lliliil Work it harder, Make it better, Do it faster, Make us Stronger liilill
space
space
space
<<
พฤศจิกายน 2566
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
space
space
3 พฤศจิกายน 2566
space
space
space

เรื่องสยองของคนนอนไม่หลับ


อาการนอนหลับยากของผมยังคงอยู่ตลอดวีคนี้อ่ะครับ
ขอใช้คำว่า "อาการนอนหลับยาก" เพราะมัน Represent สุดแล้ว
เพราะผมไม่ได้นอนไม่หลับ เอาจริงๆ ฝันสนุกทุกคืนครับ 55555
แต่จุดที่มีปัญหาคือ ช่วงเริ่มต้นการนอน
ปกติ 5นาที 10 นาทีผมก็เรียบร้อย แน่นิ่งไปแล้ว ไม่มีได้เห็นพลิกไปพลิกมา
แต่ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หรือก่อนหน้านั้นอีก
ผมใช้เวลา 30นาที บางวัน 1 ชั่วโมงกว่าจะหลับ




น้ำแอร์ก็หยด ติ๋งๆๆ ทั้งคืน.....



ถ้าหลับแล้วก็จบครับ เงียบไปเลย แต่จะตื่นกลางคืนแบบไม่มีเหตุ
เมื่อคืนถ้าตื่นจริงจังนี่ก็ป่วยฉี่ สาเหตุอื่นไม่ค่อยมี
ระยะนี้ตื่น ตี 2 กว่า ตี 3 ทุกวัน แล้วก็นอนต่อลำบาก คือกว่าจะหลับใช้เวลานาน
ยิ่งไม่หลับก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งหงุดหงิดก็ยิ่งไม่หลับไปอีก


ทีแรกผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร นึกไปถึงกาแฟก่อนเพื่อน
เลยงดดื่ม ชา กาแฟ ไปก่อน ซึ่งปรากฎว่าไม่ได้ช่วย
แถมช่วงทุ่ม ทุ่มครึ่งนี่ผมจะหลับให้ได้ หมดแรง หงอยแบบออกหน้าออกตา
และไม่รู้ว่าเพราะอะไรซักอย่างที่กระทบกับการนอน หรือ เพราะไม่ได้ขาดกาแฟ
ผมเหมือนจะหงุดหงิดง่ายขึ้นซักหน่อย อะไรไม่เข้าหูเข้าตาง่ายขึ้น







ซึ่งอาทิตย์นี้ผมก็ของขาดมือซะด้วย เพราะผมไม่ได้พาพัทออกไซต์
ด้วยเหตุผลส่วนตัวครับ บอกกล่าวพัทเป็นเหตุเป็นผล (แต่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ 555)
แล้วออกทำงานกับไนท์ แต่พี่ ผจก ขอฝากปริ๊นซ์ (ที่ไม่ใช่ผมนะ) ให้พาไปไซต์ด้วย
เพราะอยากให้ปริ๊นซ์ได้ประสบการณ์สายลูกค้าผมด้วย 
ซึ่งแน่นอน ผมกับปริ๊นซ์ไม่ได้ทำงานด้วยกันบ่อยๆ อยู่มาปีนึงได้เคยออกด้วยกันแค่ 2-3 ครั้ง
โดยผมเข้างานแทนหัวหน้ามันเวลาพี่ ผจก ติดงานอื่น
ทำให้วันฮาโลวีนของผม ผมออกไซต์ แต่ได้รับไลน์จากพัทแต่เช้า

ไอ่ผมก็รีบเปิดอ่าน เพราะถึงพัทจะไม่ได้ออกหน้างาน แต่มันจะเตรียมข้อมูลทุกอย่างให้
แล้วซัพพอร์ตทุกอย่างอย่างละเอียด ผมนี่เปิดอ่านไลน์ระหว่างขับรถเลย
แต่เปิดมานี่......เป็นข้อความ.... "ดูออกไหม เรากับพราวแต่งเป็นอะไร"
พร้อมภาพไอ่พัท ถ่ายคู่กับพราว ที่แต่งตัวธีมฮาโลวีน 55555555
เวร!!!!
"แอล กับ ออร์แฟน"   ผมหมายถึงแอล จากDeath Note กับ ออร์แฟน จาก Orphan






"ถูกต้อง พี่เก่งวะ"
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับ เพราะขับรถอยู่ แค่ยิ้มกับตัวเอง




กิ๊ฟติดผมนี่หลานสั่งให้ผมติดออกจากบ้านมา 555 
บอกว่า ฮาโลวีน เดย์ นะน้าปริ้น   แต่ขึ้นรถก็ถอดแล้วครับ 




ไปถึงไซต์ก็บรีฟงานกับทีมงานก่อน 
ไนท์เขียนแผนงานไว้บนไวท์บอร์ดเรียบร้อยแล้ว พร้อมวางกระดาษงานไว้ให้ลูกค้า
พร้อมวางใบหนึ่งให้กับผมเอาไว้ดูเป็น Referance 
พอเริ่มประชุม  ไนท์เป็นคนบรรยาย แต่ทำไมมันพูดขาดๆ เกินๆ วะ
บางเรื่องต้องพูดก็ไม่พูด บางเรื่องพูดวนหลายรอบ แถมฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
จนผมต้องคอยพูดเพิ่ม เสริมเนื้อหาเป็นระยะๆ
ไนท์ก็เหมือนรู้ตัว เพราะปกติผมจะไม่แทรก มันเลยเอามือตบพนักเก้าอี้ผมเบาๆ 
พร้อมพยักหน้า เหมือนพยายามจะสื่อว่า "ขอบคุณ"


ถึงช่วงที่ผมจะนั่ง negotiate เรื่อง deep detail 
ไนท์จะบรีฟว่าวันนี้จะทำอะไร trial อะไร อุปกรณ์ยังไง มีหยิบจับสิ่งของ
หางตาผมก็เห็นไอ่ปริ๊นซ์นั่งตากลมๆ อยู่เฉยๆ ก็ต้องหันไปบอกให้ช่วยไนท์
พอจะแจกเอกสาร ผมก็ต้องบอกปริ๊นซ์ให้ช่วยไนท์ คือจะให้มันทำอะไรต้องบอกมันทุกจุด
หงุดหงิดสิครับ แต่พยายามคิดว่า เพราะไม่ใช่งานที่มันรู้เรื่อง
และเพิ่งมาเข้าทำงานด้วยกัน ไม่เข้ามือผมเลยก็ไม่แปลก
ซึ่งจริงๆ ขนาดไนท์ที่ออกด้วยกันแทบจะทุกแมช ก็ยังมีเผลอลืมอะไรบ้าง



จนถึงเวลาเดินหน้างาน ไนท์เดินนำไปพร้อมปริ๊นซ์
ส่วนผมเดินตามพร้อมหิ้วอุปกรณ์ส่วนตัวของตัวเอง
แต่เดินไปเดินมา เหมือนไนท์จะเดินช้าลงจนผมเดินเข้ามาใกล้ 
ผมเลยมองของในมือมัน....
"Goggle(แว่นเซฟตี้) กับ กล้องไปไหน"
"เอ้อ...เออวะ ลืม...คงไม่ต้องใช้มั้ง"  ไนท์เงยหน้าขึ้นมาเลิ่กลักเล็กน้อย
"กลับไปเอา"  ผมเดินไปด้วยพูดไปด้วยเบาๆ 
ทีนี้ไอ่ปริ๊นซ์ก็เลิ่กลักอีกคน เพราะไม่ได้หยิบ N95 มา
"อุ่ย....ไนท์ๆๆ มีเวลาไหมกลับห้องไปเอาของดีกว่า เราก็ลืม"  ปริ๊นซ์หันไปจับไหล่ไนท์
"เอ้อ งั้นไม่เป็นไร ปริ๊นซ์ไปก่อน เรากลับไปเอาให้เอง"
ว่าแล้วไนท์ก็วิ่งกลับไปที่ห้องประชุม เพื่อเอาอุปกรณ์ทำงาน





ผมขัดใจนะ จริงๆ ผมบอกให้เจ้าหน้าที่ที่ไซต์ไปเอาให้ได้ 
แค่ต้องการให้ไนท์มันต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ต้องทำแค่นั้น
เลยให้มันกลับไปเอาเอง  ครั้งหน้าจะได้ไม่ลืมอีก 

ปริ๊นซ์ที่ไม่เคยเห็นผมในโหมดจริงจังก็เกิดกลัวโดนด่าขึ้นมา
ก็พยายามคุยเล่นกับลูกค้าฆ่าเวลา ถึงที่ก็แต่งตัวอย่างไว
แล้ววาดตารางไว้เตรียมบันทึก ขณะยืนรอไนท์กลับมา
ซึ่งซักพักหันมาก็เห็นไนท์วิ่งหัวตั้งกลับมา แล้วกระหืดกระหอบแต่งตัวให้เรียบร้อย
"พร้อม...ครับ"   ไนท์หันมาพยักหน้าให้ทุกคน
"ถ้ายังเหนื่อยยังไม่ต้องใส่ N95"   ผมหันไปบอก
มันยกมือ พร้อมส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร แล้วพูด "ไปๆ เริ่มเลย"
จากนั้นก็เดินลงไปหน้างานที่ชั้นใต้ดินของอาคาร เพื่อดูหน้างาน
ไนท์เอานิ้วสอดหน้ากากไว้หายใจเป็นพักๆ ก่อนจะเริ่มงานหน้างาน
ผม กับไนท์เป็นตัวหลักในการลงงาน โดนมีปริ๊นซ์เป็นคนซัพพอร์ต จดบันทึกให้
แต่ผมผิดสังเกตนิดนึงตรงที่ ไนท์มันดูนึกคำพูดไม่ค่อยออก
เสยผมไปเสยผมมา ก้มบ้างเงยบ้าง คือท่าทางไม่เหมือนปกติ




ทำงานกันได้ซัก 15 นาที 
ไนท์ก็เดินเข้ามาเอามือจับไหล่ผม ถอดหน้ากากแล้วก้มหน้า
"เป็นไรไนท์" 
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่...."
จะแต่อะไรของมันไม่รู้ ที่รู้ๆ ผมนี่หิ้วแขนมันไว้เรียบร้อย
เพราะไอ่ไนท์ปากซีดหน้าซีด ตาลอย แล้วกำลังค่อยๆ ทรุดลงไปกับพื้น
"พี่ยูๆ ปริ้นซ์ๆ!"  ต้องเรียกชาวบ้านแล้วครับ ทั้งปริ๊นซ์ทั้งพี่ที่ไซต์ 
เพราะไนท์สูง 180 หนัก  77-78 หนักกว่าผมเกือบ10 โล เอาไม่อยู่อยู่แล้ว
ไนท์มันไม่ได้อ้วนนะครับ แต่มันหุ่นนักกีฬาหนักกล้ามเนื้องี้ ผมกับมันนี่ต่างกัน 1 ไซส์
ส่วนปริ๊นซ์นี่พอ ๆ กับผมนี่แหละ แบกไม่ไหว แต่ใกล้มือเลยเรียกมาช่วยก่อน


ทีนี้ก้ต้องหามออกไปข้างนอก หาที่ที่มีอากาศถ่ายเท
ซึ่งไนท์มันก็ดูยังลืมตาอยู่ แถมเรียกชื่อผมตลอดว่า แต่ผมเรียกมันมันไม่ตอบ
หลังจากได้ยาดมพม่าไปพักใหญ่ จากที่หน้าลอยๆ ไนท์ก็เริ่มร้องโอดโอยหลับตาบ้างลืมตาบ้าง
วันนั้นเลยต้องฝากไนท์ไว้กับปริ๊นซ์ ส่วนผมก็ลงไปหน้างานอีกรอบแบบรีบๆ 
แล้วรีบกลับมาหาไนท์ คือจะให้ทำงานเป็นสุขยังไง เป็นห่วงมัน


คนอื่นอาจจะเห็นผมดูมีสติ เฉยๆ ไม่ได้ตกใจอะไร

แต่ผมอ่ะ ตกใจมากเว่ย 55555 


แน่นอนครับว่าพอผมกลับมา คำแรกที่ไนท์มันพูดคือ
"เราขอโทษจริงๆ พี่ มีอะไรบ้างพี่สั่งเรามาเลย"
"เออ สบาย ไม่มีอะไร เดี๋ยวพี่ส่งสรุปให้ไม่ต้องห่วง" 
ที่ผมไม่ได้ถามอะไรทันทันที เพราะคิดว่ามันก็คงยังไม่อยากพูดถึงตอนนี้


จนเส็ดงานเตรียมแยกย้าย ผมถึงได้เริ่มถาม
"เป็นไรวะไนท์ โคตรตกใจ"
"ไม่รู้เหมือนกันวะ อยู่ๆ ก็ร้อน หายใจไม่ออก เหมือนคนจะตาย"
"เออ ไม่สบายรึป่าว"
"จริงๆ ก็ไม่นะพี่ เราอาจจะแค่ท้องเสีย"
"ท้องเสียหนักมันก็เป็นลมได้นะไนท์ วันนี้กลับไปพักเถอะ ไม่ต้องเข้าอีกทีหรอก"
"ไม่ๆ เราโอเค...เราโอเคจริงๆ จะเข้าไปแค่ติดตามงานไม่เกิน 1 ชั่วโมง เดี๋ยวพาปริ๊นซ์ไปด้วย"

ผมส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ แต่จะตัดสินใจยังไงก็แล้วแต่น้อง
แล้วม้วนสายไฟ เก็บของลงกระเป๋า แล้วเดินออกไปข้างนอก
แล้วเดินกลับมาใหม่ พร้อมผงเกลือแร่ 6 ซอง
"กินไปก่อนเลยซักซอง 2 ซอง หมอไม่ได้ให้มาหรอ"
"ให้ แต่มันไม่อร่อยเลยไม่กิน"
"กินแล้วกลับบ้านไปพักดีกว่า พรุ่งนีค่อยไปบ้านพี่เนอะ"
คือช่วงนี้ผมกับไนท์มีนัดซ้อมดนตรีกันที่บ้านผมนี่แหละ 






หลังจากนั้นผมก็แยกออกมานั่งทำงานที่คาเฟ่

แล้วเริ่มไลน์หาแก๊งเพื่อนมัธยมชวนดื่ม ด้วยอะไรไม่รู้ 5555
สุดท้ายก็ได้ดื่มสมใจ
แต่ไม่รู้เพราะเหนื่อย เพราะเครียด หรือเพราะอะไร
ผมดื่มไปพอสมควรตั้งแต่ที่ร้าน ขากลับก็พาไอ่หยวกกลับบ้านด้วย
เพราะบ้านเราใกล้กัน ห่างกันแค่ 1 ซอย
ถึงบ้านไอ่หยวก มันก็เปิดเบียร์ให้ผม 1 ป๋องยาว .... แน่นอนว่าผมดื่ม
แล้วก็เปิดนั่งดื่มไปคุยไปกับไอ่หยวกต่อที่บ้านมันไปอีกหลายกระป๋อง
รู้ตัวอีกทีก็ตอนตี 3:45 ที่ผมอ้วกอยู่ในห้องน้ำ
ปกติผมดื่มยังไงก็ไม่อ้วก น้อยมากที่จะอ้วก นี่คงกินไปเยอะจริงๆ 






เที่ยงของวันรุ่งขึ้นไอ่หยวกหรือไอ่บอย ก็โทรมาหา ชวนผมไปบ้านมันอีกรอบ
ผมบอก
กุไม่ไหวแล้วนะ นี่ยังคลื่นไส้ไม่หาย
มันบอก กุไม่ได้จะชวนมากินเบียร์ กุแค่อยากคุยกับเมิง
เย็นวันพุธผมก็แวะไปที่บ้านไอ่หยวกตามที่มันบอก
แต่ไม่ได้มีแค่ไอ่หยวก แต่มีเทปคนที่ผมสนิทที่สุดในกลุ่ม
และผมมักพูดคุยกับเทปทุกเรื่องอยู่ด้วย
สิ่งที่ไอ่เทปบอกผมคือ....


"เมิงมีอะไรรึป่าว ทำไมเมื่อคืนเมิงเมาร้องเพลงแล้วร้องไห้วะไอสัส"



เชี้ย!!!!!!!!!!!!!!


"eHear! กุหรอ กุทำหร๊อ"  เสียงหลงเลยละครับ 5555
"เมิงนั่นแหละ....เมิงไม่ได้ร้องฟูมฟายงั้นเว่ย
แค่ร้องเพลงแบบอินชิบหาย แล้วเสียงสั่นๆ น้ำตาคลอๆ" 





ภาพเธอในวันนั้นมันไม่กลับมา ทำให้ฉันเสียดายขึ้นทุกวัน
ภาพระหว่างเราที่เคยมีกัน แต่ว่าฉันก็ทำให้สลายไป
ภาพเธอบอกลาเดินมาบอกลา ที่ฉันคิดว่าเธอแค่น้อยใจ
แล้วคนหนึ่งคนต้องมาใจหาย จะให้ทำยังไงคงไม่ได้เธอคืน




โอ้โห! เสียฟอร์มชิบหาย แต่นั่นไม่สำคัญเท่าไอ่หยวกจะคุยกับผม
"เชี้ยปริ๊นซ์เมิงเป็นอะไร ตอนนั้นเมิงคิดอะไร เล่าให้กุฟังสิ"
"ไม่รู้ว่ะกุเมาป่ะ"
"เมิงบอกว่าช่วงนี้หลับยากไม่ใช่หรอ ส่วนใหญ่เมิงคิดอะไร"
"กุไม่ได้คิดอะไรนะ มีแค่เรื่องงานที่ยุ่งๆ"
"เมียเมิงละ"

ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ไอหยวกถึงถามถึงแฟนผม
"กุน่ะพูดไม่ค่อยเป็น กุเลยเล่าให้ไอ่เทปฟัง เห็นเมิงกับมันคุยกันได้
กุพูดกับเมิงเกิน 7 ประโยคก็ด่ากันแล้ว" 
   เออถูกของมัน
"ก็ ไม่มีอะไร" ผมยังคงยืนยันคำเดิม แล้วเงียบไป
ไอ่หยวกกับไอเทปก็เงียบ ผมก็เงียบ ต่างคนต่างเงียบ นั่งหันหน้าเข้าหากัน แต่ไม่มองหน้ากัน
เหมือนรอว่าใครหมดความอดทนก่อน ก็พูดออกมาก่อน

ซึ่งคนนั้นเสือกเป็นผม....
"เมิงเคย....รู้สึก Unsecure ไหม"
"ขอภาษาไทยไอสัส ถ้าจะพูด พูดภาษาไทย Unsecure คือไม่ปลอดภัย"
"ไม่ๆ แม่งไม่ใช่ความไม่ปลอดภัย ความหมายมันอยู่ในคำนั่นแหละ"
"แล้วยังไงต่อ"  เทปรอฟัง
"คือ...กุก็ไม่รู้ว่ามันคือความกลัวหรืออะไร แต่ความคิดว่าเค้าจะไปจากกุ วนอยู่ในหัวตลอด






ไม่รู้สิครับ ผมก็เรียบเรียงไม่ค่อยถูก จะให้เริ่มก็เริ่มไม่ได้
แต่รู้สึกอึดอัดใจ และมีความคิดแบบนี้โผล่มาเป็นพักๆ 
"เค้าดูไม่แฮปปี้เว่ย...เค้ารู้สึกว่าเค้าคือคนนอกครอบครัว ที่นี่คือครอบครัวกุ บ้านกุงี้"
"แล้วเมิง หรือที่บ้านเมิงไปทำอะไรเค้าละ"
"กุก็ไม่รู้ ที่กุเห็นเค้าเคือง ๆ ก็เค้าคิดว่าแม่กุแกล้งเค้า ทิ้งขยะให้กุไม่ทิ้งให้เค้า
กุลืมของไว้ที่บ้านนั้น แม่ก็เอามาให้ แต่ไม่เอาของเค้ามาด้วยงี้มั้ง"

"อืม"
"กุก็บอกว่ากุคุยดี ๆ ให้ กุจะไม่ให้เกิด 2 มาตรฐาน อะไรไม่โอเคบอก
อะไรกุทำให้ได้กุทำให้เอง อะไรอึดอัดใจบอก กุจะดูแล จะเคลียร์ให้
ซึ่งกุคนกลางก็ต้องให้บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่นอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง"

"แล้วพลอยว่าไงบ้าง"
"ก็ตึงๆ ดูไม่แฮปปี้"
"แล้วเมิงทำไงต่อ"
"กุก็.....แว้บๆ ตลอดว่าเค้าจะไปจากกุ รู้สึกว่าซักวันเรื่องที่กุเคยเล่าให้เมิงฟังมันต้องเกิดอีก
วันนึงเค้าก็ไปอยู่ดี กุ move on จากความรู้สึกนี้ไม่ได้
จนบางทีกุก็อยากจบๆ แม่งไปเลย จะได้ไม่ต้องคอยหวาดระแวง"

"แต่เค้าก็ยังไม่ได้พูดอะไรใช่ไหมละ"
"ใช่แต่ท่าทางมันบอก"
"แล้วเมิงไม่ทำอะไรให้เรื่องนั้นมันไม่เกิดละ"
"กุพยายามแล้วเว่ย  สำหรับกุแม่งกลายเป็นความกลัวที่หนีไม่พ้น
กุต้องรู้สึกมันไป every single day จนกว่ามันจะจบ
รักเพื่อรอวันเลิกมันแย่นะเว่ย กุรู้สึกมันทุกวันจนอยากหยุดมันแล้ว"

"พูดไทยทีไอเฮีย"  55555 ไอ่หยวกย้ำอีกรอบ
"ถ้าเมิงตัดสินใจหยุด เมิงจะโอเคใช่ไหม เมิงคิดว่าจะดีกว่าหรอ"
"ไม่รู้เหมือนกัน....แต่เมื่อมันเกิดแล้ว ก็ต้องดำเนินไปป่ะวะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องคิด
ซึ่งพวกเรื่องค่าใช้จ่าย ทรัพย์สินกุก็คิดอยู่ทุกวันว่าอะไรบ้างที่เราต้องจัดการด้วยกัน
อะไรที่กุจะไม่ถือไว้ อะไรที่กุจะถือไว้ มันหลายเรื่องเว่ย
แต่กุก็ยังคิดภาพไม่ออกเลยว่า เวลาที่ไม่มีเค้ามันจะเป็นยังไง"



ไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไง แต่ไอ่หยวกตบไหล่ผมแรงๆ เหมือนเรียกสติ
"เมิงคิดไว้มันก็ดี แต่ในเมื่อมันยังไม่เกิด เมิงจะเจ็บผ่อนส่งทำไมวะ
เอาไว้แม่งเกิดจริงๆ ก็ปังเดียว เจ็บทีเดียวจบ กุจะอยู่แดกเหล้ากับเมิงทุกวันเอง"


ส่วนเทปก็เริ่มพูดกับผม
"ตอนนี้ไม่ต้องดิวะ พลอยมันยังไม่พูด แสดงว่าเค้าก็ยังไม่ต้องการแบบนั้น
เมิงคิดเรื่องจะเลิกกันทุกวัน เค้าก็สัมผัสได้นะว่าเมิงคิดเรื่องจะเลิกกัน
ทำไมเมิงไม่ใช้เวลากับเค้าให้แฮปปี้ เวลามีเรื่องหยุบหยิมเค้าจะได้เอา
ความรู้สึกดีๆ ที่มีกับเมิงมาถ่วงไว้ เค้าอยู่เพราะรักเมิง แค่นั้น"


ผมไม่ได้พูดอะไร แต่รู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
ใจเต้นแรง โหวงๆ คิดอะไรไม่ออก รู้เลยว่าตัวเองกำลังเครียด
และก็อาจจะเป็นเรื่องที่รู้สึกเครียดมาตลอดหลายๆ วันที่ผ่านมา
โดยที่ผมเองไม่รู้ตัวเลยว่า เรื่องนี้รบกนจิตใจอยู่ตลอด


ตอนนี้พลอยก็พยายามเป็นปกติ พูดคุยยิ้มแย้ม
กอดผมก่อนแยกย้ายไปทำงาน และก่อนนอน
พยายามสัมผัสตัวผมบ่อยๆ เหมือนให้รู้ว่าเค้าไม่มีอะไรนะ เป็นปกติดีนะ




จะด้วยอะไรไม่รู้ แต่ผมเลยรู้สึกอยากอยู่นอกบ้าน อยากอยู่กับเพื่อน
อยู่บ้านก็อยากอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง 
ซึ่งดีที่ช่วงนี้ไนท์มันมาซ้อมดนตรีที่บ้านผมทุกวัน ก็นั่งคุยเล่นกันครับ
ผมก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวอยู่กับไนท์ ซ้อมเส็ดก็นอนเลย 
ไม่ได้พูดไม่ได้คุยกันเท่าไหร่ ทำให้จังหวะการคุยกันน้อย
ซึ่งรู้สึกว่า สบายใจกว่าครับ 
ช่วงนี้คงแบบนี้ไปก่อน สบายใจหายหาเรื่องรกสมองค่อยว่ากันอีกที


 


Create Date : 03 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2566 12:37:41 น. 20 comments
Counter : 651 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณชีริว, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณtanjira, คุณเริงฤดีนะ


 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
เดี๋ยวนี่พี่กินกาแฟ วันนึง 2 - 3 แก้ว แต่นอนหลับสบายเลยครับ
พี่ก็เคยเป็นเหมือนกัน ตื่นตีสามตลอดทั้งอาทิตย์ ของพี่นี่เกิดจากพี่ไปงานวิ่งต้องตื่นตีสอง ตีสาม แล้วมันติดมา
ปิดท้ายดราม่าล้วน ๆ เลยนะ ยังงัยพี่เป็นกำลังใจให้นะครับ
อาทิตย์นี้พี่ไปวิ่งงานบางแสนเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังนะครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:43:34 น.  

 
เรื่องสยองของคนนอนไม่หลับ ... เห็นหัวเรื่องนึกว่าพูดเรื่องผี 555
นอนไม่หลับเพราะเครียด คิดมาก วิตกกังวลกับเรื่องที่มาไม่ถึง

อ่านแล้วนึกถึงชีวิตคู่ดาราที่เพิ่งเลิกกัน (กวางกับหวาน)
ชีวิตคู่บางทีก็ต้องมีระยะห่างของครอบครัว
อะไรมากไป บางทีอีกฝ่ายก็อึดอัดนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:16:22:05 น.  

 
พี่ส่งกำลังใจนะคะ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:17:15:56 น.  

 
เป็นน้าที่รักหลานมากๆๆๆๆ
หนังที่แนะนำออกไปแล้วคงต้องหา
ให้หลานรักดูทางออนไลน์แล้วจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:17:56:53 น.  

 
เจ็บผ่อนส่ง
.
.
คำเตือนนี้ดีนะครับ
ชัดเจน

ชีวิตคู่เป็นอะไรที่ต้องเรียนรู้กันตลอดเวลาจริงๆครับ
แม้แต่พี่ก๋ากับมาดามเองก็ตาม
อยู่กันมานาน บางวันก็มีขุ่นเคืองใจ
มันเกิดขึ้นได้ทุกเรื่องจริงๆ

แล้วความรู้สึกของผู้หญิงที่เข้ามาอยู่กับครอบครัวผู้ชาย
ยังไงก็ต้องมีรู้สึกบ้างไม่มากก็น้อยครับ
ยังไงพ่อแม่ผู้ชายก็รักลูกชายมากกว่าแน่ๆ
อันนี้บ้านพี่ก๋าก็เป็นครับ 555

วาบิซาบิพี่ก๋าเคยรีวิวไว้แล้วล่ะครับ
เอาเล่มเดิมกลับมาอ่านใหม่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:20:20:34 น.  

 
มาลงชื่อก่อน เดี๋ยวมาอีกทีครับ วันนี้ผมไม่ไหวละ โหมดเอาจริงกินพลังงานแต่ละวันมากจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:06:53 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องปริ๊นซ์

ขอบใจที่ห่วงสุขภาพของครู กลับจากอินเดีย ไม่ค่อยสบายนัก
อาจจะเพราะเหนื่อย เดินเยอะ นั่งรถเยอะ สังขารอีกอย่างด้วยจ้ะ
แล้วไปยังที่่่่่่่่สุง ๆ ด้วย จ้ะ กลับมาเลยเป็นหวัด ง่วงนอนด้วย งาน
ธาตุทองคืนถิ่น ก็ใกล้เข้ามา บัตรก็ยังเหลือเยอะอยู่ จ้ะ
อ่านบล็อกเธอบล็อกนี้ แล้วน่าห่วงชีวิตคู่ของเธอนะ เพิ่งแต่งงาน
กันเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็คิดถึงเรื่องที่จะเลิกลากันเหรอ ชีวิตคู่ มันอยู่กัน
ลำบากเหมือนกันนะ ถ้าต่างคนต่างเก็บความรู้สึกไว้ในใจ ไม่เปิดอก
คุยกัน ไม่ดี จ้ะ ควรจับเข่าคุยกัน อย่าฐิติเข้าหากัน คุยกัน ถามกัน
อย่างตรงไปตรงมา และปรับตัวให้เข้ากัน ชีวิตคู่จึงจะอยู่กันได้ยืนยาว

ขอเม้นท์เล็กน้อย นะ เวลามีน้อย จ้ะ มีโอกาสและเวลา จะ
เม้นท์ ยาว ๆ ให้ จ้ะ

โหวดหมวด หมวด บันทึกประสบการณ์ชีวิต


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:10:06 น.  

 
เอาจริงๆ น่านทริปนี้ขับง่ายนะครับ ยากสุดคือทางขึ้นดอยภูคาช่วงหมอกเยอะๆ นั่นแหละ มันมองไม่เห็น!!
ส่วนขาลงที่ถนนเส้นสวยๆ นั่นขับง่ายกว่าที่เห็นเยอะเลย หรือ Mazda 2 Diesel ผมมันแรงก็มิรู้ได้ (ได้โอกาสต้องขิง)

อุทัยที่มีป่าดึกดำบรรพ์คือหุบป่าตาดครับ อันนี้ห้ามพลาดเลย ไม่ไกลด้วย

-----

ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอนครับ เผื่อช่วยได้ อิอิ
นอนหลับยากไม่สนุกน้อ รู้สึกเสียดายเวลานอน
ส่วนกาแฟนี่เหมือนจะไม่มีผลกับการง่วง/ไม่ง่วงเลย คนจะหลับ กินไม่กินก็หลับ 555

ฮาโลวีนอย่างแอดวานซ์เลยครับ แต่งเป็น L กับ Orphan
เอาจริงๆ L แต่งง่ายนะ แต่จะให้ดูเป็น L มันยาก
แค่ขึ้นไปนั่งยองๆ บนเก้าอี้เดี๋ยวคนจะคิดว่าคอสเป็นกอลลัม

เข้าไซต์ต้องใส่ N95 เหรอครับ อย่างอึดอัดเลย
ทุกวันนี้แค่หน้ากากอนามัยคนก็ไม่ค่อยใส่กันแล้ว และก็ยังโดนโควิดสอยร่วงทีละคนๆ

เพื่อนมาทรงอยู่ๆ วูบก็ตกใจนะ กลัวจะสโตรกเดี้ยงพาอ้อมแขนเพื่อนเอา คนเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้
ส่วนเมาวูบนั่นปล่อยวูบไปครับ แต่อย่ายอมให้ขับรถ เดือดร้อนตำรวจอีก 555


โดย: ชีริว วันที่: 3 พฤศจิกายน 2566 เวลา:23:12:12 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องปริ๊นซ์

ส่งกำลังใจให้น้องปริ๊นซ์
ขอให้ผ่านความรู้สึกกังวลนี้ไปได้
และทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนะคะ






โดย: Sweet_pills วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:1:03:46 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:5:57:50 น.  

 
เมื่อวานหมิงชวนพี่ก๋าคุยเรื่องศาสนา
แต่ยังคุยกันไปแบบเกริ่นๆ ยังไม่ได้ลงลึกรายละเอียดครับ
วันนี้มื้อเย็นเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

แต่ละศาสนามีวิธีสอนต่างกันออกไป
แม้ในศาสนาเดียวกันก็ยังแยกเป็นลัทธิต่างๆ
อย่าง เซน พี่ก๋าชอบมาก แต่หลายคนบอกไม่รู้เรื่องเลย
ในศาสนาคริสต์พี่ก๋าก็ชอบนะ
อ่านไบเบิลก็สนุกดีครับ มีคำคมเยอะเลย
อย่างอิสลามพี่ก๋าชอบลัทธิซูฟี
ก็จะคล้ายๆกับเซนอยู่เหมือนกัน

เวลาเราพูดถึงความรักและชีวิตคู่
มันต้องมีครอบครัวมาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ
พ่อเธอแม่ฉัน แม่ฉันพ่อเธอ
พี่น้องอีก ....

จะให้เข้าใจกัน พี่ก๋าว่ามันยากมากเลย
ขนาดพี่น้องคลานตามกันมา
ยังคิดไม่เหมือนกัน ชอบไม่เหมือนกัน
พ่อแม่เราจะรักลูกสะใภ้ก็ไม่ง่าย
เราจะเป็นที่รักของพ่อแม่แฟนก็ไม่ง่าย

มันคือ การเรียนรู้และปรับตัว

ในชีวิตคู่พี่ก๋าใช้คำว่า "เข้าใจและให้อภัย" เยอะมาก
ใช้ในทุกเรื่องเลย
ทุกครั้งเวลารู้สึกหงุดหงิด รำคาญ เบื่อ
พี่ก๋าจะถามตัวเองก่อนเลย ว่าในเรื่องที่เรากำลังทุกข์
เราสามารถทำความเข้าใจมันได้หรือไม่
ถ้าทำได้ ทุกข์ก็น้อยลง
ถ้าทำไม่ได้ ก็ใช้เวลา รอ ทน คอย
หาเวลาคุยกัน ปรับความเข้าใจ
แต่สุดท้ายมันต้องจบลงตรงการให้อภัย
ทั้งอภัยตัวเราเองและให้อภัยคนรักของเรา
เรื่องก็จะจบลง

แล้วก็รอเรื่องใหม่ 5555

แต่พี่ก๋าว่ามันสนุกดีนะ
เพราะทุกครั้งที่ผ่านเรื่องแย่ๆ
เราจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเสมอ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:9:56:11 น.  

 
คุณคะ พี่ส่งหลังไมค์ไปหานะ ว่างก็เข้าไปอ่านหน่อย


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:21:46 น.  

 
ของผมตรงข้าม เหนื่อยล้าจนหลับ บางครั้งหลับทั้งๆ ที่ไฟยังเปิดอยู่ก็มี แต่หลับแบบนั้นไม่เป็นผลดีกับร่างกายเท่าไหร่ เพราะมันเป็นการหลับไม่สนิท

ผมเดาว่าอาจเป็นที่ความเครียดมั้งครับ มันมีผลกระทบต่อการนอนเหมือนกันนะ แม้เราจะไม่ได้รู้สึกเครียดแต่สิ่งที่เครียดจริงๆ คือร่างกาย ซึ่งการเครียดลักษณะนี้ไม่เป็นผลดีเท่าไหร่ (เมื่อก่อนเคยเป็น)

แอล มันแต่งง่ายครับ เดี๋ยวนี้คนแต่งฮาโลวีนเป็นการคอสเพลย์การ์ตูน หรือหนังเยอะเหมือนกันนะ

ดื่มเยอะไปก็ไม่ดีนะครับ แถมดึกขนาดนั้นเลย เดี๋ยวพักผ่อนไม่พอจะแย่เอาได้นะ บางเรื่องปล่อยได้ต้องปล่อย เอามาใส่หัว มันจะกระทบกับการใช้ชีวิตของเรา


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา:21:15:45 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2566 เวลา:6:01:51 น.  

 
อายุมากขนาดนั้นแล้วหรือคุณปริ๊นซ์ คนนอนไม่หลับมีแต่คนสูงอายุเท่านั้น ไม่ก็คนเครียด ดูแล้วน่าจะเกิดจากความเครียด ที่บอกไม่ดื่มพวกชากาแฟ ก็ไม่ได้ผล ยังไงลดได้ก็ลดนะ ของแบบนี้มันอาจไม่เห็นผลทันทีแต่ในระยะยาว มันมีผลแน่

ฮาโลวีนน่าจะเป็นในสมัยนี้ล่ะมั้งที่คนอินกัน สมัยก่อนประเทศไทยไม่ค่อยอินกับเทศกาลนี้ แต่อย่างว่าประเทศเราเอาธีมมาเล่นกัยเรื่องการตลาดในการขายสินค้ามากกว่า


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 5 พฤศจิกายน 2566 เวลา:15:32:11 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องปริ๊น

เรื่องนอนไม่หลับ มันก็มาจากหลายสาเหตุเนาะ
ของน้องนี่ปัญหาใหญ่เชียว ถ้าจะคิดให้มันใหญ่นะคะ
เอาจริงๆ พี่ว่า เจ็บผ่อนส่ง คำนี้เห็นภาพเลยค่ะ

คำว่าครอบครัว มันก็ใหญ่นะคะ
แต่ว่าการเป็นครอบครัว ต้องไม่ทำให้คนในครอบครัวต้องเป็นทุกข์เป็นร้อนค่ะ
ต้องแยกให้ออก ระหว่างพ่อแม่ และแฟน ถ้าแยกไม่ออก มันมีปัญหาทุกรายค่ะน้อง

ตอนนี้ก็ดูแลจิตใจพลอยเค้าด้วยนะคะ ความรู้สึกแบบนี้คนกลางสำคัญนะคะน้องปริ๊น
ดีนะคะที่แยกบ้านกันอยู่ตั้งแต่แรก ไม่งั้นปัญหาตามมาทุกเมื่อเชื่อวันค่ะ

ประคับประคองจิตใจกันไว้ดีดีนะคะ นั่งคุยแบบเปิดอกไปเลยค่ะน้องปริ๊น
ตัวเราเองจะได้ไม่คลุมเครือด้วยนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้ค่ะ ไม่ว่าเรื่องอะไรเนาะ

น้องอาจเป็นโรควิตกกังวลอยู่นะคะ เทคแคร์นะคะ


โดย: tanjira วันที่: 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา:14:27:04 น.  

 
สวัสดีครับน้องปริ๊นซ์
รายการบางแสน42K ปีนี้มีคนมาวิ่งหมื่นสองพันกว่าคนเลยครับ เค้าประกาศปิดถนนตั้งแต่เที่ยงคืนวันเสาร์นะครับ
มีเรื่องราวดราม่า คนที่ไปเที่ยวผับแถวนั้น เพิ่งเลิกจะกลับ โดนปิดถนน กลับไม่ได้ ก็เลยไลฟ์สดโพสต์ด่าเสียเลย กลายเป็นเรื่องราวมีคนมาแชะถามว่างานไหลปิดถนน อาทิตย์นึงไม่เห็นมีดราม่าอะไร


โดย: The Kop Civil วันที่: 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา:15:09:52 น.  

 
มีการ์ตูนดิสนีย์จะเข้าโรงให้ปริ้นพาหลานรักไปดูจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา:17:51:46 น.  

 
พี่ก๋าเพิ่งนั่งคุยกับหมิงเรื่องศาสนาตอนเย็นนี้เองครับที๋โต๊ะกินข้าว
เป็นหัวข้อที่แปลกดีนะครับ แต่พี่ก๋ากับลูกก็คุยกันเป็นชั่วโมงเลย

เรื่องสาวมุสลิมนั้น
น้องปริ๊นซ์กลายเป็นแพะจริงๆครับ
จริงๆแล้วการแก้ปัญหาด้วยการหลอกพ่อแม่นั้นยากมากที่จะสำเร็จ
ยิ่งมีแต่รูปไป ไม่มีทางทำได้เลยครับ

ถามว่าน่าสงสารมั้ย ก็น่าสงสารมาก
เพราะน้องคงไม่ชอบคู่หมั้น
แต่ถ้าถามว่าจะช่วยอะไรได้มั้ยก็คงไม่ได้อีก
เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว

การคลุมถุงชนแบบนี้ควรจะหมดไปได้แล้วนะครับ
ชีวิต ความรัก มันควรเป็นสิทธิ์ที่เจ้าของชีวิตจะได้เลือก ได้รัก
ไม่ใช่มีคนมาเลือกให้



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2566 เวลา:20:39:08 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องปริ๊นซ์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2566 เวลา:5:25:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

จันทราน็อคเทิร์น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




* Engineer
* Guitar trainer
* Casual gamer



space
space
space
space
[Add จันทราน็อคเทิร์น's blog to your web]
space
space
space
space
space