เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๑๕
ตอนที่๑๕: บ้านใหม่ของตัวป่วนกับครอบครัวใหม่ของพี่ฟ้า



“อร่อยมั้ย?”


“แหะๆไม่ค่อยรู้รสอ้ะครับ”
“จริงด้วย ไม่สบายอยู่นี่เนอะ อ้าว แล้วทำไมกินแค่นั้นล่ะ ยังไม่ถึงครึ่งชามเลย”

“ก็.....มันขม”
“กินแค่นี้แล้วจะหายเร็วๆได้ยังไงล่ะพี่ฟ้า ถ้ายังไม่สบายอยู่อย่างนี้ ผมเป็นห่วงแย่เลย”

คนป่วยถูกคนไม่ป่วยอ้อนเข้าหน่อยก็แทบละลาย ยอมตักข้าวต้มกุ้งสีสันน่ากินแต่กินไปก็ไม่รู้รสเข้าปากได้อีกสามคำก็วางช้อน

“ไม่ไหวแล้วจริงๆ.....” เสียงอ่อยๆมาพร้อมกับหน้าซีดหน้าเซียวแบบนั้น ตัวป่วนมันเลยตามใจหยิบยาลดไข้ส่งให้ถึงมือ พี่อากาศแกก็เชื่อฟังดี๊ดี ส่งยาเข้าปากทีเดียวสองเม็ดแล้วดื่มน้ำตามเกือบหมดแก้ว
“พี่ฟ้านอนนะ เดี๋ยวผมเอาข้าวต้มไว้ในตู้เย็น ถ้าตื่นมาแล้วหิวก็อุ่นกินนะ”
“จะกลับแล้วเหรอ?”


ตัวป่วนมันจัดการยกชามข้าวต้มที่เหลือไปเททิ้งแล้วเอาไปล้าง พี่อากาศแกก็เดินตามไม่ห่าง พอมันสั่งเสียเรื่องอาหารการกินเรียบร้อยแล้วมาหยิบของจะเดินไปทางประตู คนป่วยก็คว้าแขนเอาไว้แล้วถามเสียงละห้อย

“อืม.......”
“อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนไม่ได้เหรอ?”
“ผมอยู่พี่ฟ้าก็ไม่ยอมนอน ไม่สบายอย่างนี้ต้องนอนพักเยอะๆพี่ฟ้าก็รู้นี่ อีกอย่างนี่ก็มืดแล้ว เดี๋ยวกลับดึกแผนมันเป็นห่วง”
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง อย่าเพิ่งกลับเลยนะครับ”

“นี่ไง ก็เพราะถ้าผมอยู่พี่ฟ้าก็จะไม่ได้พักอย่างนี้แหละผมถึงต้องกลับ พี่ฟ้า.....คนโตแล้วเขาไม่ดื้อหรอกนะ”
“ก็ได้.....งั้นรอแป๊บ”
ว่าแล้วพี่อากาศแกก็เดินไปเปิดลิ้นชักบนสุดของตู้ข้างโต๊ะตั้งโทรทัศน์ หยิบของมาได้ก็ยัดใส่มือตัวป่วนมัน พอตัวป่วนมันยกขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นคีย์การ์ดกับกุญแจรถ

“พี่ฟ้า?”
“คีย์การ์ดพี่ไปขอให้เขาทำมาให้ใหม่ ป่วนเก็บไว้นะ ทีนี้อยากจะมาบ้านนี้เมื่อไหร่ก็มาได้ ถึงพี่ไม่อยู่ชมพูไม่อยู่ก็จะได้เข้ามาได้เลย ส่วนกุญแจรถ วันนี้ป่วนขับกลับบ้าน แล้ว.....แล้วพรุ่งนี้จะได้มาหาพี่แต่เช้า....”

“.......................”
“ที่จริง พี่อยากขอให้ป่วนค้างกับพี่ด้วยซ้ำ แต่....วันนี้ที่พี่ทำไป สงสัยคงถูกหักคะแนนความไว้ใจจนติดลบแล้วแน่ๆ ตัวป่วนเอารถไป.....พรุ่งนี้เช้าเปิดหน้าต่างมาเห็นรถจะได้ไม่ลืมว่าต้องมา หาพี่”

“ก็ได้...... แต่พี่ฟ้ารู้มั้ย ไม่ต้องมีรถ ผมก็คิดถึงพี่เป็นคนแรกทุกเช้าอยู่แล้ว”

ประโยคนี้ทำเอาพี่อากาศที่ยืนหน้าเหี่ยวหน้าแห้งยิ้มออกได้ทันที ยิ่งพอไอ้หนูป่วนมันเดินเข้ามาหาแล้วจุ๊บแก้มซ้ายที ขวาอีกที คนป่วยก็กลายสภาพจากหน้าแห้งเป็นหน้าบานอย่างกับจานดาวเทียม

“วางโทรศัพท์ไว้ใกล้ๆตัวนะครับ” ไอ้หนูป่วนสั่งเสียเป็นประโยคสุดท้ายก่อนเปิดประตูก้าวออกมาจากห้อง ที่ตอนนี้กลายเป็นบ้านอีกหลังไปแล้ว

~~~~~~~~~~~~~


23.30 น.
“พี่ฟ้า ลุกมากินยาลดไข้อีกสองเม็ดนะ ลุกแล้วยัง?”
“อืม.....แค่ก แค่ก อึฮื่ม......” เสียงตอบรับจากปลายสายที่ระคนกับเสียงไอแผ่วๆ เหมือนคนป่วยพยายามปิดปากกลั้นเสียงเอาไว้ทำให้ไอ้ตัวป่วนมันตื่นเต็มตา
“นั่นไอด้วยเหรอพี่ฟ้า ถ้าจะไอก็ไอออกมาไม่ต้องกลั้นนะ มีเสมหะรึเปล่า?”
“ไม่มี....”

“กินยา แล้วดื่มน้ำตามเยอะๆ นั่นเปิดแอร์เย็นไปรึเปล่า? ตอนผมกลับมายังไม่มีไอเลยนี่”
“ไม่ต้องห่วงนะครับ พี่แค่รู้สึก อึฮื่มมม ...ระคายคอนิดหน่อยเอง”
“โอเค งั้นนอนต่อนะ ถ้าไม่ไหวยังไงต้องโทรหาผมนะ”
“อืม......”
---ตื๊ดดดดดดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดดด---

05.10 น.
---ก๊อกๆๆๆ---
“ฮ้าวววววววว อะไรป่วน มาเรียกทำไมแต่เช้า”
“จะบอกว่าลงไปล๊อคบ้านด้วย จะไปหาพี่ฟ้า”
“ฮะ? ตอนนี้เนี่ยนะ?”
“อืม ไปแล้วๆ”

~~~~~~~~~~~~~


05.30 น.
“ยกแขนหน่อยสิพี่ฟ้า ช่วยผมหน่อย”


ตัวป่วนมันมาถึงเปิดประตูเข้ามา และขึ้นมาจนถึงห้องนอนของพี่อากาศเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้มันเคาะประตูก็แล้ว เรียกก็แล้ว ไม่มีการตอบรับจากคุณแฟนที่กำลังป่วยเลย

พอมันตัดสินใจเปิดประตูเข้ามาเองถึงได้เห็นสภาพคนป่วยที่นอนตะแคงขดตัวงอ ผ้าห่มนวมมากองอยู่ปลายเท้า เสื้อยืดเนื้อบางที่ใส่อยู่เปียกเหงื่อจนชุ่ม มันเลยตัดสินใจจะเช็ดตัวให้ และพอจะถอดเสื้อผ้าให้ถึงได้รู้ว่าพี่อากาศไม่ใช่แค่ตัวสูง แต่ตัวหนักมากด้วย

“มาแล้วเหรอ?”
ถูกจับพลิกไปพลิกมาเพื่อดึงเสื้อออกได้สักพักพี่อากาศแกก็ลืมตาขึ้นมาหน่อย แล้วทั้งที่ยังอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่นพอได้เห็นหน้าคนที่มาอยู่ข้างๆก็ ยังส่งยิ้มมาให้
“อืม.....ช่วยยกแขนขึ้นหน่อยเร็ว จะได้ถอดเสื้อง่ายๆ ผมจะเช็ดตัวให้”
“มันหนาว......”
“ทนหน่อยนะ....เช็ดตัวไข้จะได้ลด เดี๋ยวสว่างอีกนิดเราไปหาหมอกัน”

“ไม่หาหมอ...อะแหะ แหะ”
“ไอขนาดนี้จะไม่หาได้ยังไง พลิกตะแคงซิพี่ฟ้า”
“เย็นอ้ะ.....”

“ก็เพราะตัวพี่ร้อนไง.....เอ้า กลับมานอนหงายได้”
“ไม่ไปหาหมอนะ...นะป่วนนะ”
“ยกก้นขึ้นก่อน เร็วสิ ไม่งั้นผมจะดึงกางเกงออกได้ยังไงล่ะ”
“อืม......”

“ฮะๆๆๆๆ พี่จะครางทำไมเนี่ย เอ้า พลิกตะแคงอีกครั้งซิพี่ฟ้า”
“อืม........”
“เอ้า นอนหงายนะ เฮ้ย........บ็อกเซอร์ไม่ต้องถอด”
“ไม่เช็ดเหรอ....”
“ไม่เช็ดๆ เดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ รอแป๊บนะ”

เออนะพี่อากาศ ควรจะภูมิใจในตัวเองให้มากนะ ที่สามารถทำให้ไอ้หนูป่วนมันเขินจนหน้าแดงได้ทั้งๆที่กึ่งหลับกึ่งตื่น ตอนไอ้หนูป่วนมันกลับมาอีกครั้งพร้อมเสื้อกับกางเกงชุดใหม่ พี่อากาศที่เมื่อกี้ยังคุยเหมือนจะรู้เรื่องก็หลับสนิทไปอีกรอบแล้ว

---ตื๊ดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดด---

“พี่ปุ่น”
“ว่าไงตัวเล็ก?”


“ผู้ชายอายุ 25 มีไข้ 38.4 เป็นมาตั้งแต่เมื่อวาน เพิ่งเริ่มไอเมื่อคืน ไม่มีเสมหะ ทำไงดี?”
“เช็ดตัวยัง?”
“เช็ดเมื่อกี้ ตอนนี้หลับไปแล้ว”
“ยาลดไข้ล่ะ?”

“กินทุกสี่ชั่วโมงมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่เช้านี้ยังไม่ได้กิน เดี๋ยวป่วนจะไปหาข้าวมาให้กินก่อน”
“งั้นก็โอเคแล้ว เอางี้ พอให้กินข้าวกินยาแล้ว คอยวัดไข้เรื่อยๆ ถ้าไม่ดีขึ้นก็เอาไปคลินิกหรือโรงบาลแถวนั้นนะ”
“อาฮะๆ”

“เดี๋ยวๆอย่าเพิ่งวางสาย ตกลงไอ้ผู้ชายอายุ25คนนี้มันเป็นใคร?”
“......ชื่อพี่ฟ้าน่ะพี่ปุ่น” ตัวป่วนมันเหลือบตามองคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงก่อนจะตอบคำถามพี่ชายคนรอง
“แฟนป่วนอ้ะเหรอ?”
“อืม......แม่บอกเหรอ?”

“พ่อ.... ฮ่าๆๆๆๆๆ พ่อโทรมาปรึกษาว่าจะให้ตัวเล็กพบจิตแพทย์ดีมั้ย”
“หงะ”
“พี่เข้าใจ ป่วนไม่ต้องเครียดหรอก พ่อเองที่โทรถามพี่ก็เพราะตกใจแหละ ไม่ใช่เพราะรังเกียจหรืออะไรหรอก”
“อืม....ป่วนขอบคุณนะพี่ปุ่น”

“ดูแลแฟนดีๆละกันนะตัวเล็ก เดี๋ยวน้องพี่จะเป็นม่าย ฮ่าๆๆๆ”
“บ้าแล้ว ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“จริงอ้ะ?”
“จริง”

“เอาเหอะๆ พี่ไปนอนก่อน เราโทรมาตอนออกเวรพอดี”
วางสายจากพี่ชายไอ้หนูป่วนก็เดินไปนั่งลงข้างเตียง เอื้อมมือไปปัดเส้นผมที่ลงมาปรกหน้าคนป่วยตัวโตที่กำลังหลับแล้วก็ค่อยๆเผย ยิ้มออกมาบางๆ คิดในใจโดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสรู้

‘พี่ฟ้า......ครอบครัวของผม ยินดีต้อนรับพี่แล้วนะ รอให้ผมพร้อมอีกนิด เราไปบ้านผมด้วยกันนะพี่ฟ้า.....’

~~~~~~~~~~~~~


10.40 น.
“ป่วน ตัวป่วน....”


“งืม......ตื่นแล้วเหรอพี่ฟ้า ดีขึ้นรึยัง?” ลืมตามาเจอหน้าคนป่วยก้มลงมองในระยะประชิดไอ้หนูป่วนมันก็รีบเรียกสติแล้ว ลุกพรวดขึ้นนั่งทันที

ก็....ตอนแรกมันก็นั่งเฝ้าไข้คนป่วยดีๆอยู่หรอก แต่แอร์เย็นๆแถมม่านสีเข้มที่รูดปิดกั้นแสงอย่างดีนั่นอีก คนขี้เซาโดยธรรมชาติอย่างไอ้หนูป่วนมีหรือจะทนลืมตาต่อไปไหว แล้วยิ่งเมื่อคืนเป็นห่วงพี่อากาศแกจนนอนไม่ค่อยหลับ แถมตื่นมาดูอาการคนป่วยตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างอีก เก้าอี้ยาวปลายเตียงพี่อากาศแกก็นุ้มนุ่ม มันก็เลย ค่อยๆเลื้อยแล้วก็เลยหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้

“ดีแล้วครับ หายแล้ว”
“ไหนๆวัดไข้ก่อน” ตัวป่วนมันหยิบปรอทวัดไข้ใส่ปากคนป่วย แล้วบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินไปรินน้ำที่เอามาตั้งไว้หัวเตียงใส่แก้ว
“หิวรึยัง? เมื่อเช้าก็กินไปได้นิดเดียวเอง”

คนป่วยที่อมปรอทวัดไข้อยู่ได้แต่มองตามการเคลื่อนไหวของไอ้ตัวเล็กๆที่พอ ตื่นเต็มตาก็ทำท่าทางกระปรี้กระเปร่าได้อย่างน่ารักน่าชัง ตัวป่วนมันเดินกลับมาหยิบปรอทวัดไข้ออกจากปากพร้อมทั้งส่งแก้วน้ำให้คนป่วย ตัวโต ที่ไม่ว่ามันจะขยับไปทางไหนก็เอาแต่มองตามแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขินก็เขิน แต่ไม่รู้จะทำยังไง


“อืม ไข้ลดแล้วจริงๆแหละพี่ฟ้า แต่ก็ยังไม่ปกติ เบื่อข้าวต้มแล้วยัง?”
“........ขอบคุณนะครับ” พี่ฟ้าที่มีสถานะเป็นคนป่วยชั่วคราวเอื้อมมือมาจับมือที่ไอ้หนูป่วนมันเริ่ม ไม่รู้จะเอาไปวางไว้ไหนดี แล้วเอาไปกุมไว้ “พี่ขอบคุณที่ดูแลพี่อย่างดี แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง......”
“...งั้นก็ กินข้าวต้มอีกมื้อละกันเนอะ ผมลงไปละลายกุ้งในช่องแข็งก่อนนะ” ตัวป่วนมันหันตัวจะก้าวไปทางประตูห้อง ถึงได้รู้ว่ามือยังถูกพี่อากาศตัวโตเกาะกุมไม่ยอมปล่อย
“พี่ฟ้า?”

“ขอกอดหน่อยนะ” ตัวป่วนมันมองลูกกะตาหมาหงอยที่มองมาแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ ต้องพยักหน้าให้ พี่อากาศแกก็คงกลัวมันโกรธแหละ ค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปกอดมันไว้หลวมๆ

“แค่กอดนะ.......”
“ว้า.......รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปเลย”
“ดีแล้ว จะได้จำไว้ว่าถ้าผมบอกว่าไม่ พี่ก็ต้องไม่บังคับขืนใจ ไม่งั้นจะถูกหักคะแนนแบบนี้แหละ”

พอพี่อากาศแกกอดแน่นเข้า ตัวป่วนมันก็ซบหน้าลงกับอกพี่เขาเสียเลย

“อืม....ทราบแล้วครับ แล้ววันนี้คุณแฟนจะอยู่กับพี่ฟ้าทั้งวันเลยรึเปล่า?”
“เดี๋ยวดูพฤติกรรมก่อน.... ปล่อยได้แล้วพี่ฟ้า แล้วก็ไปอาบน้ำซะ ผมจะลงไปข้างล่าง” ตัวป่วนมันยันตัวออกจากพี่อากาศตัวโต พี่อากาศแกก็ปฏิบัติตามคำสั่งโดยดี ไม่กล้าหือให้ขัดใจสักนิด

“เดี๋ยวพี่ลงไปช่วยนะ” พี่อากาศส่งเสียงบอกตามหลัง ไอ้หนูป่วนก็หันกลับมาพยักหน้าหนึ่งหงึกแล้วส่งยิ้มให้


“กินเยอะๆนะพี่ฟ้า เป็นไง วันนี้รู้รสรึยัง?” สองคนนั่งตรงข้ามกันบนโต๊ะขนาดสี่คนนั่งตัวเดิม ตรงหน้ามีชามใส่ข้าวต้มกุ้งคนละชาม ของพี่อากาศพิเศษหน่อยตรงมีแก้วน้ำพร้อมยาลดไข้วางไว้เรียบร้อย

“อร่อย”
“ดีๆ งั้นกินให้หมดชามนะ เดี๋ยวมื้อเย็นทำอย่างอื่นกินกันเนอะ”
“ตัวป่วน มาทำอะไรแบบนี้ให้พี่ เหนื่อยรึเปล่า?”

“ไม่หรอก สนุกดี อยู่บ้านกะไอ้แผนไม่ค่อยได้ทำเพราะขี้เกียจแวะตลาดซื้อของสดกันทั้งคู่ เลยไม่ค่อยมีอะไรตุนไว้ในตู้เย็น ตกลงมื้อเย็นพี่ฟ้าอยากกินอะไรล่ะ? แต่บอกไว้ก่อนนะ ผมทำได้แต่อาหารง่ายๆ แล้วก็ ถ้าทำให้กินแล้วต้องกินให้หมดด้วย ไม่งั้นคราวหลังอดแน่”

“.................”
พี่อากาศคนป่วยไม่ได้ตอบ แต่มองตามปากที่ขยับขึ้นลงต่อเนื่องนั่นแล้วก็เอาแต่ยิ้ม จนไอ้หนูป่วนที่รอคำตอบอยู่ต้องย้ำถาม

“อะไรพี่ฟ้า ทำไมไม่ตอบ?”
“พอดีว่า.......มองเพลิน”
“..........”


เขินเลยสิ เขินมาก ตัวป่วนมันเขินแล้วเลยกินเอาๆ แถมยังมีอาการข้างเคียงคือเป็นใบ้ไปเลย มันเลยจ้วงเอาๆแล้วลุกหนีไปล้างชามซะ

“พี่ฟ้าไม่ต้องมาช่วยล้างหรอกไปนั่งเถอะ หรือถ้าง่วงก็นอนไปเลยก็ได้”
“พี่อยากช่วยนี่ ไม่มีไข้แล้ว หายแล้วจริงๆนะ”
“งั้นมาเช็ดจานมา”

พี่อากาศคนป่วยกับตัวป่วนคนไม่ป่วยยืนข้างกัน คนหนึ่งล้างจานเสร็จก็ยื่นส่งให้ อีกคนรับไปแล้วจัดการเช็ด ชามแค่สองใบเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ

“กินยาเรียบร้อยรึยังน่ะ?”
“เรียบร้อยครับ”
“งั้น......ถ้าพี่ฟ้าไม่ง่วง เราดูหนังกันดีกว่า มั้ย?”
“อาฮะ ตัวป่วนเลือกได้เลยนะ”

“พี่ภพจะไม่ดุใช่มั้ย?”
“ชมพูมันจะมาดุอะไรล่ะ อีกอย่างทั้งชั้นนั่นของพี่หมดแหละ ชมพูมันไม่เคยซื้อพวก dvd เข้าบ้านหรอก”
“โห....เป็นร้อยแผ่นเลยนะเนี่ย พี่ฟ้าอยากดูเรื่องอะไร?”
“ตัวป่วนอยากดูเรื่องไหนก็หยิบมาเถอะ พี่ชอบทุกเรื่องแหละ มีแค่สี่ห้าแผ่นข้างล่างที่ใช้ตอนเรียน”

“อ๋อๆ พวกหนังที่พี่เอาไปให้ดูในห้องเรียนอ้ะเหรอ?”
“อืม....พวกแอนิเมชั่นก็อยู่ล่างๆนะ” พอได้ยินคำนี้ ไอ้หนูป่วนมันหันขวับมามองหน้าพี่อากาศที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาทันที

“ทำไมคิดว่าผมจะอยากดูการ์ตูนล่ะ?”
“ก็.....เห็นว่าดูหนังกันครั้งแรกก็ชวนพี่ไปดูเชร็ค พี่เลยคิดว่าตัวป่วนชอบการ์ตูน”
“......................”
“เอ่อ....ป่วน พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับ”
“.........อย่างไหน?”
“ก็ไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าเป็นเด็ก.....”
“..............”

“โกรธพี่เหรอ?” อยู่ไม่ติดที่แล้ว พี่อากาศถึงกับแล่นจากโซฟามาทรุดลงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆไอ้ตัวเป็นใบ้ กะทันหัน เอื้อมมือจะไปแตะก็ไม่กล้าเพราะทำคดีไว้ เลยแค่ส่งนิ้วชี้ไปจิ้มๆที่หลังมือข้างซ้ายของไอ้หนูป่วนที่เจ้าตัวมันวาง เท้าพื้นอยู่ในขณะนั่งยงโย่ยงหยกไล่หาแผ่นdvdที่ต้องการ
“.................”
“พี่ฟ้าขอโทษนะครับ ตัวป่วนอย่าเงียบอย่างนี้สิ หายโกรธพี่นะ....”


“............หึๆๆ ฮะๆๆๆๆๆๆๆ โอ๋.... ผมล้อเล่น พี่ฟ้ากลัวอะไรเนี่ย กลัวผมโกรธขนาดนั้นเชียว?” ไอ้หนูป่วนหัวเราะจนตัวโยน ก็จะไม่ให้ขำได้ยังไงก็แค่ไม่พูดตอบ ไม่ได้บอกว่าไม่พอใจสักนิด พี่อากาศกลับร้อนรนจนต้องมาง้อถึงที่ ง้อคนไม่โกรธ.....แล้วจะให้หายโกรธได้ยังไง

“แกล้งคนแก่.......บาป”
ปากว่าบาป แต่สีหน้าของพี่อากาศกลับยิ้มละไม แถมยอมรับว่าตัวเองแก่ได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ก็คนที่รักหัวเราะสดใสได้ขนาดนี้ทั้งที จะมามัวอารมณ์ไม่ดีอยู่ทำไมล่ะ

“แกล้งคนแก่.....บาป แต่แกล้งแฟนตัวเอง......ผมว่าไม่บาปนะ พี่ฟ้าว่ามั้ย?”

~~~~~~~~~~~~~





Create Date : 05 มีนาคม 2554
Last Update : 5 มีนาคม 2554 15:03:13 น.
Counter : 369 Pageviews.

3 comments
  
“แกล้งคนแก่.....บาป แต่แกล้งแฟนตัวเอง......ผมว่าไม่บาปนะ พี่ฟ้าว่ามั้ย?” ----อึ้งไปเลยล่ะซิพี่ฟ้า เจอประโยคนี้ไปแก้มแตกแน่ๆ
โดย: sai IP: 101.108.45.29 วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:18:46:53 น.
  
น่ารัก คอยอ่านตอนต่อไปนะค่ะ
โดย: อ้วนน้อย IP: 223.204.76.190 วันที่: 5 มีนาคม 2554 เวลา:19:32:08 น.
  
ขอบคุณที่ติดตามค่ะคุณsai คุณอ้วนน้อย
ตอนต่อไปมาส่งแล้วนะคะ
โดย: paina วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:8:02:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
มีนาคม 2554

 
 
2
3
4
7
10
11
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog