..... หมดลมหายใจก็ไปแต่ตัว อย่ามามัวแย่งชิงทุกสิ่งอย่าง .....ขอบคุณทุกคน ที่มาแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีความสุขกันทุกคนนะครับ....
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
เรื่องสั้น วิญญาณหลังสึนามิ ตอน .. ผีหาหอย




บล็อกที่ 29

“ครืนน...ซ่า ครืน..ซ่า...”

เสียงครืน..ซ่า..ครืน..ซ่า เบาๆนั้นฟังดูแล้วมีมนต์ขลังเสียเหลือเกิน

เสียงของมันทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งนอนไม่หลับ เขาพลิกตัวกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้าย ต้องลุกขึ้นมาแง้มม่านหน้าต่าง สายตาทอดมองไปที่จุดกำเนิดเสียง

คืนนี้เป็นคืนเดือนเต็มดวง ท้องฟ้าสว่างไสวด้วยแสงจันทร์ฉาบไล้ไปทุกหย่อมหญ้า

ตามแนวคลื่นที่ค่อยทยอยม้วนตัวเข้าหาฝั่ง บางครั้งจะเห็นประกายฟอสฟอรัสระยิบระยับเมื่อมันปะทะกับผืนทรายขาวสะอาดตา

“โชคดีจริง ที่เราเลือกห้องพักติดกับชายทะเล ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ต้องขอบคุณเจ้าของรายการทีวี ที่เชิญเราไปเล่นเกมโชว์ แล้วชนะ ได้รางวัลเป็นห้องพักสุดหรูที่หาดบางเนียงแห่งนี้ แต่น่าเสียดาย ที่น้องแก้มแฟนเราเดินทางไปเมืองนอกพอดี ไม่งั้นเธอคงมาด้วย แล้วเราคงสนุกด้วยกัน เฮ้อ เสียดายจริงๆ...”

“ เอ๊ะ..นั่นอะไรนะ ดูเหมือนคน มาจากไหนกัน ก็เรามองอยู่ดีๆ ไม่มีอะไร แล้วอยู่ๆโผล่มาจากไหน ดึกดื่นจนป่านนี้แล้ว...”

ศุภรุจแง้มผ้าม่านจนสุด แล้วเขาก็เห็นคน 2 คน ท่าทางจะเป็นคู่แม่ลูกกัน ก้มๆเงยๆทำอะไรอยู่ที่หน้าชายหาดบางเนียงในยามค่ำคืนดึกดื่น

“เขาทำอะไรกันนะ ลงไปดูดีไหม แต่จะเป็นอันตรายหรือเปล่า เพราะดึกมากแล้ว หน้าหาดไม่มีใครเลย นอกจาก 2 คนนั่น น่าจะเป็นชาวบ้านแถวนี้ เราออกไปดูดีกว่า แต่ก่อนอื่นเราต้องถอดสร้อยแหวนนาฬิกาที่ติดตัวเก็บไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง..”

รวดเร็วเท่าความคิด ถอดของมีค่าที่ติดตัวอยู่ออก เก็บไว้ในเก๊ะหัวเตียง แล้วสวมรองเท้าแตะฟองน้ำ เดินออกจากห้อง มุ่งตรงไปที่หน้าหาด





"แม่จ๋า วันนี้ทำไมเราได้หอยเสียบเยอะจังเลย..”




“นั่นนะซิลูก ธรรมดากว่าจะหาได้ซักแกง ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง คืนนี้ได้เยอะจนกินไม่หมด คงต้องดองน้ำปลาแล้วล่ะ ลูกชอบไม่ใช่หรือ หอยเสียบดองน้ำปลานะ”

“จานโปรดเลยละแม่ ว่าแต่ที่หอยเยอะนี่ คงเป็นเพราะท้องทะเลแถวนี้เปลี่ยนไป ตั้งแต่คลื่นยักษ์เข้าทำลาย ดูกุ้งหอยปูปลาจะมีเยอะกว่าเดิมนะแม่นะ..เอ๊ะนั่นใครนะ มายืนเมียงมองเราอยู่ เราไปกันเถอะแม่ หนูกลัวคน..”

“ไปกลัวทำไม แค่คน แล้วหนูกับแม่นะ ก่อนที่คลื่นยักษ์จะกระชากชีวิตเราไปนะ เราเป็นอะไรมาก่อน คนหรือหมา..”

“โธ่ แม่ ดูถามเข้าซิ แต่ว่าตอนนี้เราไม่ใช่ทั้งคนและหมา เพราะเราคือผี งั้นหนูหลอกเขาดีมั้ยแม่ เหอ เหอ..” เด็กชายทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตา

“ไม่เอา บาปกรรม เราเป็นผีดี ไม่ใช่ผีชั่ว ถึงเราจะเป็นผีชาวเล ชาวมอแกน เราก็มีจรรยาบรรณพอ ไม่หลอกแขกที่มาท่องเที่ยว เอาไว้เราค่อยหลอกพวกโจรร้ายที่ชอบย่องมาลักของตามรีสอร์ทดีกว่า..”

“เขามาใกล้เราแล้วแม่ เราหายตัวแว่บๆกันดีมั้ยแม่..”

“ไม่ได้ ไม่ได้ ห้ามทำเช่นนั้นเด็ดขาด เดี๋ยวเขาตกใจช็อกตาย..จะเป็นบาป”

“ทำอะไรกันหรือครับ..?” ศุภรุจเดินมาถึงเงาที่เขาเห็นก้มๆเงยๆอยู่ตรงชายหาดพอดี

พลันนั้นแสงจันทร์ที่ส่องกระจ่างอยู่ถูกกลุ่มเมฆเคลื่อนตัวเข้าบดบัง ทำให้ท้องฟ้ามืดไปชั่วขณะ แว่วได้ยินเสียงหมาหอนโจ๋วจากที่ใดที่หนึ่ง



“แม่ เขาถามเราแล้ว ตอบเขาซิแม่..” ผู้เป็นลูกชาย ซึ่งอยู่ในชุดกระดำกระด่างเร่งเร้าผู้เป็นแม่ตอบคำถามของชายผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“เอ๊..ลูกคนนี้ คืนนี้เป็นอะไรไป..” ผู้เป็นแม่หันไปยิ้มให้ศุภรุจที่ก้าวมายืนแทบประชิดตัว ชายหนุ่มทำจมูกฟุดฟิดเมื่อได้กลิ่นแปลกๆ

เป็นกลิ่นสาบสาง ระคนกลิ่นคาวเล็กน้อย !!

“เรามาหาหอยกันค่ะ..”

“หาหอย ดึกๆดื่นอย่างนี้นะหรือครับ แล้วไม่กลัวกันหรือครับ”

“กลัว กลัวอะไรคะ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว เพราะเราหากันมาตั้งชีวิตหนึ่งแล้ว ไม่เคยพบกับอันตรายแต่อย่างใด..”

“ผมหมายถึงสิ่งลี้ลับ อย่างเช่น..”

“คุณหมายถึงภูตผีหรือคะ ไม่กลัว มันทำอันตรายอะไรเราไม่ได้หรอก จะว่าไปแล้ว ผีกับเรา ก็เปรียบเสมือนเพื่อนกัน คุณมาจากที่อื่น อาจนึกกลัวไปบ้าง เพราะแถบนี้เมื่อหลายปีก่อน มีคนตายจากคลื่นยักษ์เยอะแยะ นอนเรียงกันเป็นตับทั่วหาดนี้เลยก็ว่าได้”

“หรือครับ นับว่าคุณแม่กับคุณลูกนี่เก่งจริงๆเลย ถ้าอย่างนั้น ให้ผมหาหอยด้วยคน ได้ไหมครับ เกิดมาผมยังไม่เคยหาหอยเลย เขาหากันยังไงครับหอยเนี่ย อ้าว ไอ้หนู ก้มหน้างุดเชียว คุยกับพี่บ้างซิ..พี่พักอยู่ดารารีสอร์ทหลังคาสีส้มที่เห็นนั่นไง นอนหลับสบายมา 2 คืน คืนนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนไม่หลับ ฟังเสียงคลื่นเพลินๆ แล้วลุกขึ้นมา เปิดม่าน เห็นเงาคน 2 คนทำอะไรกันอยู่ที่ชายหาด พี่เลยลุกขึ้นมาดู ว่าไง สอนวิธีหาหอยให้พี่หน่อยได้ไหม..”

“แม่..เขาพักที่ดารารีสอร์ท ที่ๆพ่อไปรับจ้างปลูกหญ้า แล้วคลื่นซัดพ่อจมไป..!!”

“จุ๊..อย่าพูดไปลูก..” หญิงผู้เป็นแม่จุ๊ปากไม่ให้ลูกชายพูด แต่เด็กชายก็โพล่งขึ้นมา

“พ่อผม เคยไปทำงาน รับจ้างปลูกหญ้าที่รีสอร์ทที่พี่พักอยู่ ในวันที่เกิดคลื่นยักษ์ พ่อผมก็ตายที่นั่นพร้อมคนงานและพนักงานอีกหลายคน ส่วนผมกับแม่อยู่ที่บ้านก็หนีไม่พ้นความตะ...ไปเช่นกัน..” ท้ายประโยค เด็กชายพูดเสียงเบาแทบจะไม่ได้ยิน

“แม่บอกไม่ให้พูดไง..” แม่ถลึงตาใส่ลูกในความมืด แล้วหันมาพูดกับศุภรุจ

“วิธีหาหอยเสียบ เขาทำกันอย่างนี้ค่ะ ใช้ช้อนกินข้าวขูดไปบนผืนทราย..”




แนะนำวิธีหาหอยเสียบให้กับศุภรุจ ชายหนุ่มนึกสนุกด้วย ก้มหน้าก้มตาขูดหาหอยเสียบที่ฝังทรายอยู่เป็นการใหญ่

“แม่ คืนนี้เราได้หอยเสียบเยอะแล้ว เราข้ามคลองบางเนียงไปที่ฝั่งโน้นกันดีไหม ไปต่อยหอยติบ ผมอยากกินยำหอยติบ”

“ก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่คุณคนนี้เขาจะไปกับเราด้วยหรือเปล่า เพราะต้องข้ามคลอง เดี๋ยวชุดนอนเขาก็เปียกปอนกันหมดพอดี”

“ไปด้วยซิครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว คืนนี้ถึงไหนถึงกัน ศุภรุจซะอย่างไม่เคยกลัวอะไร แต่ถ้าคนเดียว ไม่เอาด้วยนะ เพราะคนเดียว โบราณว่าหัวหาย 2 คนเพื่อนตาย นี่เรามีกันตั้ง 3 คน จะไปกลัวอะไร จริงไหม น้องชาย..” ศุภรุจเริ่มรู้สึกเป็นกันเองกับ 2 คนแม่ลูก

“3 คนเพื่อนตาย พี่ชายไม่กลัว แต่ถ้าสมมุติอยู่ๆ ผมกับแม่ตายไปจริงๆละก็ พี่ชายจะกลัวมั้ย..”

เด็กชายถามคำถามแปลกๆ แต่ศุภรุจยังไม่ทันได้ตอบ เสียงแม่เขาเอ็ดลูกชายขึ้นก่อน

“กะตัก พูดกับพี่เขาอย่างนั้นทำไม เดี๋ยวแม่ตีนะ..”

“อ้อ ชื่อกะตักหรือเรานะ ชื่อคุ้นๆ ชื่อนี้หมายถึงปลากะตักใช่หรือเปล่า..”

“ใช่ครับ..”

“ถ้าอยากกินหอยติบ ก็ข้ามคลองไปกันเถอะ นี่ก็ตี 3 แล้ว เดี๋ยวจะสว่างเสียก่อน..”

ผู้เป็นแม่ตัดบท แล้วพากันเดินเลียบชายหาด ข้ามคลองไปนั่งต่อยหอยติบบนโขดหิน ท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่างฟ้า




“คุณเดินดีๆนะคะ ระวังเปลือกหอยเก่าๆที่เขาต่อยหรือแกะเนื้อมันไปแล้ว จะบาดเท้าเอา"



“เนื้อมันคล้ายหอยนางรมนะครับ แต่ตัวเล็กกว่า อ้าว กะตัก นั่นกินหอยติบดิบๆเลยหรือ”

"ครับ อร่อยนะ ลองดูซิพี่..”

ศุภรุจไม่ทันได้พูดว่าอะไร ขณะเดียวกันนั้นเอง บนฝั่ง มีเสียงตะกุยทราย เขาหันไปดู เห็นหมาสีดำหลายตัว มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ จ้องเขม็งมาที่กลุ่มเขา ก่อนจะโก่งคอหอนเสียงเยือกเย็น

“โบร๋วว...วววว โบร๋วว..วววววววว”

“หมาพวกนี้มันเห่าหอนอะไรกัน ดูซิเสียงเห่าวังเวงยังกะมันเห็นผี..”

“ก็มันเห็นผีจริงๆนะซิ..!!” เด็กชายกะตักโพล่งขึ้น

“กะตัก หุบปากเสียที ตายละนี่หาหอยกันเพลิดเพลินจนฟ้าใกล้สางแล้วหรือนี่ ไปลูก เรารีบกลับกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน..”

จู่ๆผู้เป็นแม่ลุกขึ้น ชวนลูกชายลงจากโขดหิน เดินข้ามคลอง กลับทางเดิม เดินรวดเร็วจนชายหนุ่มตามแทบไม่ทัน

“รอผมด้วยซิครับ..” ศุภรุจตะโกนไล่หลัง

“รอไม่ได้ ไม่ทันการแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นแล้ว เร็วเข้าลูก..ไม่ทันการแล้ว..” น้ำเสียงผู้เป็นแม่เจือแวววิตกกังวล

ศุภรุจเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งตาม แต่ทันใดนั้นเอง ร่างของ 2 แม่ลูกที่เขาตามอยู่ข้างหน้าในระยะไม่กี่เมตร อยู่ๆก็ พลันหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับที่เริ่มมีแสงเรื่อเรืองปรากฏขึ้นทางขอบฟ้าทิศตะวันออก

“อะไรกันนี่..หรือว่า..เราโดนผีหลอก !!” ศุภรุจทรุดตัวนั่งลงบนผืนทราย

เบื้องหน้าเขาห่างออกไปไม่ไกล มีชายชาวบ้านคนหนึ่งทอดแหหาปลาอยู่ริมฝั่ง เขารีบพาตัวเองไปหา และเล่าเรื่องที่เขาประสบให้ฟังทันที...

“ผีนางกองคำ กับเจ้ากะตักลูกชาย ที่ตายเนื่องจากคลื่นยักษ์สึนามิ ปรากฏตัวอีกแล้วหรือนี่ นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วซิ ก่อนหน้าโน้นก็โดนไปคนหนึ่ง แต่ไม่ได้ทำร้ายใครนะ...เอางี้ซิคุณ เดี๋ยวพอสว่างดีแล้ว ให้เดินออกไปที่ถนนใหญ่ ปากทางมีร้านขายข้าวแกง ซื้อกับข้าวกับปลาใส่บาตรซะ มีพระวัดบางเนียงมาเดินบิณฑบาตทุกวัน อุทิศส่วนกุศลไปให้เขา เรื่องก็จบ ไม่มีอะไรหรอก คิดว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตก็แล้วกัน ใครละจะโชคดี ได้หาหอยกับผีตั้งค่อนคืนเหมือนอย่างอย่างคุณ..เฮอะ เฮอะ"

(ต้นฉบับ 10 ตุลาคม 51)

ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสารเรื่องผี ปีที่ 22 ฉบับที่ 514 ปักษ์หลัง มกราคม

2552


เรื่องสั้นทุกเรื่อง มีลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย





ศุภรุจคร๊าบ (อิ อิ)


แล้วพบกันใหม่ในบล็อกต่อไป..นะคร๊าบ จุ๊บ จุ๊บ






Create Date : 10 มีนาคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2560 22:24:02 น. 25 comments
Counter : 3728 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับพี่

เรื่องสั้นของพี่
ได้เคยนำมารวมเล่มแล้วหรือยังครับพี่











โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:8:17:38 น.  

 
ดูแล้วคงเกิดความรุนแรงขึ้น
เพียงแต่จะรุนแรงขนาดไหนเท่านั้นเองน่ะครับพี่



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:8:37:33 น.  

 
ผีน่ารักแหะวันนี้ แถมมีภาพประกอบด้วย แหล่มเลย จาบอกลุงฯว่าแม่มันเคยไปหาหอยทั้ง 2 แบบเลยนะจะบอกให้ ชอบกินหอยดองเหมือนกันค่า


โดย: แม่น้องกะบูน วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:11:09:17 น.  

 
โห..ชื่อผี...

เด๋วก่อนนะตัวเอง...งานเข้ามาก

ค่อยมาอ่านจ้า


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 203.144.144.165 วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:11:38:58 น.  

 

พี่ติณมาเล่าเรื่องผีแบบนี้เลยนะ

ดีนะ ผีไม่น่ากลัว

ไม่อย่างนั้น อ่านจบมีสิทธิ์สยองขวัญหลอนไปถึงกลางคืน

เพ่งมองชัด ๆ อันนี้คือหอยเสียบเหรอค่ะ
เคยเห็นแต่ ชนิดแบบดอง ตอนอยู่ทั้งเปลือกไม่เคยเห็นอ่ะ


โดย: aenew วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:14:10:53 น.  

 
555

คิดได้ไงเนี่ย...

อ่านแล้วขำผีที่เป็นแม่น่ะ ก็จงใจออกมาหลอกพร้อมๆกะลูก...แต่ทำเป็นห้ามผีเด็กอยู่นั่นแหละ

ก๊ากกก...เนียนเป็นผีดี กลัวบาป แต่หลอกเห็นๆ...

ชอบตอนกินหอยดิบๆนะคะ ค่อยดูเขย่าขวัญนินึง

อ้อ...ศุภรุจรูปสุดท้ายเนี่ย เสื้อกะกางเกงเข้ากันเป๊ะ...

เป็นคนช่างแต่งตัวจริงๆ...เสื้อมีแรนด์เต็มตู้




โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:14:29:26 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแป้นพิมพ์


ช่วงนี้ป้ากุ๊กไม่ค่อยได้เข้าบล็อกเลย
งานประจำ…แจ๋ว ดึงเวลาป้าไปหมดค่ะ
อย่างเก่งก็แค่แว๊บเข้ามาอ่าน….แล้วก็แว๊บหายไป
แต่แม้จะไม่ได้ฝากคำไว้ก็ยังระลึกถึงค่ะ


ภาพประกอบเข้ากับเรื่องดีจัง
สมัยยังเรียนประถมงานอดิเรกของป้ากุ๊กคือหาหอยเสียบจ้าาาาาาาาาาาา




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:20:13:27 น.  

 



สังเวียนคน

ตอน 14. ธนูมือ



อะไรคือธนูมือ ? มีความสำคัญกับวงการหมัดมวยอยางไร?

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้ตงด้วย

คงต้องไปติดตามเสียแล้ว...




โดย: ลุงแว่น วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:7:20:40 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

เยี่ยมครับ อ่านแล้วได้อารมณ์คล้อยตามดีจังเลยครับ อ่านไปก็คอยลุ้นไปว่า .. จะกลัวหอยเสียบหรือว่ากลัวผีดี ... ก๊าก ๆ ๆ ๆ

เข้าใจหาภาพมาประกอบเรื่องนะครับ เรื่องสั้นดี ๆ แบบนี้น่าจะได้ลงหนังสือหลาย ๆ รอบนะครับ

อิอิ

ปล. จะชวน ”มาเล็งเต้ากู” ที่บล็อกของผมครับ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:14:11:16 น.  

 

อ่านบ๊อกอุ้มสีดีๆ สิค่ะ
อุ้มยังโสด (เพราะหาไม่ได้)
และยังไม่แต่งงาน (เพราะหาคนตาถั่วไม่ได้)
และยังไม่มีบุตรเลยสักคน
(จากบ๊อกก็บอกนะคะ)
เจ้าน้องอุ้มกับอุ้มไม่ใช่แม่ลูกกันนะคะ
อยากรู้ว่าเจ้าน้องอุ้มเป็นลูกใคร
ต้องเข้าบ๊อกที่ใช้ล้อทอิน เจ้าการะเกด ค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปเยือนบ๊อกค่ะ
เห็นคุณเม้นท์ที่บ๊อกพี่อ้อบ่อยๆ


โดย: อุ้มสี วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:14:34:50 น.  

 
วันนี้งานเข้าเยอะเลย

มาทักทายกรุบๆกริบๆก่อนนะจ๊ะคุณปลาย

คุณแม่เค้าเอาไตปลาแห้งไปทำเป็นแกงแล้วนะ เห็นบอกว่าอร่อยมาก

เค้าเองยังไม่ได้กินที่แม่ทำ เพราะอยู่คนละที่กันจ้า


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:15:16:03 น.  

 
ขนมเกลียว แหมสาวคิดไปไกลเชียว S&P ที่ตรังยังไม่มีค่ะ
ปล.ขนมบอกควายคือโตเกียวแผ่นใหญ่นั่นแหละค่ะพี่
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:15:26:48 น.  

 
ว๊าว เจอนักเขียนเก่ง ๆ อีกแล้วเรา
ก่อนหน้านี้เป็นคุณก๋า ต่อมาเป็นพี่อัยย์
และมาครั้งนี้ก็เป็นคุณปลาย
ว๊าวๆๆ โชคดีจัง แต่ละคนมีเอกลักษณ์
เป็นของตัวเองนะคะ

คุณก๋าจะแนวธรรมมะ
คุยกันไปมาได้หลายมุมมอง
จนต้องมีสนทนาธรรมทุกเช้า
เวลาจิ๊บกาแฟเรียกสมาธิทำงาน 55

พี่อัยย์เพิ่งเคยอ่านนิยายแก
สนุกดีค่ะ กล้าเขียนคำและไหลลื่น
ลูกเล่นแพรวพราว สอดแทรกคำคมซะด้วย
พูดคุยด้วย พี่อัยย์บางทีดูขี้เล่น
บางทีก็ดูจริงจังออกดุ
เล่นไม่ถูกจุดมีตะปบเอา อิอิ
เหมือนแมว แหะๆๆ
จุ๊ๆๆ อย่าบอกแกนะ
เด่วพี่อัยย์งอนจินเอา 555
น่ารักค่ะ พี่อัยย์ ทุกวันต้องแอบไปมอง
บ้านแก ไม่ไปวันไหน
เหมือนขาดอะไรไปซักอย่าง

ส่วนคุณปลาย แหะๆๆ
เพิ่งอ่านครั้งแรกไม่กล้าวิจารณ์
อ่านแล้วละสายตาไม่ได้ละกัน
ต้องอ่านให้จบ อยากรู้ไปไงต่อ
แบบนี้เค้าเรียกว่า เขียนและเล่า
น่าติดตามใช่มั้ยคะ

เห็นทีต้องมาศึกษา สามบ้านนี้บ่อย ๆ ซะละ
จินประเภทมือใหม่หัดเขียนค่ะ


ป.ลิง
นึกว่าไม่แอ่วบ้านคนเหนือซะล่ะ
เห็นป้วนเปี้ยนที่บ้านพี่อัยย์วัน
ละหลายรอบเชียว อิอิ
ติดใจอะไรพี่อัยย์น๊า อุอุอุ


โดย: JinnyTent วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:15:55:42 น.  

 
แฟนคลับรออ่านเรื่องชักเยอะแล้วนะคะ

อายุขนาดเรา (ย้ำ) หายใจก็อึดอัดอ้วนขึ้นมาทันตาเห็นค่ะ (ระบบการเผาผลาญทำงานแย่ลง)

แต่ไปตลาดเห็นของกินแล้วมันอดไม่ได้ไงคะ เอาแบบรสชาติดั้งเดิม ที่ไม่ใช่ขนมสมัยใหม่เน้นไปทางหวานมันซะส่วนใหญ่เนาะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:16:39:32 น.  

 
มีภาพประกอบเป็นศุภรุจน์และจุดเกิดเหตุอีกแน่ะ

ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่มาอ่านเรื่องผีบล็อกนี้ก่อนไปภูเก็ต



โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:1:45:37 น.  

 
สาวเคยไปทางหยงสตาร์ หินที่เป็นหอยแบบนี้เยอะมากๆ ด้วยความซุ่มซ่ามเลยโดนบาดเข้าให้ พี่ทักช้าไปแค่ปีเดียวเองค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: sawkitty วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:6:07:11 น.  

 
มาทักทายตะเองก่อน...

เด๋วจะไปข้างนอก

มะต้องห่วง...เกิดอะไรขึ้น เค้าจะเป็นคนแรกที่วิ่งอะ...


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:10:54:20 น.  

 
อืม ร้อนแรงจริง ๆ ค่ะ
สงครามไม่เคยให้อะไรนอกจาก
ความสูญเสียจริง ๆ
ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง
แต่นั่น ก็คือ คนไทยเหมือนกัน

สงสารแต่ในหลวงพระองค์ท่าน
และก็สงสารตัวเอง
ที่ต้องมาเผชิญการแตก
สามัคคี เหมือนสมัยในอดีตครั้งประวัติศาสตร์ไทย

แต่อย่างนี้ประเทศไทย
จะเหลืออะไรในเมื่อคนไทย
ยังไม่รักกัน เฮ้อ


โดย: JinnyTent วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:13:22:59 น.  

 

เข้าใจหาหินนั่งนะคะ
เป็นวงกลมสวยเก๋ดีจัง..คุณศุภรุจ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:21:09:19 น.  

 
ตามมาจากบ้านน้องจินค่ะ ตอนแรกกะว่าจะอ่านแต่แอบหยอง เลยไม่กล้าอ่านค่ะ สาวรวดมาจนถึงกล่องเม้นต์ มาฝากรอยทิ้งไว้ก่อนค่ะ แล้วจะเข้ามาใหม่ในวันที่ไม่มีเรื่องหยองนะคะ


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 13 มีนาคม 2553 เวลา:22:11:34 น.  

 


สวัสดีครับ ผมสบายดีครับ และขอบคุณที่ไม่ลืมกันนะครับ


โดย: veerar วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:1:16:47 น.  

 

สังเวียนคน

ตอน 15 ขุนเข่าไร้น้ำใจ




งานนี้ไอ้ตงเจอศึกหนักที่สุดในชีวิต

ดูแล้วท่าจะแย่ ยังไงก็ช่วยไปเชียร์กันหน่อยครับ...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:8:33:10 น.  

 
วันนี้แว้บเข้ามาตอนตะวันไม่ตกดิน เลยแอบอ่านจนจบ เฮ้อ เกือบลืมหายใจ แต่ถ้ามาช่วงค่ำๆคงต้องวิ่งลงมาที่กล่องเม้นต์เหมือนเมื่อวานค่ะ


โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 14 มีนาคม 2553 เวลา:14:43:25 น.  

 
หุ หุ คุณ ศุภรุจ คนนี้ นะเอง เฉลย ตอนจบ .. คุณปลายเข้าใจ หารูป มาเข้าบรรยากาศ นะ โดยเฉพาะ รูปพระจันทร์ดวงโต เห็นแล้วนึกถึง หนังผีขึ้นมาทันที เคยคิดเหมือนกันนะว่า แถวที่เกิดสึนามิ ต้องมีผีเยอะแน่ นี่แหละเป็นสาเหตุ ไม้กล้าไปค้างคืน ..แถว ๆนั้น ..กลัวผี อ่ะ ค่ะ.. พอดีว่าง เลยตามมาอ่านเรื่องสั้น ..เก่า ๆ..


โดย: tifun วันที่: 22 มีนาคม 2553 เวลา:13:24:54 น.  

 
นายศุภรุจเจอผีที่ใจดีนะผมว่า
เหมือนเป็นการรู้จักทักทายคุ้นเคยไมตรีกันมากกว่าจะตั้งใจหลอกให้หัวโกร๋น
ก็เลยอ่านเพลินๆไปเลย แถมมีฉากที่อ่านแล้วขำๆจนต้องนั่งหัวเราะอยู่คนเดียวอีกต่างหาก
ฉากผีแม่ลูกคุยกันไงครับ เด็ดมาก


โดย: Psycho man วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:10:34:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลายแป้นพิมพ์
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]




หลังบ้านโกติณ มีกินตลอดปี

ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา
ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
ไม่ยึดติดกับอะไรมากเกินไป

ชอบเที่ยวทะเล ภูเขา น้ำตก
ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า
ดูหนัง ฟังเพลงลูกทุ่ง
(ถ้ามีโอกาสนะ)

เวลาว่างชอบถักร้อย
ซึ่งหมายถึงชอบนำพยัญชนะ
ตั้งแต่อักษร ก. ถึง ฮ.นกฮูก
พร้อมสระ วรรณยุกต์
มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว
บันทึกเก็บไว้อ่านเองบ้าง
ให้คนอื่นอ่านบ้าง
แล้วแต่โอกาส

มีความสุขมาก
เมื่อได้เขียน เขียนและเขียน
อะไรก็ได้ที่อยากจะเขียน
(โลกนี้มีอะไรตั้งมากมาย
เขียนให้ตายก็ไม่มีวันหมด)

วัตถุประสงค์หลัก
ของการมีบล็อก
เป็นของตัวเองวันนี้
ก็เพื่อที่จะเก็บงานเขียน
ทั้งอดีตและปัจจุบัน
ไว้เป็นหมวดหมู่

และตามบันทึก
เรื่องราวที่น่าสนใจ
เรื่องราวหลากหลาย
ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เก็บเป็นความทรงจำที่ดี
ตราบที่ยังมีชีวิต
อยู่ในโลกอันแสนสวยใบนี้

ใครที่หลง
เข้ามาในบล็อกของผม
คงได้อะไรไปบ้าง
ไม่มากก็น้อย
มีความสุขทุกๆ วัน
ตลอดไปนะครับ

งานเขียนเรื่องสั้น
ทุกเรื่องในบล็อกนี้
เป็นงานที่มีลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย
ห้ามมิให้ผู้ใดนำไปทำซ้ำ
หรือดัดแปลงในเชิงธุรกิจ
นอกจากจะได้รับอนุญาต
จากผู้เขียนแล้วเท่านั้น
New Comments
Friends' blogs
[Add ปลายแป้นพิมพ์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.