20 Mule Team Canyon หน้าผา-ล่อยี่สิบตัว ได้ยินชื่อแล้วรู้สึกว่าแปลกๆใช่ไหมคะ ที่นี่เป็นชื่อที่เที่ยวอีกที่หนึ่ง ใน Death Valley ค่ะ ห่างจาก Zabriskie Point แค่อึดใจเดียว (คือหนึ่งไมล์) เราแวะที่นี่กันตอนขากลับไปที่พักที่ Furnace Creek ตอนบ่ายหน่อยๆ เขาว่าที่นี่เคยเป็นก้นทะเลสาบมาก่อนค่ะ (อีกแล้ว) พวกภูเขาที่นี่หน้าตาประพิมประพายคล้ายที่ Zabriskie Point แต่ขนาดทั้งความสูง ความลึก และความกว้าง ใหญ่กว่ากันมากนัก มีถนนสายสั้น One way 2.8 ไมล์ ฝุ่นตลบตลอดปี คดโค้งจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกไปตามหลุม หลืบ ช่องเขา หุบเหวของแร่บอแร็กซ์ วิ่งเข้าไปได้นิดนึง ฝุ่นตลบรถมอมอย่างที่หนังสือเขียนจริงๆ เราลงจอดให้รถคันที่ตามหลังมาวิ่งผ่านหน้าไปก่อน จะได้ค่อยๆวิ่งชมสองข้างทางช้าๆได้ทางเข้า 20 Mule Team Canyon
เข้าไปก็เหมือน site ก่อสร้างเลย เพราะเต็มไปด้วยกองหินทรายใหญ่โตเป็นภูเขาย่อมอยู่สองข้างทาง
ดูรวมๆเหมือนเตี้ยๆ พอกระโดดลงจากรถไปถ่าย เออหนอ สูงเหมือนกันนะเนี่ย
กับภูเขาฝั่งขวาของถนน
Dessert Holly ใบซีดๆ
ฟากหนึ่งของถนนเป็นกองหินสีเกือบขาว อีกฟากเป็นสีดำปนน้ำตาล ยิ่งเราขับรถลึกเข้าไปเท่าไหร่ ภูเขาสองข้างก็ขยับเข้ามาใกล้เรายิ่งขึ้น พร้อมทั้งกับค่อยๆชันขึ้น คดเคีั้ยวไปตามหลุม หลืบ โตรกเขา เวียนวนไปคล้ายเราขับรถอยู่บนทางรูปเคียว ถนนสายนี้ใช้เป็นเส้นทางขนแร่บอแร็กซ์ออกมาจากเหมืองค่ะ ในสมัยก่อนโน้นเขาใช้ล่อขน ทำไมถึงไม่เป็นม้า ลา หรืออูฐก็ไม่รู้ ล่อคงมีน้ำอดน้ำทนและเดินขึ้นเขาชันๆเก่งกว่ากระมัง แต่เขาไม่ได้เทียมล่อกับเกวียนทีเดียวยี่สิบตัวนะคะ หมายถึงว่ามีล่อทั้งหมด(ในทีม)ยี่สิบตัวต่างหาก เวลาขนแร่ออกมาตอนหน้าร้อน ถ้าฟังภาษาล่อออก คงได้ยินเสียงบ่นอุบจากหมู่ล่อเป็นแน่แท้ ทั้งสูงชัน แดดเปรี้ยงออกปานนี้ บอแร็กซ์ใช้ในอุตสาหกรรมหลายอย่าง ลอกเขามาได้ว่าใช้ทำพวกสบู่ ผงซักฟอกต่างๆ (ยังมีผงซักฟอกยี่ห้อ 20 Mule Team เลยค่ะ) ใช้เปลี่ยนน้ำกระด้างเป็นน้ำอ่อน และยังอื่นๆอีกมากมาย(ที่เจ้าของบล็อกหมดความสามารถในการแปลแต่เพียงเท่านี้ค่ะ) ตอนขับรถขึ้นไปจุดสูงสุด (เดาเอา) มีที่จอดรถได้สองคัน โชคดีว่าเราได้จอด(อย่างหวาดเสียว) เลยได้ไปถ่ายรูปข้างล่างนี้มาค่ะ จริงๆถ้ามีเวลาเดินคงจะได้รูปหินและถนนสวยๆมาเพียบแน่ๆค่ะ หน้าผาริมถนน
หินหลากสี
โค้งริมถนน
มองไปข้างหน้า เห็นถนนคดเคี้ยวไปตามกองหิน
แลไปข้างหลัง เห็นถนนรูปเคียวที่เราพึ่งขับผ่านมา
จากที่นี่เราแวะกลับไปกินข้าวที่โรงแรมค่ะ คราวนี้ไม่ต้องกินบะหมี่กระป๋องแล้ว แต่เข้าไปกินบุฟเฟ่ต์ของโรงแรมแทน หัวละสิบเอ็ดเหรียญถ้าจำไม่ผิด ก็นับว่าไม่แพงแล้วสำหรับอาหารในทะเลทรายนะคะ มีสลัดผัก ซุปข้นๆไม่ร้อน ไก่งวงอบ ผักต้มแบบฝรั่ง ไส้กรอก ขนมปัง ก็ตามปกติ รสชาติใช้ได้ แต่มีทัวร์จากฝรั่งเศสมาร่วมด้วยเต็มห้องอาหาร ได้ยินเสียงบ่นพึมพำ (เจ้าของบล็อกฟังไม่เข้าใจหรอกค่ะ แต่หน้านักท่องเที่ยวมันฟ้อง) โชคดีว่าเราไปก่อนหน้าเขาแว้บนึง ไม่งั้นคงไม่เหลืออะไรให้หม่ำแน่ๆค่ะ แต่ในความธรรมดาก็ต้องมีความพิเศษสักอย่าง สิ่งนั้นก็คือ Brownie ที่หน้าตาไม่ได้เรื่องสุดขีด วางเต็มถาดไม่มีใครแตะเลย แต่พอชิมเท่านั้นต้องบอกว่าอร่อยมากๆ พอกลับไปรอบสอง คราวนี้ไม่เหลือแล้วค่ะ เดินเล่นถ่ายรูปรอบๆ ที่นี่เขามีพิพิธภัณฑ์เหมืองบอแร็กซ์ด้วย ถ้าจำไม่ผิด office ของ Pacific Coast Borax Company ย้ายจากบริเวณ Canyon มาอยู่ที่นี่แทน ส่วนด้านหน้าก็มีพวกเกวียนต่างๆที่เคยใช้ขนแร่จัดแสดงอยู่ Furnace Creek Inn ดูแล้วไม่เหมือนอยู่กลางทะเลทรายเลยนะคะ
จะเอาอะไร Trader Post ที่นี่มีขายทั้งนั้น
จากโรงแรม มองไปเห็นทะเลทรายอยู่ตรงข้าม
ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ห่างกันเพียงฟากถนน
เกวียนเก่าจากอดีต
แวะ Visitor Center ก่อนกลับค่ะ
ด้านหลังที่เห็นสนามเขียวๆนั่นเป็นที่กางเต้นท์
ปิดท้ายกันด้วยรูปที่เจ้าของบล็อกตะเกียกตะกายไปบนยอดแล้วถ่ายลงมาค่ะ ล่อยังเดินผ่านถนนคดเคี่้ยวกลางแดดร้อนไปได้ เราก็คงเดินผ่านอุปสรรคในชีวิตไปได้เหมือนกันWhere there is a will, there is a way.
บล็อกหน้า
ปากทางที่ Golden Canyon
และถนนสวยที่ Artist Drive