Group Blog
  • Photobucket
 
All blogs
 

+++บราวนี่สูตรเด็ด+++

วันนี้ขอนำเสนอบราวนี่สูตรอร่อยๆอีกหนึ่งสูตรค่ะ มาจากบล็อกพี่หน่องอีกแล้ว (สำหรับสูตรอร่อยๆนี้พี่หน่องบอกว่า เจ้าของสูตรไม่ขอลง พี่เจ้าของสูตรขอไว้ แต่ถ้าใครสนใจก็ กระซิบมาหลังบ้านได้ค่ะ (หลังบ้านพี่หน่องนะคะ...5555) พี่เจ้าของสูตรเค้าไม่ถึงกับหวงค่ะ) เพื่อนๆอาจเริ่มเบื่อแล้วก็เป็นได้ อะไรๆก็บล็อคพี่หน่อง ไปไหนไม่เป็นแล้ว

ขนมนี้ทำเสร็จ เอ๋ตั้งใจจะเอาไปให้คุณครูที่โรงเรียนลูกสาวหน่อยค่ะ คุณครูท่านอุตส่าห์เป็นธุระจัดการเรื่องเข้าโรงเรียนให้

ขั้นตอนการทำง่ายมากกกก ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ลองทำดูนะคะ

นำเนยสด ชอคชิพละลายในไมโครเวฟ (เอ๋ดันใส่น้ำตาลทรายลงไปด้วย)
Photobucket

หลังจากเข้าไมโครเวฟ
Photobucket

ใส่ของแห้งที่ร่อนไว้ (แป้งอเนก ผงโกโก้ น้ำตาลทรายป่น) ยังไม่ต้องคนนะคะ แต่เอ๋คนตามพี่หน่องค่ะ 555 ตามทุกอย่างสิน่า
Photobucket

ตามด้วยไข่ไก่
Photobucket

Photobucket


คนๆอีกครั้งให้เข้ากัน ไม่ต้องคนนานนะคะ
Photobucket

เทใส่พิมพ์
Photobucket

โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สติ๊ก นำเข้าอบไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส นาน 30 นาที (เตาใคร เตาคนนั้นนะคะ)
Photobucket

ขนมที่อบเสร็จ และนำไปแช่ตู้เย็นไว้
Photobucket

จัดใส่ถ้วยฟอยด์ แล้วใส่ซองบัตเตอร์เค้กอีกทีค่ะ
Photobucket

ได้มาทั้งหมด 9 ชิ้น เหลือเศษนิดส์หน่อยค่ะ
Photobucket

จัดใส่กล่องค่ะ
Photobucket

ปิดกล่อง เตรียมส่ง
Photobucket


Photobucket

รอยายตัวแสบกลับจากโรงเรียน ไปส่งขนมให้คุณครูค่ะ
Photobucket




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2552    
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 14:06:59 น.
Counter : 3174 Pageviews.  

+++ส่งการบ้านพี่หน่องค่ะ.......บัตเตอร์เค้กสูตรอ.ยิ่งศักดิ์+++

ตั้งใจจะหาขนมเค้กทำถวายพระ วันทำบุญขึ้นบ้านใหม่ หาไปหามาไปลงเอยที่บัตเตอร์เค้กสูตรในบล็อคพี่หน่อง (ซึ่งพี่หน่องได้มาจากหนังสือของอ.ยิ่งศักดิ์) คิดอยู่นานว่าจะทำดีเปล่าน๊า เพราะโดยส่วนตัวแล้วทำเค้กเนยกี่ครั้งๆ ไม่เคยประสบความสำเร็จเอาซะเลย อาจด้วยเพราะฝีมือที่ยังไม่เข้าที่ (สูตรของเค้าดีอยู่แล้วค่ะ ...เรามันแย่เอง ..) แต่วันนี้ไม่พลาดแหละ ทำออกมาแล้วหน้าตาของขนมดูดี เนื้อขนมข้างในอาจมีฟองอากาศบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด....คนรู้ใจบอกว่าอร่อยมากกกกกก เอาไปกินที่ทำงานวันละ3-4 ชิ้น (ตั้งใจจะเอาไปฝากเพื่อน.....พอชิมเสร็จคุณเธอก็ไม่ยอมให้เพื่อนชิมซะงั้น บอกว่าอร่อย ขอเก็บไว้กินคนเดียวดีกว่า.......)

ทำเสร็จก็ดันลืม....แช่ไว้ในตู้เย็น สุดท้ายเลยไม่ได้ถวายพระท่านเลย ไว้คราวหน้าค่อยทำถวายท่านใหม่ละกันค่ะ***

ลิงค์ในบล็อกพี่หน่องค่ะ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=noonong&group=10
ส่วนผสม
แป้งเค้ก 175 กรัม
แป้งข้าวโพด 1 ชต
ผงฟู 1 ชช
วนิลา 1 ชช
เกลือ 1/4 ชช
นมผง 1ชช
น้ำตาลทราย 150 กรัม
เนยสด (หน่องเปลี่ยนจากมาการีน) 150 กรัม
สารเสริม (หน่องเลยใช้เอสพี) 10 กรัม
ไข่เย็น 3 ฟอง (ใหญ่)
นมข้นจืด 40 กรัม


วิธีทำ
ร่อนของแห้งรวมกันไว้ค่ะ
ตีเนย และเอสพี ความเร็วกลาง 10 นาที
ลดความเร็วเติมแป้งค่อยๆ นะค่ะ (หน่องปิดเครื่องเลยค่ะ แล้วค่อยๆ ใช้พายผสมเอาเอง)
ตีต่ำต่อ 2 นาที แล้ว ตอกไข่เย็นๆทีละใบ ตีความเร็วปานกลางต่ออีก 4 นาที
แล้วค่อยเติมนมข้นจืดลงตามไปค่ะ ตีส่วนผสมต่ออีก 2 นาที เป็นอันจบภาระกิจค่ะ

นำเข้าอบไฟล่าง ที่ 160 องศาซีค่ะ นานเป็นชั่วโมงเลยค่ะ แล้วแต่เตานะค่ะ หน่องเตาเล็กน่ารัก 555 เตา
ใหญ่ก็อาจอยู่ที่ 45-50 นาทื แล้วแต่พิมพ์ที่ใช้อีกค่ะ

Copy ทุกอย่างเลยวุ๊ย (ความขี้เกียจมีสูง แต่ความพยายามไม่แพ้ใคร 5555)
ขั้นตอนการตีเค้ก เอ๋ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะคะ มีแต่รูปของเค้กที่อบเสร็จแล้ว มาให้เพื่อนชมกันค่ะ

ภาพแนวนอนค่ะ
Photobucket

ภาพแนวตั้งค่ะ
Photobucket

ภาพโชว์ก้นค่ะ
Photobucket

ภาพด้านข้างค่ะ
Photobucket

ตัดแจกค่ะ
Photobucket


Photobucket

ขอขอบคุณสูตรอร่อยๆ นะคะพี่หน่อง
ขอขอบคุณคอมเม้นท์ทุกๆคอมเม้นท์นะคะ




 

Create Date : 28 ตุลาคม 2552    
Last Update : 28 ตุลาคม 2552 14:33:58 น.
Counter : 2737 Pageviews.  

+++ส่งการบ้านน้องเกด pastel pied กับ Orange Creme Caramel+++


เหตุเกิดเพราะสาวน้อยรายนี้ค่ะ


Photobucket

ด้วยวัยกำลังกิน กำลังนอน กำลังเจริญเติบโต งานหนักสำหรับคนเป็นแม่อย่างเรา คือต้องสรรหาของกินที่ดี มีประโยชน์มาขุน
ลูกน้อยให้มีสุขภาพดีๆ พร้อมต่อสู้ เผชิญกับโลกภายนอก เลยมาลงเอยที่เมนูนี้ค่ะ
เมนูนี้มาจากน้องเกดค่ะ pastel pied เมนูนี้มีไข่เยอะดี ไม่หวานมาก หน้าตาขนมก็น่าทาน แถมทำได้ไม่ยุ่งยากส์

Link ของน้องเกดค่ะ
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pastelpiebald&group=8

แอบเม้าท์น้องเกดนิดส์นึง น้องเกดเป็นน้องที่น่ารักมากๆค่ะ สงสัยอะไร น้องเกดให้คำแนะนำอย่างละเอียดมากๆค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าเค้ก ขั้นตอนการทำขนมในแบบต่างๆ ขอบคุณน้องเกดมากๆนะคะ




ส่วนผสม : คาราเมล
- น้ำตาลทราย 155 กรัม
- น้ำ 60 มล.
- Light Corn Syrup หรือน้ำมะนาว ½ ช้อนชา

ส่วนผสม : คัสตาร์ด
- นมสด หรือ Half cream 750 มล.
- ไข่ไก่ 6 ฟอง หรือ ไข่ไก่ 4 ฟองกับไข่แดง 4 ฟอง)
- น้ำตาลทราย 155 กรัม
- ผิวส้ม 2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 2 ลูก)
- เกลือ 1/8 ช้อนชา
- เหล้าควอนโทร 2 ช้อนโต๊ะ (หรือเหล้ากลิ่นส้มชนิดใดก็ได้)

ขั้นการการทำ
เริ่มจากการเตรียมพิมพ์ก่อนนะคะ เตรียมถ้วยที่จะใช้ ของเอ๋ใช้ถ้วยอลูมิเนียม 8 ถ้วย ถ้วยกระเบื้องอีก 6 ถ้วยค่ะ

Photobucket

แล้วก็เริ่มทำน้ำตาลคาราเมลก่อนนะคะ นำน้ำตาลและน้ำในหม้อ เติมคอร์นไซรัป หรือน้ำมะนาว นำขึ้นตั้งไฟกลาง
ตรงนี้สามารถคนได้นะคะ พอน้ำตาลละลายหมดก็หยุดคนค่ะ เอ๋ใช้แกว่งหม้อแทนค่ะ ตามคุณครูเกดทุกประการ
พอน้ำตาลสีเริ่มเปลี่ยน ก็เตรียมเทใส่ลงในถ้วยได้แล้วค่ะ ถ้าทิ้งไว้นานเกินจะขมขึ้นนะคะ
ตอนที่เทก็ต้องระวังความร้อนจากน้ำตาลด้วยนะคะ

Photobucket

เทใส่พิมพ์ไว้สักครู่น้ำตาลก็จะเริ่มแข็งค่ะ ......... ตอนนี้ก็เริ่มเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 165 องศาเซลเซียส และเตรียมถาดสำหรับอบนะคะ
ให้มีขอบสูงประมาณ 2 นิ้วได้ค่ะ เพราะว่าเวลาอบ เราจะใส่น้ำลงไปอบด้วยค่ะ เตรียมถาดโดยการวางผ้าเช็ดมือรองไว้ในถาด
แล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 1 นิ้วค่ะ (จุดนี้พี่ลืมค่ะเกด ......โดนหักคะแนนแน่ๆเลย)

Photobucket

พอเริ่มทำคัสตาร์ดก็เริ่มจากต้มนมสดในหม้อด้วยไฟกลางค่ะ ต้มนมแค่ให้พอมีฟองขอบๆ หม้อก็พอนะ
ใครจะใช้เป็นมครึ่งนึงกับวิปครีมครึ่งนึงก็ได้นะคะ ระหว่างต้มนมเราก็มาขูดผิวส้มเตรียมไว้เลย (แต่ของพี่ไม่มีให้ขูดอ่ะค่ะเกด
พี่เลยใช้บัตเตอร์สก๊อต ไซรัปแทนอ่ะ พี่ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันเปล่านะ แต่พี่ชอบกลิ่นมันเลยใส่ไปหน่อยนึง .......)

Photobucket

ตอกไข่ใส่ชามค่ะ สามารถใช้ไข่ไก่ 6 ฟอง แทนด้วยไข่ไก่ 4 ฟองกับไข่แดง 4 ฟองค่ะ
(ของพี่เลือกแบบแรกค่ะเกด เพราะพี่งกค่ะ 5555 จริงๆแล้วไข่ไม่พอค่ะเกด แต่แค่นี้ก็อร่อยมากแล้วนะคะเกด
นี่ถ้าใช้แบบที่สองตามเกด สงสัยอร่อยเหาะเป็นแน่)

ใส่น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน ใส่เกลือตามลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่ผิวส้มขูด คนให้เข้ากัน (อันนี้พี่ข้าม เพราะไม่มีผิวส้มค่ะ)

ตอนนี้นมในหม้อก็เริ่มมีพรายฟองข้างๆ หม้อแล้วค่ะ ก็จัดการเทนมลงไปในส่วนของไข่แดงที่เตรียมไว้
ระหว่างเทก็ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันนะคะ

จากนั้นก็ใส่เหล้าส้มลงไปค่ะ ......... (พี่ไม่มีค่ะเกด พี่เลยข้าม.............)

Photobucket

จากนั้นทำการกรองเอาผิวส้มออกด้วยกระชอนตาถี่ค่ะ ก่อนเทใส่พิมพ์นะคะ (พี่แอบขยัน กรองซะ 2 รอบเชียว)

นำเข้าอบที่ 165 องศาเซลเซียส นานประมาณ 30-40 นาที ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ขนาดของพิมพ์ด้วยนะคะ
เวลาดูว่าสุกหรือยัง ให้สังเกตดูได้นะคะว่าผิวของคัสตาร์ดจะเริ่มตึงตัวค่ะ เวลาเขย่าพิมพ์ดูแล้วจะไม่เหลวค่ะ
อย่าลืมเอาน้ำใส่ถาดที่จะอบด้วยนะคะ .............

Photobucket

ปกติควรจะนำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาก่อนทานสัก 3 ชั่วโมงขึ้นไปนะคะ (พี่อยากชิมเร็วๆเลยส่งเข้าช่องฟรีซซะเลย....)

Photobucket

แกะออกจากพิมพ์ โดยใช้มีดปลายแหลมแซะออกนะคะ


Photobucket

มาหม่ำกับสาวน้อยอวบๆคนนี้กันค่ะ

Photobucket

ขอบคุณอีกครั้งนะคะเกด สำหรับสูตรขนมอร่อยๆ ค่ะ

ปอลอ.ค่ะเกด
- ขนมพี่ไม่เนียนกิ๊ก เหมือนของเกด แอบมีฟองเยอะมากๆ เป็นเพราะอะไรคะ




 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 11:51:40 น.
Counter : 1165 Pageviews.  

+++ส่งการบ้านคุณเดียร์ Brownie Cheesecake +++



Photobucket



ช่วงนี้เกิดอาการลงแดงอยากทำขนมไปหมด ไม่รู้จะมีใครเป็นแบบเราบ้าง ตอนนี้ใครเอาอะไรมายั่ว

เป็นอยากทำไปซะหมด สุดท้ายคุยกับพี่หน่องจนได้เรื่อง เรื่องของเรื่องเข้าบล็อคพี่หน่องเห็นบราวนี่ชีสเค้ก

แล้วอยากทำ เพราะมีครีมชีสนอนรออยู่ในตู้เย็นมานานแหละ แต่พอดูส่วนผสมแล้วเป็นอันต้องชวด

เนื่องจากของไม่ครบขาดไวท์ชอค พี่หน่องก็ไม่ละความพยายามนะคะ(เป็นพี่ที่น่ารักมาก....) พยายามจัดสรรเมนู

ให้ตามของที่น้องมี จนในที่สุดมาลงตัวที่ Brownie Cheesecake ของคุณเดียร์ พี่หน่องบอกว่า พี่ชิมแล้ว "อร่อยๆ เอ๋ลองทำดิ"

ขอบคุณพี่หน่องนะคะ ที่อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง หาสูตรให้ สอนทำทุกขั้นตอน น่ารักจริงๆเลย จุ๊บจุ๊บค่ะพี่

ขอบคุณคุณเดียร์ สำหรับสูตรขนมอร่อยๆค่ะ Link คุณเดียร์ค่ะ
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=anadiar&group=15

Newyork Cheesecake ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบหลัก

1. ส่วนฐาน ใช้เป็นบราวนี่ (เอ๋ใช้สูตรเดียวกับบราวนี่เนยถั่วของพี่หน่องค่ะ ขออนุญาติไม่ลงสูตรนะคะ ท่านใดสนใจหลังไมค์ถามพี่หน่องได้ค่ะ)
บราวนี่ใช้รองฐาน เป็นแบบ 2 ปอนด์ 1 ชิ้น


Photobucket

บราวนี่สำหรับแต่งหน้าและสอดไส้ 1 ถาดเล็ก เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

Photobucket

2. ส่วนของ Newyork Cheesecake สำหรับ 2 ปอนด์ คัดลอกมาจากคุณเดียร์เลยนะคะ

1. ครีมชีส 250 กรัม
2. เนยสด 50 กรัม
3. นมข้นหวาน 250 กรัม
4. ไข่ไก่ เบอร์ 0 2 ใบ
5. น้ำส้มซันควิก 1/2 ชต.
6. โยเกริตรสธรรมชาติ 60 กรัม (แต่วันที่ทำไปงานไม่ได้ใส่เพราะไม่มีอ่ะ ประมาณว่าไม่ใส่ก้อได้ แต่ใส่ก้อจะรสชาติดีขึ้น)
7. กลิ่นวานิลลา 1/2 ชช.
8. แป้งเค้ก 20 กรัม หรือประมาณ 2 ชต.

เริ่มจากนำน้ำใส่ถาด ปรับอุณหภูมิในเตามาเป็นประมาณ 120 องศาคะ เตาเดียร์ประมาณนี้ มากกว่านี้เดียร์เคยลองมาแล้ว หน้าแตกระเบิดเลยคะ


วิธีทำ

1. ตีครีมชีสกับเนยจนเนียนขึ้นฟูคะ จากนั้นใส่นมข้นหวานลงไป ต่อด้วยน้ำส้ม และโยเกริต ตีต่อจนเข้ากันดี

2. ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้แตก แล้วค่อยๆเทลงไปในส่วนผสมครีมชีสที่ตีจนได้ที่แล้ว

3. ใส่แป้งลงไป ตีจนเข้ากัน ตามด้วยกลิ่นวานิลลาคะ

4. แบ่งส่วนหนึ่งเทลงไปในบราวนี่ก่อนคะ บราวนี่ยังคาพิมพ์อยู่ไม่ต้องเอาออกนะคะ

5. หั่นบราวนี่เป็นชิ้นๆ วางเรียงลงไปเลยคะ

6. ราดส่วนผสมชีสที่เหลือทับลงไป เกลี่ยให้เรียบ แล้วก้อเคาะพิมพ์ไล่ฟองอากาศไปซะ

7. เอาเข้าเตาที่วอร์มไว้แล้ว อบต่อนาน 1 ชม 10 นาที แล้วทิ้งขนมไว้ในเตาจนเย็นสนิท ประมาณ 2 ชม.
แล้วมาแช่เย็น เน้นว่าให้แช่ฟรีซไปเลย อีกประมาณ 2-3 ชม.คะ

8. ครบเวลาทีทิ้งไว้ในเตา ขอบจะร่อนออกมา แต่ตรงกลางไม่ยุบ หน้าไม่เนียนเท่าไหร แต่ดีใจมาก
ที่ชีสเค้กหน้าไม่แตก โหะๆๆๆ

9. จับยัดเข้าช้องฟรีซ ให้แข็งไปเลยคะ ประมาณ 2-3 ชม. เน้นว่าต้องแข็งนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวเอาออกจากพิมพ์ไม่ได้คะ

ครบเวลาแล้ว ใช้มีดปลายแหลมแซะๆ คว่ำออกมาชีสเค้กจะหลุด บ๊อก ... ออกมาอย่างง่ายดาย ไม่ง้อพิมพ์ถอดก้น แถมไม่เละด้วย




3. ส่วนของ Ganache (เอ๋ใช้สูตรของ อ.ยิ่งศักดิ์ค่ะ)

สูตร
ชอคชิพ 100 กรัม
นมข้นจืด 40 กรัม
เนยสดเค็ม 10 กรัม
น้ำตาลทราย 6 กรัม
วิปปิ้งครีม 40 กรัม

วิธีทำ
1. ต้มนมข้นจืดกับเนยสดเค็มและน้ำตาลทรายจนเดือด ยกลง
2. เติมชอคชิพลงไป ใช้ตะกร้อมือคนผสมจนชอคชิพแข็งละลาย
3. ใส่วิปปิ้งครีม คนผสมให้เข้ากัน พักไว้อุณหภูมิห้อง
4. นำมาราดตกแต่ง




เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมก็เริ่มประกอบร่างกันเลยค่ะ

Photobucket





ด้านบนเค้ก แอบหน้าปุเหมือนกัน เอ๋ลืมไล่ฟองอากาศอ่ะค่ะ พี่หน่องบอกว่า "ไม่เป็นไรเอ๋ เดี๋ยวเราแต่งหน้าก็ไม่มีใครเห็นแล้ว"

Photobucket



เมื่อเค้กเซตตัวดี ก็ตัดแบ่งตามต้องการค่ะ ครั้งนี้ตัด 8 ชิ้น โชว์ให้เห็นด้านข้างชัดๆค่ะ

Photobucket



แต่งองค์ซะหน่อยค่ะ

Photobucket




เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการสนองความต้องการ การทำขนมค่ะ ลากันไปด้วยภาพนี้ค่ะ

Photobucket




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2552    
Last Update : 24 กรกฎาคม 2552 13:30:04 น.
Counter : 994 Pageviews.  

+++อิงลิชทริฟเฟิล (English Triffle)+++

Photobucket

สิ่งที่ต้องเตรียม
- เนื้อเค้กสปันจ์ หรือชิฟฟอนแล้วแต่ชอบ จำนวน 1 ถาด ขนาด 10*10*2 นิ้ว สูตรเค้ก (ใครชอบสูตรไหน เลือกกันตามใจชอบเลยนะคะ) ส่วนของเอ๋เลือกสูตรของพี่แพท (งาขาว) ค่ะ ลอกมาจากบล็อกพี่หน่องค่ะ
- คัสตาร์ด สูตรนี้ได้มาจากเพื่อนสาวท่านหนึ่ง เธอบอกว่าไม่ประสงค์จะออกนาม คริคริ เห็นว่าเป็นสูตรของสถาบันสอนทำขนมชื่อดัง (อ.ยิ่งศักดิ์) ค่ะ

เค้กชิฟฟอน
ส่วนผสมที่ 1
1. แป้งเค้ก 50 กรัม
2. ผงฟู ¼ ชช.
3. เกลือ ¼ ชช.
4. ไข่แดง 3 ฟอง
5. น้ำตาลทราย 30 กรัม
6. นมข้นจืด 30 กรัม
7. น้ำมันพืช 30 กรัม
ส่วนผสมที่ 2
1. ไข่ขาว 3 ฟอง
2. ครีมออฟทาร์ทาร์ ¼ ชช.
3. น้ำตาลทราย 30 กรัม
วิธีทำ
วอร์มเตาอบไว้ก่อนเลยค่ะ ใช้ไฟ 400F or 200C

1. เตรียมถาดไว้ก่อนเลยค่ะ ใช้ถาดขนาด 10x 10x 1 นิ้ว ทาเนยบางๆ ทาให้ทั่วๆ และลองด้วย parchment paper หรือกระดาษไข และทาเนยบางๆ ให้ทั่วกระดาษอีกครั้งหนึ่ง หรือจะไม่ทาก็ได้นะคะ แต่ทาดีกว่าค่ะ
ขั้นตอนนี้สำคัญมากสำหรับการทำเค้กโรล เพราะถ้าลืมรองด้วย parchment paper เดี๋ยวขนมติดถาดแกะไม่ออกละเสร็จเลย
2. ร่อนแป้ง ผงฝู และ เกลือ เข้าด้วยกัน เทลงในอ่างผสมและทำเป็นหลุมตรงกลาง พักไว้ก่อน
3. แยกไข่แดง-ไข่ขาว เตรียมไว้ให้พร้อม แนะนำให้แยกตอนไข่เย็นๆ เพราะไข่แดงจะแตกยาก ขั้นตอนนี้ควรทำล่วงหน้าสัก 15-20 นาที เพื่อให้ไข่ขาวหายเย็นก่อนที่จะลงมือตี
4. ผสมไข่แดง น้ำตาลทราย นมข้นจืด และน้ำมันพืช ใช้ตะกร้อมือตีให้เข้ากันไม่ถึงนาทีหรอกค่ะ
5. คนด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมเข้ากัน
6. เสร็จแล้วค่อยๆ เทลงในอ่างแป้ง คนด้วยตะกร้อมือหรือพายยางจนส่วนผสมเข้ากันดี อย่าคนนานเดี๋ยวเนื้อเค้กจะเหนียว พักไว้ก่อน
7. ใส่ไข่ขาวลงในถ้วยอีกใบหนึ่ง ตีให้เป็นฟองคล้ายแฟบ และใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่ออีกประเดี๋ยวเดียว จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายทีละนิดจนหมด ตีต่อไปจนไข่ตั้งยอด
8. ตักไข่ขาวทีละน้อย ผสมกับส่วนที่ 1 ใช้พายยางหรือตะกร้อมือค่อยๆ คนให้เข้ากันอย่างเบามือ ทำเหมือนเดิมจนหมด(ตักไข่ขาวประมาณ 4 ครั้ง)
9. เสร็จแล้วเทส่วนผสมลงในถาดที่เตรียมไว้ เกลี่ยหน้าให้เรียบ แล้วจับถาดกระแทกแรงๆ ลงบนโต๊ะ สัก 2 – 3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ
10. อบ ไฟ 185 ซี นาน 10 นาที ไฟ บน-ล่าง (อันนี้เตาใครเตามันนะ)
11. ยกขนมออกจากเตาวางบนตะแกรง ทิ้งไว้สักพัก พอจับถาดได้ไม่ร้อนมากก็คว่ำขนมลงบนผ้าขาวบางที่เตรียมไว้ และดึงกระดาษออก นำพิมพ์เค้กวงแหวนกดตัดออกมา ได้ทั้งหมด 16 ชิ้น พักไว้

Photobucket

ส่วนผสมคัสตาร์ด
1. ไข่แดง 4 ฟอง
2. น้ำตาลทราย 125 กรัม
3. แป้งข้าวโพด 1 ชต.
4. เกลือป่น ¼ ชช.
5. วนิลาผง ½ ชช.
6. นมสด UHT 400 กรัม
7. วิปปิ้งครีม 250 กรัม

วิธีทำ
1. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลทราย แป้งข้าวโพด เกลือป่น และผงวนิลาด้วยตะกร้อมือ นานประมาณ 2-3 นาที พอน้ำตาลละลาย
2. ต้มนมสด พอร้อน เทใส่ลงในส่วนผสมไข่แดง ตีผสมจนเข้ากันดี แล้วเทส่วนผสมที่ได้ใส่ลงในภาชนะ นำขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง คนผสมตลอดเวลาด้วยตะกร้อมือ จนส่วนผสมเริ่มเดือด และข้นขึ้น จึงยกลงพักไว้ให้เย็น
3. ตีวิปปิ้งครีมจนตั้งยอด และนำใส่ในส่วนผสมของไข่แดง คนผสมให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นสนิท

Photobucket

วิธีการประกอบ
- ตัดเนื้อเค้กเป็นชิ้นขนาดตามต้องการใส่แก้ว หรือภาชนะที่เตรียมไว้ ใส่คัสตาร์ดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะเต็มๆ
ปิดทับด้วยเค้ก ทำซ้ำอีก 1 ครั้ง แล้วบีบวิปปิ้งครีมปิดทับ แต่งหน้าเพิ่มด้วยซอสบลูเบอรี่ นำเข้าตู้เย็นพักไว้ 1 คืน เพื่อให้คัสตาร์ดเซ็ตตัว


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket

เป็นอันเสร็จ ง่ายนิดส์เดียว แถมอร่อยมากๆด้วยค่ะ เพื่อนๆลองทำทานดูนะคะ เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี

Photobucket

ผ่านการตรวจรับรองโดยคิวซีตัวน้อย

Photobucket


ขอขอบคุณ
พี่แพท สำหรับสูตรเค้กเนื้อนุ่มๆค่ะ
เพื่อนสาว สำหรับสูตรคัสตาร์ดของอ.ยิ่งศักดิ์ ที่นำสูตรดีๆมาให้เพื่อนได้อ้วนค่ะ









 

Create Date : 04 มิถุนายน 2552    
Last Update : 15 มิถุนายน 2552 12:03:34 น.
Counter : 1221 Pageviews.  

1  2  3  

n'frame
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add n'frame's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.