เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๒
“เพราะพี่รู้ว่าเจ้าชอบจึงสรรให้
เจ้ากลอยใจได้อิ่มหนำดั่งใจหนา
เค้กชิ้นนี้ยินสำเนียงเสียงแก้วตา
ที่บอกว่ามันนุ่มลิ้นชวนลิ้มลอง”

~~~~~~~~~~~~~

“เฮ้ย!!!”

เสียงอุทานดังสนั่นนั่นเรียกสายตาของเพื่อนร่วมคณะที่กำลังนั่งบ้างยืนบ้างรอเวลาเข้าเรียนให้หันมามองที่ไอ้ตัวป่วนและผองเพื่อนของมันได้เป็นตาเดียว

“ไรของมึงไอ้ป่วน คราวนี้คุณนิรนามของมึงส่งของเล่นมาให้หรือไง?” ไอ้คุณเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่ง(ซึ่งเราจะไม่เอ่ยชื่อเพราะมันไม่มีความสำคัญ)ตะโกนถามมา แล้วไม่ใช่แค่ถาม แต่มันเดินเข้ามาชะโงกดูของในกล่องสีน้ำตาลเข้มที่ตั้งหมิ่นๆอยู่ริมโต๊ะด้วย

“ของเล่นไรของมึงวะ?” ตัวป่วนเด็กน้อยใสซื่อถามกลับพร้อมทำหน้าเอ๋อแดก มือก็ไล่คว้าการ์ดที่บรรจุกลอนอีกหนึ่งบทที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆซึ่งถูกเพื่อนนุ่นชิงไปต่อหน้าแล้วเตรียมอ่านออกเสียงเผยแพร่ให้เพื่อนทุกคนรับรู้ทั่วกัน

“ก็เซ็กทอยไงมึง กูเห็นร้องเสียงดังตกใจซะขนาดนั้น ใครจะไปนึกวะว่าของข้างในจะเป็นเค้ก ..แต่เค้กก้อนนี้น่ากินโคตรอ้ะ แบ่งหน่อยดิ” จบคำพูดไอ้เพื่อนคนไม่สำคัญปุ๊บกล่องเค้กที่สงบนิ่งอยู่บนโต๊ะถูกย้ายที่ไปอยู่ในอ้อมแขนของไอ้ตัวป่วนทันที พร้อมลูกกะตาคมๆตวัดมองหน้าไอ้คนไม่สำคัญอย่างประกาศความเป็นเจ้าของ

“เออๆไอ้งก เค้กก้อนใหญ่ขนาดนั้นเสือกจะกินคนเดียว ขอให้มึงติดคอตาย” พูดจบมันก็เดินกลับไปหย่อนตูดที่กลุ่มมันเหมือนเดิม ทิ้งให้ไอ้สามคนเพื่อนตายนั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ที่เดิม

ตัวป่วนพอเห็นว่าเค้กปลอดภัยแล้วก็ยอมวางกล่องเค้กลงที่โต๊ะแต่โดยดี พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเพื่อนนุ่นมันมองหน้าเพื่อนแผน มองแล้วมองเล่าเฝ้าแต่มอง ริมฝีปากเคลือบกลอสวาวอย่างกับกินข้าวมันไก่มาอ้าออกแล้วก็หุบลงอยู่อย่างนั้น แต่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเสียที

“.....?....”

“...ไอ้แผน ที่แท้เป็นแกเหรอวะ?”

“หืม?”

“หา!!!!!!”
ไอ้ตัวป่วนหน้าซีดแล้ว แค่ซีดไม่พอ นี่มันซีดแล้วก็แดง แดงแล้วก็ซีดสลับกันไปมา แถมย้ายก้นไปนั่งฝั่งเดียวกับไอ้คุณนุ่นทันทีอีก

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้พวกบ้า แกสองคนคิดได้ไงเนี่ย บ้าเปล่าวะ? ไอ้นุ่นสงสัยยังไม่เท่าไหร่ แต่แกนี่ดิป่วน เมื่อวานกลับบ้านพร้อมกัน เช้าก็มาเรียนพร้อมกัน ถามหน่อยฉันจะเอาเวลาที่ไหนไปหาเค้กมาให้แก ฮ่าๆๆๆๆ” เพื่อนแผนพูดจบไอ้ตัวป่วนถอนหายใจดังเฮือก แล้วส่งยิ้มแหยๆไปให้ไอ้เพื่อนซี้

“แต่ แต่แกอาจจะโทรสั่งให้คนอื่นเตรียมของให้ก็ได้นี่หว่า...” ยังอีก เพื่อนนุ่นยังไม่เลิกสงสัยแถมส่งสายตาจับผิดเต็มที่ ในขณะที่ไอ้ตัวป่วนของเราเกร็งตัวขึ้นนั่งหลังตรงแหนวอีกรอบ พร้อมกับเอื้อมมือเย็นเฉียบสอดเข้าไปในอุ้งมือเพื่อนนุ่นทันทีอย่างขอกำลังใจ

“เอาล่ะ ฟังนะ เค้กร้านนี้อ้ะ เปิดขายกี่โมง? สิบโมงเช้าถึงสามทุ่มรึจนกว่าของจะหมดซึ่งไม่เกินสามทุ่มครึ่งใช่มั้ย?” ไอ้สองตัวไม่ตอบแต่พยักหน้าหงึกๆ “ทีนี้เมื่อวานน่ะแกกับฉันกลับบ้านพร้อมกัน ระหว่างอยู่บนรถแกเห็นฉันโทร.หาใครมั้ย?” ไอ้คุณแผนนี่ก็ใจเย็นเหลือเกิน ค่อยๆอธิบายให้สมองช้าๆของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟเข้าใจ

“เฮ้อออออออออออ แหะๆขอโทษว่ะแผน คือต้องเข้าใจนะเว้ย ช่วงนี้ฉันแม่ง ระแวงไปหมดแล้วอ้ะ” คราวนี้มะเหงกของไอ้แผนไม่พลาดเป้า เคาะโป๊กลงไปบนหัวไอ้ตัวป่วนเต็มๆ

“อ๊อย..” แน่ะ เพราะรู้ตัวว่าผิดเองที่ระแวงเพื่อนเลยไม่ตอบโต้ ตัวป่วนนี่มันน่ารักจริงเว้ย

“เออเนอะ แล้วนี่ก็ยังไม่เก้าโมงเลย ยังไงก็ไม่ใช่แผนแน่ๆ” ไอ้นุ่นที่หัวช้ากว่าเพิ่งจะพบสัจจธรรม ช้าได้อีกอิหนู

“แล้วแกล่ะนุ่นมีอะไรจะอธิบายมั้ย?” ไอ้แผนมันหันมาถามไอ้นุ่นยิ้มๆ ดูก็รู้ว่ามันจงใจแกล้ง

“อธิบาย? อธิบายอะไรอ้ะ?”

ไอ้นุ่นทำหน้าเอ๋อแดกอีกคนแล้ว สงสัยโรคติดต่อจากตัวป่วนมัน ส่วนไอ้ตัวป่วนน่ะหรือครับ มันเด้งตัวจากเก้าอี้ทันทีแล้วไปยืนเกาะบ่าอยู่หลังไอ้แผนโน่น “เลวววววว ดูซิไอ้แผนบ้า ตัวป่วนมันกลัวนุ่นแย่แล้ว” ด่าได้แค่นี้แหละไอ้คุณนุ่นอ้ะ สต๊อกคำด่าในสมองมันมีน้อย แล้วมีเรอะไอ้แผนมันจะสะเทือน

“ป่วนมานี่มา ไม่ต้องไปหลบหลังแผนหรอก แผนมันแกล้งน่ะ นุ่นไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก” เพื่อนนุ่นมันเอื้อมมือไปคว้าแขนตัวป่วนแล้วดึงให้กลับมานั่งข้างๆมันเหมือนเดิม แถมกอดเอวไว้อีกต่างหาก “โอ๋ๆๆๆ ถึงป่วนจะน่ารักนุ่นก็ไม่รักป่วนแบบแปลกๆหรอกนะจ๊ะ รักป่วนแบบเพื่อนอย่างนี้ดีแล้ว อีกอย่างนะถ้านุ่นกับป่วนอะจื๊ดๆกันขึ้นมาจริงๆสงสารลูกที่จะเกิดมาแย่เลย..”

ตอนแรกไอ้ตัวป่วนมันก็ยอมให้ไอ้คุณนุ่นโอ๋ดีอยู่หรอก แต่พอมาประโยคท้ายๆมันก็เริ่มออกแรงขืนตัวออกแล้วทำหน้ามุ่ย
“อะไร แกจะสงสารลูกเรื่องอะไร?”

“หึๆๆ” ขณะที่ไอ้ตัวป่วนถามเสียงแข็ง ไอ้คุณแผนก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะหึๆกวนอวัยวะเบื้องล่างยิ่งนักในลำคอ

“ก็กลัวลูกจะเตี้ยจนโหนราวรถเมล์ไม่ถึงน่ะสิ โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“อิบ้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ตัวป่วนมันด่าเพื่อนแล้วก็ขำจนน้ำตาเล็ดเสียเอง

“งั้นถ้ากับคนสูงๆก็ได้สินะนุ่น?” อ้าว ไอ้คุณแผน แกจะมารุกอะไรตอนนี้ แล้วสีหน้าคาดหวังนั่นมันอะไร

“แหมๆมันก็ไม่ใช่จะตัดสินกันได้ด้วยส่วนสูงเว้ยแผน ถึงไม่สวยฉันก็เลือกนะยะ” ไอ้คู่กรณีก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย เหนื่อยใจแทนแผนมันว่ะ “งั้นก็แสดงว่าเมื่อคืนคุณนิรนามเขาอยู่ตรงนั้นสิ กี๊ด..แก เมื่อวานที่ร้านเขาต้องนั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆแหงเลยอ้ะ”

“เออ ถ้าไม่ใช่ลูกค้าก็ต้องพี่คนเก็บตังค์คนนั้นแล้วล่ะ”
พูดไปไอ้ตัวป่วนมันก็พยายามนึกหน้าตาคนนั่งโต๊ะข้างๆแถมหน้านิ่งๆของพี่คนเก็บตังค์ แต่ให้ตาย มันนึกยังไงก็นึกไม่ออก ไม่ใช่ว่าทุกคนไร้จุดเด่นจนไม่น่าจดจำหรอกนะ แต่เป็นเพราะเมื่อวานป่วนมันตั้งอกตั้งใจกินมากไปหน่อย ตั้งใจเสียจนไม่สนใจชาวโลกนอกโต๊ะเอาเลย

......ใกล้กันแค่นั้นแท้ๆ น่าสงสารคุณนิรนามจริงๆ
~~~~~~~~~~~~~


“เลิกแล็บแล้วไปแวะอักษรกันนะ......
...ไม่ไหวแล้วว่ะ ยิ่งรู้สึกว่าพี่เค้าแม่งอยู่ใกล้ขึ้นทุกที คือถ้าแค่ให้เค้กให้ขนมไม่เท่าไหร่ นี่ดันเป็นเค้กที่บ่นอยากกินเมื่อวานอีก”

“ไม่แน่นะแก ตอนนี้คุณนิรนามเขาอาจจะกำลังมองแกอยู่จากมุมไหนสักมุมแถวๆนี้ก็ได้”

จบประโยคเพื่อนนุ่นไอ้ตัวป่วนมันเหลียวหน้าเหลียวหลัง เลิ่กลั่กจนน่ากลัวคอจะเคล็ด เจอผู้ต้องสงสัยแล้วก็บุ้ยปากให้เพื่อนอีกสองคนมองตาม ที่ซุ้มขายน้ำนั่นรึเปล่า พนักงานขายขาวๆตี๋ๆ ที่กำลังทอนเงินให้ลูกค้า อ้าว แล้วทอนเสร็จจะหันมามองทางนี้ทำไมล่ะเนี่ย มองไปทางอื่นไป๊ ชิ่วๆ

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ” หลังจากหันกลับมามองตากันเองแล้วสามเสียงก็หัวเราะประสานกันจนดังลั่น ต่างคนต่างคิดว่าเพื่อนเราบ้าไปแล้ว ระแวงได้กระทั่งพนักงานขายน้ำ

“ไม่เห็นมีใครแถวนี้สนใจมองมาทางเราเลย ไอ้นุ่นอ้ะ พูดให้คิด” ดูมันค้อนสิ ไอ้ตัวป่วนมันส่งค้อนให้เพื่อนนุ่น ค้อนสวยอย่างกับสาวขี้งอนเลย

“อย่างน้อยก็ตัดคนในคณะไปได้แล้วล่ะ เพราะถ้าเมื่อวานมีใครในคณะไปนั่งกินอยู่เราก็ต้องเห็นต้องทักทายกันไปแล้ว คราวนี้ก็มั่นใจได้ว่าคุณนิรนามแกเป็นคนนอกคณะ” คุณแผนยังเป็นคนที่คิดอะไรได้รอบคอบ มีเหตุมีผลเหมือนเคย

“โอเค. งั้นใครทำแล็บเสร็จก่อนออกมารอตรงนี้นะ แล้วเดี๋ยวเราเดินไปอักษรด้วยกัน”


เที่ยงกว่าๆไอ้สามตัวมันก็ย้ายตัวเองมาอยู่ที่หน้าตึกใหญ่คณะอักษรศาสตร์ แล้วก็ตกลงกันว่าจะเนียนๆเดินไปหน้าห้องที่มาใช้เรียนตามปกติ ใช้กล้องในมือถือถ่ายรายชื่อพร้อมรหัสประจำตัวคนที่เรียนคลาสเดียวกันมาให้หมด ว่าแล้วตัวป่วนที่ได้ตัวกระตุ้นชั้นดีเป็นBanana fondantก้อนใหญ่ก็เดินลิ่วๆไม่รอเพื่อน แถมไม่สนใจรอบข้าง จนไปปะทะเข้ากับอีกร่างที่ก็เดินลิ่วๆจนเกือบเป็นวิ่งสวนลงมาบนชานพักบันไดชั้นสองนั่นแหละ

“โอ๊ะ!”

เสียงอุทานเบาๆพร้อมกับร่างกายที่เสียหลักทำท่าจะหงายหลังชะงักอยู่แค่นั้นเพราะอุ้งมือของคนตรงหน้าที่คว้าแขนเอาไว้ได้หวุดหวิด แถมยังออกแรงดึงไปด้านตรงข้ามจนตัวคนดึงเองเซไปกระแทกกับผนังหินอ่อนของชานพัก หนังสือสองสามเล่มในมือหล่นร่วงกระจัดกระจาย

“ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า?” เสียงถามร้อนรนทำให้หนูป่วนมันดึงสติกลับมาจากความตกใจได้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นจะตอบคำถามว่าไม่เป็นไร แต่ไอ้ตัวป่วนมันเพิ่งเข้าใจว่าตัวเองเตี้ยจริงๆก็คราวนี้ เพราะมันไม่ใช่แค่เงยหน้า แต่ต้องแหงนจนคอตั้งบ่าถึงจะสบตากับคนตัวสูงที่เกือบทำให้มันเจ็บตัวแต่ก็เป็นคนช่วยมันเอาไว้ได้

“อะไรป่วน เกิดอะไรขึ้น?” ก่อนตัวป่วนมันจะส่งเสียงตอบคนที่ตัวสูงจนผิดมนุษย์(ในสายตาของมันคนเดียว)เสียงของไอ้เพื่อนนุ่นก็ดังขึ้นก่อน พร้อมกับเสียงซอยเท้ารัวๆขึ้นบันไดต่อเนื่องจนตัวเพื่อนสองคนโผล่พ้นมาจากมุมบันไดชั้นต่ำกว่า

“ไม่มีอะไรนุ่น เอ่อ..ขอบคุณนะครับ ผมไม่เป็นไร” พอได้ฟังคำตอบแบบนั้นมือที่ยังกำรอบแขนของตัวป่วนไว้แน่นจึงค่อยคลายออก พร้อมกับช่วยดันให้ตัวป่วนมันทรงตัวด้วยตัวเอง

ตัวป่วนมันว่ามันไม่ได้คิดไปเองนะ แต่สัมผัสของผู้ชายตัวสูงคนนี้มันอ้อยอิ่งชอบกล แล้วยังสายตาหลังกรอบแว่นพลาสติคสีน้ำเงินเข้มนั่นอีกที่ส่งประกายวิบวับแปลกๆ
เอ..รึว่าแสงแดดสะท้อนเลนส์กันแน่ ที่ทำให้รู้สึกแปลกแบบนั้น..

“อ้าว พี่หวัดดีครับ/ สวัสดีค่ะพี่” ระหว่างก้มลงช่วยกันเก็บของที่กระจายอยู่บนพื้นเสียงของไอ้เพื่อนนุ่นและไอ้เพื่อนแผนก็ดังขึ้น

“...?....”
งงเลยสิ ไอ้ตัวป่วนมันงงว่าเพื่อนสองตัวไปรู้จักคนตัวสูงนั่นได้ยังไง แถมยกมือไหว้เสียเป็นการเป็นงานอีก พอเงยหน้าขึ้นมองไปที่หน้าของคนใส่แว่นอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้งจึงค่อยมีความรู้สึกว่าใบหน้าแบบนี้มันคุ้นๆตา...แต่ว่ามุมปากที่ยกขึ้นยิ้มเหมือนอยากจะขำอะไรสักอย่างนี่สิที่ไม่คุ้นเลย

“ใครวะ?” แทนที่จะเนียนๆทักตามไปกับเพื่อนไอ้ตัวป่วนมันเลือกที่จะไปกระซิบถามเพื่อนนุ่นก่อน

“พี่ที่เป็นผู้ช่วยสอนไง แต่ฉันก็จำชื่อไม่ได้ว่ะ ต้องถามไอ้แผน”

“แหะๆ หวัดดีครับพี่” สงสัยจะรู้สึกผิดที่ตัวเองจำพี่เขาไม่ได้ ตัวป่วนมันเลยยกมือไหว้เสียสวยงามแถมด้วยส่งยิ้มหวานๆประจบไปอีกที

“ไม่เป็นไรครับ น้องๆจะมาพบอาจารย์กันเหรอ? ห้องพักอาจารย์อยู่ชั้น14 นะ ทำไมไม่ขึ้นลิฟต์กันล่ะ?”

“ไม่ใช่หรอกครับพี่ พอดีพวกเราผ่านมาทางนี้แล้วนุ่นมันอยากเข้าห้องน้ำพอดี เลยเดินขึ้นมาน่ะครับ” สิ้นเสียงอธิบายของไอ้แผน ลูกกะตาสองคู่ของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟก็ตวัดไปมองมันทันที

“เอ่อ...งั้นนุ่นรีบไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” พูดจบยกมือไหว้พี่เขาอีกรอบไอ้นุ่นมันก็ตัดช่องน้อยแต่พอตัวชิ่งไปทันที

“ขอบคุณนะครับพี่ ไปก่อนนะครับ” ไอ้สองตัวที่เหลือก็ยกมือไหว้อีกรอบ มารยาทงามจริงไอ้พวกนี้

ระหว่างไอ้คุณแผนและตัวป่วนมันหันหลังให้แล้วเริ่มก้าวตามไอ้คุณนุ่นไปช้าๆ ก็ได้ยินเสียงนุ่มๆกลั้วหัวเราะพูดตามมาเบาๆว่า

“คราวนี้คงจำพี่ได้แล้วนะครับ”


“ฉันว่าไม่ต้องไปก๊อปปี้รายชื่อหน้าห้องแล้วล่ะแก”
พอสองคนโผล่พ้นมุมบันไดขึ้นไปเพื่อนนุ่นมันก็ต้อนรับด้วยประโยคลอยๆนี้ทันที พร้อมด้วยยิ้มกรุ้มกริ่มล้อเลียนที่ส่งไปให้ไอ้ตัวป่วน

“เฮ้ย..ไม่ม้าง” ตัวป่วนมันยังไม่ยอมรับ แต่ขนาดไม่ยอมรับก็หน้าแดงหูแดงไปหมดแล้วเนี่ย

“ฉันเห็นด้วยกับนุ่น หรือถ้าแกอยากไปก๊อปปี้เอาไว้ก็ได้นะ แต่ฉันว่าเปลืองแรงเปล่าว่ะ” คุณแผนมันให้ความเห็นแบบนิ่งๆแต่ชัดเจน

“เอาเวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับพี่คนเมื่อกี้จะมีประโยชน์กว่า ดูท่าทางพี่เขาก็ไม่ได้อยากปกปิดอะไรนักหรอก อาจจะเป็นพวกขี้อายฝังในก็ได้นะแก เลยไม่กล้าเข้ามาพูดกับแกตรงๆ” ไอ้คุณนุ่นมันเริ่มจะลอยเข้าไปอยู่ในความฝันอีกแล้ว

“ยิ้มอะไรไอ้นุ่น” ดูไอ้ป่วนมันทำเข้ม จะทำเข้มกลบเกลื่อนความเขินก็ขอให้เนียนนิดนึงนะป่วนนะ

“คิกๆ ก็ฉันเพิ่งรู้ ว่าผู้ชายโรแมนติคหน้าตาเป็นแบบนี้เอง”

“เออ..ถึงว่าพี่เค้าหน้าคุ้นๆ” ตัวป่วนมันเพิ่งนึกออก ความรู้สึกช้าจริงวุ้ย

“เออสิ เข้าเรียนไปสองครั้งพี่เขาก็มาช่วยอาจารย์อยู่ในห้องทั้งสองครั้งนะแก”

“ไม่ใช่แค่นั้นหรอกนุ่น” ในที่สุดไอ้แผนมันก็เปิดปากพูดหลังจากปล่อยให้เพื่อนอีกสองคนปะทะคารมกันอยู่นาน

“หืมมมมม?”

“ที่โต๊ะคณะ ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน ผู้ชายที่นั่งอยู่บนโรงอาหารรวม...”

“....คนใส่แว่นที่นั่งพิมพ์อะไรก๊อกแก๊กอยู่เมื่อเช้านี้น่ะนะ จริงด้วยแผน ใช่พี่คนนี้จริงๆด้วย” ไอ้นุ่นมันนึกออกแล้วก็โพล่งออกมาเสียงดังเชียว

“ตำแหน่งที่เขานั่งนั่น ถ้าเงยหน้าขึ้นมาก็ตรงกับโต๊ะที่พวกเรานั่งเป็นประจำพอดิบพอดีเลยล่ะ” ไอ้คุณแผนมันอธิบายต่อด้วยเสียงเรียบๆนิ่งๆของมันนั่นแหละ แล้วหน้าของไอ้ตัวป่วนที่เมื่อกี้แดงอยู่แล้วก็ยิ่งแดงจัดเข้าไปใหญ่

“อ้อ...แล้วไม่ใช่แค่เมื่อเช้าหรอกนะ ฉันเห็นพี่แกนั่งอยู่ตรงนั้นแทบทุกเช้าที่เงยหน้าขึ้นไปมองเลยด้วยซ้ำ”~~~~~~~~~~~~~



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 11:29:26 น.
Counter : 306 Pageviews.

3 comments
  
สงสัยจะหาหนุ่มนิรนามเจอแล้วม้างนะ
โดย: คน-เหงา IP: 202.28.180.202 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:13:46:04 น.
  
คุณคน-เหงา
เดาถูกแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆ คนเขียนเปิดเผยเนื้อเรื่องตลอดเวลา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านแล้วให้ความเห็นนะคะ
โดย: paina วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:17:48:08 น.
  
ผมชอบมากเลยครับสนับสนุน55555
โดย: tktc IP: 202.12.97.117 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:06:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog