เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๖

“ไงแก ไม่เมื่อยแก้มเลยนะ ยิ้มอยู่ได้”
พอคนตัวสูงที่มาตามจีบเพื่อนรักเดินห่างออกไปยังไม่ทันลับจากสายตา ไอ้เพื่อนนุ่นมันก็เริ่มปฏิบัติการแซวเพื่อนทันที
“บ้าน่า ยิ้มอะไรที่ไหน เปล่าซะหน่อย” ปากคนเรานี่มันทำไมพูดไม่ตรงกับการกระทำกันจัง ดูหน้ามันสิ ระรื่นออกขนาดนั้น แต่พอถูกแซวก็ปฏิเสธอยู่นั่นเอง

“ตกลงปลงใจกับพี่อากาศของแกแล้วเหรอ? เมื่อคืนเขาโทรมาว่าไงบ้าง?”
“ไม่มีอะไรนี่ ก็แค่โทรมาราตรีสวัสดิ์.....แค่นั้น”
“อย่ามา ฉันไม่เชื่อหรอก คุยอะไรกันบ้างคายออกมาให้หมดนะ เดี๋ยวนี้มีอะไรปิดเพื่อนเหรอ”
“เออๆก็ได้วะ แกแม่ง คืองี้พี่เขาก็โทรมาถามว่าอ่านกลอนรึยัง ชอบมั้ยไรงิ....”
“..แล้ว?”

“อย่าเร่งสิไอ้นี่ มันก็ต้องใช้เวลาสรุปนิดนึง เรื่องมันเยอะ”
“อาฮะ...แปลว่าคุยกันยาว” ไอ้เพื่อนนุ่นแปลความหมายแฝงของประโยคบอกเล่าธรรมดากึ่งรำคาญใจของไอ้ตัวป่วนเสร็จสรรพ
“หึๆ” เสียงหัวเราะในลำคอหนาๆของไอ้แผนบ่งบอกว่ามันยังมีชีวิตอยู่ แถมยังเงี่ยหูฟังการสนทนายามเช้าของเพื่อนรักเพื่อนเลิฟทั้งสองคนอยู่เหมือนเดิม
“ก็คุยกัน ผลัดกันถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ อย่าง..มีพี่น้องกี่คน บ้านอยู่ที่ไหน ว่างๆชอบทำอะไร ชอบดูหนังแนวไหน ฟังเพลงแนวไหน มีวงโปรดมั้ย อ่านหนังสืออื่นนอกจากตำราเรียนบ้างรึเปล่า เยอะอ้ะ..”
“เออเว้ย ฉันนึกว่าพอคุยกับพี่เขาแล้วแกจะเอาแต่บิดตัวไปมาแล้วก็หน้าแดงเสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าจะคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวได้ด้วย”
“อืม..สงสัยเพราะไม่เห็นหน้ามั้ง ไม่งั้นก็คงคุยไม่รู้เรื่องเหมือนกัน..”
“ย่ะ มันหวั่นไหวๆล่ะสิ แก..ไอ้ป่วน ฉันฟันธงว่าแกมีใจให้พี่เค้าแล้ว ยอมรับมาเสียดีดี”
“เออ ก็แหม....”
“แหมอะไร? โฮะๆๆๆๆๆๆ”
“อย่ามาหัวเราะนางมารนะเว้ย เป็นแกมีคนมาทำอะไรแบบนี้ให้แกจะไม่หวั่นไหวเรอะ?”
“อยากให้พี่ฟ้าแกมาได้ยินว่ะ แกคงปลื้มน่าดู”
“พี่เขารู้....” ไอ้คุณแผนมันมีส่วนร่วมในบทสนทนายามเช้าจนได้
“ไอ้แผน แกหมายความว่าไง แกเป็นไส้ศึกเรอะ? รึไอ้ป่วนมันบอกพี่เขาไปแล้ว?”
“เปล่า เพียงแต่อย่างไอ้ป่วนน่ะ แค่มองหน้ามันก็รู้แล้วว่าคิดอะไรอยู่”
“นี่....พวกแกว่า ...” ตัวป่วนมันเริ่มเข้าสู้ภาวะอ้ำอึ้ง
“อะไร มีอะไรก็พูดออกมาดิวะ ฉันเพื่อนแกนะเว้ย”
“พวกแกว่าฉันใจง่ายไปเปล่า?” โถ...นึกว่ากังวลเรื่องอะไร ไอ้หนูป่วนเอ๊ย....
“คืองี้นะ ถึงแกจะใจง่าย แต่ก็ยังมีคนที่ใจง่ายกว่าแกนะเว้ย”
“ใครวะ?”
“โฮะๆๆๆ ก็พี่ฟ้าของแกไง คนบ้าอะไรตกหลุมรักคนได้แค่เห็นแป๊บเดียว แถมได้คุยกันประโยคเดียวอีก ไม่ใช่แค่ใจง่ายด้วยนะ ใจง้ายยยยยง่าย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ” แล้วมันสามคนก็ได้ประสานเสียงหัวเราะกันอีกครั้ง
“เดี๋ยวแวะซื้อหมูปิ้งกะส้มตำนะ อร่อยอ้ะ”
เพื่อนนุ่นมันชวนทันทีที่เก็บข้าวของเดินออกจากตึกใหม่คณะวิทยาศาสตร์
“พวกแกไปกันก่อนเลย แล้วเดี๋ยวฉันตามไปที่ห้องเรียน”
“รู้แล้วย่ะ ฉันได้ยินอยู่ตอนพี่อากาศบอกว่าจะมากินข้าวกลางวันกะแก นี่ฉันชวนแผนมัน ชิ”
“ให้รอเป็นเพื่อนมั้ยวะป่วน?”
“ไม่ต้องแล้วว่ะ เดินลิ่วมาโน่นแล้ว” หันไปมองตามที่ตัวป่วนมันบุ้ยปากไปแล้วไอ้คุณนุ่นก็หันมาหลิ่วตาล้อเพื่อน
“พี่ฟ้าสวัสดีรอบเที่ยงค่ะพี่”
“สวัสดีน้องนุ่น นี่ไม่อยู่กินข้าวเที่ยงกับพี่เหรอ?”
“ไม่อ้ะค่ะ นุ่นกับแผนจะไปกินหมูปิ้งเจ้าอร่อยกัน พี่ฟ้ากินกับไอ้ป่วนมันเหอะ”
“ตัวป่วน อยากไปกินหมูปิ้งเหมือนกันล่ะสิเรา”
คุณพี่อากาศแกมองหน้าไอ้ตัวป่วนมันแล้วก็พบคำว่า ‘อยากกินหมูปิ้งๆ’ แปะอยู่บนหน้าผาก
“เอ๊ะ?...อืม”
“ไปครับ งั้นเราเดินไปด้วยกันเลย”
พี่แกพูดพร้อมกับเอื้อมมือพยายามจะคว้าข้าวของของไอ้หนูป่วนไปถือให้ แต่ไอ้ตัวป่วนมันไม่ยอม ไม่รู้สองคนนี้ไปตกลงกันยังไง ดูเหมือนคุณพี่อากาศแกจะลดระดับความดื้อและดึงดันลง

“แผนนนนนน ขอน้ำแข็งหน่อย...” มาแล้ว เพื่อนนุ่นมันเริ่มอาการปากอยู่ไม่สุข
“เป็นไร เอามาทำไม?” ไอ้นี่ก็ซื่อ ห่วงมันทำไมไอ้คุณนุ่นน่ะ มันออกจะบึกบึน จะเป็นอะไรง่ายๆได้ไง
“ประคบตา ดูให้หน่อยสิแผน ตาเราแดงรึเปล่า รู้สึกตาร้อนผ่าวๆยังไงไม่รู้ รู้ใจกันเหลือเกิ๊นนนนนน”
“ไอ้นุ่น เงียบปากเลยแก!!”
เดินไปด้วยกันคุณพี่อากาศก็ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไปเฉยๆ แต่เพราะสงสารกลัวตัวป่วนมันจะอายไปกว่านี้เลยคุยแบบกระซิบกระซาบ
“ตัวป่วน จับมือไม่ได้เหรอครับ?”
“ไม่ได้ครับ เพื่อนๆเพิ่งเดินล่วงหน้าไปเอง เดี๋ยวก็ต้องไปทันกันที่ร้านหมูปิ้งอีกหลายคน”
“แล้วพี่ไปด้วยอย่างนี้ ไม่เป็นไรแน่นะครับ?”
“ก็...พอพี่ไปพวกมันต้องมารุมถามแหงๆ แต่ก็....ช่างมันเถอะ” ปากว่าช่างมัน แต่คิ้วนี่ขมวดมุ่นเชียว
“พี่เคลียร์ให้เองเอามั้ย?”
“หืม? พี่จะเคลียร์ยังไง?” ตัวป่วนมันถามไปเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนข้างๆไป
“ก็ไปบอกเพื่อนๆของป่วนว่าพี่เป็นแฟน มาขอกินข้าวกลางวันด้วย เพราะคิดถึง รอเจอตอนเย็นไม่ไหวไงครับ” ปากบอกจะไปเคลียร์กับเพื่อนตัวป่วน แล้วไหงมาทำเสียงออดอ้อนออเซาะตัวป่วนมันอย่างนั้นล่ะไอ้คุณพี่
“บ้า ถ้าจะเคลียร์อย่างนี้ไม่ต้องเลย พูดไปแบบนั้นมันหาเรื่องมาเพิ่มมากกว่า” ทำเสียงแข็งแต่ใจน่ะยวบยาบๆเลยล่ะสิไอ้หนูป่วน ดูมันสิหูแดงหมดแล้ว
“สรุปว่าไม่ให้ไปพูดเพราะกลัวเรื่องจะมากขึ้น ไม่ใช่เพราะพี่จะไปบอกว่าเป็นแฟนป่วนใช่มั้ย?”
“เฮ้ย...ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ” มันโวยวาย โวยไปมือไม้ก็เริ่มอยู่ไม่สุขไป โถ...คุณพี่อากาศแกก็แค่หยอดนิดหยอดหน่อยไปตามประสาแค่นั้นเอ๊งงงง
“หึๆๆ ตัวป่วนนี่เวลาเขินน่ารักดีนะ พี่ชอบ.......” ไอ้พี่นี่ก็เล่นไม่เลิก แทนที่จะพูดธรรมดา พี่แกก้มลงมากระซิบริมหูตัวป่วนมันซะงั้น แถมท้ายด้วยการสูดลมหายใจเข้าแรงๆก่อนจะถอนริมฝีปากออกไปจากริมหู ไอ้หนูป่วนถึงกับมือไม้อ่อนปล่อยหนังสือในมือหล่นลงพื้นกันเลย

“มันหนักใช่มั้ยล่ะ พี่จะช่วยถือแต่แรกก็ไม่ยอม” คุณพี่ฟ้าทำเหมือนตัวเองไม่ใช่สาเหตุซะอย่างนั้น ก้มลงเก็บของให้แล้วเลยยึดเอาไปถือไว้จนได้
“พี่ฟ้า อย่าเล่นอย่างนี้อีกนะ เมื่อคืนเราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดข้อตกลงสักนิดนี่ครับ หรือว่าก่อนจะกระซิบก็ต้องขออนุญาตด้วย หืม?”
“ผมหมายถึงเข้ามาใกล้ๆขนาดนั้นต่างหากเล่า อย่าลืมนะว่าผมกำลังให้คะแนนพี่อยู่”
“หวา...ทราบแล้วครับ อย่าหักคะแนนพี่นะ นะครับ”
“..ก็..ก็ได้” สมน้ำหน้าแกไอ้ตัวป่วน ใครๆเขาก็รู้กันหมดแล้วว่าแกมันใจอ่อน เขาอ้อนนิดอ้อนหน่อยก็ยกให้เขาหมดแล้ว
“ตกลงว่าพี่ฟ้าต้องทำตามเงื่อนไขนะ ผมไม่ได้ขออะไรมากเลย”
“ครับผม ตัวป่วนขอเวลาเพราะต้องการให้เราสองคนรู้จักกันมากกว่านี้ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือจะยอมให้พี่มาหาได้ทุกวัน แล้วก็โทรหาได้ทุกคืน.....”
“อืม.....และระหว่างนี้ก็ห้ามพี่ลวนลามผมด้วย ...ถ้าผมไม่อนุญาต” ท้ายประโยคเสียงไอ้หนูป่วนมันก็แผ่วลง สงสัยว่ามันจะนึกภาพตอนที่ตัวเองอนุญาตอยู่ ฮ่าๆๆๆ
“แต่พี่ไม่ถือนะครับ ตัวป่วนอยากลวนลามพี่เมื่อไหร่ก็เข้ามาได้เลย พี่พร้อมเสมอ........”

---ปี๊นนนนนน ปี๊นนน---
“เอ้า มานี่เลย ข้ามถนนมองรถสิครับ เอาแต่ก้มหน้าอย่างนี้อันตรายแย่เลย” พี่อากาศท่านเดินอ้อมไปอยู่ฝั่งขวาของไอ้ตัวป่วนซึ่งใกล้กับรถที่วิ่งมามากกว่าแทน แล้วก็แตะๆศอกของมันเอาไว้ นำให้ออกเดินข้ามถนนตามแรงดันจากมือใหญ่ๆนั่น
ก็ที่ไอ้ตัวป่วนมันจะข้ามถนนทั้งๆที่ก้มหน้ามองพื้นอยู่ก็เพราะคำอนุญาตให้ลวนลามได้ทุกเมื่อของคุณพี่แหละ....รักจะจีบก็ดูสถานที่บ้าง สงสารน้องมันต้องเสี่ยงชีวิต สงสารคนขับรถด้วยต้องเสียแรงกดแตรด่า

“หมูห้าไม้ ราดน้ำจิ้มไปเลยครับพี่”
“ไอ้ป่วน ไม่ต้องเลยเดี๋ยวก็มาบ่นแสบปากอีก” เสียงไอ้เพื่อนนุ่นดังขัดความสุขของตัวป่วนมันทันที ส่วนไอ้ป่วนก็เงยหน้ามองคนตัวสูงน่าเกลียดข้างๆขอความเห็นใจทันทีเหมือนกัน
“งั้นของน้องคนนี้ไม่ต้องราดน้ำจิ้มนะครับ ส่วนของผมอีกห้าไม้ราดน้ำจิ้มได้เลย” เออนะ พี่อากาศนี่แกก็รู้ใจมันดีแท้ แค่สบตาเนี่ยนะ “เดี๋ยวแบ่งกันนะครับ ถ้าอยากกินแบบมีน้ำจิ้มตัวป่วนก็กินของพี่ แต่ถ้าจะให้ราดทั้งหมดห้าไม้เลยคงไม่ไหวแน่”
สั่งเสร็จมากระซิบกระซาบเอาใจไอ้หนูป่วนต่อ รู้แล้วว่ากำลังทำคะแนน แต่ไม่ต้องตลอดเวลาขนาดนั้นก็ได้

ตอนนี้นอกจากไอ้นุ่นกับไอ้แผนแล้วก็ยังมีเพื่อนในคณะคนอื่นซื้อของกินอยู่ใกล้ๆด้วยเหมือนกัน แถมพวกมันยังเริ่มมองๆแล้วซุบซิบกันแล้วด้วย ซื้อเสร็จแทนที่จะนั่งกินในโรงอาหาร พวกตัวป่วนเลยเดินไปนั่งที่มุมสงบข้างๆตึกนิติเวช(สงบสิ จะมีสักกี่คนมาดื่มด่ำบรรยากาศตรงนี้เล่า ฮ่วย!) พอนั่งเรียบร้อยก็ไม่มีใครพูดอะไรกันแล้ว มีแต่เสียงหมุบหมับๆ เพื่อนนุ่นกับเพื่อนแผนก็ซี้ดซ้าดกับส้มตำปูปลาร้ากันเหงื่อหยดติ๋งๆ แถมไอ้นุ่นยังแย่งดื่มน้ำของไอ้แผนซะเกลี้ยงอีกด้วย
“เฮ้ย....ไอ้นุ่น น้ำหมดเลยนะแก”
“เอาน่า เพื่อนเป็นผู้หญิงนะ แผนก็ต้องเสียสละให้เพื่อนสิ” ไอ้คุณนุ่นมันเล่นอย่างนี้ไอ้คุณแผนผู้น่าสงสารเลยได้แต่เหวอ เถียงไม่ออกทั้งๆที่ตัวมันเองก็เผ็ดจะแย่
“หึๆๆ ฮ่าๆๆๆ”
“อะไรคะพี่อากาศ นุ่นพูดความจริงนะ ไม่เห็นขันตรงไหน” ปากว่าไม่ขัน แล้วแกจะหัวเราะทำไมไอ้นุ่น หัวเราะตัวเองเสร็จไอ้คุณนุ่นก็หยิบขวดน้ำพลาสติคที่ตอนนี้ว่างเปล่าลุกขึ้น
“ไม่ต้องเหวอเลยแผน เดี๋ยวไปเติมให้”
“ไปด้วย” แล้วไอ้แผนก็ลุกตามไปอีกคน ทิ้งให้ปลาย่างป่วนอยู่กับแมวเจ้าเล่ห์สองคน

“อิ่มมั้ยครับ? เอาอะไรเพิ่มรึเปล่า?”
“อิ่มแล้วพี่” ตัวป่วนมันเงยหน้ายิ้มตอบ คุณพี่อากาศนี่แกก็สูงจริงวุ้ย ขนาดนั่งอยู่ยังต้องเงยหน้าเลยถึงจะส่งยิ้มให้ได้ “เดี๋ยวพวกมันกลับมาผมก็จะขึ้นเรียนแล้ว พี่กลับเหอะ”
“อืม....ตกลงว่าเย็นนี้ไม่ไปดูหนังกันแน่เหรอ?”
“ไม่รู้ออกจากเล็คเชอร์จะมีแรงไปดูรึเปล่าอะสิ วิชานี้ไม่ธรรมดา”
“งั้นถ้าเปลี่ยนใจโทรหาพี่นะครับ พี่นั่งทำงานอยู่ที่ห้องแหละ”
“อือฮึ” ตัวป่วนมันอือออรับคำแล้วก็เก็บซากอาหารกลางวันเตรียมไปทิ้งลงถังขยะ

“.....ตัวป่วน”
“......?......” พอถูกเรียกก็หันมาทำหน้าเอ๋อใส่คนเรียกทีนึง
“จะไม่ลาพี่หน่อยเหรอ.....” มาแล้วไอ้สุ้มเสียงออดๆอ่อยๆเรียกร้องความเห็นใจ
“สวัสดีครับพี่ฟ้า” ไอ้นี่ก็มารยาทงามมาก พนมมือไหว้ซะอย่างนั้น คุณพี่อากาศท่านเลยโชว์เหนือใช้มือทั้งสองข้างประคองมือเล็กๆที่กระพุ่มไหว้เอาไว้ และก่อนที่ตัวป่วนมันจะโวยวายออกมา พี่ฟ้าของมันก็บอกว่า
“พี่รู้ ว่าป่วนรู้ว่าพี่อยากได้การบอกลาแบบไหน......”
เท่านี้ตัวป่วนมันก็หันหน้าหนีหลบสายตาวิบวับของคนตรงหน้าให้วุ่นวายแล้ว ยิ่งมีประโยคถัดมามันก็ยิ่งเขินยิ่งอาย มันมาเงยหน้าแดงๆขึ้นมาอีกทีก็ต่อเมื่อเสียงฝีเท้าหนักๆของผู้ชายตัวโตๆคนที่ขยันทำให้หัวใจเต้นแรงห่างออกไปมากแล้ว
ก็คุณพี่ฟ้าแกเล่นกุมมือของมันเอาไว้แล้วพูดต่อทั้งที่ใบหน้าอยู่ห่างจากมันแค่คืบ
“....แต่ถ้าวันนี้ป่วนเต็มใจจะให้พี่เท่านี้ พี่ก็เต็มใจจะรับไว้ แล้วพี่จะตั้งตารอ วันที่ป่วนเต็มใจจะเรียนรู้ความต้องการของพี่ เหมือนกับที่พี่เต็มใจเรียนรู้สิ่งที่ป่วนต้องการนะครับ”
~~~~~~~~~~~~~

“Shrek........”
“.................”
“......พี่ยุ่งเหรอ งั้นผมวางหูนะ”


ไอ้หนูป่วนบทจะเอาแต่ใจมันก็ไม่ธรรมดา อยากจะชวนเขาไปดูหนังก็โทรไปพูดชื่อชเร็คขึ้นมาลอยๆซะงั้น
“เปล่ายุ่งครับ พี่กำลังหารอบอยู่...... ห้าโมงยี่สิบ ตอนนี้ยังไม่สี่โมงเลย ตัวป่วนอยู่ไหนน่ะ”
“ผมอยู่ที่คณะ”
“โอเค เดี๋ยวพี่ไปหานะ แล้วเราไปหาอะไรกินกันก่อน”
“เดี๋ยวๆ พี่ฟ้าหิวแล้วเหรอ?”
“ก็ยังนะ”
“งั้นเจอผมที่บาสกิ้น รอบบิ้น นะครับ ผมอยากกินไอศกรีม”

16.10น. วันศุกร์ ไอ้หนูป่วนตัวเล็กนั่งมองพี่อากาศตัวโตผ่านทางกระจกหน้าร้านไอศกรีม
ส่งกระแสจิตว่า ‘ผมอยู่ตรงนี้ๆ’ แล้วก็นับในใจหนึ่งถึงสิบ อธิษฐานกับเทพเจ้าองค์ไหนก็ไม่รู้ที่ได้ยินเสียงในใจของมันว่าพระเจ้าครับ ถ้าผมนายศศินทร์เป็นเนื้อคู่กับผู้ชายตัวโตชื่อพี่อากาศจริงๆ ขอให้เขาหันมาสบตากับผมก่อนที่จะนับครบสิบด้วยเถิด....เพี้ยงงงงงงงง

แล้วพอนับถึงห้า ใช่..แค่ห้าเท่านั้น คนตัวโตก็มองผ่านกระจกใสๆนั่นเข้ามา และสิ่งที่ตัวป่วนมันได้ไม่ใช่แค่สบตา แต่เป็นรอยยิ้มกว้างขวาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของลักยิ้มแก้มซ้ายนั่นกำลังมีความสุขแค่ไหน สุขได้ถูกที่ถูกเวลามากพี่ เพราะหลังจากพี่หันมาสบตากับตัวป่วนมันตั้งแต่มันเพิ่งนับถึงห้า ตัวป่วนมันก็ตัดสินใจว่าจะต้องพยายามเรียนรู้และทำความรู้จักพี่ฟ้าของมันให้ดีที่สุด แล้วก็เปิดโอกาสให้พี่เขารู้จักตัวตนของมันด้วย

พี่อากาศตัวโตเดินมาถึงแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามไอ้หนูป่วน ชะโงกหน้ามองไอศกรีมในโคนวาฟเฟิลกรอบ
“วานิลลา?”
“อือฮึ เฟรนช์วานิลลา อร่อยนะพี่ชิมมั้ย?”
“อ้า.......” แหมๆ หวังฟลุ๊คนะนั่น ทำมาอ้าปากรอให้ป้อน
“บ้าแล้วพี่ ตักเองเลย” ตัวป่วนเอ๊ย ทำโมโหกลบเกลื่อนความอาย คิดเหรอว่าคุณพี่อากาศท่านจะไม่รู้ทัน
“ไม่ดีกว่า แย่งเด็กกินขนม บาป” ว่าแล้วคุณพี่อากาศแกก็หันไปเรียกน้องเด็กเสิร์ฟมาสั่งไอศกรีมถ้วยใหม่ หันกลับมาก็เห็นคนตรงข้ามนั่งหน้ามุ่ย เอาช้อนในมือเขี่ยไอศกรีมไปมาไม่ยอมตักใส่ปากเสียที
“อ้าว ทำไมนั่งหน้าบูดอย่างนั้นล่ะครับ”
“..............”

“ตัวป่วน....เงียบอย่างนี้โกรธพี่หรือว่าโกรธไอติม” เออนะ ถามมาได้ เล่นเอาตัวหน้ามุ่ยมันทนหน้ามุ่ยต่อไม่ไหวกันเลย
“ฮะๆๆๆ ผมแค่เกือบโกรธพี่ต่างหาก ผมจะโกรธไอติมทำไมเล่า”
“เกือบโกรธพี่? เรื่องอะไรครับ?”
“ผม.....ผมไม่ใช่เด็ก” งุบงิบตอบ แล้วคนฟังก็ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู
“ไม่เด็กจริงอ่ะ?” ถามเฉยๆก็ได้ ทำไมต้องก้มหน้าลงมาใกล้ขนาดนั้น เดี๋ยวหนูป่วนมันก็หัวใจกระดอนออกมาหรอก
“อะ.....จิ จริง.....”
“ว้า....อย่าทำท่ากลัวพี่ขนาดนั้นสิครับ พี่ไม่แกล้งแล้ว เอนตัวขนาดนั้นเดี๋ยวก็หงายหลังตกเก้าอี้ไปหรอก”
“ก็พี่ฟ้าแกล้งผมนี่ บอกว่าไม่ให้ยื่นหน้ามาใกล้ๆไง” พูดจบแถมยังจิ๊ปากปิดท้ายด้วย

“ตัวป่วนรู้มั้ย คนที่เป็นผู้ใหญ่น่ะ เขาไม่มาบอกคนอื่นหรอกนะว่าตัวเองไม่ใช่เด็กแล้วน่ะ”
“ก็พี่ไม่ใช่คนอื่นนี่” แล้วในระหว่างที่พี่อากาศมัวแต่อึ้ง ตัวป่วนมันก็พูดต่อว่า “....พี่ฟ้าไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นคนที่ชอบผม เป็นคนที่ผมกำลังเรียนรู้ แล้วก็คิดว่า...เริ่มจะมีใจให้” ตัวป่วนมันพูดไปก็มองตาพี่ฟ้าของมันไป ไม่มีหลบตาเลยสักนิด
“ตัวป่วน เรื่องแบบนี้เขาไม่พูดกันเล่นๆนะครับ” คุณพี่อากาศแกโน้มตัวมาข้างหน้ามือที่อยู่บนโต๊ะก็ประสานกันแน่น ถึงกับเสียมาดเลยทีเดียว
“ผมไม่บอกก็ได้ว่าผมไม่ใช่เด็ก แต่ถึงเป็นเด็กก็ไม่ได้เล่นตลอดเวลานะ” ท่าทางจะรวบรวมความกล้าน่าดู หน้าแดงหูแดง แต่ก็กัดฟันแข็งใจพูดออกไปแบบนั้น ไอ้หนูป่วนนี่มันใจจริงเว้ย

“ขอมือหน่อยสิพี่ฟ้า......”
“.......?.....” ตอนนี้คุณพี่ฟ้าจอมเจ้าเล่ห์ของเราเหวอไปแล้ว ตัวป่วนมันอยากได้มือก็ยื่นไปให้มันทั้งสองมือนั่นแหละ
“เอามือเดียวก็พอ”
ว่าอย่างนั้นแล้วมันก็วางมือลงไปในมือใหญ่ๆนั่น แล้วก็พูดเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ เหมือนสิ่งที่มันเพิ่งทำลงไปเป็นเรื่องที่เคยทำอยู่เป็นประจำเสียอย่างนั้น
“ไปจ่ายตังค์แล้วไปเข้าห้องน้ำกันดีกว่าพี่ เหลืออีกแค่สิบนาทีเอง ผมชอบดูหนังตัวอย่าง”
~~~~~~~~~~~~~



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2554 9:04:26 น.
Counter : 252 Pageviews.

2 comments
  
ป่วนนิดๆให้สมชื่อหน่อย เนอะป่วนเนอะ
โดย: sai IP: 58.137.154.162 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:12:25:04 น.
  
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ตัวป่วนมันมักป่วนแบบไม่ได้ตั้งใจค่ะ
แบบว่า หนูไม่รู้ไรประมาณนั้น ^o^
โดย: paina วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:26:04 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog