ชื่อย่อภาษาอังกฤษ คือ BIA ... "สถานธรรม" แบบครบวงจร
เป็นอาคารปูนเปลือย 3 ชั้น งามสง่าเข้ากับ ยุคสมัยปัจจุบัน แบบ
ที่ไม่ต้องมีการปรุงแต่งใดๆเลย นอกจาก " ข้อความหลักธรรมคำสอน "
ที่ผู้มาเยือนได้อ่าน แล้วคิดสะกิดใจในหลักธรรมคำสอนนั้นๆ นี่คือป้าย
อันแรก ที่เดินเข้ามาถึง ต้องหยุด สะดุดตา ให้อ่านกันก่อนค่ะ
สมกับที่เป็น "สถานธรรม"








ตามที่ได้เกริ่นไว้จากบล๊อกที่แล้ว **คลิกอ่าน "นิทรรศการภาพถ่ายวิถีวิเวก"


วันนี้จขบ. ขอพาเพื่อนๆมารู้จักสถานที่ ๆ รวบรวมธรรมะ ให้ชาวกรุง
และทุกๆคนผู้สนใจศึกษาธรรม ให้เข้าถึงหัวใจของพุทธศาสนาแบบ
จิตบริสุทธิ์ ไม่ปรุงแต่ง เป็นความสุขทางใจ ที่ควบคู่ไปกับความสุข
ทางกาย ที่เราต้องเจอะเจอในสังคมเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยไฮเทคโนโลยี
หรือยุคดิจิตอล อย่างไรเสียเราก็ไม่ทิ้ง หาความสุขบริสุทธิ์ให้ใจเราด้วย









☆หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ☆ (สวนโมกข์กรุงเทพ)


สถานที่ตั้ง : สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ถนน นิคมรถไฟสาย ๒
แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ๑๐๙๐๐


☆ ☆ ☆ ☆ ☆

ได้เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จัดตั้งเพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัย การเฉลิมฉลอง
ครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๔๙ และการเฉลิม
พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา พ.ศ. ๒๕๕๐











นอกจากจะเป็นสถานที่เก็บรวบรวมมรดกธรรมแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้
และสถานบริการ ด้านศาสนธรรมแบบอื่นๆอีกด้วย






ชมบรรยากาศโดยรอบที่อยู่ตรงหน้า ประทับใจมากๆ เป็นครั้งแรกอีกละ
ที่ จขบ.ได้มาเห็นกับตา นอกจากได้เห็นผ่านสื่อทางทีวีอยู่บ้าง ขอบอกว่า
กลิ่นอายของสถานที่ น่านำพาตัวเองออกมาสู่โลกธรรมะ จากที่แห่งนี้
ไม่ต้องไปถึงวัดก็ได้ แค่เห็นสายน้ำ น้ำพุ ลมพัดเย็นๆจากธรรมชาติ
ต้นไม้สีเขียวๆ กับความเงียบสงบรอบข้าง ได้บรรยากาศเข้ากันอย่างดี

เราเห็นบางคนกำลังนั่งอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียวก็มี นั่งสมาธิ -
สวดมนต์ภาวนา หรือ สอนเด็กๆสวดมนต์ ก็มี เห็นจิตอาสากำลังบีฟ
งานให้น้องๆ จนเราเกรงใจไม่กล้าเดินส่งเสียงดังรบกวนเลยละค่ะ








มองไปทางซ้ายมือ ก็จะเห็นลานดิน ที่เรียกว่า ลานริมสระนาฬิเก
ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนริมสระน้ำ หรือปลีกวิเวก



















น้ำพุ กลางสระน้ำ

น้ำพุสูงที่สุดในประเทศไทย พ่นน้ำสูงถึง 72 เมตร
หมายถึง การเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระชนมพรรษา 72 พรรษา














● โถงชั้นล่าง เปิดโล่งตลอด สามารถรับอากาศธรรมชาติได้อย่างดี
พื้นก็เป็นพื้นไม้ ที่เห็นเป็นเนื้อไม้เพียวๆ ไม่มีการปรุงแต่งให้ขึ้นเงาเลยค่ะ
บ่งบอกถึงความงามตามธรรมชาติ ไม่ต้องเสกสรรค์ปั้นแต่งใดๆเลย






● มีโต๊ะ เก้าอี้ ให้เรานั่งอ่านหนังสือ หรือ นั่งปล่อยอารมณ์ทำสมาธิก็ได้

















ทางเดินเชื่อมต่อ จากอาคารหอจดหมายเหตุ ฯ ลงไปยังสวนรถไฟได้









● อีกฝั่งตรงข้าม จะเรียกว่า ลานหินโค้ง ลอกแบบมาจากสวนโมกข์ ที่ไชยา
เป็นลานกลางแจ้งที่สัมผัสธรรมชาติ สำหรับใช้เป็นที่ปฎิบัติพิธีกรรม
หรือ กิจกรรมต่างๆ ในวันสำคัญ ๆ











● ตรงกลางกำแพง ลานหินโค้ง ... ประดิษฐาน พระอวโลกิเตศวร
เป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญของพระพุทธศาสนา ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุด







● มี ภาพพุทธประวัติ ที่แกะสลักบนหินทราย





ซึ่งจำลองมาจากภาพพุทธประวัติชุดแรกจากอินเดีย ซึ่งถือว่ามีความครบ
ถ้วนสมบูรณ์มากกว่าแห่งใดในโลก เริ่มตั้งแต่ภาพประสูติ ถึงปรินิพพาน
และจบด้วยภาพโทณพราหมณ์แจกจ่ายพระบรมสารีริกธาตุ
รายเรียงอยู่บนผนังทั้งสองด้าน พร้อมคำบรรยายเรื่องราว








ภาพพุทธประวัติบางส่วน บนหินทราย ให้เห็นใกล้ๆค่ะ














ห้องหนังสือและสื่อธรรม



รวบรวมผลงานของท่านพุทธทาส และหนังสือธรรมะอื่น ๆ ที่ได้คัดสรรแล้ว
ให้เลือกอ่านหลายหมวดหมู่ เพื่อประโยชน์ในการศึกษาพุทธศาสนา
เพื่อการอ้างอิง หรือเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน

นอกจากหนังสือแล้ว ยังมีสื่อธรรมในรูปแบบอื่น ๆ เช่น CD, DVD, เสื้อ,
รูปภาพ ฯลฯ ไว้ให้เลือก จะซื้อกลับไปอ่านที่บ้านก็ได้ตามชอบ... หรือ
จะนั่งอ่านเก็บบรรยากาศสงบๆ ที่นี่ก็มีจัดสถานที่ไว้ให้นั่งอ่านกันด้วยค่ะ













**ไอเดียดีนะค่ะ ที่นำเอาคำสอนของท่านพุทธทาส บางส่วนที่เป็น
ลายมือท่านพุทธทาสเขียนไว้ มาตกแต่งบนป้ายไฟให้อ่านด้วย

















หากเราสนใจเล่มไหน ก็สามารถซื้อได้ ที่นี่เป็น ระบบบริการตนเอง
มีป้ายให้เราดำเนินการตามขั้นตอน ที่เขาเขียนไว้ตามนี้เลยค่ะ












● ขึ้นบันไดไปชั้น ๒ มีพระพุทธรูปสีขาว ตั้งอยู่ตรงกลาง
พร้อมภาพเขียนสีบนผนังโดยรอบ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ











บน ชั้น ๒ มีห้องหลักๆอยู่ 2 ห้อง คือ
" ห้องนิทรรศการนิพพานชิมลอง " กับ
" ห้องปฎิบัติธรรมและประชุมสัมนา "
(ทั้ง 2 ห้องนี้ จขบ ไม่ได้เข้าไปเพราะเห็นผู้ปฎิบัติธรรม กำลังใช้งานอยู่ค่ะ)










จะเห็นภาพปริศนาธรรม ซึ่งมีทั้งหมด ๙ ภาพ
ติดอยู่บนผนังภายในอาคารสวนโมกข์ กรุงเทพ แต่ละภาพ แฝงไป
ด้วยเรื่องราวและคำสอน ของพระพุทธเจ้า ที่สามารถนำคำสอนเหล่านี้
มาปรับใช้ในชีวิตเพื่อให้เป็นสุขได้ ...















บนอาคารชั้น ๒ นี้มีส่วนที่เป็นสวน ชื่อว่า " สวนปฎจจสมฺปบาท "
ไว้เดินจงกรม หรือนั่งสมาธิด้านนอกกับวิถีธรรมชาติด้วยค่ะ







ลานด้านหน้า ตรงห้องหนังสือ และสื่อธรรมชั้นล่าง








ปิดท้าย ด้วย ความร่มรื่นของ " สวนวชิรเบญทัศ "
(สวนรถไฟ) และบรรยากาศรอบ ๆ อีกมุมหนึ่งค่ะ


































มี ลานจอดรถ บริเวณประตูทางเข้า










** คลิก แผนที่ สวนโมกข์ กรุงเทพ

** หากเพื่อนๆสนใจร่วมกิจกรรมที่ จัดประจำที่
หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ

คลิก กิจกรรมสวนโมกข์ กรุงเทพ
คลิก ปฏิทินกิจกรรม ประจำเดือน กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖









บันทึกของท่านพุทธทาส กล่าวว่า ...








หวังว่าเอนทรี นี้ คงเหมาะต่อผู้สนใจ และ
อยากเรียนรู้ หาความสุขทางศาสนา เพื่อ
กล่อมเกลาจิตใจ ให้เกิดความสงบสุข เย็น
และเป็นประโยชน์ด้วยกันนะค่ะ

เราขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่ให้
เพื่อนๆทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน ได้รู้จักแหล่ง
ศาสนธรรมที่ดีมากๆ แห่งนี้ค่ะ

"ขอบคุณทุกๆท่าน...ที่
ติดตามชมค่ะ"