พิมตะวัน ตอนที่03
ตอนที่๓ ความลับ


ก่อนเริ่มฝึกงานตัวสุดท้ายสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม นักศึกษาปีสี่จะมีเวลาว่างหนึ่งสัปดาห์

เวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ว่าว่างนี้จัดเอาไว้เพื่อให้เด็กปีสี่ที่ยังจัดการกับโปรเจคท์จบไม่เรียบร้อยดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อส่งผลงานเป็นรูปเล่มให้ทันกำหนดก่อนออกต่างจังหวัด
เพราะหากไม่ส่งงานก่อนไปก็จะต้องลาหยุดเพื่อกลับเข้ามาคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาให้วุ่นวาย ดีไม่ดีเวลาฝึกงานไม่ครบก็จะพาลไม่ได้จบพร้อมเพื่อนเอาง่ายๆ

กลุ่มของนายอรุณรุ่งและเพื่อนอีกสามคือ นายก่อคุณหรือไอ้ก่อ ที่บางครั้งบางหนผองเพื่อนจะช่วยเปลี่ยนชื่อให้เป็นไอ้ก่อกรรม เมื่อไหร่ก็ตามที่มันทำให้เพื่อนๆรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดไปพร้อมๆกันได้ด้วยความกวนอวัยวะเบื้องต่ำบวกกับจู้จี้จุกจิกขี้บ่นได้กับทุกเรื่องตามกมลสันดาน ไอ้คุณก่อก็จะได้รับสิทธิพิเศษเติมสร้อยเข้าไปท้ายชื่ออีกนิดเป็นไอ้ก่อกรรมทำเวร

นายวิสุทธิ์หรือไอ้เช ที่ชื่อเล่นเต็มๆของมันคือเช เกวาร่า เท่ป้ะล่ะ? ตอนแรกรู้ว่าไอ้ชื่อที่ว่าเชนี่มาจากเช เกวาร่า พี่ดอนที่ชอบขุดเอาหนังสือเก่าๆสมบัติส่วนตัวของพ่อมาอ่านก็นึกว่าคงต้องไปทำความรู้จักพ่อแม่ของไอ้เพื่อนเชบ้างแล้วเพราะน่าจะคอเดียวกัน

หากเมื่อสนิทกันขึ้นมาจริงๆถึงได้รู้ว่าที่ตั้งชื่อเล่นลูกตามเช ไม่ใช่เพราะนิยมแนวคิดของคุณนักปฏิวัติอะไรหรอก แต่เพราะที่บ้านไอ้เชมันทำกิจการให้เช่ารถหกล้อสิบล้อ แล้วสติ๊กเกอร์รูปคุณเช แกก็เป็นที่นิยมเหลือเกิน เถ้าแก่เนี้ยที่อุ้มท้องโย้เลยฝังใจ คลอดลูกสาวคนโตให้ชื่อเชก็จะแมนเกิน เลยอดใจรอมายกชื่อเชให้ไอ้ลูกชายคนรองนี่แหละ เผื่อโตมาแล้วมันจะโด่งดังคับวงการ มีคนสแกนหนังหน้าไปแปะตูดสิบล้อกะเค้าบ้าง
แล้วไอ้เชหน้าตี๋ตาตี่แทบจะเป็นขีด ยิ้มทีเหมือนมีสระอิสี่ตัวแปะอยู่บนหน้าก็อุตส่าห์บ้าจี้ตามแม่มัน ชอบนักล่ะกับหมวกเบเร่ต์ จะสถานการณ์ไหนมันหยิบมาแปะประดับกบาลได้ตลอด

และสมาชิกคนสุดท้าย ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม ที่มันยกตัวเองเป็นสมาชิกทรงคุณค่าเพราะเป็นหนึ่งในสี่ถือเป็นของหายากก็คือไอ้คุณจี๊ด อิระวดี เมืองอิน ผู้หญิงที่ชื่อจริงโคตรผู้ดีนี้ได้มาเพราะแม่มันเจอกับพ่อมันครั้งแรกที่เมืองพม่าโน่น เพื่อนๆต่างลงความเห็นว่า....ไอ้จี๊ด แกมันห้าวไม่เข้ากับชื่อว่ะ แต่ตัวมันกลับบอกว่าชื่อจริงอย่าได้แคร์ แค่ข้าพเจ้าเปรี้ยวปรี๊ดสมชื่อเล่นแค่ครึ่งหนึ่งก็พึงใจ แหม......สำนวนยืมนักเขียนมือรางวัลมาแท้ๆไอ้บ้านี่

เพื่อนซี้อีกสามชายต่างพยักหน้าหงึกหงักรับรู้กันเงียบๆโดยไม่แง้มให้เจ้าของชื่อมันรู้ด้วยสักนิด ไอ้ที่มันว่าตัวเองเปรี้ยวปรี๊ดสมชื่อนั่น ไม่ใช่เปรี้ยวเข็ดฟันชวนเสียวซ่านหัวใจแต่อย่างใด แต่เป็นอาการเปรี้ยวอวัยวะเบื้องต่ำเพราะฝีปากของเจ้าตัวมันนั่นแหละ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันมีร่างเป็นผู้หญิงไอ้คุณจี๊ดคงได้พาปากแมวๆไปให้แม่มันหยอดน้ำข้าวต้มแล้วหลายครั้งหลายหน


พี่ดอนลงความเห็นว่าทั้งกลุ่มนี่ตัวเองเป็นคนปกติที่สุดแล้ว โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าแค่ที่เกิดมามีผมสีน้ำตาลประกายทองแบบไม่ต้องใช้บริการสารเคมีเปลี่ยนสีผมยี่ห้อไหน กับริมฝีปากบางเฉียบที่มักจะประดับยิ้มน้อยๆอยู่เสมอตรงข้ามกับแววตาเศร้าสร้อยหงอยเหงายามที่เจ้าของมันเผลอตัวเผลอใจปล่อยความคิดให้ล่องลอยนั่นก็สะดุดใจใครเขาไปทั่วแล้ว

“ชั้นล่ะแปลกใจ ทำไมแกเพิ่งมามีแฟนเอาปีสี่วะดอน?”

ช่วงหนึ่งในบทสนทนาของฉิ่งฉาบทัวร์ในนิสสันซันนี่สีบรอนซ์ทองรับมรดกมือสามจากเถ้าแก่เนี้ยของไอ้คุณเชตามด้วยเจ่เจ้ของมันอีกต่อ เป็นพาหนะในการเดินทางไปจังหวัดตากตั้งแต่วันพุธหลังส่งงานเรียบร้อยตั้งแต่บ่ายเมื่อวาน มีการเปิดประเด็นโดยไอ้จี๊ดปากแมว

พลขับผลัดสองอย่างนายอรุณรุ่งเหลือบตามองหน้าเพื่อนในกระจกหลัง แล้วถึงรับรู้ว่าไอ้ตัวปากดีช่างสรรหาเรื่องเม้าท์มันกำลังจับตามองหน้าคนขับอย่างไม่เกรงใจกันสักนิดว่าจะเป็นการรบกวนสมาธิ แล้วดูเอาเหอะ เสียงลูกคู่อีกสองนี่ก็ร้องรับเป็นเสียงเดียวเชียว

“เออ จริง!”

“เออ มึงดูอย่างไอ้จี๊ดดิ อีกสองเดือนจบแล้วมันยังไม่มีแฟนเลยสักคน คนมาจีบยังไม่มีเลยมั้งนั่น ฮ่าๆๆๆๆๆ”
เป็นไงล่ะปากไอ้คุณก่อกรรม วกเข้าจิกกัดเพื่อนได้ล่ะสุขนัก หน้าตางี้ระรื่น แถมพาเถ้าแก่น้อยเชกับไอ้หัวประกายทองที่หลังพวงมาลัยหัวเราะร่วนไปด้วย

“เลวจริงๆ รุมผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างชั้นได้ไงฮะ เดี่ยวปั๊ดงัดหมามากัดแม่งเลย ไม่เอาแล้วเว้ย เปิดประเด็นแล้วเข้าตัว นอนดีกว่า”
เออ ง่ายจริงไอ้คุณจี๊ด พอบอกจะนอนแม่คุณก็เล่นหลับตาแล้วเอนตัวลงยึดตักไอ้เพื่อนก่อที่นั่งอยู่ข้างๆกันง่ายๆ

“ลุกเลยๆ อีกไม่ถึงชั่วโมงก็นครสวรรค์แล้ว เดี๋ยวแวะกินข้าว”
ไอ้คุณก่อก็รังเกียจเหลือเกิน เอาปลายนิ้วจิ้มๆดันจะให้ตัวยึดตักมันลุกเท่าไหร่มันก็ไม่ไป หนักเข้ามันก็ดึงเอาชายแจ๊คเก็ตสีดำของนายก่อคุณที่เพิ่งด่าว่าเลวไปเมื่อกี้แหละมาปิดหน้าปิดตาซะเลย

เพื่อนเชเพื่อนก่อหมดความสนใจในไอ้คนตั้งท่าจะหลับตัดขาดโลกภายนอก แต่ไอ้คนปากไม่อยู่สุข ถ้าไม่ได้กินก็ต้องขยับพูดมันกลับไม่ยอมปล่อยผ่านประเด็นที่ถูกเปิดไปเฉยๆ

“ดอน ตกลงมึงปล่อยตัวเองว่างอยู่ทำไมตั้งสามปีวะ?”

“หึๆ ก็ทีไอ้จี๊ดมันว่างสี่ปียังไม่เห็นแกว่าแปลกนี่หว่า”
พี่ดอนท่านเลือกตอบโต้ไปแบบมีตัวเปรียบเทียบ กะว่าเพื่อนจะได้ไม่มาสนใจซักไซ้ ก็ไอ้สามคนนี้น่ะ ถ้าอยากรู้อะไรขึ้นมาเป็นโรคเดียวกันหมดนี่นา....โรคจิกไม่ปล่อย นายอรุณรุ่งอุตส่าห์แอบมองพี่พิภพมาได้เงียบๆตั้งสามปี กลัวจะความแตกเอาก็เพราะประเด็นเด็ดเช้านี้ของไอ้เพื่อนจี๊ดนี่แหละ

“อ้าวไอ้นี่.....มันไม่เหมือนกันเว้ย ไอ้จี๊ดแม่งขี้เหร่ แต่มึงอะ.....โอ๊ยยยยยยยย! เป็นหมาเรอะ?”

“รอให้หลับก่อนดิแล้วค่อยพาดพิง ไอ้สัตว์เซลล์เดียวนี่”

“โห......เจ็บจึ้กๆเลยอ่า......ถ้าเป็นสัตว์เซลล์เดียวพี่ก่อจะให้น้องจี๊ดหนุนตักอยู่อย่างนี้ได้ไงล่ะจ๊ะ ฮ่าๆๆ จะนอนก็นอนไป รีบหลับเลยจะได้พาดพิงสะดวกๆ”

“เออ เราก็ว่าอย่างนายมันต้องมีบ้างแหละดอน มีอะไรปิดบังพวกเราอยู่รึเปล่า?”
นั่นไง เพื่อนกลุ่มนี้ บทจะความรู้สึกช้าก็ปล่อยให้พี่ดอนแอบรักปั๋วชาวบ้านเขามาได้ตั้งสามปี แต่มาตอนนี้กลับซักไซ้ไล่เรียงกันอย่างกับมีเซนส์

“ที่จริงชั้นว่าชั้นพอจะมองออกนะ แต่ก็กลัวพูดไปแกจะโกรธ....”
เสียงหงุงหงิงดังลอดมาจากใต้ชายเสื้อของไอ้คุณก่อพอให้คนในรถได้ยินแบบต้องตะแคงหูฟัง แต่เนื้อความสิ เล่นเอาพี่ดอนถึงกับนั่งตัวเกร็ง ปลายเท้าเผลอเหยียบคันเร่งหนักขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

“แกรู้อะไร?” เสียงที่ถามออกไปพยายามกดให้นิ่งที่สุด

“ชั้นสงสัย ว่าแกแอบชอบรุ่นพี่.....” ไอ้ตัวคนตั้งข้อสงสัยมันค่อยๆแง้มหน้าออกมาจากชายเสื้อเพื่อนที่ใช้แอบซุกกะเผื่อระเบิดลง แล้วค่อยๆลุกขึ้นนั่งมองสบตากับคนขับรถที่ตอนนี้เหมือนหน้าจะซีดจนจากที่เป็นคนผิวขาวอมชมพูก็กลายเป็นขาวซีดราวกับกระดาษไอเดียกรีน

“ค....คือ.......” ในใจคนทำหน้าที่ขับรถตอนนี้ตีกันให้ยุ่ง ทางก็ต้องมอง สมองก็ต้องคิด กังวลว่าถ้าเพื่อนๆเซนส์ดีรู้ความจริงว่าคนที่แอบชอบมาสามปีคือพี่พิภพผู้ชายมาดแมนแฮนซั่มอันดับหนึ่งของคณะที่เพิ่งจบไปปีก่อนแล้วต่อไปจะเป็นยังไง จะหาทางปฏิเสธให้หัวชนฝาว่าไม่จริ๊งไม่จริงก็กลัวว่าเพื่อนจะจับได้ แต่ระหว่างที่กำลังเครียดจนแทบจะบีบพวงมาลัยรถแหลกคามือ เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นพร้อมกับป้ายยินดีต้อนรับสู้จังหวัดนครสวรรค์

“แกชอบพี่เค้กใช่มั้ยดอน?”

“อะ.......ฮะ?!!”
คำพูดจากปากเถ้าแก่น้อยกิจการให้เช่ารถหกล้อดังขึ้นพร้อมสายตาคาดคั้นสามคู่ที่ส่งตรงมายังนายอรุณรุ่งผู้กำลังอ้าปากหวอด้วยอาการเหวอแดกสุดชีวิต

“ว่าไงล่ะ?”

“ป.......ปะ เปล่านะเว้ย เข้าใจผิดแล้ว” โอ้.......พี่ดอนถึงกับติดอ่างกะทันหัน

“ชิชะ แล้วไอ้ที่มีโอกาสเมื่อไหร่เป็นมองตามมันหมายความว่าไงวะ? โห่ว......คุณอรุณรุ่งเอ๋ย อาการแอบตามหลืบแล้วมองตามน้ำลายหยดแบบนั้น ถ้าไม่ใช่แอบชอบพี่เค้กแล้วจะให้ชั้นเข้าใจว่าแกแอบชอบพี่ภพเรอะ?”

-----เอี๊ยดดดดดดด-----

“เฮ้ยยยยยยยยยยย!!!”

“มึงเบรกๆ เบรกอะไอ้ดอน ไม่ใช่คันเร่ง!!”


ตอนนี้นิสสันซันนี่สีบรอนซ์ทองจอดแอบอยู่ข้างทาง เลยป้ายยินดีต้อนรับเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์มายังไม่ถึงกิโล ก็สปีดมันเร่งแบบก้าวกระโดดเอาอิตอนพี่ดอนท่านเผลอกระทืบเท้าลงคันเร่งไปเต็มแรงน่ะสิ นอกรถสงบนิ่ง แต่ยังไม่เท่ากับภายในรถที่สงบเงียบ

สายตาสี่คู่ส่งถึงกันไปมาซ้ายขวาหน้าหลังล่อกแล่ก ก่อนที่สุดท้ายคนที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นปกติชนคนธรรมดาที่สุดในรถจะพูดออกมาประโยคเดียว......แต่เสียวทั้งคัน


“เออ....เราชอบพี่ภพ!”

..................................

..โปรดติดตามตอนต่อไป..



Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2554 21:07:02 น.
Counter : 394 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog