ถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายปี สำหรับสโมสรจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ลงเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ทั้งที่ในฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซี เพิ่งจะผงาดคว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้สดๆ ร้อนๆ โดย "สิงโตน้ำเงินคราม" กับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถูกเขี่ยร่วงไปเรียบร้อยตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม

ส่วน "ปิศาจแดง" แมนเชสเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เพิ่งจบเส้นทางลงด้วยน้ำมือของ เรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เหลือเพียง อาร์เซน่อล ซึ่งก็คาดว่าคงไปไม่ได้ไกลกว่านี้ หลังจากเกมแรกแพ้ บาเยิร์น มิวนิค คาบ้านไปก่อน 1-3 โดยจะลงเล่นนัดที่สองที่ อัลลีอันซ์ อารีน่า ในสัปดาห์หน้า และหากไม่มีอะไรพลิกความคาดหมาย นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่ไม่เหลือตัวแทนจากลีกเมืองผู้ดีเลยในรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก

สำหรับผลงานที่ย่ำแย่ของทั้ง 4 ทีมย่อมส่งผลต่อโควต้าถ้วยยุโรปในส่วนของทีมสโมสรอังกฤษ เนื่องจากสถิติผลแพ้ชนะและการเข้ารอบในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรป้า ลีก 5 ปีย้อนหลัง จะถูก ยูฟ่า นำไปคิดเป็นค่าสัมประสิทธิ์เพื่อชี้วัดจำนวนโควต้าที่แต่ละชาติจะได้

ทั้งนี้จากอันดับคะแนนสัมประสิทธิ์ล่าสุด ลีกเมืองผู้ดีจะยังคงได้โควต้า แชมเปี้ยนส์ ลีก จำนวน 4 ทีมเท่าเดิมในฤดูกาล 2013-14 แม้จะถูกสเปนเบียดแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับ 1 แล้วก็ตาม