ถนนแยกเข้า Devil Golf Course เป็นลูกรัง วิ่งทีฝุ่นตลบ
ยังอยู่บนถนน Badwater ค่ะ เดี๋ยวเห็นรูปคล้ายๆบล็อกที่แล้วจะหยุดอ่านไปเสียก่อน Devil Golf Course นี้ต้องเลี้ยวขวาแยกจากถนนหลักไปประมาณ 1.3 ไมล์ เป็นถนนลูกรัง โขยกเขยกทำเอาหายอิ่มไปเลยล่ะค่ะ
Devil Golf Course เป็นชื่อเรียกที่บอกความช่างเป็นคนประชดประชันของฝรั่งมากกว่าค่ะ คำนี้อยู่ในคู่มือนำเที่ยวของอุทยานแห่งชาติเมื่อปี 1934 ว่า only the devil could play golf เพราะพื้นที่นี่เต็มไปด้วยก้อนเกลือตะปุ่มตะป่ำสูงๆต่ำทั่วไปหมด จะเคลื่อนตัวไปทางไหนต้องใช้วิธีกระโดดหย็องแหย็งไปตามก้อนเกลือ
จะเรียกว่า Devil Golf Course คือนาเกลือขนาดใหญ่ของธรรมชาติก็ไม่ผิดค่ะ ใต้ผืนดินที่นี่เต็มไปด้วยเกลือ บางฤดูที่ฝนตกมาก น้ำก็จะท่วมทุ่งเกลือ (Salt Pan) แล้วก็ค่อยๆถูกแดดเผาจนเหือดแห้งเหลือแต่เกลือตกผลึกค้างไว้เป็นทุ่งกว้างใหญ่ไพศาล ที่นี่เขาให้เราเดินลุย"นาเกลือ" ได้ตามสบายค่ะ ช่วงติดกับที่จอดรถคงมีคนลงไปลุยบ่อยเป็นพิเศษ หรือไม่ก็เพราะชิดถนน เพราะเกลือบริเวณนี้ไม่ค่อยขาวแล้ว สีออกกระดำกระด่างเป็นก้อนโคลนชอบกล แต่พอเดินลุยเข้าไปในๆ คราวนี้ขาวจ๋องตามแบบฉบับนาเกลือปกติแล้ว
ส่วนรสชาติเกลือที่นี่ เราสองคนแอบไปพลิกหินก้อนสะอาด แล้วชิมมาแล้ว ได้ความว่า เค็มมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก ค่ะ (แทบแย่เลยล่ะ)
มองจากลานจอดรถ เห็นเกลือกระดำกระด่าง (แต่แอบหวาน) เดินไปในทุ่งเกลือ ค่อยๆขาวขึ้นค่ะ ถ่ายจากกลางสนามกอลฟ์ แอบซนพลิกก้อนหินดูเกลือเพิ่งเกิดใหม่
ที่ฉันติดใจมากเป็นพิเศษ กลับไม่ใช่พื้นผิวตะปุ่มตะป่ำเต็มไปด้วยผลึกเกลือสีขาวหรอกค่ะ ฉันติดใจภูเขาเบื้องหลังมากกว่า ภูเขานี้ชื่อ Amargosa สีสวยมากๆ เป็นภูเขาสีพาสเทลและแปลกตาที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาเลยก็ว่าได้ สีเทา ดำ และน้ำตาลสลับสีเล่นลายจนภูเขาเหมือนถูกลาดด้วยพรมรูปพัดหนานุ่มเนียนจนน่าไปปีนเล่นเชียวล่ะค่ะ
Salt Pan สีขาว ภูเขาสีน้ำตาล ฟ้าสีเข้ม Devil Golf Course เป็นที่หนึ่งที่วิวสวยสุดใจเลยค่ะ
ภูเขาลายพัดหลังสนามกอลฟ์ เจดีย์เกลือ แปลกดีที่นี่นักท่องเที่ยวชอบเอาหินมาก่อกองเป็นเจดีย์แบบนี้ ลวดลายบนภูเขา สวยจนลืมหายใจ
คราวนี้เราขับรถยาวไปจนสุดถนน Badwater เลยค่ะ จำใจต้องตัดสถานที่เที่ยวตามรายทางออกไปเพราะอยากจะไปถึง Badwater Basin ก่อนมืด
Badwater Basin เป็นจุดต่ำสุดของซีกโลกตะวันตก คือต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 282 ฟุต น้ำในสระ(หรืออ่าง)นี้มาจากฝนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่น้ำที่เห็นในสระนี้ใช้ดื่มไม่ได้เพราะว่าเค็มจัด พวกนักสำรวจเลยเขียนในแผนที่ว่า Badwater ในที่สุดสถานที่นี้เลยได้ชื่อว่า Badwater มาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ที่นี่เป็นจุดท้ายที่แวะพักได้มีห้องน้ำให้เข้า หลังจากนั้นเราก็ขับยาวเข้าเมืองเลยค่ะ
เมื่อเราเดินอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล จุดชมวิว(บ่อเกลือก็ว่าได้) สระเกลือ เรียกอย่างนี้ได้ไหมคะ ไม่ได้ลองชิมน้ำ ไม่รู้เค็มขนาดไหน จุดชมวิวอีกมุมหนึ่ง เกลือ... ก้มลงไปดูจากทางเดิน ถนนเกลือ ไกลสุดสายตา เดินไปก็สงสัยไป ทำไมถึงพอเหมาะเป็นถนนได้แบบนี้
ระหว่างทางฉันเกิดตาไวตัว Big Horn Sheep สองตัวบนเขา พี่หมีเลยจอดรถคว้ากล้องไปถ่าย ส่วนฉันเลยเล็งพระจันทร์ไปตามเรื่องตามราว กลางทะเลทรายแบบนี้พระจันทร์ขึ้นสวย โลกกระด้างมีแต่หินดินทรายก็ดูนุ่มนวลขึ้นกลางแสงจันทร์
พระจันทร์กลางทะเลทราย สวยจังนะคะ เกือบเต็มดวงเชียว แสงสุดท้าย ถ่ายจากในรถ เห็นหุบเขาที่เราจากมาเลือนราง เจ้าของบล็อกชอบค่ะ แปลกๆดี
รูปสุดท้าย เกลือที่ว่าเค็มก็ต้องหวานเพราะเรานี่ล่ะ
|
ไม่ใช่น้ำต้มผักยังว่าหวาน
ต้องเปลี่ยนเป็น
เกลือยังว่าหวาน
ยังอ่านไม่ละเอียดนะคะ
งานสุมมากๆ
ไว้แวะมาใหม่นะคะ
คิดถึงๆ จึงแวะมา
^^