เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมภาพประกอบจาก AFP picture
หลังจากศึกฟุตบอลยูโร 2012 ได้ระเบิดความมันส์ให้คอบอลได้ติดตามชมไปหลายนัดแล้ว ปรากฏว่ามีผลการแข่งขันพลิกล็อคกันไปหลายคู่เหมือนกัน และตอนนี้เกมการแข่งขันก็ยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการแข่งขันยูโร มาให้แฟน ๆ ได้อ่าน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมฟุตบอลให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันเลยดีกว่า ทีมชาติเยอรมัน คือ ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร เพราะสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 3 สมัย ได้แก่ ปี 1972, ปี 1980 (ขณะนั้นยังเป็นทีมชาติเยอรมันตะวันตกอยู่) และในปี 1996 นอกจากนี้ยังผ่านเข้าไปถึงรอบชิงได้อีกถึง 3 ครั้ง ในปี 1976, 1992 และ 2008 ส่วนทีมที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า 1 สมัย มีเพียงทีมชาติสเปน (ปี 1964, 2008) และทีมชาติฝรั่งเศส (ปี 1964, 2008)
มีเพียง 3 ประเทศเท่านั้น ที่สามารถคว้าแชมป์ได้ในบ้านของตัวเอง ได้แก่ ทีมชาติสเปน (ปี 1964), อิตาลี (ปี 1968) และฝรั่งเศส (ปี 1984)
แบร์ตี้ โฟกส์ คือ บุคคลเดียวในประวัติศาสตร์ ที่สามารถคว้าแชมป์ยูโรได้ทั้งในฐานะผู้เล่น และโค้ช โดยเขาได้แชมป์ในฐานะผู้เล่นทีมชาติเยอรมันตะวันตกในปี 1972 และในตำแหน่งโค้ชก็พาทีมคว้าแชมป์ได้ในปี 1996
ไม่มีชาติใดที่สามารถป้องกันแชมป์ได้เลย นับตั้งแต่จัดการแข่งขันมา เช่น ทีมชาติสหภาพโซเวียต ได้แชมป์ในปี 1960 และในปี 1964 ได้เข้าชิงแต่พ่ายแพ้ให้กับทีมชาติสเปนไป นอกจากยังมีทีมชาติเยอรมันตะวันตกที่คว้าแชมป์ได้ในปี 1972 แต่พลาดท่าในนัดชิงให้กับเช็กโกสโลวาเกียไปเช่นกัน
ไม่มีผู้เล่นคนไหนคว้าเหรียญชนะเลิศได้ 2 ครั้ง ไรเนอร์ โบนโฮฟ จะอยู่ในชุดที่เยอรมันตะวันตกคว้าแชมป์ได้ในปี 1972 และ 1980 แต่แชมป์ครั้งหลังเขาไม่ได้ลงเล่นเลยตลอดทัวร์นาเมนท์ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ
ทัพอินทรีเหล็ก เป็นชาติที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้าสู่การแข่งขันยูโรรอบสุดท้ายได้ติดต่อกันมากที่สุดถึง 11 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาตกรอบคัดเลือกไป ต้องย้อนกลับไปถึงปี 1968 ซึ่งสมัยนั้นยังเป็นทีมชาติเยอรมันตะวันตก รองลงมาเป็นทีมชาติฮอลแลนด์ทำได้ 7 ครั้งติดต่อกัน
ทีมชาติเยอรมัน เป็นชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้สูงสุดทั้งหมด 11 ครั้ง รองลงมาคือ ทีมชาติรัสเซีย 10 ครั้ง ส่วนฮอลแลนด์และสเปน 9 ครั้ง (ที่กล่าวมาคือรวมครั้งนี้ด้วย)
การแข่งขันนัดที่มีการทำประตูกันอย่างถล่มทลายมากที่สุดเกิดขึ้นในศึกยูโร 2000 รอบก่อนรองชนะเลิศระหว่าง ทีมชาติฮอลแลนด์กับยูโกสลาเวีย โดยทีมอัศวินสีส้มจัดการอัดยูโกสลาเวียไปด้วยสกอร์ 6 - 1
มีอยู่ 4 ชาติที่สามารถทำสถิติชนะรวดในเกมการแข่งขันรอบคัดเลือกของยูโร ได้แก่ สเปนและเยอรมัน (ปี 2012), ฝรั่งเศส (ปี 1992, 2004) และ สาธารณรัฐเช็ก (ปี 2000)
สเปน เป็นแชมป์เก่าในยูโรครั้งที่แล้ว (ปี 2008) และเจ้าของแชมป์โลกครั้งล่าสุด (ปี 2010) ซึ่งนับว่าเป็นชาติที่สามในประวัติศาสตรที่ครองสองตำแหน่งพร้อมกัน ก่อนจะเดินทางมาป้องกันรายการใหญ่อีกครั้ง เหมือนที่เยอรมันตะวันตกเคยเป็นแชมป์ยูโร 1972 และแชมป์โลกปี 1974 ส่วนอีกทีมหนึ่งคือ ฝรั่งเศส ซึ่งเคยเป็นแชมป์โลกปี 1998 และแชมป์ยูโร 2000 แต่ไม่มีทีมใดที่สามารถครองแชมป์รายการใหญ่ได้ 3 รายการรวด
มีนักเตะทั้งหมด 15 คน ที่มีชื่ออยู่ในทีมชุดดังกล่าวที่เป็นแชมป์ทั้ง 2 รายการ สำหรับเยอรมันตะวันตกได้แก่ เซปป์ ไมเออร์, ฟร้านซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์, ฮันส์ - จอร์จ ชวาร์เซนเบ็ค, พอล ไบร์ทเนอร์, อูลี่ เฮอเนส, แกรด มุลเลอร์ ส่วนฝรั่งเศสมี ฟาเบียน บาร์เตซ, มาร์แซล เดอไซยี่, บิเซนเต้ ลิซาราซู, ลิลิยง ตูราม, ดิดิเย่ร์ เดชองส์, ยูริ จอร์เกฟ, ปาทริค วิเอร่า, ซีเนอดีน ซีดาน และคริสตอฟ ดูการ์รี่
อีเกร์ กาซิยาส, เซร์คิโอ รามอส, การ์เลส ปูโยล, โจน คัปเดบีย่า, อันเดรส อีเนียสต้า, ชาบี้ เฮอร์นันเดซ, เชส ฟาเบรกาส, ชาบี้ อลอนโซ่ และ เฟร์นันโด ตอร์เรส เป็นนักเตะทีมชาติสเปนที่อยู่ในชุดแชมป์ยูโรปี 2008 และแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010
โลธ่าร์ มัทเธอุส เป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ได้ลงเล่นในยูโร โดยได้เล่นในนัดที่ทีมชาติเยอรมันของเขา ต้องปราชัยให้กับทีมชาติโปรตุเกสไปด้วยสกอร์ 3 - 0 ซึ่งขณะนั้นเขามีอายุได้ 39 ปี 91 วัน
อิวิก้า วาสติซ ผู้เล่นทีมชาติออสเตรีย คือ นักเตะอายุมากที่สุดที่ยิงประตูได้ในยูโร โดยเขายิงประตูให้ทีมในนัดที่เสมอกับทีมชาติโปแลนด์ไปด้วยสกอร์ 1 - 1 ในยูโร 2008 ด้วยวัย 38 ปี 257 วัน
โยฮัน ฟอนลันเตน นักเตะของทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูได้ในการแข่งขันยูโรรอบสุดท้าย โดยเขายิงประตูให้ทีมในนัดที่พ่ายแพ้ต่อทีมชาติฝรั่งเศสไป 1 - 3 ในยูโร 2004 ในขณะที่อายุได้ 18 ปี 141 วัน
คอสตาส ชาลคิอัส - เจโทร วิลเล่มส์
คอสตาส ชาลคิอัส ผู้รักษาประตูทีมชาติกรีซ คือ ผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในยูโร 2012 ด้วยวัย 37 ปี ขณะที่ เจโทร วิลเล่มส์ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดคนล่าสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวัย 18 ปี 71 วัน
ทีมชาติอิตาลี, ไอร์แลนด์, รัสเซีย และ สวีเดน มีนักเตะอายุเฉลี่ยมากที่สุด คือ 28 ปี ส่วนทีมชาติเยอรมันมีนักเตะอายุเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 24 ปี ในการแข่งขันยูโรครั้งนี้
มีผู้เล่นเพียง 5 คน ที่ได้ลงเล่นรอบสุดท้ายในทัวร์นาเมนท์ยูโรถึง 4 ครั้ง ได้แก่ โลธ่าร์ มัทเธอุส, ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร่, เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ และลิลิยง ตูราม
ดิมิทริ คิริเชนโก้ นักเตะทีมชาติรัสเซีย คือ คนที่ยิงประตูได้เร็วที่สุดในยูโร โดยเป็นนัดที่ทีมของเขาพบกับทีมชาติกรีซในยูโร 2004 ซึ่งเขาใช้เวลาเพียง 67 วินาที หลังกรรมการเป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน ก็ระเบิดสกอร์ได้สำเร็จ
ทีมชาติฮอลแลนด์ คือ ทีมที่ผลิตสกอร์ในรอบคัดเลือกยูโร 2012 ได้มากที่สุดถึง 37 ประตู ขณะที่ทีมชาตกรีซยิงได้น้อยสุดเพียง 14 ประตูเท่านั้น แถม 6 ประตู ในจำนวนดังกล่าว มาจากฝีเท้าของกองหลังอีกด้วย
คลาส - แยน ฮุนเตลาร์ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ คือ คนที่เบิกสกอร์ได้มากที่สุดในรอบคัดเลือกยูโร 2012 โดยยิงไปทั้งหมด 12 ประตู ส่วนอันดับที่ 2 ตกเป็นของมิโลสลาฟ โคลเซ่ หัวหอกทีมอินทรีเหล็ก ซึ่งยิงไปทั้งหมด 9 ประตู
มีโค้ชอยู่ 3 คน ในยูโร 2012 ซึ่งไม่ได้เกิดในประเทศที่ตัวเองคุมทีมอยู่ ได้แก่ เฟอร์นันโด ซานโตส (ชาวโปรตุเกส) คุมทีมชาติกรีซ, ดิ๊ค แอทโวคาท (ชาวฮอลแลนด์) คุมทีมชาติรัสเซีย และโจวานนี่ ตราปัตโตนี่ (ชาวอิตาลี) คุมทีมชาติไอร์แลนด์
โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ - เปาโล เบนโต้
โค้ชที่มีอายุมากสุดในยุโร 2012 คือ โจวานนี่ ตราปัตโตนี่ วัย 73 ปี ส่วนโค้ชที่อายุน้อยสุด คือ เปาโล เบนโต้ วัย 42 ปี
ยูโร 2012 จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้ายทั้งหมด 16 ชาติ และตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไปที่ประเทศฝรั่งเศสรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ รอบสุดท้ายจะมีทีมเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายเพิ่มเข้ามาเป็นทั้งหมด 24 ชาติ
โปรตุเกส คือ ทีมเจ้าภาพชาติเดียวที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อพลิกล็อคพ่ายให้กับทีมชาติกรีซไป 1 - 0 ในยูโร 2004
การแข่งขันฟุตบอลยูโรที่มีคนดูเดินทางมาชมถึงขอบสนามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ได้แก่ แมตช์รอบคัดเลือกระหว่างทีมชาติอังกฤษพบทีมชาติสก็อตแลนด์ ที่สนามแฮมป์เดน พาร์ค ในยูโร 1968 ซึ่งมีแฟน ๆ หลั่งไหลมาชมเกมราว 130,711 คนเลยทีเดียว ซึ่งผลการแข่งขันจบลงที่สกอร์ 1 - 1
ดาบิด บีย่า กองหน้าทีมชาติสเปน ที่ยูโรคราวนี้ไม่ได้เดินทางมากับทีมด้วย เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ เป็นนักเตะคนที่ 7 ที่ซัดแฮททริคได้ในทัวร์นาเมนท์ยูโร ต่อจากแพททริค ไคเวิร์ต, เซอร์จิโอ คอนไซเซา, มาร์โก ฟาน บาสเท่น, มิเชล พลาตินี่, เคล้าส์ อัลลอฟส์ และดีเตอร์ มุลเลอร์
อีเกร์ กาซิยาส ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน เป็นผู้เล่นที่ติดทีมชาติมากที่สุดในยูโร 2012 โดยรับใช้ชาติมาแล้วถึง 129 นัด
โปแลนด์ คือ ชาติที่มีอันดับโลกต่ำที่สุด (อันดับ 65) ที่เข้าร่วมแข่งขันในศึกยูโร 2012
ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ คือ ผู้ตัดสินเพียงคนเดียวในยูโร 2012 ที่เคยมีประสบการณ์ในการตัดสินเกมในรายการนี้มาก่อน
หลังจากที่ได้อ่านข้อมูลที่เรานำมาฝากกันไปพอหอมปากหอมคอกันเรียบร้อยแล้ว คงทำให้หลาย ๆ คนได้รู้เรื่องราวที่น่าสนใจของยูโร 2012 กันไปไม่มากก็น้อย ยังไงก็แล้ว ขอให้ทุกคนดูบอลกันให้สนุก และอยู่ห่างการพนันกันไว้นะครับ