เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๑๙
***เนื้อหาในตอนนี้ มีบางส่วนไม่เหมาะสมกับเยาวชน กรุณาใช้พิจารณญาณในการอ่านค่ะ


ตอนที่๑๙: ท้องฟ้ากับพระจันทร์


เปิดประตูก้าวเท้าเข้าคอนโดคุณแฟนได้ไอ้หนูป่วนก็ตรงไปนั่งแปะหมดสภาพอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีทันที

พี่อากาศที่เดินตามเข้ามาเลยเดินไปรินน้ำดื่มเย็นจัดมายื่นส่งให้
“หมดสภาพเลย อ้ะ ดื่มน้ำเย็นๆก่อน เผื่อจะสดชื่นขึ้น” พอไอ้หนูป่วนมันรับแก้วน้ำไปพี่อากาศแกก็ขยี้หัวมันให้ฟูเล่นไปทีหนึ่ง

กรอกน้ำเข้าปากไปได้ครึ่งแก้วตัวป่วนมันก็วางแก้วลง แล้วจับมือของคนตัวโตที่เล่นผมมันอยู่มาแนบแก้มแล้วพิงพนักโซฟาหลับตาลงง่ายๆ ก่อนจะหลับไปจริงๆมันยังอุตส่าห์พึมพำออกมาให้พี่อากาศแกได้ยินแล้วต้องยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหูอีกครั้ง

“ไม่อยากกินอะไรพิเศษ แต่อยากกินไข่เจียวแสนอร่อยฝีมือพี่ฟ้า....”

เดือดร้อนพี่อากาศเห็นท่านั่งหลับแล้วสงสารไอ้เด็กหมดพลังงานไปกับการสอบ เลยจัดการหยิบหมอนมาวางแล้วเลื่อนตัวไอ้คนอ้อนเสร็จก็ปิดสวิทช์ตัวเองหลับไปดื้อๆให้ลงนอนดีๆบนโซฟานั่นแหละ แล้วเดินขึ้นห้องนอนตัวเองไปเอาผ้าห่มมาห่มให้ไอ้ตัวดีจนเรียบร้อย

จากนั้นตัวเองก็จัดการล้างมือจนสะอาด ผูกผ้ากันเปื้อนแล้วเริ่มหุงข้าว รื้อหมูสับที่มีติดตู้เย็นพร้อมกับเต้าหู้ไข่และผักกาดขาวออกมาทำต้มจืดเต้าหู้หมูสับง่ายๆ รอจนข้าวสุกจึงเริ่มตีไข่เตรียมเอาลงกระทะ พอกับข้าวพร้อมก็ตักอาหารวางรอไว้บนโต๊ะกินข้าว


“ตัวป่วนครับ ตื่นนะ มากินข้าวก่อนเร็ว”
“อือ....”
“อือแล้วทำไมไม่ยอมลืมตาล่ะเนี่ย หึๆๆๆ ลุกเร็ว ใครบอกพี่นะว่าไข่เจียวต้องกินตอนร้อนๆถึงจะอร่อย”

“..........”
ไอ้หนูป่วนมันลุกขึ้นมานั่ง มือข้างหนึ่งยังอยู่ในอุ้งมือพี่ฟ้าของมันที่เพิ่งช่วยออกแรงดึงมันขึ้นมา ส่วนอีกมือมันเอามาแตะๆแถวลำคอแล้วกระพริบตาขอความเห็นใจสองปริบ พี่อากาศก็แสนดี เห็นแค่นี้ก็ก้มตัวไปหยิบแก้วน้ำที่เติมไว้ให้จนเต็มแล้ววางอยู่บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟายื่นส่งให้

“ลุกไปล้างหน้าแล้วมากินข้าวนะ ชักช้าเดี๋ยวไข่เจียวหมดอร่อยแล้วจะมาว่าพี่ฝีมือตก” ไอ้หนูป่วนได้ยินอย่างนี้เลยเงยหน้าขึ้นย่นจมูกโชว์พี่อากาศแกไปหนึ่งครั้งแล้วทำตัวเป็นเด็กดีเดินไปล้างหน้าตามคำสั่ง


“โอ๊ะโอ มีเต้าหู้ด้วย”
“ชอบเหรอ?”
“อือฮึ อร่อยด้วยแฮะ”

“พี่ทำได้แค่นี้แหละ ต้มจืด ผัดผัก แล้วก็ทอดไข่ แต่เผอิญทุกอย่างที่ทำได้อร่อย”
“หึๆๆ เชื่อก็ได้”

“ผมหลับไปนานมั้ยอ้ะพี่ฟ้า?”
“ก็เกือบชั่วโมงน่ะ แต่พี่ไม่อยากให้นอนตอนนี้นาน เดี๋ยวกลางคืนนอนไม่หลับ”


สองคนคุยกันไปกินข้าวด้วยกันไป แอบมองกันไปด้วย แต่ที่แอบมองน่ะ ไอ้หนูป่วนข้างเดียวนะ เพราะพี่อากาศแกเล่นมองมาส่งสายตาเยิ้มกันตรงๆแบบไม่มีอ้อมค้อมเลย จนทั้งข้าวและกับข้าวทั้งสองอย่างหมดเกลี้ยง พี่อากาศจะยกจานชามทั้งหลายไปอ่างล้างนั่นแหละ ไอ้หนูป่วนมันถึงเรียกพี่เขาไว้ก่อน

“พี่ฟ้า”
“หืม?”
“อ้ะ ผมให้”
ตัวป่วนมันเรียกพี่เขาไว้แล้วก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปรื้อเป้ที่วางทิ้งไว้บนโต๊ะหน้าโซฟา หยิบของขวัญกล่องใหญ่กว่าฝ่ามือนิดๆที่ห่อด้วยกระดาษสีฟ้าอ่อนมาส่งให้ พี่อากาศงงไปแป๊บแล้วก็เริ่มแกะกระดาษห่อของขวัญออก ตาก็จับอยู่ที่ใบหน้าลุ้นๆของไอ้ตัวเล็กหัวฟูที่กลับมานั่งอยู่ตรงข้าม


“กรอบรูป?”
“อืม....ก็ วันที่พี่ฟ้าไม่สบาย เผอิญผมเห็นรูป เอ่อ.....รูปผมตอนรับน้องวางอยู่ที่หัวเตียง” ตัวป่วนมันอธิบายไปหน้าก็เริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ตาที่ตอนแรกมองตาพี่อากาศแกอยู่ดีๆก็เริ่มหลุบลงต่ำ
“แต่มันเป็นกรอบรูปแบบคู่นี่ ใส่ได้ตั้งสองรูปนะ”
“ก็.....ด้านนึงใส่รูปผม แล้ว......อีกด้านก็ใส่รูปพี่ฟ้าไง โห่ เรื่องง่ายๆไม่เห็นต้องให้อธิบายเลย”

“มาช่วยพี่ยกจานพวกนี้ไปไว้ในอ่างล้างก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่มีอะไรให้ดู”
“ทำไมอ้ะ อย่าบอกนะว่าพี่ฟ้าไปหากรอบรูปมาใส่เรียบร้อยแล้ว ว้า...ผมอุตส่าห์กะว่าพี่ฟ้าจะได้ใช้แน่ๆเชียวนะ”

ถามไปมือมันก็ช่วยยกจานเดินตามพี่อากาศแกต้อยๆไปที่อ่างล้าง
“ก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ใช้สักหน่อย มาดูอะไรนี่มา” พี่อากาศแกว่าอย่างนั้นแล้วก็เปิดน้ำออกแช่จานชามเอาไว้ จูงมือไอ้หนูป่วนให้เดินตามเข้าไปในห้องนอน

“อ้าว รูปผมก็ยังไม่ได้ใส่กรอบนี่นา”
“ตัวป่วนหยิบมาใส่ให้พี่หน่อยสิครับ”

ตัวป่วนมันก็เห็นหรอกนะว่ารอยยิ้มที่พี่อากาศส่งมามันแปลกๆ เหมือนจะมีอะไรลับลมคมใน แต่มันก็เอื้อมมือไปหยิบรูปที่อยู่ในซองพลาสติกมา และพอเลื่อนรูปที่ถูกถ่ายแบบแอบถ่ายออกมา มันก็กลับเจอกับอีกรูปที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง

“เอ๊ะ!!”

รูปอีกใบ มีคนสองคน เป็นรูปที่ถูกถ่ายจากด้านข้างที่ตัวป่วนมันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันเคยถูกถ่ายไว้ ผู้ชายอีกคนที่ยืนเผชิญหน้ากับมันอยู่ในรูปนั่น ไม่ว่าจะมองยังไงก็คือพี่อากาศแน่ๆ ใบหน้าด้านข้างที่มีจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากยกขอบชัดแบบนี้ แล้วยังแว่นตากรอบพลาสติกสีน้ำเงินเข้มที่วางอยู่เหนือสันจมูกนั่นอีก

“วันนั้น......คือพี่ฟ้า”
“ครับ ครั้งที่สองที่เราเจอกัน ตัวป่วนก็บอกแล้วนะว่าชอบพี่ฟ้า” รอยยิ้มยั่วเย้าถูกส่งมาพร้อมกับน้ำเสียงล้อเลียน

“อย่ามา ผมบอกว่าชอบสีฟ้าต่างหาก”
“คราวนี้......คงจำพี่ได้แล้วนะครับ”

ตัวป่วนมันไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่มันโผเข้าไปกอดพี่ฟ้าของมันไว้จนแน่น ที่พี่ฟ้าบอกรักมันตอนนั้น ที่บอกว่ารักมานานแล้ว....ตัวป่วนมันเพิ่งเชื่อสนิทใจจริงๆก็ตอนนี้เอง


~~~~~~~~~~~~~


สองคนกอดกันอยู่อย่างนั้นจนพี่อากาศแกดันไหล่ไอ้หนูป่วนให้ห่างออกมาหน่อยนั่นแหละ สายตาสองคู่ก็ประสานกัน ตัวป่วนมันรู้สึกเหมือนวันนั้น วันที่โซฟาห้องรับแขกที่บ้าน ที่จู่ๆดวงตาสีดำสนิทของพี่ฟ้าก็ดึงดูดมันเข้าหา จนริมฝีปากแตะกันและลิ้นอุ่นๆแทรกเข้ามาในปากนั่นแหละ ตัวป่วนมันถึงหลุดเสียงหัวเราะออกมา

“คิกๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”
“ขำอะไร?”
“ก็....จูบรสไข่เจียว.....ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“นี่แน่ะ เรานี่มันตัวทำลายบรรยากาศมืออาชีพรึเปล่าเนี่ย หืม....”

แจกมะเหงกให้ไอ้หนูป่วนไปหนึ่งโป๊ก แล้วพี่อากาศเลยถอนหายใจยาวทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เอนตัวไปด้านหลังพร้อมทั้งใช้สองแขนเท้าเตียงไว้ช่วยรับน้ำหนัก เงยหน้าขึ้นยิ้มกับไอ้ตัวเล็กที่ยังไม่หยุดขำตรงหน้า

“พี่ฟ้า.....”
“ว่าไงครับ?”

ไอ้หนูป่วนมันก้าวเข้ามาหาพี่อากาศแล้วก็หย่อนก้นลงนั่งซ้อนตักหันข้างให้พี่เขา โอบแขนทั้งสองไว้รอบคอของเจ้าของตัก เจ้าของตักก็ตอบสนองโดยการชันตัวขึ้นนั่งหลังตรง แล้วก็ยกแขนทั้งสองข้างมาโอบรอบเอวไอ้ตัวบางๆบนตักไว้ทันที ตัวป่วนมันซบลงกับซอกคอพี่ฟ้าของมันก่อนจะส่งเสียงอ่อยๆออกมา

“ผม.....ไม่รู้อะไรเลยนะ”
“หืม?”
“คือ....การเมคเลิฟน่ะ ผมไม่รู้เลยนะว่าจะทำยังไง ไม่รู้ว่าจะทำให้พี่ชอบได้รึเปล่า....ตอนแรกไอ้นุ่นมันก็ชวนไปถามคุณกูเกิ้ลแล้วนะ แต่พอดีมันยุ่งๆ แล้วไอ้แผนมันก็ดุด้วย เลยไม่ได้ถามเลย.......”

“ไม่เห็นต้องกังวลเลย....ตัวป่วนไม่รู้เหรอ แค่พี่ได้กอดตัวป่วนไว้อย่างนี้ พี่ฟ้าก็มีความสุขมากแล้ว แล้ว....ถ้าหากมันมากกว่านี้ ทำไมพี่จะไม่มีความสุขมากขึ้นไปอีกล่ะ จริงมั้ย?”
ตัวป่วนมันได้ยินอย่างนี้ก็ยิ้มออก แล้วเลยเงยหน้าขึ้นจุ๊บปลายคางพี่อากาศตัวโตไปอีกที


“ถ้ากลัวว่าพี่จะไม่ชอบ......งั้นจะยอมตัวเป็นศิษย์รึเปล่าล่ะ พี่จะสอนทั้งทฤษฎีทั้งปฏิบัติเอง”
“...................”
“ว่าไงครับ?”
คราวนี้ไม่ถามเฉยๆแล้ว แต่พี่อากาศกลับยื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหู
“อื้ม......”

ตอบไปแล้วไอ้หนูป่วนเด็กน้อยสุขภาพดีเลยขับเลือดมาเลี้ยงใบหน้าจนแดงก่ำ
พอได้ยินคำตอบตกลงปลงใจแบบนั้น พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ก็ออกแรงเกร็งแขนอุ้มตัวป่วนขึ้นทันที ตัวป่วนมันก็ตกใจสิ นั่งอยู่ดีๆตัวก็ลอยขึ้น แขนที่โอบรอบคอพี่เขาไว้เลยยิ่งรัดแน่นขึ้น

“พี่ฟ้า จะทำอะไร?”

“บทเรียนที่หนึ่ง เราต้องทำความสะอาดร่างกายให้พร้อมก่อนจะเมคเลิฟครับ เพราะงั้น เราจะไปอาบน้ำด้วยกัน”

พูดจบก็พอดีอุ้มไอ้หนูป่วนมาถึงหน้าห้องน้ำ พี่อากาศหมุนลูกบิดแล้วก้าวเข้าไปในห้องน้ำทั้งๆที่ยังมีไอ้หนูป่วนอยู่ในอ้อมแขนอย่างนั้นแหละ
“แต่ แค่อาบน้ำ ผมอาบคนเดียวก็ได้”

พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์วางตัวป่วนลงให้ยืนเอง แล้วหันกลับไปกดล็อคประตูห้องน้ำ
“บทเรียนที่สอง.....การช่วยกันอาบน้ำจะช่วยกระตุ้นอารมณ์และความต้องการให้เพิ่มสูงขึ้น”

“อ๊ะ!!”
ไม่รอให้ไอ้หนูป่วนมันปฏิเสธอีก พี่อากาศจัดการยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาที่ไอ้ตัวยืนค้างเป็นรูปสลักน้ำแข็งไปแล้วใส่อยู่ออกทันที
“แลกกันสิครับ ตัวป่วนก็ช่วยพี่ถอดด้วย มาสิ”

ได้ยินอย่างนั้นไอ้หนูป่วนที่หลวมตัวยอมตนเป็นศิษย์ไปแล้ว เลยค่อยๆยื่นมือมาปลดแว่นสายตาออกจากสันจมูก แล้วยื่นมือที่สั่นน้อยๆมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของพี่อากาศออกช้าๆ ไม่ได้รู้เลยว่าระหว่างที่ตัวเองมัวแต่มองตามปลายนิ้วที่แกะกระดุมเชิ้ตไปทีละเม็ดอยู่นั่น เสื้อนักศึกษาของตัวเองก็ถูกปลดกระดุมออกครบทุกเม็ดแล้ว แถมยังปล่อยชายออกมาอยู่นอกกางเกงสแล็คสีดำเรียบร้อยแล้วด้วย

“แกะเสร็จแล้ว”
“เก่งมาก งั้นถอดออกจากตัวให้พี่ด้วยสิครับ” ไม่มีโต้แย้ง ไอ้หนูป่วนก้าวเข้าไปจนชิดแล้วลงมือดึงเสื้อที่ติดอยู่แค่ไหล่ออกจากตัวพี่อากาศของมันเรียบร้อย คราวนี้ไม่ต้องให้บอก พอพี่อากาศแกลงมือปลดกางเกงของตัวป่วนลง มันก็เอื้อมมือที่ยังสั่นคงเส้นคงวาไปปลดกางเกงของพี่เขาด้วยเหมือนกัน

จนเหลือแค่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายติดตัวนั่นแหละ ไอ้หนูป่วนถึงได้ทนยืนเผชิญหน้าไม่ไหว ต้องรีบหมุนตัวหันหลังให้พี่อากาศได้โอกาสพิจารณาสะโพกกลมกลึงที่มีแค่บรีฟสีขาวปิดบังไว้ได้อย่างเต็มตา


“หันหลังให้อย่างนั้น ตัวป่วนจะถอดกางเกงให้พี่ได้ยังไงล่ะครับ?”
“พี่ฟ้าอ้ะ ชิ้นสุดท้ายแล้ว ไม่เห็นต้องให้ผมถอดเลย”
“อ้าว งั้นของตัวป่วนล่ะ จะไม่ให้พี่ถอดด้วยรึเปล่า?”
“อืม....ผมจะถอดเอง”
“งั้นเร็วเลยครับพี่จะเปิดน้ำแล้ว”

“อะไร พี่ฟ้าถอดแล้ว......อ๊ะ”

ใช่...พี่อากาศแกถอดแล้วจริงๆ ถอดได้อย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาแค่เสี้ยววินาที ไอ้หนูป่วนที่หันหลังมาโวยวายเลยเจอเข้ากับแก่นกายที่กำลังแข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของคนตัวโตที่ทอดสายตากราดมองไปทั่วร่างกายของมันอย่างช้าๆ พอสบตาเข้ากับแววตาวิบวับนั่นแล้วตัวป่วนมันเลยทนไม่ไหว ต้องหลับตาหนีเสียเดี๋ยวนั้น พี่อากาศแกเลยถือโอกาสดึงไอ้หนูป่วนให้เข้ามาอยู่ใต้ฝักบัวที่กำลังสาดละอองน้ำลงมาด้วยกัน

“ไม่ยอมถอดเองอย่างนี้ งั้นพี่ถอดให้นะคนเก่ง” ไม่พูดเปล่าแต่พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ก้มลงรูดบรีฟสีขาว ตัวบางที่ตอนนี้เปียกไปหมดลงสู่ปลายเท้าไอ้หนูป่วนมันทันที

“พี่ฟ้า......”
“ว่าไงครับ?” เสียงกระซิบที่ข้างหูเริ่มแหบห้าวกว่าที่เคย ละไอร้อนผ่าวจากลมหายใจนั่นทำให้ตัวป่วนมันต้องแข็งใจลืมตาขึ้นอีกครั้ง

“เรา......ต้องยืนชิดกันขนาดนี้เลยเหรอ?”
“อืม ไม่งั้นพี่จะถูสบู่ให้ป่วนได้ยังไงล่ะ ไหนครับ อยากให้พี่ถูตรงไหนก่อน?” ถูกถามมาอย่างนี้ไอ้หนูป่วนมันเลยพลิกตัวหันหลังให้พี่อากาศแกทันที
“เดี๋ยวสลับกันนะ”
“อะ....อืม.....”

มือใหญ่ๆเริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังที่ประดับไปด้วยกล้ามเนื้อเล็กๆสมตัว ผิวขาวๆเวลานี้เลือดสูบฉีดประกอบกับถูกอาบชโลมด้วยสายน้ำอุ่นจัดทำให้ทั่วทั้งร่างกลายเป็นสีชมพู

พี่อากาศลูบไล้สบู่เหลวไปตามแผ่นหลังสีชมพูนั้น สักพักก็ลากมือลงต่ำไปจนถึงเนินสะโพก จากการลูบไล้แผ่วเบาก็กลับออกแรงกดนวดไปทั่วสะโพกทั้งสองข้างจนเรียกเสียงครางแผ่วเครือจากตัวป่วนมันได้ แถมมือซุกซนยังลูบล้ำอ้อมมาถึงด้านหน้า เริ่มลากผ่านไปตามหน้าท้องแบนราบที่พอจะมีกล้ามเนื้อเป็นลอนอยู่บ้างแต่ก็ไม่ชัดนัก

“อือ......พี่ฟ้า.....”
“หืม?”
“ให้ผม.....ถูสบู่ให้พี่บ้างสิ สลับกันไง นะๆ”
“ได้สิ” ได้รับคำอนุญาตไอ้หนูป่วนมันก็หันกลับมาทันที

“พี่ฟ้าก็หันหน้าไปทางโน้นก่อนสิ”
“คร้าบบบบบบบบ” ตัวป่วนมันเอื้อมมือผ่านตัวหนาๆของพี่อากาศไปกดปั๊มสบู่เหลว แล้วก็เริ่มลูบไล้ไปตามร่างกายของพี่อากาศแกบ้าง ลูบจนเกิดฟองได้สักพักก็สั่งให้คนกำลังเพลินหันกลับมา

“พี่ฟ้า หันหน้ามาสิ” พอพี่อากาศแกหันหน้ามาตามคำสั่ง ไอ้หนูป่วนก็จัดการลูบสบู่ไปตามแผ่นอกเรื่อยลงไปถึงหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อขึ้นเป็นลอนชัดเจน

“อ้ะ เสร็จแล้ว.......”
“กะแล้วเชียวว่าพี่ต้องได้โปรโมชั่นแค่อาบท่อนบน หึๆๆ”

ว่าแล้วพี่แกก็จัดการดึงไอ้ตัวบางๆข้างหน้าเข้ามาจนชนกับอก แล้วจับยึดไว้ด้วยแขนซ้าย ส่วนมือขวาก็เริ่มลูบไล้ลงต่ำไปจนถึงร่องระหว่างสะโพก แก่นกายแข็งตั้งชันของพี่อากาศตัวโตตอนนี้เลยบดเบียดอยู่กับเนินหน้าท้องของไอ้ตัวเล็ก ขณะที่ตัวป่วนมันกำลังตกใจกับความใกล้ชิดจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวอยู่ พี่อากาศก็จัดการทำความสะอาดช่องทางที่คาดว่าจะได้ใช้งานในไม่ช้าเสียทันที


“อ๊ะ!”
“ล้างตัวให้สะอาด ต้องล้างให้หมดจดทุกซอกทุกมุมอย่างนี้แหละ จำไว้นะครับ” พูดเสร็จก็จับตัวเล็กๆบางๆนั่นหมุนกลับให้แผ่นหลังเข้ามาแนบกับอกหนาของตัวเองอีกครั้ง แล้วเริ่มถูสบู่ไปตามแก่นกายกลางลำตัวของตัวป่วนมันทันที รูดรั้งไปตามความยาวเริ่มจากช้าๆแล้วค่อยเร่งจังหวะกระชั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงครางแผ่วต่ำของไอ้ตัวเล็กที่ตกอยู่ในกำมือเริ่มดังขึ้นสลับกับเสียงหายใจหอบ

“ด้านหน้า....ก็ต้องถูสบู่ให้สะอาดด้วย”
“อะ.......พี่ฟ้า อือ...พอก่อนนะ นะ แค่นี้ก็สะอาดแล้วล่ะ”

เพราะแววตาขอร้องอ้อนวอนขนาดนั้นแท้ๆทำให้พี่อากาศของตัวป่วนยอมละมือจากส่วนสำคัญของไอ้ตัวเล็กที่เป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆนั่นจนได้ พี่อากาศแกเลยเปิดฝักบัวอีกครั้ง ชำระคราบสบู่บนร่างกายทั้งคู่ออกจนหมด แล้วก็จัดการหยิบผ้าขนหนูมาซับหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามตัวไอ้หนูป่วนจนแห้ง

ตัวป่วนที่ตอนนี้ขาเริ่มสั่นจนแทบยืนไม่อยู่จากการถูกรุกรานเมื่อกี้ เลยถูกพี่ฟ้าของมันโอบประคองไว้ด้วยแขนหนึ่งข้าง ในขณะที่อีกข้างพี่แกใช้ซับน้ำบนร่างกายตัวเองลวกๆ

“พร้อมมั้ยครับคนเก่งของพี่?”
“......อืม” ได้สัญญาณไฟเขียวปุ๊บพี่อากาศแกก็ไม่ปล่อยเวลาอีกต่อไป เปิดประตูห้องน้ำแล้วจัดการอุ้มพาคุณแฟนของแกมาในห้องนอนทันที

พอเข้ามาในห้องได้แกก็วางให้ตัวป่วนมันยืนบนพื้นแล้วเริ่มประทับริมฝีปากจูบไล้ไปทั่วใบหน้า มือหนึ่งก็โอบประคองช่วยให้ไอ้เด็กน้อยมันยืนทรงตัวอยู่ได้ อีกมือก็แนบกระชับอยู่ตรงท้ายทอยคอยประคองให้หน้าของมันแหงนเงยมารับจูบตามที่ต้องการ

ตัวป่วนเองพอตกลงใจจะเรียนรู้มันก็เป็นนักเรียนที่ดี ครูพี่ฟ้าสอนอะไรมามันก็พยายามจะทำตาม จากที่ตอนแรกถูกสอดลิ้นเข้ามาอยู่ฝ่ายเดียว ตอนนี้ตัวป่วนมันเลยส่งลิ้นออกมาทักทายพี่ฟ้าของมันบ้าง

“อืม.....เก่งจังเลย”
“พี่ฟ้า...อือ....หยุดก่อน”
“หืม?”
“ไปปิดไฟก่อนนะ นะ.....”

ชั่วโมงนี้ไม่ว่าตัวป่วนจะขออะไร พี่อากาศแกก็พร้อมจะยอมให้ทุกอย่าง คงยกเว้นอย่างเดียวเท่านั้น คือถ้ามันขอให้แกหยุด แกคงขาดใจแน่ๆ
พี่อากาศยอมผละไปปิดไฟให้ตามคำขอ พอกลับมาแกก็ทรุดตัวลงนั่งที่ปลายเตียงมือก็คว้าเอวตัวบางๆนั่นให้ตามเข้ามายืนอยู่ตรงหว่างขา แต่ก่อนที่แกจะทำอะไรมากกว่านี้ตัวป่วนมันก็รวบรวมสติถามออกมาอีก


“แล้วผม....ผมจะรู้ได้ยังไงล่ะ ว่าอะไรที่พี่ชอบ..”
“อืม......ไม่ยากเลยครับ โดยทั่วไป ถ้าอะไรที่ป่วนชอบ พี่ก็จะชอบด้วยอยู่แล้ว....”
“แต่...แต่ผมไม่รู้นี่นาว่าตัวเองชอบอะไร....”

“งั้น....อย่างนี้ ป่วนชอบมั้ย?” พี่อากาศเริ่มลากไล้นิ้วมือไปตามหน้าอกของไอ้หนูป่วน จงใจลากผ่านยอดอกทั้งสองข้างแผ่วเบา
“อะ อืม...”
“แล้วนี่ล่ะ ชอบมั้ยครับ?”

คราวนี้พี่เขาโหย่งตัวขึ้นแล้วครอบปากลงไปแทนนิ้ว ตวัดลิ้นไปที่ยอดอกเม็ดเล็กที่ตั้งชันตั้งแต่ถูกกระตุ้นด้วยปลายนิ้วไปเมื่อกี้

“ก็...อะ อื้อ...ชอบ......” ทางนี้ไม่ใช่แค่ตอบ แต่มือสองข้างที่วางอยู่บนบ่าของพี่อากาศเริ่มจิกเล็บลงกับบ่าแน่นๆนั่นแล้ว
“แบบนี้ล่ะ?” พี่อากาศปล่อยปากออกจากยอดอกชูชันนั่น แล้วก้มลงมาใช้ลิ้นปาดไปที่ส่วนกึ่งกลางลำตัวของไอ้หนูป่วนที่ยืนหลับตาปี๋กัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางอยู่ตรงหน้า

“อ๊ะ...หะ”
“ว่าไงครับ ชอบมั้ย?”
ยิ่งเห็นอาการเกร็งไปทั้งตัวจนกล้ามท้องกระตุกของตัวป่วน พี่อากาศแกก็ยิ่งตวัดลิ้นระรัวอยู่ที่ส่วนนั้น ทั้งมือทั้งนิ้วก็กลับไปทำหน้าที่กระตุ้นตรงยอดอกทั้งสองข้างอีกครั้ง

“หะ.....อะ......พอ พอก่อน”
“ไม่เอา..... ป่วนยังไม่ได้ตอบพี่เลยว่าชอบรึเปล่า”

“มัน.......แปลกๆ หะ หะ พี่ พอก่อนนะ นะ หะ....”
“แปลกๆหรือครับ....แล้วมันแปลกดี หรือแปลกไม่ดีล่ะ หืม?”
“อื้อ พี่ฟ้า หะ อื้อ ไม่รักผมแล้ว หะ เหรอ........”

“รักสิครับ รักมาก รักจนอยากจะกินตัวป่วนลงไปทั้งตัวเลย”
“พี่ฟ้า....ผม ไม่ไหว แล้ว.......อื้อ......”
“ถ้างั้นนอนลงนะครับ นอนลงนะคนเก่งของพี่......”



...
อัศจรรย์ฟ้าลั่นคำรามร้อง
พระจันทร์ผ่องไหวระริกกระซิกสะอื้น
หมดเรี่ยวแรงลงแอบฟ้าไม่อาจยืน
เสียงครั่นครื้นยิ่งก้องดังกลางราตรี
พลิกดวงเดือนลงมาวางอยู่กลางหาด
ฟ้าก็ฟาดกระหน่ำไล่ไม่ให้หนี
เดือนดวงน้อยถอยร่นจนเสียที
ฟ้ายิ่งโหมโถมขยี้ครอบครองจันทร์
...
พญางูชูคอเข้าจ่อถ้ำ
เริ่มรุกล้ำนำทางลู่สู่สวรรค์
ทางทั้งแคบทั้งร้อนยังฝ่าฟัน
ถ้ำพระจันทร์พลันเปิดรับจนเต็มลำ
นอนสงบตามเสงี่ยมอยู่เพียงครู่
ก็เริ่มชูกายเคลื่อนไถลถลำ
ไปทางซ้ายย้ายมาขวาตามใจนำ
จนฝนพรำน้ำซัดกระจัดกระจาย
จันทร์ผวาเกาะเกี่ยวฟ้าไว้เป็นหลัก
ฟ้าไม่พักยิ่งโหมแรงดั่งใจหมาย
จันทร์ระริกระรัวร่างจนพร่างพราย
ถึงที่หมายจึงเอนซบลงด้วยกัน
...



“เป็นของพี่แล้วนะครับ”
เสียงกระซิบปนเสียงหายใจหอบดังขึ้นที่ริมหูของตัวป่วนที่เปลือกตาหรี่ปรือลงจนเกือบปิด ลมเย็นจากแอร์พัดมาสัมผัสผิวชื้นเหงื่อหนาวจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

“ใครว่า....พี่ฟ้าต่างหากที่เป็นของผม”
“หืม?”
“ก็.....เรื่องพื้นฐานนี่นา พี่ฟ้าเข้ามาในตัวผม ไม่ใช่ผมเข้าไปในตัวพี่สักหน่อย เพราะงั้นก็ต้องเป็นพี่สิที่เป็นของผม”

“หึๆๆๆๆๆ เฮ้อ......เด็กเอ๊ย......”


~~~~~~~~~~~~~



Create Date : 12 มีนาคม 2554
Last Update : 12 มีนาคม 2554 8:43:41 น.
Counter : 414 Pageviews.

2 comments
  
เขิลเลยตอนนี้

ปล.แต่งกลอนเก่งจัง
โดย: sai IP: 101.108.42.73 วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:12:05:34 น.
  
ขอบคุณค่ะ เขียนเองก็เขินเอง ฮ่าๆๆๆๆ

ขอโทษที่ทิ้งช่วงนานนะคะ พอดีมีบางสิ่งต้องเร่งทำน่ะค่ะ
โดย: paina วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:10:36:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
มีนาคม 2554

 
 
2
3
4
7
10
11
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog