bloggang.com mainmenu search


ข่าวฟุตบอล บุนเดสเทรนเนอร์ โยอาคิม เลิฟ เปิดใจนั่งคุยถึงเคล็ดลับแนวทางการทำงาน ที่สามารถสร้างทีมชาติเยอรมนี เดินสู่ความสำเร็จได้ ด้วยสไตล์การเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ฉบับ "อินทรีเหล็ก"


ภาพประกอบจาก AFP picture

"อินทรีเหล็ก" เยอรมนี กลายเป็นทีมที่ทำผลงานน่าเกรงขามมากที่สุดใน ยูโร 2012 ด้วยผลงานชนะรวด 4 นัด (นับตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม) เกมการเล่นอันดุดันมีประสิทธิภาพ รวมถึงเทคนิคความสามารถของผู้เล่นที่ไม่เป็นสองรองใคร

และก่อนที่จะถึงเกมนัดสำคัญที่เยอรมนีจะลงเล่นรอบรองชนะเลิศกับอิตาลี คืนนี้ นายใหญ่แห่งทีมลูกหนังเมืองเบียร์ ได้พูดถึงหลักการทำงาน เบื้องหลัง และแผนการที่ทำให้สามารถสร้างทีมสู่ความสำเร็จ โดยย้ำว่านี่เป็นผลมาจากการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาพส่วนในวงการลูก รวมทั้งเป็นการเดินหน้าทำงานโดยใช้เวลานับหลายปีด้วย

เทรนเนอร์วัย 52 ปี ซึ่งเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแผนพัฒนาทีมชาติเยอรมนี โดยรับตำแหน่งผู้ช่วยของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ เมื่อปี 2004 ย้ำว่า ในฐานะเทรนเนอร์ซึ่งรับผิดชอบในส่วนของทีมโดยตรง จะต้องทำงานร่วมกับทั้งสโมสรและสหพันธ์ฟุตบอลเพื่อจะได้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

"มีหลายคนที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบ มันเป็นผลงานของหลายๆ ภาคส่วนในเยอรมนี ทั้ง เดเอฟเบ, สโมสร และอีกหลายๆ ฝ่าย พวกเขาต่างก็ทำงานหลายๆ อย่างเพื่อการพัฒนาในระดับเยาวชนของแต่ละสโมสร"

"ถึงวันนี้ระบบต่างๆ ถือว่าดีกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่มีการให้ความสำคัญเพียงแค่สภาพร่างกายแล้วก็ความแข็งแกร่ง ทุกวันนี้เรื่องของเทคนิค มีความสำคัญมากขึ้น ปรัชญาการเล่นของทีมชาติมันถูกปลูกฝังอยู่ในตัวผู้เล่นทุกคนให้มีแนวคิดในทิศทางเดียวกันว่าเราจะเล่นฟุตบอลกันอย่างไร"

"จากนั้นเราจะมองหาผู้เล่นคนที่เข้ากันกับระบบแนวทางนี้และสามารถปรับตัวได้ และนักฟุตบอลที่เรามีก็สามารถในการเล่นเกมระดับสูงได้"


ด้าน โวล์ฟกัง เนียร์สบัค เลขาธิการทั่วไปของ เดเอฟเบ ให้ความเห็นว่า "ทั้ง เดเอฟเบ และ ฟุตบอลลีก ได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกันมาก เรามีการถกปัญหาต่างๆ กันตลอด แต่ที่สุดแล้วทุกฝ่ายต้องเข้าใจตรงกันว่าการตัดสินใจทุกอย่างมันจะเป็นการทำเพื่อทีมชาติเยอรมนี"

เดเอฟเบ ถือว่ามีส่วนในการกำหนดทิศทางของฟุตบอลในเยอรมนีอย่างมาก โดยจะให้ความสำคัญกับทีมชาติไม่น้อยไปกว่าฟุตบอลลีก ในลีกอาชีพจะไม่อนุญาตให้ใครถือหุ้นสโมสรเกินกว่าร้อยละ 49 นั่นหมายความว่าแต่ละทีมจะดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ภาพรวมของฟุตบอลเหนือกว่าผลประโยชน์เฉพาะบุคคล

แนวคิดปฏิรูปโครงสร้างฟุตบอลนี้ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาภายหลังความล้มเหลวในฟุตบอล ยูโร 2000 ที่ทีม "อินทรีเหล็ก" ร่วงตกรอบแรก โดยหลังจากนั้นฟุตบอลเยอรมันเดินหน้าแนวคิดเรื่องการพัฒนาเยาวชนขึ้นมาเป็นวาระสำคัญอันดับ 1 ทันที มาตรการที่ถูกดันขึ้นมาก่อนก็คือการกำหนดให้ทั้ง 36 สโมสรใน บุนเดสลีกา และ ลีกา 2 จะต้องลงทะเบียนผู้เล่นที่สามารถเล่นให้ทีมชาติได้อย่างน้อย 12 คนในแต่ละปี

ผลจากมาตรการนี้ปรากฏออกมาเป็นรูปธรรม นักเตะเยาวชนที่มีคุณภาพของเยอรมัน ถือกำเนิดขึ้นมามากมาย โดยที่ไม่ต้องถูกเบียดบังโอกาสจากผู้เล่นต่างชาติ

สุดท้ายแล้ว เลิฟ ยังย้ำให้เห็นข้อสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับทีมชาติก็คือ การเล่นในแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทีมชาติเยอรมนี เจ้าของผลงาน แชมป์โลก 3 สมัย และแชมป์ยุโรป 3 สมัย

"ผมไม่คิดว่าเราจะต้องไปกังวลเรื่องของคู่ต่อสู้มากเกินไป เราเล่นในเกมของเรา แสดงให้เห็นแนวทางการเล่นของเรา นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด นี่คือกระบวนการที่มันเป็นมาหลายปีแล้ว คุณต้องสร้างทีมด้วยผู้เล่นที่พร้อมจะมาเล่นด้วยกัน ผู้เล่นที่สามารถเล่นร่วมกันแล้วเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทำได้ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่ง"

"เราอยากแสดงให้ทีมอื่นๆ เห็นว่าเราก็สามารถจะสู้กับพวกเขาได้ด้วยเกมฟุตบอลในแบบของเรา และเราก็ประสบความสำเร็จมาตลอดด้วยแนวคิดนี้" เลิฟ กล่าว


Create Date :28 มิถุนายน 2555 Last Update :28 มิถุนายน 2555 21:45:46 น. Counter : 1324 Pageviews. Comments :0