ถึงเวลามารื้อปรับ ระบบพัฒนาคนกันใหม่ (8)
ถึงเวลามารื้อปรับ ระบบพัฒนาคนกันใหม่ (8)
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต ป.ธ.๙)
เมื่อคนพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เขามีคุณธรรมเกิดขึ้นในใจ เช่น เกิดมีเมตตาหรือไมตรี มีความรัก คราวนี้พฤติกรรมที่ไม่เบียดเบียนหรือช่วยเหลือกันนั้น เขาทำอย่างเต็มใจเลย การที่จะไม่เบียดเบียนนั้น ไม่ต้องไปบอกไปสั่ง มันเป็นไปเอง เพราะมันไม่คิดจะเบียดเบียน และอยากช่วยเหลือเลยทีเดียว คราวนี้พฤติกรรมกับจิตใจก็สอดคล้องกัน พอเต็มใจ พฤติกรรมก็สมบูรณ์ จริงจัง มั่นคง คนที่ทำก็มีความสุข ทำให้พฤติกรรมที่ดีนั้นเต็มที่และยั่งยืน ฉะนั้นพฤติกรรมกับจิตใจจึงต้องสอดคล้องกัน
ทีนี้ จิตใจกับปัญญา ถ้าปัญญารู้คุณค่า เห็นประโยชน์ เข้าใจเรื่องราว ก็ทำให้สภาพจิตเปลี่ยน เช่น จำได้ตามที่ผู้ใหญ่สอนมาว่า พฤติกรรมนี้ไม่เบียดเบียนและเป็นการสร้างสรรค์ แต่จิตใจยังไม่เต็มใจที่จะทำ ต่อมาพอมีปัญญารู้ว่านี่นะพฤติกรรมนี้ดีมีประโยชน์ มีคุณค่า มีเหตุผลอย่างนั้นๆ ก็กลายเป็นเต็มใจ
เพราะบางครั้งปัญญาอาจจะเปลี่ยนสภาพจิตชนิดที่ถึงกับพลิกตรงข้ามไปเลย เช่น เราเห็นคนผู้หนึ่งเดินมามีกิริยาท่าทางและพูดจาไม่ดี เราก็มีปฏิกิริยา โกรธ จิตใจไม่ดี และพฤติกรรมก็มีหวังไม่ดีด้วย แต่พอมีคนมาชี้แจงว่าที่ท่าทางและคำพูดของเขาไม่ดีนี่ เพราะเขามีเรื่องกดดันไม่สบายใจ พอฟังคำอธิบายไปเราเกิดปัญญา รู้ เข้าใจเขา จากความโกรธเราเปลี่ยนเป็นสงสารเห็นใจเลย ปัญญานี้มาทำให้สภาพจิตเปลี่ยนจากความขัดเคืองกลายเป็นกรุณาสงสารเห็นใจ แล้วส่งต่อออกมายังพฤติกรรมให้ดีไปด้วย
กล่าวโดยย่อ ปัญญามีบทบาทสำคัญที่ส่งผลทั้งต่อพฤติกรรมและต่อจิตใจ กล่าวคือ ปัญญาเป็นตัวชี้นำ บอกทาง กำหนดและขยายขอบเขตการทำงานของพฤติกรรมและจิตใจ ตลอดจนทำหน้าที่ช่วยปลดปล่อยพฤติกรรมและจิตใจให้เป็นอิสระ ยกตัวอย่างเช่น เราจะทำพฤติกรรมต่างๆ ทางกายก็ตาม ทางวาจาก็ตาม ได้มากน้อยแค่ไหน ละเอียดซับซ้อนเท่าใด และได้ผลดีหรือไม่ ก็อยู่ที่ปัญญาของเรา เมื่อเรารู้เข้าใจมีปัญญามากขึ้น พฤติกรรมและจิตใจของเราก็สามารถขยายขอบเขตการทำงานให้กว้างขวางลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เราไปพบสถานการณ์อะไร หรือเจอปัญหาอันใด ถ้าเราไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าเราจะปฏิบัติต่อมันอย่างไร จิตใจจะรู้สึกอึดอัดบีบคั้นขัดข้อง พูดง่ายๆ ว่า เกิดความทุกข์ทันที แต่พอรู้เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร จะปฏิบัติต่อสิ่งนั้นอย่างไร จะแก้ปัญหาได้อย่างไร คือปัญญามา ก็จะหลุดโล่ง หายอึดอัดขัดข้อง หมดทุกข์ทันที
พร้อมกันนั้น พฤติกรรมที่ถูกจำกัดหรือขัดข้องติดตันอยู่ก็ดำเนินต่อไปได้ ปัญญาจึงเป็นตัวปลดปล่อยจิตใจและพฤติกรรมให้เป็นอิสระ จิตใจต้องอาศัยพฤติกรรม จิตใจมีความต้องการต่างๆ และจิตใจก็อาศัยพฤติกรรมเป็นเครื่องมือที่จะสนองความต้องการของมัน ความสมปรารถนา และการได้มาซึ่งความสุขของจิตใจมากมายทีเดียว เกิดจากพฤติกรรมเป็นตัวสนอง และในทางกลับกัน พฤติกรรมใดที่ช่วยให้จิตใจมีความสุข หรือมีความพอใจ พฤติกรรมนั้นก็จะดำเนินไปได้อย่างแข็งขันคล่องแคล่วและจริงจังยั่งยืน
หน้า 31
Create Date : 05 เมษายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 5 เมษายน 2555 15:23:42 น. |
Counter : 773 Pageviews. |
|
|
|