บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี และเอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจีในประเทศไทยเตรียมเปิดตัว MG6 รถยนต์รุ่นแรกที่จะส่งทำตลาดในประเทศไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 โดยบริษัทฯ จะเริ่มเปิดให้ลูกค้าชาวไทยจองรถได้ในช่วงกลางปี 2557 นี้ และจะส่งมอบให้ลูกค้าผ่านทางเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการของเอ็มจี พร้อมเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกัน

มร. หวู่ ฮวน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เตรียมจัดแสดงรถยนต์ MG6 ทั้งหมด 9 คันในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 นี้ ซึ่งรถยนต์แต่ละคันจะสื่อให้เห็นถึงจุดเด่นของรถยนต์ MG6 รวมทั้งประวัติความเป็นมาของแบรนด์เอ็มจีโดยลูกค้าสั่งจองได้ในช่วงเดียวกับที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกลางปีนี้ นอกจากนี้ ผมยังมีความภูมิใจที่จะประกาศว่า รถยนต์รุ่น MG6 เป็นรถที่ผลิตจากโรงงานของเราในจังหวัดระยอง”

มร. หวู่ กล่าวถึงความสำคัญของรถยนต์รุ่น MG6 ที่จะมีต่อตลาดประเทศไทยอีกว่า “หลังจากที่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ทางบริษัทฯ เชื่อว่ารถยนต์รุ่น MG6 นี้เหมาะที่สุดในการเจาะตลาดรถยนต์ประเทศไทย กลุ่ม C เซกเมนต์เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่หรือผู้ที่มีหัวใจที่ยังเป็นหนุ่มสาวและกำลังมองหารถยนต์ที่มีความแตกต่างโดดเด่นทั้งในเรื่องของแบรนด์และประสิทธิภาพการขับขี่ ซึ่งเอ็มจีถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงที่มาพร้อมกับจิตวิญญาณของรถแข่งอังกฤษ”

มร. หวู่กล่าวย้ำอีกว่า รถยนต์ MG6 เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและการออกแบบอันโดดเด่นตามแบบฉบับรถยนต์มาตรฐานอังกฤษ ครบเครื่องด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและสมรรถนะเหนือชั้น ในสนนราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ คาดว่าจะดึงดูดใจผู้ซื้อได้ไม่น้อย โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ในช่วงกลางปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากจะเปิดตัวรถยนต์รุ่น MG6 ที่งานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้วบริษัทฯ ยังได้พัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีอย่างเป็นทางการให้พร้อมสำหรับการเปิดจำหน่ายในช่วงกลางปีนี้อีกด้วย

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รถยนต์เอ็มจีทุกคันที่ผลิตในศูนย์การผลิตรถยนต์ เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพีนั้น ล้วนผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพที่ได้มาตรฐานอย่างละเอียด โดยการผลิตเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ทุกอย่าง ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถผลิตและส่งมอบรถยนต์ได้ภายในไตรมาสที่สามของปีนี้แน่นอน
ปัจจุบันศูนย์การผลิตฯ ในจังหวัดระยองมีความสามารถในการผลิตเต็มกำลังที่ 50,000 คันต่อปีโดยทางบริษัทฯ คาดว่าจะมียอดจำหน่ายประมาณ 2,000 คันตั้งแต่เปิดตัวจนถึงสิ้นปี

นอกจากนี้ทางบริษัทฯยังได้มีการพัฒนาแผนงานดูแลลูกค้าหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการลูกค้า ศูนย์ปฏิบัติการคลังสินค้า ศูนย์ซ่อมและให้บริการ รวมถึงโปรแกรมการรับประกันสินค้า ให้พร้อมตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหัวใจหลักที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญอีกด้วย