พิมตะวัน ตอนที่01
ตอนที่๑ อีกสักครั้ง


อรุณรุ่งบอกตัวเองมาตลอดว่าทำใจได้แล้ว
และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวันที่ได้มาเห็นรุ่นพี่สองคนที่กลับมาคณะพร้อมกันเพื่อมาร่วมกิจกรรมรับน้อง ความรู้สึกเจ็บปวดแน่นในอกจนเหมือนจะหายใจไม่ได้เมื่อยังเป็นแผลใหม่เลือนไปแล้ว ทิ้งไว้แค่รอยขีดข่วนเล็กๆให้พอรู้สึกแสบๆคันๆบ้างเท่านั้น

สองเดือนเต็มๆที่ใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกงานช่วงปิดเทอมและเตรียมข้อมูลสำหรับโปรเจคท์จบ ก็ปีสี่แล้ว อีกแค่ไม่กี่อึดใจทั้งเขาและเพื่อนร่วมรุ่นก็จะพ้นจากสภาพนักศึกษา เป็นผู้ใหญ่เต็มตัวที่ต้องก้าวสู่สังคมนอกรั้วมหาวิทยาลัย ทำงานเลี้ยงปากท้องตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินมรดกที่พ่อทิ้งไว้และน้ำพักน้ำแรงของแม่อีก

ถึงแม้ว่าเงินประกันที่ได้รับมาเมื่อพ่อตายจากอุบัติเหตุเมื่อสิบห้าปีก่อนจะเป็นเงินก้อนใหญ่ แต่ทั้งอรุณรุ่งและรุ่งอรุณน้องสาวฝาแฝดก็ระลึกเสมอว่าแม่ต้องเหนื่อยมากแค่ไหน เพราะน้องรุ่งป่วยบ่อย ไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เกิด เด็กชายอรุณรุ่งในวัยหกขวบจำคำพูดสุดท้ายก่อนพ่อจะออกจากบ้านไปทำงานในเช้าวันนั้นได้ติดใจ
‘ดอน....ปะป๊าไม่อยู่ ดอนเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ต้องดูแลหม่าม้ากะน้องรุ่งดีๆนะครับ’
‘ค้าบป่าป๊า ดอนจะดูแลดีๆไม่ให้ใครมาแกล้งหม่าม้ากะน้อง’

เช้าวันนั้นหน้าบ้านชั้นเดียวทาสีราวลูกกวาด แม่ น้องรุ่ง และพี่ดอน ยืนเรียงหน้ากระดาน รอให้พ่อจูบแก้มลารายตัวก่อนจะขึ้นรถขับข้ามจังหวัด คืนนั้นพ่อไม่กลับบ้านแต่ดอนกับน้องถูกแม่ปลุกกลางดึกให้ลุกขึ้นไปนอนต่อในรถ แม่รีบร้อนจนลืมกระทั่งจะหยิบเสื้อหนาๆให้ลูกแฝดใส่ ทำให้ดอนกับน้องรุ่งนอนกอดกันแน่นอยู่ที่เบาะหลัง

คืนนั้นเด็กชายได้รู้จักกับความสูญเสียครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับความตาย และเห็นแม่น้ำตาไหลไม่ยอมหยุด เด็กชายจับมือน้องแน่นอยู่ในอ้อมกอดของแม่ รับรู้ถึงสายน้ำอุ่นจัดที่ซึมอยู่บนบ่าจนฉ่ำชื้น แม่ร้องไห้เงียบๆแล้วก็หยุดน้ำตาด้วยตัวเองลงเงียบๆ ก่อนจะส่งยิ้มซีดเซียวให้ลูกทั้งสองคน แล้วจูงมือคนละข้างพาเข้าไปจูบลาพ่อ
‘จุ๊บๆลาปะป๊านะพี่ดอน น้องรุ่ง....ปะป๊าเหนื่อยมาก ต้องนอนพักแล้ว จุ๊บตรงแก้มเบาๆกล่อมให้ปะป๊านอนหลับนะคะ’
‘กู๊ดไนท์คับปะป๊า’
‘กู๊ดไนท์ค่าป่าป๊า....’

เด็กชายอรุณรุ่งรับรู้ว่าตั้งแต่เวลานั้นทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม ตั้งแต่แตะจมูกลงบนผิวเย็นชืด ไม่อบอุ่นเหมือนทุกครั้ง ไม่มีการตอบสนองอย่างที่ปะป๊าเคยทำ

น่าแปลกที่ภาพของพ่อที่นอนอยู่บนเตียงเหล็กใต้ผ้าคลุมเลือนไปอย่างรวดเร็ว หากภาพของปะป๊าที่ยืนอยู่ข้างรถแวนคันใหญ่ โน้มตัวลงมาหาจนเป็นเงาทาบกับแสงตะวันยามสาย กับประกายของเส้นผมสีทองกลับเป็นภาพแจ่มชัดที่ติดอยู่ในหัวใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่นึกถึงพ่อ ภาพของผู้ชายร่างใหญ่ที่มีรอยยิ้มอบอุ่นส่งมาให้เสมอก็ปรากฏในห้วงคำนึงทุกครั้ง


“ดอน!”

“หยัง?”


“โอ๊ย มึงเลิกตอบรับแบบนี้ทีเหอะกูขอ หน้าตาฝรั่งจ๋า เสือกตอบรับอิสานบ้านเฮาได้อีก” พี่ดอนที่เมื่อกี้ยังจมอยู่กับภาพจำในอดีตถึงกับหลุดหัวเราะออกมาสองหึกับท่าทางค้อนลมค้อนแล้งของเพื่อนสนิทตัวใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่นที่นั่งตรงกันข้าม ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีมือดียื่นตะเกียบมาจากด้านซ้ายฉกฉวยลูกชิ้นปลาของชอบไปอีกลูกแล้ว

“เรื่องของเรา ปากเรา.......แล้วเรียกทำไม?” นิ้วเรียวยาวค่อยขยับวางตะเกียบที่เพิ่งรู้ตัวว่าคงถือค้างอยู่นานแล้วลงบนขอบชามวุ้นเส้นต้มยำ พร้อมๆกับที่มือซ้ายแตะตรงขาแว่นให้เลื่อนขึ้นอย่างติดเป็นนิสัยมากกว่าจะตั้งใจเลื่อนให้เข้าที่จริงจัง

“ก็กูขี้เกียจไล่แมลงวันบนจานมึงแล้วนี่หว่า วุ้นเส้นต้มยำมึงอืดจนจะเป็นยำวุ้นเส้นแล้ว”

“โห.......ธุค้าบบบบบบบบคุณเพื่อน เฮ้ย! แล้วลูกชิ้นหายไปไหนหมดวะ?”
พอก้มลงมองในชามตรงหน้าตัวเองนายอรุณรุ่งก็ต้องโวยวายออกมาทันที ก็อุตส่าห์สั่งวุ้นเส้นต้มยำพิเศษเพิ่มลูกชิ้น แล้วป้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่หลงเสน่ห์พ่อหนุ่มแว่นนัยน์ตาโศกลูกค้าขาประจำก็ใส่มาให้เกือบสิบลูกแท้ๆ แต่ตอนนี้พี่ดอนลงทุนเอาตะเกียบคุ้ยเขี่ยในกองวุ้นเส้นอืดจนแทบเหมือนยำวุ้นเส้นจริงเหมือนขี้ปากเพื่อนอย่างไอ้คุณก่อมันแท้ๆ กลับเจอขุมสมบัติเป็นลูกชิ้นเพียงลูกเดียว

“กูเปล่านะเว้ย” ไอ้คุณก่อปฏิเสธโดยพลัน พี่ดอนเลยหันขวับไปมองไอ้คุณเชทางด้านซ้ายทันที

“เราไม่ได้เริ่ม ไอ้จี๊ดเลย ด่ามันโน่น มันเริ่มก่อน”

“มิน่า ที่นั่งตั้งกว้างเสือกมานั่งเบียดกันสองข้าง จ้องจะจ้วงทีเผลอกันตั้งแต่สั่งซื้อเลยมั้งเนี่ย ไอ้พวกนี้นี่ ข้อไก่จานแกอะจี๊ด แล้วก็ไข่ดาวแกไอ้เช ให้ว่องๆ อย่าให้ต้องใช้กำลัง”

“กินบ้าไรของมึงเนี่ยไอ้ดอน เดี๋ยววิ่งเข้าส้วมจู๊ดๆกูซ้ำเติมมึงแน่”

มื้ออาหารผ่านไปพร้อมกับการถมกระเพาะจนเต็ม แม้จะด้วยเมนูที่ไม่ได้ตั้งใจในตอนแรกก็เหอะ แต่การประชุมเรื่องโปรเจคท์จบกับอาจารย์หัวหน้าภาควิชาช่วงบ่ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีอาการจู๊ดๆตามคำแช่งของไอ้คุณเพื่อนปากเสียเลยสักนิด

หัวข้อโปรเจคท์ของพี่ดอนและเพื่อนอีกสามคนที่จับกลุ่มกันเองเลือกไว้คือหัวข้อที่ต้องเก็บข้อมูลในกลุ่มนักกีฬาที่มีอาการบาดเจ็บหรือเคยมีอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้า ทำให้ทุกเย็นหลังฝึกงานที่โรงพยาบาลเพื่อเก็บหน่วยกิตพี่ดอนและเพื่อนจี๊ดที่รับหน้าที่เก็บข้อมูลเบื้องต้นต้องแวะเวียนไปสนามกีฬาอยู่เสมอ และที่นี่แหละที่พี่ดอนได้พบกับน้องขวัญ นักกรีฑาที่เคยติดทีมชาติประเภทกระโดดสูงแต่อดไปซีเกมส์เพราะอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าทำให้ต้องใส่เฝือกอยู่เกือบเดือนและต้องขาดซ้อมไปโดยปริยาย

หลังจากทำความรู้จักกันในฐานะผู้วิจัยและผู้เข้าร่วมการวิจัยพร้อมกับการสัมภาษณ์ข้อมูลเบื้องต้นของน้องขวัญ ครั้งแรกผ่านไป เมื่อมาพบกันอีกครั้งตามนัดในสัปดาห์ถัดมา น้องขวัญก็ขอเวลาคุยกับพี่ดอนเป็นการส่วนตัว แล้วเริ่มบทสนทนาที่ทำให้พี่ดอนที่เพิ่งตัดใจได้สนิทไม่นานต้องหัวใจกระตุก

“พี่ดอนคะ ขวัญคิดว่าขวัญถูกใจพี่อ้ะ พี่จะลองคบกับขวัญได้มั้ย?”

“ฮะ อะไรนะครับ?” นายอรุณรุ่งอ้าปากค้างแถมทำตาเหลือกใส่สาวน้อยในกางเกงขาสั้นโชว์ต้นขาขาวๆบ่งบอกว่าเป็นหมวยไทยเชื้อสายจีนสมกับที่พื้นเพเป็นชาวเยาวราชขนานแท้และดั้งเดิม หากแต่ต้นขาขาวๆนั้นกลับอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นเปรี๊ยะสมกับดีกรีอดีตทีมชาติจนผู้ชายที่เล่นแต่ปิงปองวันละสิบยี่สิบนาทีถึงกับอายแกมอิจฉา

“อย่ามาทำเป็นไม่ได้ยินค่ะ ขวัญว่าขวัญพูดออกชัด แต่ถ้าพี่ดอนมีใครอยู่แล้ว หรือเห็นว่าอย่างขวัญคงไม่ใช่แน่ๆก็บอกได้นะคะ แต่บอกเบาๆหน่อย ขวัญไม่อยากอกหักดังๆ”

และคงเป็นเพราะประโยคน่ารักๆบ่งบอกว่าคนพูดร่ำรวยอารมณ์ขันที่ส่งมาพร้อมกับรอยยิ้มจริงใจนั่นเอง ทำให้ก่อนนอนคืนนั้นกระดาษเขียนจดหมายสีไข่ไก่ถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง


ถึงน้องรุ่งที่รักและที่คิดถึง

พี่มีข่าวล่ามาเร็วแจ้งให้ทราบค่ะ พี่ชายใจง่ายของน้องรับปากลองคบกับสาวหมวยน่ารักคนหนึ่งเมื่อเย็นนี้เอง อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดว่าพี่ไวไฟ ตกหลุมรักไปเรื่อยเชียว เพราะคราวนี้ไม่ใช่พี่ที่เป็นฝ่ายเริ่มชอบ แต่เป็นฝ่ายตรงข้ามต่างหากคะ ที่เข้ามาขอคบกับพี่ก่อน ครั้งแรกเลยนะเนี่ยภาคภูมิใจดีพิลึก......อืม เห็นเป็นไอ้ขี้ก้างอย่างนี้พี่ดอนก็มีเสน่ห์เหมือนกันนะเออ

น้องคนนี้ชื่อครองขวัญค่ะ น่ารักน้อยกว่าน้องรุ่งของพี่นิดเดียว แต่ตัวใหญ่กว่ามาก เป็นอาหมวยความสูง 173 เซนติเมตร (ยืนคู่กันก็เกือบๆเท่าพี่แล้วค่ะ ดีเนอะจะได้คุยสะดวกๆไม่ต้องก้มให้เมื่อย) น้องขวัญน่ารัก แล้วก็อารมณ์ดี ร่าเริง ยิ้มเก่ง

วันนี้แค่คุยกันไม่กี่ชั่วโมงพี่ดอนหัวเราะไปไม่รู้กี่รอบ ถึงตอนนี้จะยังบอกไม่ได้ว่ารัก แต่ถ้าได้พบได้พูดคุยกันไปเรื่อยๆ สงสัยว่าพี่ดอนคงตกหลุมรักอีกครั้งแน่ๆ

น้องรุ่งยังจำได้มั้ยคะ ตอนนั้นเราสองคนอยู่ ป.๑ เราเรียนห้องเดียวกัน แล้วก็ถูกเพื่อนๆล้อชื่อทุกวัน ว่าพ่อกับแม่คงขี้เกียจคิด เลยตั้งชื่อเราง่ายๆแบบนี้ แถมคุณครูยังเรียกผิดเรียกถูกเป็นประจำ จนเราสองคนจูงมือกันมาบอกให้หม่าม้าพาไปเปลี่ยนชื่อ เราไม่อยากชื่อคล้ายกันแบบนี้อีกแล้ว ตอนนั้นหม่าม้ากอดพี่กับรุ่งไว้แล้วก็ถามว่า
‘พี่ดอน น้องรุ่ง รักปะป๊ามั้ยลูก คิดถึงปะป๊ามั้ย?’

พี่จำได้ว่าเราสองคนแย่งกันตอบว่าคิดถึงมาก แล้วก็รักปะป๊า อยากเจอปะป๊ามาก พอเราตอบไปแบบนั้นหม่าม้าก็บอกว่า ชื่อของเราปะป๊ากับหม่าม้าเป็นคนตั้งให้ ทั้งชื่อจริงชื่อเล่น เพราะพี่ออกมาจากท้องหม่าม้าตอนอีกสิบห้านาทีหกโมง แล้วอีกเกือบครึ่งชั่วโมงรุ่งถึงตามออกมา

ปะป๊ารออยู่หน้าห้องคลอด จากเก้าอี้ที่นั่งรอมองออกไปเห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี ปะป๊าเล่าให้หม่าม้าฟังว่าแสงอาทิตย์วันนั้นสวยที่สุด เป็นสีส้มอ่อนๆ จนทำให้ตึกทุกตึกที่มองเห็นทางหน้าต่างกระจกตรงนั้นพลอยเป็นสีส้มไปหมด แล้วเลยขอตั้งชื่อพี่ว่าดอน dawn ที่แปลว่ายามเช้า หรือแสงตะวันยามเช้า แล้วให้หม่าม้าหาชื่อภาษาไทยที่จะแปลตรงกันให้น้องด้วย น้องรุ่งเลยได้ชื่อว่ารุ่ง แล้วหม่าม้าก็เลยเปิดพจนานุกรมตั้งชื่อเราสองคนว่าอรุณรุ่ง กับรุ่งอรุณไงคะ

ตอนนั้นหม่าม้าบอกว่า ถ้าเรายังรักปะป๊า ก็ต้องภูมิใจกับชื่อที่ปะป๊าเป็นคนคิดตั้งให้ เพราะมันเป็นชื่อที่มาจากความรัก หม่าม้าบอกว่าถึงเราสามคนจะไม่ได้กอดปะป๊าอีก แต่ถ้าเราคอยคิดถึงปะป๊าเสมอๆ รักษาทุกสิ่งที่ปะป๊าให้ไว้อย่างดี นั่นก็แปลว่าความรักของปะป๊ายังอยู่กับเรา หม่าม้าบอกว่าคนเราอยู่ได้โดยปราศจากความรักก็จริง แต่คนที่ไม่มีความรักก็ไม่ต่างอะไรกับหุ่นยนต์ ขาดสีสันที่ความรักจะเข้ามาเติมเต็ม

เพราะฉะนั้น พี่ถึงไม่เคยเข็ดสักทีกับความรัก ต่อให้เจ็บอีกกี่ครั้ง ขอเวลาพักฟื้นสักนิด พอมีเรี่ยวแรงกลับมา พี่ดอนก็จะขอเปิดรับเจ้าความรักที่จะก้าวเข้ามาอย่างเต็มอกเต็มใจ น้องรุ่งเห็นด้วยกับพี่รึเปล่าคะ?

วันนี้เป็นวันที่พี่หัวเราะได้เต็มเสียงที่สุดในรอบสามเดือน
พี่ดอนผู้อยากลองรักอีกสักครั้ง




..โปรดติดตามตอนต่อไป..



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2554 9:16:53 น.
Counter : 384 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
12 กุมภาพันธ์ 2554
All Blog