอกถึงสังคมเม็กซิโกในทุกวันนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุดแล้วก็เป็นได้นะ ป๊าด!
  • + เสนอโลกอาชญากรรมของเม็กซิโก สงครามยาเสพติด สภาพบ้านเมืองได้อย่างจริงจัง
  • - หนังเดินเรื่องเรื่อยๆ นางเอกไม่หือไม่อือไปนิด ขัดใจคอหนังที่คุ้นกับหนังนางเอกเก่งจริงเชียว




*รีวิวหนังเม็กซิโกเรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*





 

Create Date : 12 มีนาคม 2555    
Last Update : 12 มีนาคม 2555 6:46:31 น.
Counter : 3247 Pageviews.  

1  2  3  

Nanatakara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 43 คน [?]




  • Friends' blogs
    [Add Nanatakara's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.