จากที่ผมเล่าเรื่องเหตุการตึงๆ ในคลาส ป.โท ของผม ซึ่งผมอยู่บรรยากาศแปลกๆ โดยไม่รู้เหตุผลมาได้ราวๆ 1 ปี และหลังจากรับปริญญาได้ราวๆ 1 เดือนผมก็ได้รู้ความจริง
ผมขอเล่าในแบบหลายมุมมองเพื่อให้ได้รู้สึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นนะครับ ซึ่งไอ่ความรู้สึกตรงนั้น ผมรับรู้มาจากคู่กรณี หลังจากเรื่องราวต่างๆ ผ่านไปหมดแล้ว ขอตั้งชื่อมินิซีรีย์นี้ว่า............
" A t F i r s t S i g h t " EP.1 ไ ม่ รู้ จั ก ฉั น ไ ม่ รู้ จั ก เ ธ อ
ตอนนั้นผมอายุราวๆ 23-24 (จำปีแน่ๆ ไม่ได้) เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาเช้ากว่าเช้าวันอาทิตย์วันอื่นๆ มาก ก่อนจะรีบโทรหาพี่สาว "ปฐมนิเทศนี่ต้องแต่งตัวยังไงอ่ะ" "อะไรก็ได้ที่สุภาพน่ะ เชิร์ตขาวก็ได้นะผู้ชาย" พี่ปาล์มตอบ "เสื้อยืดได้ไหม ยีนได้ไหม" "ยีนไม่ขาดรุ่งริงก็ได้อยู่นะ ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น" "อ้อ โอเคได้ๆ แต้งกิ้วมาก" "แล้วสรุปจะใส่อะไร ไหนบอกมาก่อนดิ๊" "เชิร์ตขาว ยีน ผ้าใบขาว เซฟๆ" "เออดี ตามนั้นแหละ โชคดีนะ" แล้วสายโทรศัพท์ก็วางไป ผมแต่งตัวเส็ด ก็ออกจากคอนโดไปราวๆ 8 โมงเช้า เพื่อให้ทันกำหนดการปฐมนิเทศ ป. โท เวลา 9 โมง
จำได้ว่าตอนนั้นผมขับรถวีออส แต่งซิ่ง หลังคาดำไปครับ และผมเปลี่ยนรถในระหว่างเรียน ป.โท ไปถึงทันเวลาแบบเหลือๆ ซึ่งผมดันไปเจอเพื่อนมหาลัยภาคไทยคนนึงด้วย เราสอบติด ป. โท คนละสาขาแต่ก็มานั่งด้วยกันจะได้ไม่เหงา หลังจากเสร็จการปฐมนิเทศ ทางคณะก็ปล่อยให้แยกกันไปตามสาขาที่สอบได้ เพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนรวมคลาส และรุ่นพี่ที่รออยู่ ไปถึงป้ายสาขาการตลาด ก็มีคนจำนวนหนึ่งนั่งล้อมวงกันอยู่ที่พื้นแล้ว ผมลงนั่ง ค่อนไปทางด้านหลัง รอฟังว่าจะทำอะไรต่อไป หรือมีเรื่องอะไรต้องรู้ แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าถูกสะกิดเบาๆ ที่แขน จนต้องหันไปมอง "น้ำป่ะคับ" ผู้ชายอายุมากกว่าข้างๆ หันมาสะกิดด้วยหลังมือ ในมือมีขวดน้ำ "อ้อ คับได้ครับ" ผมรับน้ำมาแล้วเปิดกิน ยังคิดไม่ออกว่าจะคุยอะไร "ชื่ออะไรน่ะ เราชื่อยุทธ" "ปริ๊นซ์ครับ" "เราเป็นพี่แน่เลย นี่ 28 แล้ว ใช่ป่ะ" "อ่ะ ใช่ครับ ผมอายุน้อยกว่า"
ตรงนั้นทำให้ผมได้รู้จัก พี่ยุทธ ผู้ชายทรงแบด ที่ดูมนุษย์สัมพันธ์ดี และดูชอบอธิบาย
เค้าพยายามอธิบายอะไรเกี่ยวกลับมหาลัยนี้ให้ผมฟังหลายอย่าง ด้วยความที่เค้าเรียนจบ ป. ตรี วิศวะ ที่นี่ และเพราะจบวิศวะเหมือนกัน ทำให้คุยกันถูกคอ พอมีคนเริ่มคุยกัน คนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ก็หันมาคุยกับเรา ทำให้จาก 2 คน กลายเป็น 6-7 คนที่นั่งคุยทำความรู้จักกันที่ท้ายแถว จนรุ่นพี่ให้ออกไปแนะนำตัวทีละคน ว่าชื่ออะไร จบจากที่ไหน คณะอะไรมา คนในรุ่นทะยอยออกไปยืนแนะนำตัว จนมาถึงผม มีเสียงรุ่นพี่แซวกันนิดหน่อย อาจจะด้วยคณะและแผนที่ผมจบมา พอมานั่ง พี่ยุทธก็แซวต่อ "ไม่เบานะเนี้ย ขวัญใจแม่ยกเหมือนกัน" "ไม่หรอกพี่" ผมหัวเราะก่อนจะนั่งฟังต่อ แต่ผู้หญิงที่นั่งด้านหลังก็หันมา "นี่...เราถ่ายรูปไว้ให้ด้วย ส่งให้ในไลน์กลุ่มได้ไหม" หญิงถาม "อ้าวหรอ ไหนดูหน่อย....ขอบคุณมากๆ" ผมขอเช็ครูป ที่ เออ! ก็หล่อใช้ได้
ในกลุ่ม 6-7 คนที่นั่งคุยกัน มีผม พี่ยุทธ พี่นัท พี่บอย พี่นุ่น หญิง และอ้อม ซึ่งพี่นัทพี่บอยเป็นเพื่อนเรียนมหาลัยมาด้วยกัน และผมชอบสไตล์พี่แก 2 คน เลยเลือกเอาตัวไปติดกับพี่เค้า เพื่อจับกลุ่มเพื่อนให้ได้ไว และไม่ยากหรอกครับ เพราะผมค่อนข้างเฟรนลี่ เข้ากับคนอื่นได้ง่าย พอเริ่มเรียนปรับพื้นฐาน ผม 3 คน คิดตรงกัน แล้วยึดพื้นที่หลังห้องตรงกลางเป็นจุดยุทธศาสตร์ เอาไว้เป็นที่นั่งเรียนประจำ เพราะไม่มีใครตั้งใจเรียนพอจะนั่งหน้าห้องหรือแม้แต่ตรงกลาง แนวริมประตู ถูกยึดด้วยสายเดิน อย่างกลุ่มของพี่ยุทธ และเพื่อนอีก 2 คน แถวหน้าผมเป็นแก๊งเงียบสงบสมาชิก 4 คน เยื้องขวาเป็นแก๊งใหญ่ของทรงเจ๊อย่างเจ๊ปิ่น ตรงนั้นควบ 2 แถวตั้งแต่หน้าห้อง รวม 8 คน และหน้าสุด 2 กลุ่มใหญ่ ๆ สายเด็กเรียน
หลังจากสัปดาห์แรกในการเรียน ก็มีการเลือกหัวหน้าห้อง ผมเองก็ยกมือให้พี่นัท และพี่นัทได้เป็นหัวหน้าคลาส ส่วนพี่บอยได้เป็นรอง อ้อ...ลืมครับ ในสัปดาห์นั้น เราได้สมาชิกกลุ่มเพิ่มมาอีก 2 คน คือ พี่นนท์ กับ ต้น โดย พี่นนท์ได้เป็นเหรัณยิก ส่วนต้นเป็นฝ่ายกิจกรรม ถึงแม้ว่าต้นจะเป็นคนมึนๆ พูดงงๆ แต่ต้นชอบงานกราฟฟิก และปรัชญา เรียกได้ว่ากลุ่มนี้กลายเป็นแก๊งมีตำแหน่งกันทุกคน ยกเว้นผม 5555 แต่ก็ไม่ใช่ว่าแก๊งคนมีสีอย่างแก๊งผมจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลในคลาสนะครับ เพราะผู้ทรงฯจริงๆ คือ เจ๊ปิ่น ทรงเจ๊วัย 30 ที่ทุกคนก็เกรงใจ
งานคณะงานแรก ผมโดนจัดให้เป็นหัวหน้าทีมขายดอกกุหลาบในงาน แก๊งพี่ปิ่นเป็นคนดูแลเรื่องงานกุหลาบ และเจ๊ปิ่น กับหญิง ก็เป็นคนซื้อประเดิมให้ทีมขายฯของผม และผมก็เป็นพ่อค้าที่ดี ปกติดอกละ 20 แต่ซื้อกับผมดอกละ 50 ดอกละ 100 ดอกกุหลาบหมด พี่ยุทธก็จับผมไปยืนหน้า Backdrop เก็บตังได้ต่อ เล่นเอากำไรอื้อซ่า และทุกคนรู้ว่าผมใช้งานได้ และใช้งานดี "เมิงนี่สุดจริงวะปริ้นซ์" พี่ยุทธเดินมาชนแก้วกับผมนี่ยืนดื่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ผมไม่ได้พูดอะไรยกแก้วดื่ม เพราะมึนๆ กำลังสนุก อย่างที่รู้ว่า ผมเป็นสายปาร์ตี้ เพื่อนทั้งชายทั้งหญิงเต้นกันอยู่กลุ่มใหญ่ ผมก็หนึ่งในนั้น
หลังจากนั้นก็มีสาขาอื่นเข้ามาขอชนแก้ว มีรุ่นพี่ผู้หญิงเข้ามาชนแก้ว เริ่มมีมากอดคอ กอดแขนถ่ายรูป จับเนื้อจับตัว "เดี๋ยวๆๆ มากอดๆ นี่หยอดกล่องตังผมยังครับ มาๆ ชนกับผมบ้างนี่มา" และผมก็ได้พี่ยุทธนี่แหละครับ ช่วยเซฟเวลาที่ถูกเข้าถึงมากเกินไป ด้วยความที่พี่ยุทธทรงแบดบอยเต็มขั้น สักที่ไหล่ หน้าตาพูดจาห้าวๆ
และคืนนั้นในงานเลี้ยง ตอนที่ทุกคนกำลังดื่มกันอย่างสนุกสนาน พี่ยุทธมักใช้เวลาอยู่กับหญิงจนสังเกตได้ "พี่จีบได้ไหม พี่ชอบเราตั้งแต่วันแรกที่เจอเลย" หญิง ผุ้หญิงตัวเล็ก ๆ ผิวสองสี ผมประบ่า ดัดฟัน ยิ้มเขินๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ เป็นอันว่า หลังจากวันนั้นพี่ยุทธก็เดินหน้าจีบหญิงอย่างออกหน้าออกตา ไปนั่งกินข้าวกับแก๊งเจ๊ปิ่นทุกครั้ง ไปไหนนอกรอบก็ไปด้วยกันทุกครั้ง เพราะเจ๊ปิ่นประกาศว่า "ใครจะจีบน้องชั้น ต้องให้ชั้นยอมรับด้วย"
โอ้....ทรงเจ๊จริงๆ
แต่ถึงพี่ยุทธจะทรงแบด แต่จริงๆ พี่แกเป็นผู้ชายอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่หญิงอย่างดี เวลาพักก็จะมาถามว่าเรียนเข้าใจไหม ถ้าไม่เข้าใจก็สอนหญิงทุกครั้ง จนหญิงก็ดูมีใจ แถมทำคะแนนได้ดี แล้วทั้งคู่ก็เป็นแฟนกันครับ แต่แยกกันนั่งแยกกันทำงานกลุ่มเหมือนเดิม เพราะไม่อยากให้กระทบกับการเรียน ... พี่ยุทธแม่งโคตรแมน
ส่วนผม....ผมเป็นตัวท้อปด้านมาสาย เรียกว่าไม่มีวันไหนไม่สาย เข้าเรียน 8.30 ผมมา 9.00 ทุกวัน แล้ววิ่งกระหืดกระหอบมาเปิดประตู ยกมือไหว้อาจารย์ ยิ้มแห้งๆ ทุกครั้ง ไม่ได้อยากสายหรอกครับ แต่ไม่รู้ทำไม ตื่นไม่ทันจิง ๆ 55555 ดีที่พี่นัทพี่บอลจะเก็บชีทไว้ให้ ผมก็ลงนั่งที่หลังห้อง แล้วลอกชีทพี่นัทต่อตอนพัก ด้วยความมาสายแล้วยังฮาของผม ก็ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่คะแนนสอบอยู่ย่านสูงตลอดนะครับ ถ้าเต็ม 20 มีน 12 ผมจะอยู่ 16-17 จริงๆ คือไม่ต้องห่วง ผมสายแต่ผมพอเอาตัวรอดได้ตามประสา
แต่หญิงน่าจะไม่คิดแบบนั้น เพราะหลังๆ คนที่เก็บชีทเรียนให้ผมกลายเป็นหญิง พอผมมาถึง หญิงก็หันหลังส่งชีทเรียนมาให้ พอผมเปิดดู ก็พอมีสูตร หรือเนื้อหา จดไว้ให้บ้างนิดหน่อย เท่าที่หญิงจะจดเพิ่มให้ทัน หรือสำคัญจริงๆ "ขอบคุณ" ผมพูดเบาๆ ยิ้มๆ ไม่ให้รบกวนคนอื่นแล้วรับชีทมาจดต่อ ถึงเวลาพัก ผมก็สาวชีทพี่นัท พี่นนท์ หรือพี่บอยมาลอก ผมไม่ลอกไอ่ต้น เพราะไอ่ต้นชอบจิตหลุดแล้วจดไม่ทัน มันลอกผมซะมากกว่า
"เข้าใจไหมน่ะ" หญิงหันเก้าอี้กลับมาหาผมนี่นั่งลอกชีทอยู่ตอนพักเบรก "ยังไม่รู้เลย ลอก ๆไปก่อนค่อยว่ากัน" ผมพูดเอาฮา มือก็ลอกไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา "มา...หญิงจะอธิบายให้ฟัง" ผมนี่งงๆ ก็เงยหน้าขึ้นมา และนั่งฟังหญิงพูดอย่างจำใจ เพราะจริงๆ ผมไม่ได้ต้องการให้มีใครมาอธิบายตอนนี้ ผมถนัดอ่านเอง แต่ไม่อยากเสียน้ำใจก็นั่งฟัง นั่งอือๆ ไปแบบผ่านๆ ไปซะทุกครั้ง
และการพรีเซ้นงานการตลาด ส่วนใหญ่เป็นการจำการจัดอีเว้นต่างๆ ซึ่ง....ผมแม่งไม่คุ้นเลย 55555 ได้ยินความยิ่งใหญ่ของงานที่ต้องทำทีไร ผมอดขำไม่ได้ทุกที ว่า....จริงหรอวะเนี้ย!!!! แต่ดีที่เป็นคนทำงานเร็วครับ ผมมักทำเส็ดคนแรกๆ เพราะกลัวว่าถ้าทำช้า เพื่อนจะเดือดร้อนรอ และเราต้อง follow คนอื่น เลยชิงทำก่อน คนช้าต้อง follow ผมแล้วกัน ในการพรีเซ้นแผนการตลาด พี่บอยมักเล่นเป็นประธานบริษัท พี่นนท์มักพูดเกี่ยวกับ product ต้นมักพูด SWOT พี่บอยมักสรุป ส่วนผม....ผมมักโดนพูดการนำเสนอสินค้า และเล่นเป็น พรีเซ้นเตอร์ ทุกครั้ง บางทีผมก็ต้องเป้น MC ชวนคลาสเล่นเกมส์ โชคดีทีมีคนเล่นด้วยไม่หน้าแตก
การนำเสนองานครั้งนึงที่มีการเล่นเกมส์ ช่วงพักเที่ยง พี่ยุทธที่สีหน้าไม่ค่อยสู้สบายนัก ก็พยักหน้าเรียกหญิงที่นั่งกินข้าวอยู่ ให้ออกไปคุยกันที่บันไดหนีไฟ "พี่มีอะไรหรอ" หญิงถาม พี่ยุทธถอนหายใจนำ ด้านท่าทางหงุดหงิด "ทำไมต้องไอ่ปริ๊นซ์ด้วย" "ทำไมอีกน่ะพี่ พี่เป็นอะไรอีก" "ในห้องเมื่อเช้า ตอนพี่พรีเซ้น หญิงไม่เห็นจะช่วยเล่นกับพี่เลย แต่พอเป็นปริ๊นซ์ หญิงยกมือเล่นเกมส์กับมันคนแรก ไปยืนถ่ายรูปกับมันหน้าห้อง แล้วจะให้พี่รู้สึกยังไง" พี่ยุทธค่อยข้างหัวเสีย "พี่ก็รู้อยู่แล้ว หญิงก็บอกพี่แล้ว พี่อย่าเยอะดีกว่า" หญิงเองก็หงุดหงิดกลับ "ก็ใช่ไง แล้วดูหญิงทำดิ นี่เราเป็นแฟนกันนะเว่ย จะเลิกยุ่งกับปริ้นซ์มันไม่ได้เลยหรอ" "หญิงก็เป็นแฟนกับพี่นี่ไง คนเรียนด้วยกันน่ะ ทำไมต้องทำให้มันยากด้วย" พี่ยุทธที่ไม่อยากจะทะเลาะกับหญิงไปมากกว่านี้ เลยยกมือบอกให้หยุดพูด แล้วเดินกลับออกมาจากบันไดหนีไฟ ก่อนจะเดินไปสะกิดเจ๊ปิ่นผู้เป็นที่พึ่งทางใจ ออกมาขอคำปรึกษาแทน ว่าเค้าควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี
"เลิกยากวะแก...ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกยุทธ แกคิดดีๆ" เจ๊ปิ่นพูด "ปริ๊นซ์มันไม่รู้เรื่องเจ๊ มันเป็นของมันแบบนั้น มันไม่ได้อะไรกับหญิง" "งั้นแกก็เดินไปบอกปริ้นซ์ ว่าห่างๆ หน่อย" "ไม่ได้ดิเจ๊ คนที่ไม่ถูกคือคนของผม ปริ๊นซ์มันไม่รู้เรื่องเลย" เมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ พี่ยุทธก็ทำได้แค่เก็บความคับข้องใจเอาไว้ แล้วเดินกลับไปขอโทษหญิงที่พูดเสียงดังใส่แทน ....โคตรอบอุ่น....
เมื่อเรื่องนึงมันเกิดขึ้นให้ขุ่นใจ ไม่ว่าอะไรพี่ยุทธก็ขุ่นใจไปได้เสียหมด แค่เห็นหญิงหันมอง หรือหยุดทักทายกับผม ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ แต่พี่ยุทธเองก็คถูกคอและชอบผมในมุมของเพื่อนกัน และ Life style พี่ยุทธจึงพยายามทุกทางที่จะไม่ให้ผมต้องลำบากใจไปด้วย และเลือกเคลียร์ที่คนของตัวเอง พร้อมปรับทุกข์กับเจ๊ปิ่น หวังให้เจ๊ปิ่นปรามๆหญิงแทน แต่ความเจ๊ปิ่นที่เป็นคนรักเพื่อนมาก ก็พยายามพูดอ้อมๆ เตือนหญิง ซึ่งหญิงก็บอกกับเจ๊ปิ่นว่า "ไม่มีอะไรหรอกเจ้ กับปริ้นซ์น่ะเพื่อนกัน จริงๆ" "ให้มันจริงนะแก แกอย่างไปเผลอใจ ไม่งั้นคนที่จะเจ็บที่สุดมีแค่แกนะ" "รู้แล้วๆเจ้ พี่ยุทธมันบ่นใช่ไหม คือนั่นก็ระแวงไป ไม่เคยเชื่อใจกันบ้าง" "ให้มันจริงนะ ชั้นจะค่อยเฝ้าทั้งแกทั้งมันเลย" เจ๊ปิ่นประกาศกับหญิง ก่อนที่จะเริ่มจับตามองผมมากขึ้น คือรู้สึกได้เลยครับว่าเจ๊ปิ่นมักจะมองเวลาที่หญิงหันเอาชีทมาให้ผมลอก บางครั้งก็หันมาเท้าโต๊ะพูดกับผมว่า "หัดตื่นให้ทันมาเรียนบ้างนะ จะสอบแล้ว" ไอ่ผมที่ไม่รู้เรื่องอะไร รู้แต่ทำไมเจ๊แกตึงๆ วะ ก็คิดว่าเจ๊แกหวังดี "เมื่อคืนดึกน่ะ แต่จะพยายามนะเจ๊ปิ่น" ผมยิ้มแห้งๆ เจ๊ปิ่นที่ดูตึงๆ เหวี่ยงๆ ก็หันกลับไปคุยกับเพื่อนข้างๆ ผมก็นั่งจดต่อไป
ระหว่างช่วงพักเบรก ผมออกไปหยิบขนมกับน้ำมานั่งกินที่โต๊ะ โดยมีเพื่อนในกลุ่มนั่งคุยกันอยู่ด้วย เจ๊ปิ่นก็เข้ามาคุยด้วย ซักพักก็หันมาถามผม "แกมีแฟนป่ะเนี้ย" "มีพี่ ผู้หญิงนะ" ผมพูดพร้อมติดหัวเราะนิดๆ เข้าใจว่าเจ๊ปิ่นสงสัยว่าผมเป็นเกย์ "เอ้อออ ชั้นรู้ว่าผู้หญิง แล้วแฟนแกไม่หึงแกหรอ เวลาแกคุยกับคนนั้นคนนี้" "กับใครอ่ะ" "ก็แกดู....เฟรนลี่ ป่ะ" "ก็มีบ่นบ้าง แต่เค้าก็ปล่อยๆ นะ ทำไมอ่ะ" คือทุกครั้ง ผมจะจบด้วยคำถามทุกประโยค เพราะฟังแล้วงง ๆ ว่าเจ๊มาถามทำไม แต่เจ๊ปิ่นไม่ได้ตอบอะไร นอกจากยักไหล่แล้วคุยเรื่องอื่นต่อ
********************************************
ยิ่งคุย เจ๊ปิ่นก็ยิ่งดูเหวี่ยง ซึ่งบอกตรงๆ ว่า ผมคิดว่า พี่เจ๊เป็นคนหน้าตา บุคลิกดูเหวี่ยงอยู่แล้ว และด้วยความเป็นคนไม่คิดอะไรมาก ผมก็แค่ขายขำไปวันๆ
ส่วนพี่ยุทธก็ไม่สู่สบายใจ แต่ก็ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะยังไงเราก็ยังต้องเรียนด้วยกันอีกรวมปี
เหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อไป จะเกิดอะไรกับผม พี่ยุทธ หญิง และเจ๊ปิ่น
ติดตาม EP 2 ในบล๊อกถัดไปนะครับ
Create Date : 15 สิงหาคม 2566 |
Last Update : 15 สิงหาคม 2566 12:23:03 น. |
|
26 comments
|
Counter : 562 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnonnoiGiwGiw, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณเริงฤดีนะ, คุณkae+aoe, คุณชีริว, คุณThe Kop Civil, คุณnewyorknurse |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 สิงหาคม 2566 เวลา:14:17:32 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 15 สิงหาคม 2566 เวลา:16:11:16 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 15 สิงหาคม 2566 เวลา:16:42:34 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2566 เวลา:20:58:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 สิงหาคม 2566 เวลา:22:50:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:5:38:01 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:9:26:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:15:20:01 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:16:53:14 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:17:01:17 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:22:01:02 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 16 สิงหาคม 2566 เวลา:23:29:47 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2566 เวลา:5:26:13 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ชีวิตวัยเรียน พี่ก๋าว่ามันคล้ายการจำลองภาพสังคมเล็กๆ
แถมคณะนี้ที่น้องปริ๊นซ์เรียนก็ครบรสเลย
มีทุกอารมณ์ความรู้สึก 555
รออ่านตอนสองต่อนะครับ
มาดามชอบบอกพี่ก๋าว่าอย่าไปเล่าวีรกรรมสมัยเด็กของตัวเองให้ลูกฟังเยอะ
เดี๋ยวลูกจะห้าวเหมือนพ่อ 5555