12 ตุลาคม 2008 Zabriskie Point, Dealth Valley NP, California
ฉันจำใจตื่นแต่เช้า อาบน้ำแล้วออกมานั่งกินบะหมี่กระป๋องรส Creamy Chicken รสนี้ฉันชอบนัก เลยไม่มีเสียงบ่นเท่าไหร่ เช้าๆอย่างนี้ฉันมักไม่ค่อยหิว แต่วันนี้ถูกขู่เอาไว้ว่ากว่าจะได้กินข้าวกลางวัน คงจะอีกนานมากๆ
เจ็ดโมงนิดหน่อย ฟ้ายังไม่สาง หน้านี้พระอาทิตย์ตื่นนอนสายและเลิกงานเร็ว เราขับรถออกไปบน Highway 190 สัก 20 นาทีเห็นจะได้ ฉันนึกไม่ออกว่าเขามาถ่ายรูปอะไรกันตอนฟ้ากำลังสลึมสลือครึ่งหลับครึ่งตื่นแบบนี้ แต่เขาบอกว่าที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ก็คงมาดูพระอาทิตย์ตื่นนอนนั่นแหละ
จอดรถเสร็จ มองไปรอบๆตัว ฉันเห็นว่าเต็มไปด้วยกองหิน กองที่ดูเหมือนทราย แต่ไม่ใช่ทราย เพราะมันไม่ร่วนๆ แต่ว่าแข็งปั้ก ลองนึกภาพว่าเดินเข้าไปในไซท์ก่อสร้างที่เตรียมหินเตรียมทรายเอาไว้จะสร้างตึก เพียงแต่ที่นี่คงเป็นไซท์ก่อสร้างที่ถูกพระเจ้าลืมกระมัง ค่าที่ว่ากองหินกองทรายนั่นมันกองมโหฬารเทียมฟ้าและมีเป็นหมื่นเป็นแสนกองมากมายสุดลูกหูลูกตา ฟ้ารอบๆตัวฉันเป็นสีน้ำเงินเข้มจัด แต่ใสเพราะความชื้นในอากาศน้อย
ภูเขาหินข้างหน้าดูไม่สูงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับทางด้านขวามือและเทือกเขาไกลออกไป มีทางเดินทอดเป็นรูปตัวเอสขึ้นไปบนลานเป็นระยะทางประมาณ 200 ยาร์ด (ราวๆ 180 เมตร) ฉันไม่เห็นใครเลยเพราะทุกๆคนขึ้นไปอยู่บนลานบนยอดกันหมดแล้วน่ะสิ
ฉันมัวแต่โอ้เอ้ เพลิดเพลินกับเก้าอี้ริมทาง ขึ้นไปถึง "ลานรับอรุณ" ทันเห็นแสงแรกพอดี
เก้าอี้ที่ปลายบนของตัวเอส มองไปเห็นแสงแรกตกต้องภูเขาหิน Manly Beacon สัญลักษณ์ของ Zabriskie Point อาบแสงแรกของวัน Paramint Range เมื่อแสงตะวันมาถึง Manly Beacon กับแสงที่ชักจะไม่นิ่มนวลแล้ว
พระอาทิตย์ขึ้นมาจากเหลี่ยมไหนของภูเขาหิน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมัวแต่เสียเวลาไปกับข้างทาง ถึงตอนนี้ฉันรู้แล้วว่า จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ เขามาดูภูเขาหินเปลี่ยนสีไปตามมุมแสงที่สาดเข้ามาแล้วก็แว้บเดียวเท่านั้นเอง แสงอาทิตย์ก็แผดจ้าไปทั่วบริเวณ ช่างภาพที่เห็นกางขาตั้งกันอยู่หลายกลุ่ม ก็สลายหายตัวไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับที่แสงอาทิตย์มาถึงนั่นล่ะ
พอสว่างแล้ว กองหินกองทรายขนาดยักษ์รอบๆตัวก็มีหน้าตาต่างๆกันไป ทางด้านขวาเป็นภูเขาสูงหินลายดำสลับขาวหม่นๆ กองหินด้านหน้าของฉันนั้นดูเหมือนใครทำนมข้นหวานหกลงมากระป๋องใหญ่ เพราะหินข้างหน้าเป็นหินโคลนสีเหลืองจับเป็นจีบลาดไหลไปทั่วๆ จนไปจรดกับพื้นราบๆสีดำ ที่เรียกว่า BlackWater wash และกลับสูงชันขึ้นเป็นภูเขาหินสีทองเมื่อยามต้องแสงเช้า เทือกเขาหินนี้เรียกว่า Paramint Range ส่วนยอดสูงหน้าตาเหมือนฟันปลาฉลามทางด้านขวามือนั้นคือ Manly Beacon เพราะเป็น Beacon หรือเป็นสัญลักษณ์ของ Zabriskie Point นี่ล่ะ
ด้านซ้ายเป็นเหมือนกองทรายขนาดยักษ์ที่ถูกทำให้แข็งเมื่อกำลังไหลลงสู่พื้น หินทรายจับเป็นจีบเป็นลอนอย่างน่าทึ่ง บ้างก็จีบเป็นผ้าม่าน บ้างก็เหมือนทรายที่มีน้ำไหลผ่านเป็นบางจุดแล้วเลยยุบลงเป็นคลื่นเป็นลอนลูกฟูก ระหว่างภูเขาทรายด้านนี้มีทางเดินไป Golden Canyon ได้ ไม่ไกลนัก แต่ทรมานเอาเรื่องโดยเฉพาะหน้าร้อน ทางเดินนี้เขาว่าเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพ เสียดายว่าฉันมารู้เอาก็ตอนกลับมาแล้ว แบบนี้แปลว่าต้องกลับไปอีกทีใช่ไหม
ภูเขาหินด้านขวา เป็นลวดลายขาวหม่นๆดำจืดๆ สลับกันเป็นรอยตามขวาง Yellow Mudstone ด้านข้าง มี Dark Lava Cap ด้านบน หินผ้าม่านนี้เป็นมุมสุดฮิต กลับมาแล้วมาอ่านหนังสือดู เลยเห็นว่าเราก็ถ่ายมาด้วยเหมือนกัน ลวดลายของภูเขาหินทราย พอแดดมาแล้วสีสวย ดูเฉยๆรู้สึกว่าเหมือนผ้าม่าน พอมีพีหมีลงไปเดินแล้ว เหมือนมดไต่อยู่บนกองม่านในคฤหาสน์ ไกลมาใกล้ Paramint Range, BlackWater Wash และ mudstone ใกล้ๆ Manly Beacon หันหลังให้จุดชมวิว มีกองหินหน้าตาเหมือนเท้าช้าง กับต้นหญ้าแห้งๆเป็นกลุ่ม
พอไม่มีใครก็เริ่มสนุก ฉันไต่ลงไปตาม"หินผ้าม่าน"ที่กองสุมๆอยู่ข้างหน้า กระโดดไปมาด้วยแรงบะหมี่ตอนเช้ามืด แดดจัดแต่ไม่ร้อนเพราะช่วงนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ร่วง (ใน Death Valley นี่อาจจะเรียกว่าฤดูหนามร่วงหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่มีแต่ต้นกระบองเพชร) แถมฟ้าสวยใสปิ๊ง เป็นสีฟ้าตัดกับกองหินกองทราย ทีนี่เป็นความมหัศจรรย์อีกแบบของธรรมชาติ ไม่แพ้ที่อื่นๆในโลก ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่ที่ไม่มีต้นไม้สักต้นอย่างที่นี่จะสวยได้ขนาดนี้
Zabriskie เป็นนามสกุลของพนักงานคนหนึ่งของบริษัท Pacific Coast Borax ที่ Death Valley คงจะอุดมไปด้วยแร่นี้ เพราะที่นี่ทั้งพิพิธภัณฑ์และเหมือง Borax เก่า
สองเรา ลานจอดรถ ชวนไปชมหิน พอเห็นว่าลงได้ฉันเลยขอลงไปบ้าง แล้วเอาเงาตัวเองไปเป็นมนุษย์หินดู ถ้าอยากจะจินตนาการดูว่าไซท์ก่อสร้างของพระเจ้าใหญ่แค่ไหน ให้ลองมาหาฉันในรูปนี้ดู (รูปนี้ฝีมือพี่หมี ตอนทำรูปฉันพะยี่ห้อตัวเองเพลินไปหน่อย) อยากจะมีรูปกับ Manly Beacon แค่เงาก็ยังดี กลับมาที่ลานจอดรถ มองขึ้นไปเห็นหินเหมือนหน้าสฟิงซ์
เราอยู่ที่นี่จนเริ่มสาย มีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ทยอยมาถึง คราวนี้ไม่ใช่กลุ่มช่างภาพแล้ว ฉันว่าที่นี่ตอนสายๆก็สวยมาก เรียกว่าจะมาตอนไหนก็สวยทั้งนั้น สวยที่สุดตอนที่ได้มาถึงนั่นล่ะ ก็ใช่ว่าจะมีโอกาสได้มาง่ายๆเสียเมื่อไหร่กัน ฉันนึกอยากเห็นที่นี่ตอนพระจันทร์เต็มดวง แสงจันทร์คงทำให้ที่นี่เวิ้งว้างแต่สวยจับใจ
ที่นี่เขาว่าถ่ายรูปขาวดำสวยเป็นพิเศษ Ansel Adams บิดาแห่งการถ่ายรูปขาวดำก็มีรูปที่ Zabriskie Point ด้วย ลวดลายและลักษณะของภูเขาหินจะแข่งกันโดดเด่นเป็นพิเศษ พวก Workshop ทั้งหลายก็มักจะเน้นสอนถ่ายภาพขาวดำ ฉันเลยขอปิดท้ายเป็นรูปขาวดำบ้าง
จีบของลาวาที่กลายเป็นหิน นอนหลับอยู่ใต้ทะเลสาบมาเป็นล้านปี แล้วตอนนี้ก็มานอนอาบแดดอยู่กลางทะเลทรายแทน ทางขึ้น รูปนี้ฉันชอบกองหินทางด้านซ้ายมือ
ของแถม มีคนใจดีฝากคลิป Zabriskie Point ตอนพระอาทิตย์ตื่น กดที่ลิงค์ไปชมนะคะ
Sunrise on Zabriskie Point Video Clip
|
โอ ลานหินที่ไม่มีต้นไม้ สวยสมคำบรรยายจริงๆ
ริ้วลอนๆ ช่างทำให้เกิดเงาเข้มสลับอ่อนได้สวยงาม
ไม่น่าเชื่อว่าหินเหล่านี้เคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน
วันนึงธรรมชาติก็กลับเอาขึ้นมาตากแดดซะงั้น
สงสัยต้องไปใหม่อีเที่ยวแล้วมั้งครับคุณแป๋ว
ยังขาด Golden Canyon อย่างที่ว่า
ถ้าถามว่าให้ไปอีกเอามั้ย คุณแป๋วจะตอบว่า...