กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มีนาคม 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
space
space
21 มีนาคม 2565
space
space
space

...ธรรมคุณ (ต่อ) เอหิปัสสิโก



ทีนี้ พระธรรมคุณบทต่อไปว่า

   เอหิปัสสิโก "เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด"   เมื่อเราปฏิบัติในเรื่องอะไร ได้รับผลจากการปฏิบัตินั้น ก็เรียกให้ใครๆ มาดูได้ มาดูด้วยตนเองนะ ไม่ใช่เราทำให้เขาดู  แต่ว่าเราแสดงให้ดูก็ได้ ในเรื่องบางประการ เช่นว่า ไม่เป็นทุกข์ให้เขาดู จิตสงบให้เขาดู ไม่มีความโกรธ ไม่มีความร้อนใจให้เขาดู นี่เรียกว่าทำให้เขาดู หรือแนะให้เขาดูจากตำรับตำรา จากหลักการทฤษฎีต่างๆ เป็นเรื่องที่ควรจะแนะนำเขา ให้เขาเอาไปทดสอบด้วยตัวของเขาเอง เรียกว่า เรียกให้มาดูได้ เพราะเราได้ชิมด้วยตัวเราเองแล้ว ได้ทดสอบด้วยตัวเราเองแล้วได้ผล จึงเรียกให้คนอื่นมาดูได้

สิ่งใดที่เรายังไม่ได้มาทดสอบให้ได้ผล    เรียกให้มาดูมันก็ลำบาก   เมื่อเขาถามว่าท่านได้ชิมมันแล้วหรืออย่างไร เช่น เราบอกว่า แหม ไอ้นี่อร่อยเหลือเกิน เรียกเพื่อนให้มากิน  ถ้าเพื่อนมาแล้วบอกว่า คุณกินแล้วหรือยัง  ผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน เอ้า แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าอร่อย ก็ยังไม่ได้ชิมเลยสักหน่อย เพราะฉะนั้น ต้องกินก่อน ชิมก็คือลงมือปฏิบัติด้วยตัวของเราเอง แล้วก็จะเกิดผลในทางจิตใจ   เมื่อเกิดผลแล้วในทุกสิ่งทุกอย่าง   สิ่งทั้งหลายมันไม่เที่ยง  มันเปลี่ยนแปลงไป ไม่มั่นคง ไม่ถาวร มีความเปลี่ยนแปลง เช่น ความแก่ แก่แล้วจะเป็นอย่าไร ก็เจ็บไข้ เห็นพวกคนป่วยตามโรงพยาบาล   อยากให้ไปโรงพยาบาล   ไปดูเสียว่า  น่าศึกษา  เราไปรักษาตัวเราก็ไปดูคนอื่นเสียบ้าง   เวลารอหมอเขาเรียก   อย่านั่งเฉยๆ   ต้องนึกถึงธรรมะเสียบ้าง  ที่มานี่ล้วนเหมือนๆกันทั้งนั้นแหละ   ปวดหัวปวดท้อง   ปวดแข้งปวดขา  โรคข้างนอกโรคข้างใน เอ เรานี่ก็เข้าหุ้นอยู่กับเขาด้วยเหมือนกัน   ลงเรือลำเดียวกันมา เออ มนุษย์นี่มันหนีไมพ้น มันเจ็บมันไข้กันทั้งนั้น


   ถ้าเราไปเที่ยวที่ป่าช้า   เขานิมนต์พระไปสวดศพ   อย่าไปสวดเฉยๆ เอาสตางค์แล้วกลับกุฏิ เราจะต้องพิจารณาว่าเป็นตัวอย่างของชีวิต เมื่อแก่ เมื่อเจ็บ แล้วก็ต้องตาย ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ทุกคนต้องตายด้วยกันทั้งนั้น ทีนี้ เราล่ะหนีไม่ได้เหมือนกันละ จะต้องตายสักวันแน่ๆ เอ แล้วจะตายเมื่อไร ไม่รู้เหมือนกันว่าจะตายเมื่อไร  ไม่รู้ก็ได้  รู้แต่เพียงว่าต้องตายแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง   ครั้นเมื่อเรารู้ว่าเราจะต้องตายแล้ว ควรจะทำอย่างไร เราก็คิดไปว่า เราเกิดมาทำไม เราอยู่เพื่ออะไร สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะปฏิบัติเพื่ออะไร  พระพุทธเจ้าสอนให้เราทำอะไร นึกไปถึงธรรมะเป็นข้อปฏิบัติ แล้วก็รีบทำมันเสีย เพราะอีกไม่เท่าใดก็ตาย  ตายกันบ่อยๆ  ยิ่งไปวัดธาตุทอง ศพทั้งนั้น ไม่ว่าศาลาไหน น่าศึกษาน่าสนใจ นั่นน่ะเขาเรียกว่า เทวทูต




   ไปเห็นนักโทษผู้ต้องราชทัณฑ์ เราก็นึกถึงกฎแห่งกรรม อ้อ มนุษย์นี่หนีไม่พ้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำแล้วก็ต้องได้รับผลอย่างนี้แหละ แล้วบอกตัวเราอย่าไปทำอย่างนั้นเข้านะ เดี๋ยวจะได้เอาโซ่มาประดับแข้งประดับขา โซ่ประดับแข็งนี่ไม่เหมือนกับสายสร้อยห้อยพระที่คอเราดอก  มักหนักเดินง่องแง่งๆ   เสียงดังเป็นดนตรีไปเลย   กริ้งกร้างๆ สนุกเมื่อไหร่   ต้องระวัง   อย่าปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอำนาจของความชั่วร้าย ชีวิตจะตกต่ำ

   ไปเห็นเด็กน้อย เราก็คิด เห็นคนแก่ เห็นคนเจ็บ เห็นคนตาย เห็นนักโทษก็คิด เห็นนักบวชก็คิดเหมือนกัน เออ นั่นเขาบวชดี ไม่ยุ่ง แต่ต้องบวชเพื่อศึกษา เพื่อปฏิบัติ ไม่ใช่บวชเลี้ยงชีพ เรียกว่าบวชไม่ได้เรื่อง ก็คิดไปในทางอย่างนั้น  อย่างนี้  เรียกว่า  มองเห็นอะไรแล้ว เอามาเป็นเครื่องเตือนใจ เป็นเอหิปัสสิโก เหมือนกัน  เรียกว่า  น่าดูน่าชมในสิ่งที่เราได้พบเห็น  แล้วอย่าชมคนเดียว บอกคนอื่นให้มาดูมาชมกันบ้าง  การไปสอนธรรมะนั้นก็เข้าบทนี้แหละ  ต้องเที่ยวเรียกให้เขามาดู ไปเที่ยวป่าวร้องให้เขามาดู  เท่ากับตีฆ้องร้องป่าวให้คนมาดูมาฟังธรรมะ  มาปฏิบัติธรรมะ นั่นเรียกว่าทำหน้าที่เรียกร้องให้มาดูธรรมะกัน

   เอหิปัสสิโก - เรียกใครๆมาดูได้  อันนี้  ไม่ใช่ธรรมะขั้นต่ำๆ แต่ว่าพูดในแง่ต่ำก็ได้ เช่น ว่าผลของการ รักษาศีล ผลของการ เจริญภาวนา ผลของการ อดทน ผลของการ บังคับตัวเอง ผลของการ ซื่อสัตย์ ผลของการ เสียสละ อันเป็นเรื่องทางศีลธรรม  ถ้าเราปฏิบัติมันก็มีผลเกิดขึ้นแก่จิตใจของเรา แล้วเราก็ชวนใครให้มาดูได้   เช่น   พูดให้เขาเห็นได้ว่า   ผมเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ทำงานมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต   แล้วก็มีผลอย่างนี้   ชีวิตเรียบร้อย   มีความสงบในครอบครัว  ผมอาจจะมีเงินไม่เหมือนเขา   แต่ว่าผมมีจิตใจสบายตามฐานะ   มีชีวิตอยู่อย่างสงบ สบาย อวดใครๆได้ ให้เขามาดูได้ว่า   ผลความซื่อสัตย์เป็นอย่างไร   หรือว่าผลแห่งความขยันหมั่นเพียรในการประกอบกิจการงาน   เช่นว่า   คนขยันทำงานทำการก็อวดใครได้   เรียกใครให้มาดูได้ว่า  นี่แหละเป็นผลแห่งความขยัน   ผมไม่มีอะไร   มามือเปล่าเหมือนกับคุณนั่นแหละ   ไม่ใช่ลูกเศรษฐี ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองออกมา   แต่ว่าผมประพฤติธรรม   รู้จักคุณค่าของชีวิต  คิดแต่จะทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว   ก็ได้ผลอย่างที่เห็นอยู่นี้   มีบ้านเรือนอยู่   มีนามีสวน   มีลูกมีหลานให้ได้รับการศึกษาตามสมควรแก่ฐานะ เราเรียกให้เขามาดูได้ เพราะเราได้กระทำอย่างนั้น   รวมความว่า เรากระทำดีอย่างไร แล้วได้ผลจากการประพฤติดี ประพฤติชอบนั้น เป็นเรื่องที่เราจะเรียกให้เขามาดูได้ นี่ทางฝ่ายดี

   ทีนี้ ในฝ่ายชั่ว เราเรียกให้เขามาดูได้ไหม เป็นธรรมะเหมือนกัน เรียกว่าเป็นอธรรม อกุศล ฝ่ายดีเป็นกุศล ฝ่ายชั่วเป็นอกุศล   เราก็เรียกให้เขามาดูได้ว่า   ความฉิบหายเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะการพนัน เพราะดื่มเหล้า เพราะเที่ยวกลางคืน เพราะการสนุกสนาน เป็นคนฟุ้งซ่าน ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ แล้วก็มีผลดังที่เห็นนี้   เรียกให้เขามาดูได้  ความชั่วก็เรียกให้เขามาดูได้  เหมือนเราเข้าไปคุกบางขวางก็เป็น เอหิปัสสิโก ไปดูคุกดูตะราง ดูผู้ต้องขังทั้งหลายว่ามีชีวิตเป็นอย่างไร ลองเข้าไปคุยด้วย   ถามว่า   ต้องโทษอะไร   เรื่องอะไร   บางคนติด ๕๐ ปี ๘๐ ปี  แต่ละคนน่าดูทั้งนั้น โทษมันก็ต่างๆกัน   ถามก็ได้ผลจากอกุศลกรรมทำให้เป็นคนทุกข์  กุศลกรรมก็เป็นผลให้ความสุขความเจริญ ดูได้ทั้งนั้น เรียกให้มาดูกันได้ มีตัวอย่างที่จะแสดงให้ดู


   ธรรมะ กับ อธรรม ให้ผลไม่เหมือนกัน   ธรรมะนำคนไปสุคติ   อธรรมนำคนไปทุคติ ธรรมะนำคนไปสู่ความสุข อธรรมนำคนไปสู่ความเดือดร้อน ก็เป็นเรื่องที่ควรดู เพื่อเป็นบทเรียน  ไอ้สิ่งที่ควรมันมีหลายอย่าง ซึ่งเขาเรียกว่า เทวทูต ซึ่งแปลว่า ผู้มาเยือน ผู้มาเตือนมาบอกให้เรารู้ ความแก่ ความเจ็บไข้ ความตาย คนแก่ คนเจ็บ คนตาย นักโทษในเรือนจำ เด็กน้อย เขาเรียกว่าเทวทูต เป็นผู้เตือนใจ เตือนใจอย่างไร ? เตือนใจให้นึกถึงความหลังของเรา ว่าเราเคยเป็นเด็กน้อย เหล่านี้ เราเป็นคนหนุ่ม คนสาว กลางคน ไม่เหมือนเดิมแล้ว ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เกิดจากความไม่เที่ยงของชีวิต พระพุทธเจ้าท่านว่า สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงมิใช่ของเที่ยง เตือนให้เราไม่ประมาทในชีวิต.

 


Create Date : 21 มีนาคม 2565
Last Update : 21 มีนาคม 2565 8:14:47 น. 0 comments
Counter : 354 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space