ภาพจากเวบ xslh.org


บล็อกภาค ๑
บล็อกภาค ๒
บล็อกภาค ๓
บล็อกภาค ๔
บล็อกภาค ๕


เข้าหน้ากินเจ ชวนเพื่อน ๆ มาไหว้้้้้เจ้าแม่กวนอิมกันค่ะ อัพบล็อกเที่ยวเมืองจีนค้างอยู่ตอนที่ห้าแล้วก็ไม่ได้อัพต่อสักที ช่วงนี้กินเจเลยได้จังหวะ ตั้งใจจะไปเมืองจีนหนนี้ก็เพราะมีโปรแกรมไหว้เจ้าแม่กวนอิมด้วย ดีใจที่ได้ไปกราบท่าน รู้สึกอิ่มบุญมาก ๆ เมืองซันย่าในไหหลำมีเจ้าแม่กวนอิมองค์ที่สูงที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่กลางทะเล เข้าไปหาข้อมูลในเวบ เจอกระทู้ เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า ที่คุณ Fortunism โพสเล่าเรื่องเมืองนี้และประวัติการสร้างเจ้าแม่กวนอิม ข้อมูลเพียบ ขออนุญาตนำมาลงบล็อกไว้ ขอบคุณมากค่ะ






ซานย่า ได้ชื่อมาจาก การมาบรรจบของแม่น้ำสองสายในลักษณะของตัว Y จนเป็นแม่น้ำซานย่า ที่บริเวณเมืองนี้ (三亚 อักษร 三 แปลว่า สาม) องค์การสหประชาชาติได้เลือกให้ซานย่า เป็นเมืองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ เพราะตั้งแต่ ประวัติศาสตร์จีนนับพันปีก่อน ปัจจุบันนี้เป็นเมืองที่มีผู้สูงอายุเฉลี่ยมากกว่า ๘o ปี จำนวนมากที่สุดของไหหลำ (ซึ่งถือเป็นมณฑลที่มีคนอายุยืนมากที่สุดของจีน)


มีเรื่องเล่าว่า นักปราชญ์จีนเลื่องชื่อ ซู ตง ปอ สมัยราชวงศ์ซ่ง ตอนที่โดนฮ่องเต้สั่งเข้ากรุ ก็ถูกส่งตัวมาที่ไหหลำ ตอนนั้นเขามีอายุประมาณ ๖๒ ปีแล้ว ก็คิดว่าตนเองอาวุโสมาก พอมาอยู่ไหหลำถึงพบว่าที่นี้มีคนสูงอายุมากกว่า ๘o ปีเกลื่อนกลาดไปหมด เวลานั่งร่วมโต๊ะ ซู ตง ปอ ยังต้องไปนั่งทานร่วมกับคนรุ่นหนุ่มอีก เพราะว่าคนสูงอายุที่ไหหลำนั้นล้วน ๗o ปีขึ้นไปกันทั้งนั้น จากเมืองหลวงไหข้าว (สำเนียงไหหลำ ของ haikou) มายังเมืองซานย่า เกือบ ๓oo กม ใช้เวลาเกือบ ๓ ชม. ถ้าเดินทางโดยรถยนต์ใช้ทางด่วน (จะนั่งเครื่องบินก็ได้)


ลัดเลาะจากตัวเมืองซายย่า ออกมาแถบชานเมืองใกล้ทะเลและภูเขาหนานซาน ประมาณ ๔o กม. ก็จะถึงเขตท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเขาหนานซาน ณ ซานย่า (Sanya Nanshan Cultural Tourism Zone)





นั่งรถไฟไปซันย่า ขึ้นรถที่สถานีเหวินชัง





มารอขึ้นรถไฟ สถานีค่อนข้างทันสมัยและกว้างขวางทีเดียว





วิวริมทางจะเห็นสีเขียว ๆ เป็นส่วนใหญ่









ไม่ก็วิวที่เห็นน้ำแบบนี้





ถึงแล้ว สถานีที่เมืองซันย่า





ลงรถไฟก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี ลุงพาไปกินที่ร้านในเมือง ลักษณะเหมือนบ้าน ไม่มีหน้าร้าน
ป้ายนี้อยู่ในร้าน เขียนได้สวยมาก ๆ อ่านจากขวาไปซ้ายว่า เซิงอี้เฮงหลง แปลว่า ค้าขายเจริญรุ่งเรือง





อาหารมีเมนูผักอยู่หลายอย่าง อร่อยหมดเลยค่ะ





ปกติร้านอาหารที่เมืองจีนจะเสิร์ฟน้ำชา แต่ร้านนี้เป็นสมุนไพร ทีแรกจะขอน้ำเปล่าเพราะไม่ดื่มชา
แต่พอรู้ว่าเป็นสมุนไพรเลยลองจิบดู ทั้งหอมทั้งอร่อย แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นสมุนไพรอะไร


ปัจจุบันเกาะไหหลำได้รับการสนับสนุนให้เป็นเกาะแห่งการท่องเที่ยวจากรัฐบาลจีน โดยเมืองซานย่าที่ชายหาดสวยเป็นตัวชูโรง แต่เดิมมณฑลไหหลำขาดแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม อันจะเป็นจุดเด่นอีกอย่างที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว จนเมื่อ คศ ๑๙๙๓ ภิกษุซื่อ หย่ง โซ่ว 释永寿 ได้ทำหนังสือเสนอต่อเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลไหหลำเสนอสร้างวัดริมชายหาดของเมืองซานย่า ท่านเลขาฯ จึงเกิดความคิดที่จะสร้างวัดสักแห่งหนึ่งให้เป็นสัญลักษณ์ทางศานาเพื่อสื่อถึงวัฒนธรรมของเกาะไหหลำ


การสำรวจเพื่อจัดหาสถานที่จึงได้ริเริ่มขึ้น จนนำไปสู่การสร้างวัด หนาน ซาน 南山寺 ที่ใหญ่โตที่สุดของจีน ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ จนกระทั่งได้มีการพัฒนาให้เป็นอภิมหาโครงการเรียกว่า "เขตท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งเขาหนานซาน" มีสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดคือ เจ้าแม่กวนอิม ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง ๑o๘ เมตร




ก่อนเข้าชมก็ต้องซื้อตั๋วก่อน



ซุ้มประตูธรรมปู๋เอ้อ 不二法门 คือ ประตูธรรมะระดับสูงที่สุด
ซึ่งผู้ใดแม้ได้ผ่าน ก็จักเข้าสู่เขตแดนแห่งพุทธ เข้าสู่วิถีแห่งธรรม อันนำไปสู่นิพพาน












ต้นไม้ตัดเป็นรูปนกยูงตัวใหญ่มากกกก





ทางเข้าไปชมเจ้าแม่กวนอิม





โปสเตอร์ภาพเจ้าแม่กวนอิมที่ติดไว้ด้านใน งามมาก ๆ ค่ะ


เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีชื่อเป็นทางการว่า "เจ้าแม่กวนอิมเหนือทะเลแห่งเขาหนานซาน" และมีอักษรจีนบนกระถางธูประบุไว้ที่ขอบสุดว่า เบิกพระเนตรเมื่อ ค.ศ. ๒oo๕ (พ.ศ. ๒๕๔๙) การจัดสร้างเจ้าแม่องค์นี้มีการประชุมวางแผนเริ่มต้นใน ๒๔ ม.ค. ๑๙๙๔ จนสรุปว่าจัดเข้าในโครงการในเดือนถัดมา ช่วงแรก ๆ ของโครงการวัดหนานซานที่ขัดสนนั้นได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากคหบดีมาเก๊า และไต้หวัน มาจุนเจือ เริ่มสร้างองค์เจ้าแม่จริง ๆ เมื่อ ค.ศ. ๑๙๙๙ ใช้เวลาทั้งสิ้น ๖ ปี โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๘ ร้อยล้านหยวน (ราว ๆ สี่พันล้านบาทไทย) ทั้งนี้รวมถึงส่วนที่เป็นอุทยานเจ้าแม่กวนอิม




เขามีไกด์พาเดินชม เราฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ได้แต่เดินตามไปเรื่อย ๆ
ระยะทางจากประตูทางเข้าไปถึงองค์เจ้าแม่ค่อนข้างไกลทีเดียว ก่อนถึงจะเดินผ่านอุทยาน
มีสิ่งก่อสร้างสวยงามและแปลกหูแปลกตาหลายอย่าง









เสาจารึกพระธรรม









อันนี้ไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร เป็นแท่งกลม ๆ น่าจะทำด้วยทองเหลือง
หมุนได้รอบ เดินไปก็ผลักให้หมุนทีละอัน ๆ









มีอักษรจีนสลักไว้ด้วย น่าจะเป็นบทสวดอะไรสักอย่าง
มีตัวอักษรหน้าตาแปลก ๆ ด้วย ไม่รู้ว่าเป็นภาษาอะไร





เจ้าแม่กวนอิมประดิษฐานอยู่กลางทะเล ต้องเข้าไปในชั้นใต้ดิน
มีทางเดินลอดไปถึงสะพานที่ทอดข้ามไปยังองค์เจ้าแม่อีกที
ข้างในจะมีภัตตาคารอาหารเจด้วย ผนังทางเดินสองข้างเป็นภาพสลักนูนต่ำ









เดินผ่านชั้นใต้ดินแล้วจะไปจ๊ะเอ๋กับสะพานที่ทอดไปถึงองค์เจ้าแม่ ความยาว ๒๘o เมตร
มองแต่ด้านตรง ไม่ทันสังเกต นี่ถ้าไม่ได้อ่านกระทู้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าแม่มีสามปางในองค์เดียวกัน





วิวทะเลถ่ายจากด้านขวาของสะพาน





ด้านซ้าย


เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้มีชื่อเป็นทางการว่า เจ้าแม่กวนอิมเหนือทะเลแห่งเขาหนานซาน และมีอักษรจีนบนกระถางธูประบุไว้ที่ขอบสุดว่า เบิกพระเนตรเมื่อ ค.ศ. ๒oo๕ (พ.ศ. ๒๕๔๙)


การจัดสร้างเจ้าแม่องค์นี้มีการประชุมวางแผนเริ่มต้นในวันที่ ๒๔ ม.ค. ปีค.ศ .๑๙๙๔ จนสรุปว่าจัดเข้าในโครงการในเดือนถัดมา ช่วงแรก ๆ ของโครงการวัดหนานซานที่ขัดสนนั้นได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากคหบดีมาเก๊า และไต้หวัน มาจุนเจือ เริ่มสร้างองค์เจ้าแม่จริงๆเมื่อ ค.ศ. ๑๙๙๙ ใช้เวลาทั้งสิ้น ๖ ปี โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น ๘ ร้อยล้านหยวน (ราว ๆ สี่พันล้านบาทไทย) ทั้งนี้รวมถึงส่วนที่เป็นอุทยานเจ้าแม่กวนอิม






ด้วยความสูงรวมฐานได้ ๑o๘ เมตร จึงได้รับการจดบันทึกในกินเนสบุ๊คว่า เป็นเจ้าแม่กวนอิมที่สูงที่สุดในโลก (สูงกว่าเทพีสันติภาพของอเมริกาอยู่ ๑๒ เมตร) วิศวกรออกแบบให้องค์พระสามารถทนความรุนแรงของไต้ฝุ่นระดับ ๑๔ ได้ ( ความเร็ว ๔๖ เมตร/วินาที) ซึ่งระหว่างก่อสร้างฐานของเจ้าแม่ได้ผจญกับไต้ฝุ่นระดับ ๑๒ ถึง ๒ ครั้ง เช่น เมื่อ ๕ ม.ค. ๒ooo และสามารถสอบผ่านได้ด้วยดี


ด้วยน้ำหนักที่หนักประมาณ ๒,๖oo ตัน ทำให้การเลือกตำแหน่งประดิษฐานขององค์เจ้าแม่เป็นเรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่ว่า ทั้ง ๆ ที่ทะเลแถบนี้ล้วนเป็นดินเลน แต่ตำแหน่งที่เลือกได้นั้นมีหินแกร่งอยู่ใต้ทะเล และเป็นช่วงว่างด้านซ้ายและขวาจะเป็นแนวเขาที่ทอดลงสู่ท้องทะเลของภูเขาหนานซาน นับเป็นชัยภูมิที่ดีเลิศราวกับฟ้าประทาน






ที่เลือกสร้างเจ้าแม่กวนอิม เพราะตามบันทึกในพระคัมภีร์นั้น พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ทรงตั้งพระมหาปณิธานไว้ ๑๒ ประการ โดยในประการที่สองนั้นคือ "ขอดำรงอยู่ ณ ทะเลใต้ ตลอดไป" อีกทั้งความเลื่อมใสของประชาชนที่เชื่อว่าพระองค์ได้บำบัดทุกข์ให้แก่คนในแถบทะเลใต้ จึงทำให้ชาวจีนนิยมเรียกว่า เจ้าแม่กวนอิมทะเลใต้ ดังนั้น จะมีที่ใดเหมาะสมไปกว่าที่ซานย่า เกาะไหหลำซึ่งอยู่ในทะเลจีนใต้


โครงการนี้เป็นอภิมหาโครงการระดับชาติและระดับโลกทีเดียว นอกจากต้องการให้เป็นศูนย์กลางแห่งศาสนาพุทธของโลกตะวันออกแล้ว ต้องมีความเป็นอารยธรรม โดดเด่นและมีความคิดสร้างสรรค์ ยังเน้นความเป็นเลิศระดับหนึ่ง ๔ ประการ ได้แก่ ๑. ออกแบบเป็นเลิศ ๒. เร็วเป็นเลิศ ๓. การจัดการเป็นเลิศ ๔. มาตรฐานเป็นเลิศ






แรกทีเดียว เคยออกแบบสร้างเจ้าแม่กวนอิมเป็นลักษณะ ๔ องค์หันหลังชนกัน เพราะจะได้มีแรกต้านไต้ฝุ่นได้ดีกว่าองค์เดี่ยว ๆ แต่เมื่อทำออกเป็นโมเดลแล้ว มีลักษณะที่เทอะทะไม่สวยงาม ซึ่งการปรับเปลี่ยนออกแบบเจ้าแม่นั้นมีหลาย ๑o ครั้ง จนกระทั่งมาลงตัวที่เจ้าแม่กวนอิมพระองค์เดียวที่มี ๓ อิริยบถ เสมือนเจ้าแม่กวนอิมแสดงอภินิหารแบ่งภาคเป็น ๓ องค์ อันเป็นแบบที่สง่างามและมีความคิดการสร้างสรรค์เป็นหนึ่ง






แล้วต้นแบบของเจ้าแม่กวนอิมที่จะจัดสร้างล่ะ เอามาจากไหน ?


ใครจะไปเชื่อว่า ภาพจิตรกรรมที่มีอายุมากกว่า ๘๓o ปี จะกลายมาเป็นต้นแบบของงานประติมากรรม จิตรกรผู้นั้นชื่อว่า จาง เซิ่น เวิน 张胜温 เป็นชาวเผ่าไป๋ที่เป็นจิตกรเอกในราชสำนักแห่งอาณาจักรต้าหลี่ โดยได้วาดภาพเกี่ยวกับพุทธสนา พระศาสดา โพธิสัตว์ ผู้เป็นศานานูปภัมภก เป็นต้นม้วนภาพนั้นวาดสำเร็จใน ค.ศ. ๒๒๘o และได้ถือเป็นรัตนะแห่งงานจิตรกรรม


ต่อมาได้ตกมาเป็นสมบัติของสมภารในวัด เทียน เจี้ย ซื่อ 天界寺 กรุงนานกิง ในยุคราชวงศ์หมิง และต่อมาเคยเป็นงานสะสมที่โปรดปรานของเฉียนหลงฮ่องเต้ในราชวงศ์ชิงอีกด้วย ก่อนที่จะถูกนายพลเจียง ไค เข็ก หยิบปลาชิ้นมัน คว้าไปเก็บสะสมที่ไต้หวัน ปัจจุบันยังคงเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์กถู้กง กรุงไทเป


งานจิตรกรรมชิ้นนี้คือภาพของพระอวโลกิเตศวรปางธรรมกาย (คือจะมีเพียงพระเศียรเดียว สองพระหัตถ์ อย่างปกติ อันเชื่อว่าเป็นลักษณะเดียวกับร่างบนแดนสุขาวดีของพระองค์ หรือเรียกว่า พระอารยอวโลกิเตศวร) ในภาพนั้นพระโพธิสัตว์ทรงถือสร้อยประคำ ประทับยืนบนกลีบบัว มีพุทธลักษณะที่สง่างาม พระพักตร์อิ่มเอิบ เปี่ยมด้วยความเมตตา





ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า


เจ้าแม่กวนอิมเป็นปางที่ประคองหีบบรรจุพระสูตรไว้ในอ้อมพระหัตถ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาอยู่ในวิตรรกมุทรา (ท่าแสดงธรรม) พระสูตรสำคัญนั้น ชื่อมหาปรัชญาปารมิตาสูตร ซึ่งมีอยู่ ๖oo ผูก

เจ้าแม่กวนอิมปางถือหีบพระสูตร แสดงถึง ปัญญา เป็นสติปํญญาที่ดีเลิศเพราะเจ้าแม่สามารถรู้แจ้งเห็นจริงในพระสูตร เพ่งเห็นขันธ์ ๕ เป็นความว่างเปล่า จึงข้ามพ้นทุกข์ แล้วนำมาเผยแผ่ให้สัตว์โลกเพื่อปฎิบัติตนให้พ้นทุกข์ต่อไป หีบพระสูตรในพระหัตถ์นั้น จากภาพอาจจะดูไม่ใหญ่โตอะไร แต่ความจริงก็มีขนาดยาวถึง ๘.๕ เมตร ความกว้าง ๑.๕ เมตร






เจ้าแม่กวนอิมปางถือสร้อยประคำ แสดงถึง ความเมตตา โดยพระองค์ทรงปรารถนาที่จะชักนำมวลมนุษย์ให้หลุดพ้นจากทุกข์และบ่วงกรรม อันแสดงถึงความมีพระเมตตากรุณาปรานีของพระองค์ จากมุมนี้เห็นเจ้าแม่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์ ขับเน้นให้ผุดผ่องยิ่งขึ้นโดยน้ำทะเลสีน้ำเงินและท้องฟ้าสีคราม ฐานบัวสีทองใต้องค์พระสูง ๑o เมตร มี ๔ ชั้น แต่ละชั้นเป็นกลีบบัวลักษณะเดียวกัน ๒๗ กลีบ รวมเป็น ๑o๘ กลีบ (เลขเดียวกันกับความสูงขององค์พระ) สร้อยประคำก็มีเม็ดประคำ ๑o๘ เม็ดเช่นกัน ซึ่งแต่ละเม็ดมีเส้นผ่าศูยน์กลาง ยาว ๒๕ – ๓o ซม.


เกาะรูปวงกลมที่ประดิษฐานองค์พระและรากฐาน เป็นเกาะสร้างขึ้นโดยการถมที่ในทะเล เรียกชื่อว่า เกาะวัชระ มีดส้นผ่า ศก. ๑๒o เมตร ฐานขององค์พระจะเห็นว่ามีช่องประตูทางเข้า เป็นวิหาร ๗ ชั้น (โดยรวม ชั้นใต้ดิน ๑ ชั้นด้วย) ภายในบรรจุรูปเจ้าแม่กวนอิม ๙๙,๙๙๙ องค์





ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า


เจ้าแม่กวนอิมปางถือดอกบัวแสดงถึง ความสงบสันติ บัวเป็นสัญลักษณ์แห่งสัตบุรุษ ด้วยอานุภาพแห่งพระองค์โน้มนำให้มนุษย์ซึ่งเกิดในแดนทุกข์ ปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้นจากวัฎฎสงสารสู่แดนสงบ ดังดอกบัวเกิดแต่ตม แต่ไม่เปื้อนตม ดอกบัวขององค์พระยาว ๕ เมตร


เจ้าแม่กวนอิมนี้สร้างขึ้นจากโลหะผสม (โลหะอัลลอยด์) แล้วทาฉาบด้วยสารที่ทีมงานเขาบอกว่าเป็นชั้นเคลือบผิวซึ่งทนทานได้ถึง ๑๕-๒o ปีโดยที่ไม่แปรสภาพเป็นผงฝุ่น คือสาร Fluoro Polymer สีขาว ซึ่งมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ไม่ทำปฎิกิริยากับความเค็มของไอทะเล จึงไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นอย่างเทพีเสรีภาพของอเมริกาที่สร้างจากทองแดง จึงเขียววันเขียวคืนเป็นคุณย่าทวดเขียวแล้ว





ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า


ตั้งแต่เบิกพระเนตรจ้าแม่กวนอิมเหนือทะเลนี้แล้ว เกาะไหหลำไม่เคยประสบกับพายุไต้ฝุ่นอีกเลยเป็นเวลา ๕-๖ ปีแล้ว ชาวจีนจึงเชื่อว่าเป็นความศักดิ์ของของเจ้าแม่ เพราะแต่ก่อนนั้นเจอพายุกันแทบทุกปี ชาวบ้านยังลือกันว่า ที่อภิมหาโครงการได้รับการอนุมัติและสร้างเสร็จอย่างรวดเร็ว เพราะว่าอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อ หมิน สมัยที่ยังเป็นเพียงมือรองนั้น เคยมีพระอาจารย์ทำนายดวงว่าจะได้เป็นผู้นำประเทศ ถ้าหากได้สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่โดยการสร้างวัด อีกทั้งชื่อแซ่ของท่านมอาจตีความหมายว่า สายน้ำ ทำให้ ประชาชนเปียกปอน (เพราะเจอไต้ฝุ่น...เสริม) ดังนั้น ถ้าสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้านทานไต้ฝุ่นได้แล้ว อนาคตจะรุ่งเรือง ประชาขนจะสบาย









ไม่ได้เตรียมธูปไปด้วย คิดว่าน่าจะมีขายแต่มองหาไม่เห็น โชคดี ก่อนที่จะเข้าไปไหว้เจ้าแม่
อยู่ดี ๆ มีผู้หญิงคนนึงเดินตรงเข้ามาหาแล้วยื่นธูปสีสวยตกแต่งด้วยตัวอักษรจีนงดงามให้สามดอก
แอบดีใจ คิดว่าเจ้าแม่กวนอิมคงรับรู้ว่าเรามากราบท่าน









เห็นอักษรจีนงาม ๆ ทีไร อดใจไม่ได้สักที









ภาพนี้ทำให้รู้สึกได้เลยว่าเจ้าแม่องค์ใหญ่จริง ๆ เห็นคนเดินอยู่ตรงกลางรูปตัวนิดเดียว





ไหว้เจ้าแม่กวนอิมแล้วก็นั่งรถพ่วงไฟฟ้าที่พาชมสถานที่
รถแล่นช้า ๆ แชะภาพสวย ๆ ได้หลายภาพเลย วิวนี้ถ่ายออกมาแล้วชอบที่สุด





ลายมือพู่กันจีนงาม ๆ









ไหว้เจ้าแม่แล้วก็เดินเข้าไปชมวัดหนานซาน













เดินต่อเข้าไปข้างในอีกอาคารนึง















ภายในประดิษฐานพระอมิตาภพุทธเจ้า และทรงมีพระผู้เป็นอัครสาวกอยู่ ๒ พระองค์
องค์ที่ประทับทางเบื้องซ้ายของพระอมิตาภะคือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (觀 世音菩薩)
และทางเบื้องขวา คือ คือ พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ (大勢至菩薩)





ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า



ผนังฟากซ้ายและขวาจะประดิษฐานท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่
คู่ด้านขวา ท้าวธตรฐ (ทรงถือขวาน ด้ามยาว) 东方持国天王 รักษาโลกด้านทิศตะวันออก
ทำหน้าที่ปกครองเทวดา ๓ จำพวกได้แก่ กุมภัณฑ์ วิทยาธร คนธรรพ์
ท้าววิรุฬหก (ทรงถือกระบี่) 南方增长天王 รักษาโลกด้านทิศใต้ ทำหน้าที่ปกครองครุฑ







คู่ที่ฝาผนังด้านซ้าย คือ ท้าววิรูปักษ์ (ถือสามง่าม) 西方广目天王
รักษาโลกด้านทิศตะวันตก ทำหน้าที่ปกครอง นาค
ท้าวกุเวร (ถือเจดีย์) 北方多闻天王 รักษาโลกด้านทิศเหนือ ทำหน้าที่ปกครอง ยักษ์





ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า



พระอุโบสถใหญ่โตมโหฬารของวัดหนานซานปรากฎอยู่ที่เบื้องสูง เป็นวัดในแบบสมัยราชวงศ์ถัง มีฉากหลังคือภูเขาหนานซาน (ภูเขาทิศใต้) ส่วนด้านหน้าของอุโบสถจะหันสู่ทะเลจีนใต้ วัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่โตที่สุดของทางใต้


วัดหนานซานนี้เริ่มก่อสร้างเมื่อ ๑๑/๑๑/๑๙๙๕ แล้วเสร็จเมื่อ ๔/๑๒/๑๙๙๘ ซึ่งเป็นปีที่จีนเฉลิมฉลองการครบรอบ สองพันปีของการเผยแผ่ของศาสนาพุทธเข้าสู่ ปท จีน วัดนี้ตั้งชื่อตามภิกษูรูปหนึ่งในสมัยถังชื่อว่า "หนาน ซาน" จง อีกชื่อหนึ่งคือพระภิกษุเจี้ยนเจิน高僧鉴真 เป็นผู้ไปเผยแพร่ศาสนาพุทธที่ ปท ญี่ปุ่น และเป็นที่เคารพนับถือของชาวญี่ปุ่นมาก แต่กว่าที่ท่านจะข้ามน้ำข้ามทะเลไปได้นั้น ต้องเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นถึง ๕ ครั้ง จนได้มาพักอาศัยและสร้างวัดที่ภูเขาหนานซานเป็นเวลา ๑ ปี ก่อนจะข้ามไปยังญี่ปุ่นได้สำเร็จในครั้งที่ ๖


ภูเขาหนานซานมักเป็นภูเขาที่คนจีนใช่เปรียบเปรยว่า มีอายุยืนยาวเหมือนภูเขาหนานซาน ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องเกินจริงแม้แต่น้อย เพราะว่าที่ไหหลำ ซานย่านั้น มีสถิติว่าคนอายุยืนชุกชุมมากกว่าที่ใด ๆ ในประเทศจีน





ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า





ไหว้พระแล้วก็เดินลงมาชมวิวด้านล่าง มีลานกว้างมาก วิวงามขนาด
มองไปเห็นเจ้าแม่กวนอิมประทับยืนเหนือทะเล









ภาพจาก กระทู้เจ้าแม่กวนอิม ณ ซานย่า


อัพบล็อกเฉพาะกิจ พาเที่ยวเมืองจีนแต่ไม่ต้องโหวตให้เน้อ เก็บคะแนนให้คนที่เขียนบล็อกท่องเที่ยวตัวจริงดีกว่า แต่ถ้าคันไม้คันมืออยากโหวตหมวดศิลปะให้ก็คลิกบล็อกข้างล่างเลย ขอบคุณมากค่า



บล็อกคุณปอนอาทิตย์นี้

เชียงรายยังรัก



เสพงานศิลป์สองบล็อกล่าสุดค่ะ

เสพงานศิลป์ ๕๘
เสพงานศิลป์ ๕๙



บีจีจากคุณญามี่

Free TextEditor