Plain Living, High Doing...



Go West ~ Las Vegas










Casino ที่ Fremont




ไปเที่ยว Death Valley จบแล้วคราวนี้ก็กลับลาสเวกัส ทำธุระตามที่ตั้งใจไว้เสียทีค่ะ ธุระนี่ไม่ใช่มาเล่นสล็อกหรือโป้กเก้อร์หรอกนะคะ แต่ว่ามาสัมนา .NET VS Live Conference ถ้าใครที่ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์คงรู้จักดี สัมนาตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ แปดโมงเช้าถึงหกโมงเย็นค่ะ ในที่เดียวกันยังมีจัดของ Tech Mentor และ อีกงานของพวกทีทำ Web Design ด้วย สัมนาของพวก Web Design นี่เห็นหัวข้อแล้วอยากแอบทำตัวเล็กๆเข้าไปฟังด้วยจริงๆค่ะ หัวข้อน่าสนุกทั้งนั้น (แต่หัวข้อของตัวเองเห็นแล้วน่าเบื่อสุดๆ)

พอวันท้ายๆเห็นพวกที่จัดงานมาเล่าให้ฟังว่าตอนเช้าๆแน่นทุกห้อง แต่พอภาคบ่ายพวก Web นี่แทบจะหายหมดห้อง (คงไปแน่นอยู่ตามโรงแรมต่างๆ คริ คริ) แต่พวก .NET นี่ไม่ค่อยหายเท่าไหร่ค่ะ ส่วนตัวฉันเป็นมือใหม่ในวงการ เลยฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ หลับไปหลายหัวข้อเชียว (โชคดีที่ไปคนเดียว เลยหลับได้ไม่ต้องอายใคร)

พอไปสัมนาแบบนี้แล้วถึงได้รู้ว่าพวกโปรแกรมเมอร์ที่เจอตามงาน ไม่มีใครเขียน application ง่ายๆแบบฉันสักคน ส่วนใหญ่มักทำเกี่ยวกับเกม Graphic หรือโปรแกรมประหลาดๆที่เกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือที่ฉันไม่รู้จักบ้าง ในโลกนี้มีอะไรที่ฉันไม่รู้และนึกไม่ถึงอีกตั้งมากมายทีเดียว

พอเลิกเรียนหนังสือ ฉันก็หมดแรงค่ะ รูปที่เห็นในลาสเวกัสทั้งหมดเลยเป็นฝีมือของพี่หมีแต่เพียงผู้เดียว ส่วนฉันถ่ายวันสุดท้ายวันเดียวก็เอาไปอวดคุณๆตอน preview หมดแล้ว ที่ถ่ายวันสุดท้ายเพราะว่าฉันโดด workshop ค่ะ เลยมีเวลาท่องเที่ยวกับเขาบ้าง

เข้าเรื่องดีกว่า พี่หมีลากฉันไปเดินเล่นที่ถนน Fremont อันเคยเป็นย่าน Casino ที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนที่ Strip จะเกิดและคึกคักอย่างทุกวันนี้ ที่พาไปเพราะคุณเธออยากจะดู Fremont Street Experience ค่ะ ถ้ายืนอยู่ที่ Fremont street แล้วแหงนหน้าขึ้นจะมองไม่เห็นฟ้า แต่เห็นจอ LCD ที่ยาวที่สุดในโลกแทนค่ะ (เขาว่ายาวเท่ากับสนามฟุตบอลต่อกันห้าสนาม) หลังจากเดินไปเดินมาจนเมื่อยขาและอยากกลับไปนอนจนถึงที่สุด ตอนสี่ทุ่มหน่อย Viva Vision Canopy and Light Show ก็เริ่มเสียที วันนั้นเป็นเพลงและวีดีโอของวง Queens ตื่นเต้นดีสมกับการคอย อาจจะเป็นเพราะเพลงของวง Queens ด้วยกระมังคะ เขาเล่นสีสันสลับกันได้น่าตื่นตาตื่นใจ ใครหลับๆตื่นๆก็ถูกปลุกจากความฝันมาสู่โลกเสมือนบนจอโดยปริยาย โชว์นี้ยาวประมาณห้านาทีค่ะ

ตอนกลางคืนที่ลาสเวกัสนี่ ต้องบอกว่ายิ่งดึกยิ่งคึกคักนะคะ ไม่รู้คนมาจากไหนมากมายไปหมด นึกถึงสมัยก่อนตอนที่ทำงานอยู่เมืองไทย ทำงานอยู่ที่ตึกตรงข้ามพัฒน์พงษ์พอดี วันไหนทำงานดึกๆ ลงมาจาก office ห้าทุ่มเที่ยงคืนล่ะก็ เหมือนอยู่คนละเมืองกับตอนกลางวัน เพราะคนมากมายที่เดินไปมาขวักไขว่ ความรู้สึกนี้กลายเป็นตรงกันข้ามเมื่อต้องไปถึงที่ทำงานเช้ามากๆสักหกโมงเช้า แล้วเห็นหลักฐานความบันเทิงของคนนอนดึกทิ้งไว้ให้คนทำสะอาดต้องทำงานท่ามกลางความเงียบเหงา เป็นความรู้สึกแบบหนึ่งที่อธิบายยาก เจ็ดโมงกว่าๆที่ลาสเวกัสให้ความรู้สึกเดียวกับพัฒนพงษ์ตอนหกโมงเช้ายังไงยังงั้นเลยค่ะ

อีกคืนหนึ่งเราไปดูเครื่องเล่นบนยอดตึกโรงแรม Stratosphere ก่อนขึ้นไปชมวิวบนยอดตึก เราไปกินบุฟเฟ่ต์กันก่อน กว่าจะไปถึงห้องบุฟเฟ่ต์ได้แทบจะหนีเซลส์สาวชาวฟิลิปปินส์ไม่พ้น พยายามจะขาย Casino Wedding Package ด้วยความรักคนเอเชียด้วยกันอย่างสุดซึ้งให้เราให้ได้ จนในที่สุดต้องบอกว่ามาสัมนานะคะ บริษัทส่งมา เลยอยู่เล่นคาสิโนไม่ได้หรอก ห้องพักก็มีแล้ว และตอนนี้หิวมาก ฮา ฮา ที่เขียนถึงบุฟเฟ่ต์นี้เพราะที่นี่มี Split pea Soup ที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลยค่ะ

อิ่มแล้วเสียตังค์ขึ้นไปชมวิวบนหอคอยของโรงแรม วิวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่เครื่องเล่นนี่สิ ต้องใจเด็ดจริงๆถึงจะเล่นได้ X-scream นี้คล้ายๆจรวดที่พุ่งตกจากหอคอยเป็นมุม 30 องศาลงไปในอากาศ แล้วกระชากเรากลับเข้ามาที่เดิม ฉันกับพี่หมีมองหน้ากันแล้วนึกในใจว่าคนเล่นนี่ช่างบ้าแท้ๆ อีกอันชื่อว่า Insanity Ride (น่าจะลองให้พี่แดง Devonshire มาแปลเป็นไทย) เป็นแขนที่มีกระเช้าอยู่รอบๆ แขนนี้จะยื่นออกไปจากหอคอย สูง 900 ฟุตจากพื้น พอยื่นออกไปแล้วจะหมุนควงสว่านรับลมสักพักให้เสียวท้องเล่นก่อนจะหดกลับเข้ามา

ฉันขอแค่เป็นคนดูอย่างนี้ดีแล้วค่ะ .... แค่นี้ก็เสียวแทนมากแล้วววว...








Fremont Street Experience



หอไอเฟลที่โรงแรมปารีส ดูในรูปก็ใหญ่ดี ของจริงๆดูเล็กๆนะคะ
Strip มองจากหอคอยที่ Stratosphere
พระจันทร์ขึ้นที่ลาสเวกัส ระหว่างตึกโรงแรมปารีส




หน้า The Village โรงแรมปารีส สังเกตฟ้านะคะ






คืนถัดๆมา แม่กับน้องตามมาสมทบด้วย ส่วนใหญ่เราเลยเดินเที่ยวสบายๆอยู่แถว Strip และกินข้าวโรงแรม ว่ากันว่าอาหารแบบบุฟเฟ่ต์เกิดขึ้นที่ลาสเวกัสนี่ล่ะค่ะ เลยมีร้านบุฟเฟ่ต์มากมายให้เลือกตามความพอใจ ฉัน(และพลพรรคที่บ้าน)ชอบบุฟเฟต์ที่ The Village โรงแรมปารีสมากเป็นพิเศษ แต่ไปกินเป็นมือกลางวันนี่น่าจะดีกว่านะคะ คิดว่าถ้าคนชอบกินอาหารฝรั่งจะถูกใจมากเป็นพิเศษค่ะ

โรงแรมที่นี่มีของพิเศษอย่างหนึ่งคือฟ้าปลอม (อันนี้เรียกตามคุณพิมเลยค่ะ) ทำให้บรรยากาศดูเหมือนตอนเย็นๆ โพล้เพล้ใกล้ค่ำ เป็นวันสบายๆตลอดเวลา เดินดูฟ้าปลอมมาหลายโรงแรม ชอบฟ้าปลอมของโรงแรม Venetian มากที่สุด เพราะดูสว่าง สบายกว่าโรงแรมอื่นๆ (เดาเอาว่าเขาทำเพดานสูงจากพื้นมากกว่าโรงแรมอื่นๆด้วย)

มีอยู่วันหนึ่ง ชั้นเรียนของฉันเลิกเร็วเป็นพิเศษ พี่หมีก็ไปฉายเดี่ยวอยู่ที่ Red Canyon ฉันเลยไปเดินเล่นที่โรงแรม Venetien คนเดียว แล้วเลยเดินไปถึงร้านขายภาพของช่างภาพคนหนึ่งชื่อว่า Peter Lik ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนหรอก แต่พอเข้าไปดูรูปแล้วจำได้ว่าหลายรูปเคยผ่านตามาก่อน เพราะเขาเป็นนักถ่ายภาพธรรมชาติ และฉันก็ชอบดูภาพแนวนี้อยู่แล้วด้วย ร้านขายภาพของเขามีแนวคิดที่ว่าขายภาพถ่ายเป็นงานศิลปะเหมือนกับภาพวาด ภาพของเขาจึงขนาดใหญ่มากๆ ถ้าเป็นภาพแนวตั้งก็สูงกว่าตัวเราละกันค่ะ ส่วนใหญ่เป็นภาพพาโนรามาด้วย ภาพของเขาที่ฉันชอบมากที่สุดคือภาพที่ Antelope Canyon ฉันคงจะหาภาพมาให้ดูไม่ได้ แต่ถ้าคุณลองถามอากู๋เกิ้ลดูล่ะก็เจอแน่นอนค่ะ

ตอนกลางวันที่ลาสเวกัสอากาศดีมากค่ะ เขาเลี้ยงอาหารกลางวันดีทุกวัน กินข้าวเสร็จเลยต้องออกไปเดินย่อยอาหาร ลาสเวกัสตอนกลางคืนดูสวยกว่ากลางวันนะคะ ฉันว่าสิ่งก่อสร้างที่จำลองมา ไม่ว่าจะเป็นตึกแบบโรมัน หอไอเฟล ปิรามิด หรือตึกสมัยใหม่ที่ใหญ่โตเสียเหลือเกิน อยู่ใกล้กันเกินไป (จะทำอย่างไรได้ ที่แพงนี่นา) เพราะไม่มี"ความว่าง"เข้ามาแทรกอยู่ระหว่างกันเสียบ้าง เลยทำให้ความสวยดูไม่ชัด กลายเป็นความอึดอัดขึ้นมาแทน ส่วนกลางคืนดูสวยกว่าก็เพราะว่าความืดเข้ามาบดบังความระเกะระกะไปบ้าง มีของให้มองเห็นน้อยลง

ฉันบอกเพื่อนที่ไปเดินเล่นชมเมืองด้วยกันว่า นี่ถ้าสักอีกหลายร้อยปีผ่านไป มีเหตุให้ที่นี่กลายเป็นเมืองร้าง พวกนักโบราณคดีคงงงว่าทำไมศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกถึงมาอยู่ใกล้ๆกันได้ :-) ที่ฉันชอบมากอย่างหนึ่งในตอนกลางวันคงจะเป็น "ฟ้าจริง" เพราะมันใสจริงๆ ฟ้าเป็นสีฟ้า ใสได้อย่างมากที่สุดเท่าที่ฟ้าจะใสได้เลย เพื่อนคนเดิมที่ไปเดินเล่นกับฉันบอกว่าเพราะที่นี่ความชื้นในอากาศน้อย ฟ้าเลยใสสุดๆแบบนี้ แต่ถ้าเดินนานๆไป ผิวจะแสบไม่รู้ตัวเลยค่ะ

เช้าวันสุดท้าย พลพรรคในครอบครัวของฉันยกโขยงไปกินอาหารเช้าที่ร้าน Payard นัยว่าเป็นร้านขายเบเกอรี่ของฝรั่งเศส ฉันโดดเรียนตามไปทีหลังทันได้กิน Crepe กับเขาด้วย เดินไปดูขนมในร้าน หน้าตาสวยชวนกิน ฉันเดินกลับไปถามพี่หมีว่า ร้านชื่อประหยัด ทำไมราคาแพงจัง (ตัดพ้อเสียด้วย คริ คริ)








เดินชมเมือง ฟ้าใสสุดๆ




ซ้าย - หน้าร้านประหยัด / pastry ของร้านเบเกอรี่ใน Bellagio / Crepe ร้านประหยัด
ขวา คาสิโนของสักโรงแรม อันนี้ฉันไม่ได้ไปด้วย / เทพเจ้าในโรงแรมเวเนเทียน




ถ้าถามฉันว่า ฉันชอบลาสเวกัสไหม คงตอบได้ว่ามาเที่ยวครั้งเดียวคงพอ นิสัยฉันคงไปกันได้กับพวกป่าเขาลำเนาไพรมากกว่า แต่ก็ได้ดูได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และก็สนุกดี อีกทั้งยังอ้ศจรรย์ใจในความพยายามของมนุษย์ที่เปลี่ยนทะเลทรายให้กลายเป็นเมืองอย่างลาสเวกัสได้

แต่มีอย่างหนึ่งที่ฉันชอบมากที่สุดของลาสเวกัสค่ะ สิ่งนั้นมากับสายลมโชยในวันที่อากาศสบายและฟ้าใสสุดใจ ฉันสังเกตว่าถึงแม้ว่าเราจะเดินอยู่บนบาทวิถี แต่ถ้าไม่มีใครสูบบุหรี่อยู่ใกล้ๆ และมีลมโชยมาล่ะก็ ฉันจะได้กลิ่นหอมจางๆชื่นใจอย่างหนึ่ง ฉันมองหาอยู่นานเหมือนกันกว่าจะพบว่ากลิ่นนั้นคือกลิ่นของ Rosemary

ตามถนนหน้าโรงแรมเขาปลูก Rosemary กันทั่วไปค่ะ คล้ายกับที่เราปลูกหญ้าบนทางเดินนั่นค่ะ ฉันไม่เคยเห็น Rosemary ปลูกเยอะๆแบบนี้เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษ ถ้าเราเอามือไปลูบใบ Rosemary ก็จะได้กลิ่นหอมเย็นๆชื่นใจนี้ติดมือมาด้วยค่ะ ช่วงที่ไปกำลังออกดอกสีม่วงเล็กๆด้วย แดดที่ลาสเวกัสสวยอยู่แล้ว Rosemary กลางแดดใส และสายลมอ่อน สวยหอมชื่นใจจริงๆค่ะ







Rosemary in Las Vegas





เวลาถูกแดดอย่างนี้ สวยละมุนตาจังนะคะ






ปิดท้าย คงมีคนสงสัยว่าเล่นสล็อตหรือเปล่า แหม คนไม่เคยเล่นก็ต้องลองกันหน่อยนะคะ ผลลัพธ์ออกมาว่าไม่ได้ไม่เสียค่ะ รอดตัวไป แต่ถ้าแจกแจงต้องบอกว่าคุณหมีได้มาสองร้อย เอาไปเล่นบ้างเลี้ยงข้าวบ้าง ก็หมดพอดี เล่นแล้วก็เพลิดเพลินนะคะ เขาถึงว่าเมืองแบบนี้อยู่นานคงไม่ดีแน่ค่ะ

สวัสดีกันห้วนๆแบบนี้ค่ะ คราวนี้รูปน้อยเลยเล่าเสียยาวเลย






บล็อกหน้า
ฮูเว่อร์แดมค่ะ









 

Create Date : 14 มีนาคม 2552
10 comments
Last Update : 7 พฤษภาคม 2561 3:18:58 น.
Counter : 1115 Pageviews.

 

เป็นเพื่อนบ้านกังไว้ ดีจาตาย งุงิๆๆๆ
มีไร จาได้ ช่วยปลอบใจกัง

โจ...พลังชีวิต

 

โดย: พลังชีวิต 14 มีนาคม 2552 11:48:08 น.  

 

สวัสดีค่ะ

มาเยี่ยมด้วยรักและระลึกถึงเสมอค่ะ สุขสบายดีนะคะ...ฟ้าสว่างใส...ภาพหนึ่ง..ที่มีน้ำพุ..งามตรึงใจนัก ไร้เมฆ...สว่างดีแท้ๆเลยค่ะ...

ดงโรสแมรี่ งามจับตา ยอดเอนอ่อนช้อย..งามนัก...

สวัสดิ์โสรวาร-มานรมณีย์ค่ะ

 

โดย: sirivinit 14 มีนาคม 2552 12:49:44 น.  

 

ก็ถือว่าเปิดหูเปิดตาไปเที่ยวในมุมอื่นนะคะ

รัชชี่ชอบเที่ยวสถานที่ที่ดูสถาปัตยกรรมเก่า ๆ น่ะค่ะ แล้วก็ไม่ชอบที่ ๆ เป็นเมืองมาก

แต่ก็ยังต้องการความสะดวกสบายของสถานที่พัก และเรื่องอาหารการกินอยู่ค่ะ

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 14 มีนาคม 2552 13:34:09 น.  

 

อยากไปอัพเดทเหมือนกัน ไปมาเกือบสิบปีแล้วอ่ะ ป่านนี้คงมีอะไรๆใหม่ๆเยอะแยะนะคะ

 

โดย: Bee1st 14 มีนาคม 2552 13:39:51 น.  

 

คงมีสักวันจะได้ไปบ้างคะ
ดูแค่ CSI Las vegas ไปก่อนก้อแล้วกัน

 

โดย: C&C_BamBoo 14 มีนาคม 2552 17:00:34 น.  

 

มาอ่านบล็อก"ลาสเวกัส"อย่างเพลิดเพลิน
แต่คงเมินไม่ไปเที่ยวด้วยเป็นแน่
ไม่ค่อยปลื้มชมอะไรที่ไม่ "แท้"
ขอไปแค่"แกรนด์แคนยอน"น่าจะพอ

โรสแมรีรูปสุดท้ายช่างงดงาม
นึกถึงยามหมักกับแลมบ์เสียจริงหนอ...
ทั้งหอมหวนชื่นใจทุกทุกช่อ
...แล้วจะรอตอนต่อไปในเร็ววัน...นะคะ...
......
พออ่านไหวนะคะแป๋ว....
สุขสันต์วันเสาร์นะคะ...
ปอลอ...ฝากชมคุณหมี ถ่ายรูปได้สวยเท่ด้วยมุมมองดีๆ ทุกรูปเลยค่ะ...

 

โดย: Devonshire 14 มีนาคม 2552 18:59:31 น.  

 

ตอนกลางวัน
ลาสเวกัสร้างมากๆ
แต่กลางคืนอย่างที่พี่แป๋วว่า
ไม่รู้มาจากไหนกัน
ตอนที่ไปนั้น เห็นเมืองไกลๆ
หนูรู้สึกทึ่งเมืองนี้ตรงที่
เป็นเมืองเดียวกลางทะเลทราย
เหมือนคนที่อยู่ลำพังอ่ะค่ะ
และอยู่รอดได้ก็แปลว่าเก่งมาและต้องมีอะไรดีพอตัว

อ่านเรื่องยังไม่ละเอียด
ไว้แวะมาใหม่ดีกว่าค่ะพี่แป๋ว
^^

 

โดย: I am just fine^^ 14 มีนาคม 2552 20:45:01 น.  

 

กลิ่นโรสแมรี่โชยอ่อนๆ ในวันฟ้าใส โอ้ว จินตนาการตามเลยค่ะ

 

โดย: arcoiris 15 มีนาคม 2552 12:24:51 น.  

 

ไม่ได้ดูโชว์บ้างเหรอค้า เค้าว่ามาเมืองนี้ต้องไปดูโชว์อ่ะค่ะ โชว์อะไรบ้างก็ไม่รู้เหมือนกัน

สำหรับหนู พูดถึงเวกัส นึกถึง CSI กะพ่อหมีกริสซั่มไปซะทุกทีเชียว

ชอบกลิ่นโรสแมรี่เหมือนกันค่ะ

 

โดย: ดวงลดา 16 มีนาคม 2552 11:25:22 น.  

 

เห็นฟ้าปลอมแล้วนึกถึงคุณแม่ค่ะคุณแป๋ว

พิมชอบเวกัสตรงที่ว่า มักจะได้ห้องพักดีๆราคาถูกๆค่ะ พิมเลยไปบ่อยแล้วค่อยขับรถออกไปเที่ยวด้านนอกเวกัสกันน่ะค่ะ แต่ถ้าในเมืองเวกัสพิมงั้นๆ หลังๆที่ไปนี่แทบจะไม่ได้เดินดูแสงสีด้วยซ้ำค่ะ

ว่าแต่ว่าพิมไม่ได้ไปนานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย

 

โดย: pim(พิม) 16 มีนาคม 2552 23:21:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


SevenDaffodils
Location :
Maryland United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]









Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
14 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add SevenDaffodils's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.