Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
มีนาคม 2568
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
26 มีนาคม 2568

บึงบอระเพ็ด : เหยี่ยวทุ่งพันธุ์เอเซียตะวันออก, เหยี่ยวต่างดำขาว


Eastern marsh-harrier

เหนือผืนน้ำอันกว้างใหญ่ นอกจากเหยี่ยวดำที่เคยพาไปดูกันที่ปากพลี
ที่นี่เรายังพบเหยี่ยวอีก 2 ชนิด ซึ่งมีความคล้ายกัน
ชนิดที่ว่าถ้าไม่มีไกด์บอกชื่อ เราก็แยกออกได้ยาก ด้วยว่ามันบินอยู่สูง
ที่สำคัญมักจะทันเห็นแค่ด้านหลังอีก ยิ่งเจอนกตัวเมียยิ่งแยกยากเข้าไปใหญ่
 
เหยี่ยวชนิดแรกที่เห็นตั้งแต่ออกเรือ คือ
เหยี่ยวทุ่งพันธุ์เอเซียตะวันออก
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Eastern marsh-harrier (circus spilonotus)
ตัวที่เจอสีออกสีน้ำตาล ตรงข้อศอกมีแต้มขาว น่าจะเป็นตัวเมีย
 
เหยี่ยวชนิดที่สองที่เจอระหว่างทริปคือ
เหยี่ยวด่างดำขาว
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า pied harrier (circus melanoleucos)
 คำว่า pied หมายถึงขาวสลับดำ อันเป็นลักษณะของนกชนิดนี้
น่าจะเป็นตัวเมียเช่นกัน เพราะไม่เห็นความขาวดำเท่าไหร่
เห็นเพียงข้อศอกและโคนหางสีขาว
 
นอกจะพบเห็นในพื้นที่เดียวกัน ยังมีการหากินที่เหมือนกันอีกด้วย
โดยใช้ประโยชน์จากลมที่พัดเอื่อยๆ ใช้ปีกร่อนไปเรื่อยๆ ในระดับต่ำ
ฟังเสียงเคลื่อนไหวของเหยื่อ แล้วพุ่งลงไปจับอย่างแม่นยำ

เหยี่ยวทั้งสองชนิดอยู่ในสกุลเดียวกัน และมีถิ่นอาศัยที่ต่างกันเล็กน้อย
เหยี่ยวด่างดำขาว จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ตอนใต้ของไซบีเรีย
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และเกาหลีเหนือ
ในขณะที่เหยี่ยวทุ่งพันธุ์เอเชียตะวันออก จะอยู่ต่ำลงมาทางใต้
เลยไปทางตะวันออกถึงเกาหลีใต้ และเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น



pied hariired

ในอดีตเหยี่ยวทุ่งยูเรเซียจัดว่ามีเพียงชนิดเดียว
แต่ด้วยการตรวจสอบพันธุกรรม ในปัจจุบันถูกแยกเป็น 2 ชนิด
คือ eastern และ western marsh harrier

โดย western marsh harrier (
Circus aeruginosus)
จะอพยพลงมายังประเทศอินเดีย และตอนกลางของแอฟริกา
ในประเทศไทยก็สามารถพบได้ แต่มีโอกาสน้อยมาก

ในแต่ละปีจะมีเหยี่ยวทุ่งตะวันออกและเหยี่ยวด่างดำขาว
จำนวนไม่มากนัก ที่จะบินผ่านลงใต้ไปจนถึงคาบสมุทรมาลายา
ผ่านเขาดินสอที่ จ ชุมพร 

โดยนกเหล่านี้ จะมีสัญชาตญาณที่ถ่ายทอดกันมา
ตั้งแต่พ่อแม่ของมัน เคยพาบินอพยพมายังที่ใดในฤดูหนาวแรก
เมื่อเติบโตขึ้น มันก็จะพาลูกๆ บินกลับมายังสถานที่นั้นเช่นกัน

ทางกลุ่ม Thai raptor research ได้ทำการติดอุปกรณ์ติดตาม
เหยี่ยวด่างดำขาวเพื่อศึกษาเส้นทางการอพยพกว่า 4,000 กม.
ใช้เวลา 24 วัน  เดินทางจากปางฮุ้ง ผ่านตอนเหนือของลาว
ไปยังจีนตอนกลาง และสิ้นสุดที่ตอนเหนือของประเทศจีน
ในขณะที่บางตัวอาจจะบินเลยขึ้นไปถึงตอนใต้ของไซบีเรีย



Create Date : 26 มีนาคม 2568
Last Update : 1 เมษายน 2568 13:15:49 น. 3 comments
Counter : 368 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**, คุณหอมกร, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณtuk-tuk@korat


 
เห็นหน้าไม่ชัดจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 26 มีนาคม 2568 เวลา:15:15:24 น.  

 
เดินทาง 4000 กิโลใน 24 วัน!!?? สุดยอดมากๆ ไม่เมื่อยกันเลยเหรอออ วันละ 160 กิโลเลยนา

แต่ผมเคยดูสารคดีเกี่ยวกับนกอพยพที่เดินทางไกลๆแบบนี้เหมือนกันว่า ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมก็มีผลกับนกอพยพพวกนี้ เหมือนมันก็พยายามหาพื้นที่ใหม่ที่มีสภาพใกล้เคัยงกับสมัยที่มันเคยมาแทน เวลามาถึงแล้วอะไรๆมันเปลี่ยนแปลงไปจากที่มันเคยเจอนะครับ


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 31 มีนาคม 2568 เวลา:8:45:30 น.  

 
เยี่ยมมากค่ะ
เคยเห็นเหยี่ยว บินสูง ๆ ดูท่าบินแค่รู้ว่าเป็นเหยี่ยว


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 2 เมษายน 2568 เวลา:6:49:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]