และหลังจากทิ้งช่วงไปนานหลายปีดีดัก ในที่สุดผู้สร้างก็เข็นภาคต่อออกมาสำเร็จ แถมยังมาในแบบ 3D ตามเทรนด์อีกด้วย โดยตัวหนังดัดแปลงเรื่องราวมาจากเกมภาคสาม อันว่าด้วยการผจญภัยสุดหลอนของหนู Heather Mason (Adelaide Clemens) หนูน้อยจากภาคแรกที่ได้โตเป็นสาววัย 18 ขวบแล้ว ซึ่งเมื่อจู่ๆ คุณพ่อสุดที่เลิฟ (รับบทโดย Sean Bean) ของเธอดันหายตัวไปอย่างลึกลับ เธอจึงต้องพยายามออกตามหา แม้นั่นจะทำให้เธอต้องกลับไปเผชิญกับฝันร้ายที่กลายเป็นจริงในเมือง Silent Hill อีกครั้งหนึ่งก็ตามที
ไอ้หัวปิรามิดขวัญใจแฟนๆ กลับมาอีกครั้งแล้ว
ภาคนี้หนังได้ Michael J. Bassett ผกก.หนุ่มชาวอังกฤษซึ่งเคยมีผลงานอย่าง Solomon Kane (2009) มาควบหน้าที่กำกับ/เขียนบท ซึ่งก็ดูเหมือนเขาจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะสามารถดึงเอาบรรยากาศหลอนและเหล่าตัวประหลาดซึ่งเป็นทีเด็ดของเกมมาใช้ในหนังได้อย่างครบถ้วน งานด้านเอฟเฟกต์โหดและดนตรีประกอบหลอนที่แฟนเกมน่าจะคุ้นเคยกันดี ส่วนการที่หนังเป็น 3D ก็เปิดโอกาสให้หนังเล่นกับฉากแทงทะลุจอออกมาได้บ่อยครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนสามารถช่วยกันสร้างบรรยากาศฝันร้ายความยาว ชม.ครึ่งของหนังได้อย่างน่าพอใจ