เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๙
ตอนที่๙: ".....หวง"


เอ่อ......พี่อากาศกับตัวป่วนกอดกัน
กอดกันนานนะ......


คือ......ไม่ใช่อะไรหรอก แต่สงสารไอ้แผนมัน จะเดินออกมาจากครัวกลับขึ้นห้องไปดูโดราเอมอนก็ต้องผ่านห้องกลางที่ใช้เป็นห้องรับแขกก่อน นี่มันก็ยื่นหน้ายื่นตาออกมาดูหลายทีแล้ว สองคนนั้นก็ไม่เลิกกอดกันเสียที ไอ้คุณแผนมันได้แต่คิดว่าจะทำไงดี เกิดมาเป็นคนมีมารยาทนี่ก็ลำบากเว้ย

ในที่สุดด้วยความที่คิดเต็มที่แล้วได้แค่นั้น ไอ้คุณแผนเลยเดินมันออกไปทั้งอย่างนั้นแหละ จนมันเข้าไปใกล้แทบจะถึงตัวแล้วสองคนนั้นยังไม่รู้ตัวเลย มันเลยตัดสินใจให้เสียงเสียหน่อย
“จะไปดูโดราเอมอน........”
--พลั่ก/ตุ้บ--

รวดเร็วราวกับเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ไอ้ตัวป่วนผลักพี่ฟ้าของมันออกเต็มแรง ส่งผลให้ตัวเองเสียหลัก.... ใช่ คุณไม่ได้อ่านผิด ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันทำให้ไอ้คนผลักนั่นแหละเสียการทรงตัวล้มหงายหลังลงก้นจ้ำเบ้า ดีนะร่วงลงกับเบาะนิ่มๆของโซฟาพอดี

“เฮ้ย ฉันไม่ได้ทำอะไรนะเว้ย” พอตั้งหลักลุกขึ้นมายืนใหม่ได้ไอ้หนูป่วนก็โพล่งออกมาทันที ร้อนตัวล่ะสิแก
“เห็นแล้วว่าแกไม่ได้เป็นคนทำ พี่ฟ้าต่างหากเป็นคนทำ” ไอ้คุณแผนมันก็หน้านิ่งได้อีก แถมพูดเสร็จก็เดินผ่านไปขึ้นบันไดด้วยความถี่การก้าวเท้าที่ปกติเสียด้วย รักษาอาการได้ชนะเลิศจริงๆ แผนมันก้าวขึ้นบันได้ไปได้สามขั้นก็หันกลับมา “พี่ฟ้า ถ้าพี่ยังไม่รู้......พ่อไอ้ป่วนมีกีฬาโปรดอยู่สองอย่าง หนึ่งคือขี่ม้า สองคือยิงปืน”

พูดกับคุณพี่อากาศจบมันก็หันไปหาไอ้หนูป่วน “ฉันเชื่อว่าแกดูแลตัวเองได้ ถ้าจะกลับดึกหรือไปค้างที่อื่นก็โทรบอกด้วยนะ”
“อะ....เออ.....”


~~~~~~~~~~~~~


“เพิ่งรู้ว่าพี่ขับรถ”
ตอนนี้ตัวป่วนขนเสบียงขึ้นรถเรียบร้อย แล้วก็ย้ายตัวเองขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งข้างคนขับ พอคุณพี่อากาศเริ่มออกรถตัวป่วนมันก็เริ่มเปิดถุงปาท่องโก๋ขึ้นมาเคี้ยวหมุบหมับๆทันที

“ซื้อตั้งแต่ทำงานปีแรก นี่พี่ยังผ่อนไม่หมดเลย”
“โห....ซื้อเองด้วย”
“ช่ายยยยย จงภูมิใจในตัวว่าที่แฟนซะหนูป่วน” สงสัยจะหมั่นไส้กับลักยิ้มข้างแก้มนั่นมาก ไอ้หนูป่วนเลยจัดการจับปาท่องโก๋ในมือยัดใส่ปากคุณพี่อากาศท่านซะ
“ฮะๆๆๆ กินเยอะๆนะพี่ฟ้า จะได้โตไวไว แล้วก็ไม่ต้องพูด”

“อ๊ะๆ ว่าไงนะ อ๋อๆติดคอเหรอ.....อ้ะ..ติดคอก็ต้องตามด้วยน้ำเต้าหู้ ค่อยๆดูดนะพี่ฟ้า ดูซิ เวลาจะกินอะไรน่ะ มันต้องค่อยๆตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆแล้วก็เคี้ยวช้าๆรู้มั้ย ฮะๆๆๆๆๆ”
“ฮึ่ม.....แค้นนี้ต้องชำระ ตัวป่วนระวังตัวให้ดีล่ะ อย่าเผลอเชียว” พี่ฟ้าถือโอกาสที่รถติดไฟแดงหันมายิ้มแยกเขี้ยวโชว์ตัวป่วนมันทีนึง พร้อมกับคำขู่ที่ฟังยังไงก็ไม่น่ากลัวสักนิด

“แล้วที่บอกให้พี่โตไวไวน่ะ ป่วนแน่ใจเหรอว่ายังอยากให้พี่ตัวโตขึ้นอีก?”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ถ้าพี่ตัวใหญ่กว่านี้ คนที่จะลำบากก็คือตัวป่วนเองนะ”
“ก็แล้วทำไมผมต้องลำบากด้วยล่ะ อ๋อ......กลัวผมโตไม่ทันพี่เหรอ” ไอ้นี่มันซื่อจริงเว้ย พี่อากาศอยากจะพูดอะไรกับมันพี่ก็พูดไปตรงๆเหอะ
“พี่หมายถึงเวลาที่....ที่นอนเตียงเดียวกัน พี่ก็เบียดตัวป่วนแย่สิ”
“โห่.....ไม่เห็นยากเลย พี่ก็ซื้อเตียงใหญ่ๆก็หมดเรื่อง อ๊ะ!!”

เออ....เข้าใจจนได้นะป่วนนะ...เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่าพี่อากาศแกไม่ได้หมายถึงแค่นอนเบียดกันน่ะ
เออนะ....เลยหน้าแดงอีกแล้ว อย่าแก้ตัวเชียวว่าเพราะอากาศร้อน เพราะพอวางแผนจะพาแกไปเที่ยวท่านเจ้าของรถท่านก็เอารถไปเช็คสภาพ แถมเติมน้ำยาแอร์เรียบร้อย บทสนทนาระหว่างว่าที่แฟนในรถจึงจบลงด้วยอาการเขินจนมือแทบจะพันกันตายของผู้โดยสาร กับปาท่องโก๋ที่ถูกยัดเข้าไปเต็มปากของคนขับ รับผิดชอบป้อนน้ำเต้าหู้ต่อด้วยล่ะตัวป่วนเอ๊ย......


~~~~~~~~~~~~~


---ปิ๊ง-ป่องงงง ปิ๊ง-ป่องงงง---
“นุ่นไปดูซิใครมา”


“เจ้าค่ะคุณนาย.....” บ้านนี้มีลูกคนเดียว แถมไอ้ลูกคนเดียวยังบ้าๆบอๆ รักการแซวแม่ตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ

“เฮ้ย!! แผน มาได้ไง รู้ได้ไงว่าอยู่บ้าน?”
น้องแจ๋วในชุดแบบแจ๋วๆอย่างผ้าถุงจากผ้าฝ้ายสีเข้มกับเสื้อยืดตัวหลวมโพรกพื้นขาวลายลูกเจี๊ยบทวีตตี้สีเหลืองอ๋อยอุทานออกมาเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูรั้วแล้วมองลอดออกไปเห็นไอ้เพื่อนรักตัวโย่งมายืนหน้าไร้อารมณ์อยู่หน้าบ้าน
“ไม่รู้หรอก แค่ลองเสี่ยงมาดู”
“เวร นี่ถ้าฉันไม่อยู่แกไม่มาเก้อเรอะ เข้ามาเร็ว กำลังทำของกินอยู่เลย มาก็ดีจะได้มาช่วยกิน”

“ใครมาน่ะนุ่น?” คุณนายของไอ้นุ่นส่งเสียงถามมาจากในบ้าน
“ลูกชายสุดที่รักของแม่ไง”
“แม่ สวัสดีครับ”
“อ้าว แผน.....ดีเลยเดี๋ยวแม่จะออกไปข้างนอกพอดี ไอ้นุ่นมันก็ทำของกินซะเยอะ ไม่ถามก่อนเลยว่าจะมีใครอยู่กินบ้าง ป่วนไม่มาด้วยเหรอ?”
“วันนี้ป่วนมันไม่อยู่ครับ ไปต่างจังหวัด”
“อ้อๆ งั้นเดี๋ยวแม่ไปข้างนอกก่อนนะ......”

“ไม่ชิมแน่นะคุณนาย อร่อยน้า....ลองชิมซอสดูสิ”
“อะๆมาชิมคำนึงก็ได้ เดี๋ยวลูกสาวฉันจะน้อยใจ”
“อะ อ้ามมม เป็นไง อร่อยใช่ป้ะ?”
“อืม แกทำของแบบนี้อร่อยจริงๆแหละ วันหลังแม่อยู่บ้านทำอีกนะ”
“ด๊ายยยยยยยย แต่คราวหน้าเบิกเงินค่าวัตถุดิบด้วยนะตั๊ว”
“ย่ะๆ อยู่บ้านก็ทำตัวเป็นแจ๋วดีๆนะ ผ้าผ่อนลงเครื่องแล้วตากให้เรียบร้อย แม่ไปแล้ว เดี๋ยวเย็นๆกลับ”

“สวัสดีครับแม่”
“จ้ะ แผนก็ค่อยกลับตอนเย็นๆก็ได้นะลูก อย่ารีบกลับล่ะ เผื่อแม่กลับเร็วจะได้คุยกันบ้าง” คุณนายท่านว่าแล้วก็หันไปทางลูกสาว “ไปนะไอ้นุ่น”
“บ๋ายบายเจ้าค่ะคุณนาย”

“อะไรไอ้แผน ยิ้มอะไรอยู่ตรงนั้น เข้ามานี่เลย อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายรู้ไหม มาช่วยลูกสาวท่านล้างผักให้ว่อง”
“คร้าบบบบ คุณหนู”
ไอ้คุณแผนรีบทำตามบัญชา ผละจากประตูครัวไปนั่งแยกผักที่ยังอยู่ในถุงพลาสติคทันที

“อ้ะ เรียกถูกใจ เงยหน้าขึ้นมาอ้าปากซิ......อะ อ้ามมมม” ไอ้นุ่นจัดการหย่อนมีทบอลล์ใส่ปากไอ้แผนทันที
“อ๊อนนนนๆๆๆ” เอิ่ม....แปลว่าร้อน แล้วดูท่าจะร้อนมากไอ้คุณแผนถึงกับหุบปากไม่ได้
“ขอโทษๆๆๆ แป๊บนะแผน นุ่นเอาน้ำให้ คายออกมาสิ คายออกมาเร็ว”
“โหย....ป้อนมาได้ ลิ้นพองแล้วมั้งเนี่ย”
“หงะ ก็ลืมไปนี่ว่ามันยังร้อนอยู่ เจ็บมากเหรอ?”
“อืมมมมมม”

“ไหนแลบลิ้นมาดูซิ อย่าช้าสิ อักเสบรึเปล่าไม่รู้”
“อะ......”
“ค้างไว้นะ........โอม......เพี้ยงงงงงงงง”
“เฮ้ย!!!”


“อะไร ตกใจอะไร หายไหม? นี่ฉันทำแบบที่แกสอนเลยนะ”
ไม่ตกใจก็แปลกแล้วท่านผู้ชม ไอ้คุณนุ่นมันให้ไอ้คุณแผนแลบลิ้น แล้วมันก็เสกคาถานะโมสามจบเป่าให้แบบเดียวกับที่ไอ้แผนเคยทำให้ตอนมันถูกไอ้ตัวป่วนประทุษร้ายเด๊ะๆเลย
“แต่ฉันไม่คลึงให้นะแก ลิ้นมันหยึยๆอะ แกคลึงเองได้ใช่ไหม?”
เวร......ไอ้นุ่น แก แกมันบ้าแล้วก็ซื่อจนเซ่อ นี่แกเชื่อคาถาของไอ้แผนไม่พอ ยังอุตส่าห์จำมาใช้จริงอีก เป่าลมปู้ดลงลิ้นมันเต็มๆ แล้วก็ทิ้งมันไว้กับกองผัก ไม่ดูดำดูดี
“อืม.......”


ไอ้แผนผู้น่าสงสาร ตั้งใจจะมาทำคะแนน แต่ตอนนี้ตัวเองกลับเจอการกระทำที่คาดไม่ถึงของไอ้คุณนุ่นจนสติกระเจิง ไอ้คุณนุ่นสั่งให้ช่วยอะไรก็ทำตามไปเรื่อยๆไม่มีปากมีเสียง ให้กินสลัดผักก็กิน ให้กินสปาเกตตี้มีทบอลล์ก็กิน เกือบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ที่ตักใส่ปากไปคืออะไร
พอกินเสร็จก็ช่วยทำงานบ้านตามคำสั่งไม่มีโต้แย้ง จนไอ้นุ่นมันสงสัยว่าเพื่อนมันคงไม่สบายเลยสั่งให้ไปนอนพัก ไอ้แผนมันก็เดินไปล้มตัวนอนง่ายๆที่เก้าอี้นอนในสวนเล็กๆหลังบ้าน เดือดร้อนไอ้คุณนุ่นที่มาเห็นสภาพต้องหอบหมอนมาให้ ปากก็บ่นโน่นนี่ไปตามเรื่อง แต่ไอ้คุณแผนมันไม่ได้สนใจเสียงบ่นเหมือนเสียงนกเสียงกานั่นเลย.....มันรู้สึกได้แค่สัมผัสจากมือเล็กๆที่ค่อยๆยกศีรษะมันขึ้นโดยไม่ยอมปลุก แล้วเจ้าของมือก็ค่อยสอดหมอนเข้ามารองใต้คอให้มันอย่างนุ่มนวล....


~~~~~~~~~~~~~


“เดี๋ยวพี่ฟ้า หยุดแป๊บ”

ตอนนี้ทั้งตัวป่วนทั้งพี่ฟ้าของมันต่างคนต่างเหงื่อย้อยจนเสื้อยืดที่ใส่มาเปียกชุ่มไปหมด ไอ้ตัวป่วนน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เสื้อสีขาวเนื้อบางของคุณพี่อากาศสิ เห็นทะลุไปถึงไหนๆ
ตอนแรกสองคนก็ไม่ได้สังเกตหรอก เพราะพี่อากาศแกก็มองแต่ไอ้หนูป่วน ส่วนไอ้หนูป่วนก็สนใจแต่ของเล่นและของกินที่มีวางขายอยู่ตลอดทางเดินในตลาดโบราณ นานๆทีก็หันมามองพี่อากาศแกบ้าง..... ก็นะ แกอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าขับรถพามาเที่ยวอย่างนี้ ไม่สนใจเสียเลยเดี๋ยวเกิดน้อยใจขึ้นมา คราวหน้าคราวหลังก็อดมาเที่ยวกันพอดี

จนเข้าไปนั่งพักในร้านขายซ่าหริ่มทับทิมกรอบนั่นแหละ น้องคนขายก็มองจังมองพี่อากาศที่วันนี้ใส่เสื้อยืดบางๆสีขาว กางเกงขายาวแค่เข่า ที่ถึงแม้จะมีแว่นตากรอบพลาสติคสีน้ำเงินเหมือนเดิม แต่กลับดูเด็กลงจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือผู้ชายอายุ25 อายุมากกว่าไอ้หนูป่วนมันตั้งเจ็ดปี

คุณพี่อากาศแกไม่รู้หรอกว่าน้องเขามองแล้วก็ทำหน้าเขินอายอยู่คนเดียว แต่ไอ้ป่วนมันเห็น พอเห็นอย่างนั้นมันก็เลยลองมองดูบ้าง ดูซิว่าไอ้พี่ฟ้านี่มีอะไรดี น้องคนขายแถมพอสังเกตยังพบว่าแม่ค้าที่ประจำอยู่หน้าหม้อก๋วยเตี๋ยวถึงได้ขยันส่งสายตาวับๆให้นัก
แต่สงสัยมันจะตั้งใจมองไปหน่อย......

“ทำไมจ้องพี่อย่างนั้นล่ะ?”
“พี่ฟ้า ที่จริงพี่ก็หล่อนี่นา หน้าก็หล่อ หุ่นก็ดี แถมยังสูงเวอร์อีก”
“พี่จะภูมิใจดีมั้ยเนี่ย เห็นกันมาตั้งนาน ในที่สุดตัวป่วนก็เห็นความหล่อของพี่สักที ฮ่าๆๆ”
“ก่อนจะภูมิใจก็ขอบคุณคุณแม่ค้าทั้งหลายก่อนเลย ถ้าพวกคุณๆไม่มองพี่อย่างกับอยากจะพุ่งเข้ามาจีบขนาดนั้นนะ ผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าพี่หล่อ”

“ถึงใครเขาจะมองพี่ยังไง แต่พี่ฟ้าก็มองตัวป่วนคนเดียวนะครับ”
อ้าว ไอ้พี่นี่ นิดๆหน่อยๆเป็นไม่ได้ เก็บคะแนนตลอด ไอ้หนูป่วนถึงกับไปไม่เป็นก้มหน้าก้มตาตักซ่าหริ่มใส่ปากเอาเป็นเอาตาย แต่ก็ยังไม่วายพูดลอยๆมาเข้าหูอีกฝ่ายทั้งๆที่รู้ตัวว่ายิ่งพูดคงยิ่งเขิน

“ทีหลัง....ถ้ารู้ว่าจะร้อนอย่างนี้พี่ฟ้าอย่าใส่เสื้อบางๆนะ”
“....หืม?”
“ก็มันเห็นไปถึงเนื้ออ้ะ ผม......หวง”


“...........”

คงเพราะเสียงที่คาดว่าจะต้องมีโต้ตอบกลับมาไม่ดังขึ้นสักที ไอ้หนูป่วนมันเลยค่อยๆเหลือบตาขึ้นมองคนตัวโตที่นั่งอยู่ตรงข้าม แล้วมันก็ได้เห็น......คนตัวโตที่คอยเย้าแหย่ให้ได้อายมาตลอด ตอนนี้นั่งหน้าแดงจนลามไปถึงหู ตัวป่วนมันได้แต่คิด.....ว่าพี่ฟ้าของมันร้อนเกินไป หรือว่าอายจนหน้าแดง เลยมีอาการเดียวกับมันตอนนี้กันแน่....

พี่อากาศผู้กำลังออกอาการเขินอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทำอะไรไม่ถูกไปครู่ใหญ่ กินเวลาเท่ากับที่ไอ้หนูป่วนอายไปด้วยจ้วงซ่าหริ่มไปด้วยจนหมดถ้วย เห็นอย่างนั้น คุณพี่อากาศท่านเลยเลื่อนถ้วยทับทิมกรอบและมะพร้าวกะทิของตัวเองที่แตะไปได้ไม่กี่คำ เพราะมัวแต่เขินอยู่ส่งให้ไอ้เด็กเลี้ยงง่ายให้อะไรก็กินตรงหน้า
ตัวป่วนมันก็ไม่ว่าอะไร พี่ฟ้าของมันอุตส่าห์เสียสละของอร่อยมาให้ มันก็ตักกินต่อไปอย่างสบายอารมณ์ จนกินเสร็จจ่ายเงินเรียบร้อย สองคนหอบของเล่นของกินเต็มไม้เต็มมือก็พากันเดินกลับไปที่รถ

“ไปไหนต่อน่ะพี่ฟ้า?”
“ตัวป่วนเหนื่อยรึยังล่ะ?”
“ไม่เหนื่อย แต่ร้อน.....ข้างนอกร้อนมากอ้ะ เข้ามาในรถได้เหมือนขึ้นสวรรค์” ไอ้หนูป่วนปลดกระดุมเม็ดเดียวที่มีอยู่ แล้วกระพือเสื้อพร้อมเป่าลมลงไปใส่พุงตัวเองประกอบคำพูด แสดงอาการว่าร้อนจริงๆอีกต่างหาก

“งั้นเดี๋ยวเราไปกินข้าวมื้ออร่อยกันแล้วกลับเลยดีกว่าเนอะ” พี่อากาศผู้เชื่อมั่นในความอดทนอดกลั้นของตัวเองมาตลอด ขณะนี้อยู่ในภาวะเสี่ยงจะตบะแตก เหลือบตามามองไอ้ผู้โดยสารเพียงคนเดียวของตัวเองแล้วทำได้แค่ตวัดสายตากลับไปมองทางข้างหน้าอย่างด่วน

ในใจภาวนายุบหนอ....ยุบหนอ.....ยุบเถิดหนอให้วุ่นวาย

“เปิดเพลงนะพี่ฟ้า”
ส่วนไอ้นี่ก็ไม่รู้อะไรด้วยเลย บอกกึ่งขออนุญาตเสร็จก็เอื้อมมือไปข้างหลังหยิบกล่องที่มีซีดีบรรจุอยู่เต็มมารื้อค้น พอเลือกได้ก็เอาใส่เครื่องทันที ก็นั่งฟังกันไป พอได้เพลงช่วยพี่อากาศแกก็ค่อยหายเกร็ง ขับรถต่อด้วยท่าทางที่สบายขึ้น ตัวป่วนก็ฟังเพลงไป บางเพลงไม่ถูกใจก็กดข้าม จนถึงเพลงนี้.....

ยิ่งฉันฝืนไม่คุยกับเธอยิ่งฉันฝืนไม่มองหน้าเธอ
ใจของฉันก็ยิ่งอยากเจอยิ่งคิดถึงเธอทุกที
.....................
พยายามค้นหาว่าเพราะอะไรใจของฉันจึงไม่ไปไหน
ยิ่งฉันฝืนจะไม่ใส่ใจยิ่งแย่ลงไปทุกที
......................
อยากมองเธอในแง่ร้ายให้จิตใจได้หยุดพัก
แต่ยิ่งมองเท่าไร มันช่างยิ่งตกหลุมในความรัก
ไม่เข้าใจสงสัยเพราะเหตุใดประหลาดนัก
ยิ่งระวังเท่าไร ฉันยิ่งตกหลุมรักเธอ



พี่อากาศตัวโตออกเสียงร้องคลอกับเสียงพี่โป้โยคีที่ดังจากลำโพง แถมมีบริการเสริมเป็นการส่งสายตาหวานเยิ้มให้ไอ้หนูป่วนทุกครั้งที่มีโอกาส จนตัวป่วนมันทนไม่ไหวกดเปลี่ยนโหมดเป็นวิทยุเสียเลย
“หึๆๆๆ”
“ขำผมเหรอ?”
“อืมขำตัวป่วนที่อายพี่จนต้องเปลี่ยนไปฟังวิทยุ...แล้วก็ขำตัวเองด้วย”
“ขำตัวเอง?”

“ใช่ พี่ขำตัวเองเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงเพราะรู้สึกแบบเดียวกับเพลงเมื่อกี้ขึ้นมาจริงๆ เป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงให้คนอื่นฟังโดยไม่ได้เตรียมตัว แล้วก็ไม่ได้วางแผนมาก่อน....”
“............”
“ตัวป่วนพูดอะไรบ้างสิ นี่พี่กำลังอายมากเลยรู้มั้ยที่มานั่งอธิบายอะไรแบบนี้”

“.........พี่ฟ้า”
“หืม?”
“พี่ฟ้าโกหกผมแล้วนะ” ไอ้หนูป่วนมันหันมาทำหน้าตาล้อเลียนใส่คนขับรถกิตติมศักดิ์
“โกหก? ตรงไหน?” นี่ก็ถึงกับเอ๋อ.....งงล่ะสิพี่ฟ้า
“ก็ผมไม่เห็นพี่จะฝืนอะไรสักนิด นึกจะจีบก็เข้ามาจีบ แถมจีบแบบหน้าไม่อายด้วย” ตัวป่วนมันกล้าตอบโต้แถมกล่าวหาว่าพี่อากาศแกโกหกอีก โฮ่.....ตัวป่วนเวอร์ชั่นพัฒนาไปอีกขั้นโผล่มาแล้ว

“เฮ้อ...ตัวป่วนจำพี่ไม่ได้จริงๆนั่นแหละ จะน้อยใจดีมั้ยน้า..” ปากว่าจะน้อยใจแต่กลับอมยิ้มจนแก้มตุ่ย
“เอ๊ะ? ก็เมื่อสี่ปีก่อนผมก็จำได้แล้วนี่” ไอ้หนูป่วนเริ่มทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ในขณะที่คุณพี่อากาศเลี้ยวรถเข้าไปในถนนลูกรังโรยกรวดที่เลียบไปตามริมแม่น้ำท่าจีน แล้วจอดรถเทียบหน้าบ้านไม้สองชั้นทาสีฟ้าอ่อน
“แล้วพี่จะเล่าให้ฟังแต่ตอนนี้เราลงไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า หิวยัง?”
“ครับ หิวแล้ว” พอคุณพี่อากาศปลดล็อคไอ้หนูป่วนก็เปิดประตูก้าวลงมาจากรถ มองไปรอบๆอย่างถูกอกถูกใจ “พี่ฟ้ารู้จักร้านนี้ได้ไงอ้ะ ถ้าคราวหน้าให้มาเองนะ ยังไงผมก็เข้ามาไม่ถูก”

พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์หันมาส่งยิ้มกว้างๆหนึ่งครั้งแล้วก็แบมือมาตรงหน้า ไอ้หนูป่วนเห็นแก่ความมีมารยาทไม่จู่โจมฉวยมือไปเองแบบเมื่อก่อนเลยยอมให้จูงโดยดี

“ไป.....เข้าบ้านกัน”
“ฮ้า!?!?”


~~~~~~~~~~~~~



Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2554 20:40:43 น.
Counter : 276 Pageviews.

2 comments
  
พี่ฟ้าพามาบ้านเลบวุ้ย
โดย: sai IP: 182.53.20.43 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:5:33:54 น.
  
ฮ่าๆๆๆๆ พี่ฟ้าก็งี้แหละค่ะ แกกลัวจะแก่ไปก่อนเลยต้องรีบนิดนึง
โดย: paina วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:31:20 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog