เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๑๓
ตอนที่๑๓: มื้อเย็นนี้ผมมีคนรัก


“เป็นไงบ้างครับ เด็กขี้แกล้ง?”


“..............” เงียบ ตัวป่วนมันได้แต่เงียบแล้วก็งงกับสภาพของตัวเอง หลังจากการทำโทษยาวนานทำไมมันถึงมาอยู่ในสภาพทิ้งน้ำหนักทั้งตัวลงบนอกของไอ้พี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ได้ก็ไม่รู้ แล้วอะไรแข็งๆมันกดต้นขาหว่า...อ้อๆเบรกมือนี่เอง

“เอ.....พี่ว่าพี่จูบเฉยๆนะ ทำไมถึงกับพูดไม่ออกได้ล่ะ หึๆๆ” จะให้พูดอะไรเล่าไอ้คุณพี่ฟ้า ตัวป่วนของแกมันกำลังงง ทั้งงงทั้งเขินจะให้โต้ตอบออกมาทันทีได้ยังไง จูบน้องมันไปขนาดนั้นก็รอให้มันรวบรวมสติสักนิดเถอะนะ

“พี่ฟ้า.......ผิดสัญญานี่”
เอาล่ะ เริ่มมีเสียงแล้ว แต่เสียงมันดังแผ่วๆชอบกล แถมพอคิดถึงกิจกรรมที่เพิ่งทำกันไปมันก็ยิ่งเขิน ไอ้หนูป่วนมันเขินน่าเอ็นดูเว้ย แทนที่เขินแล้วจะถอยออกไปห่างๆ ไม่ก็ทำร้ายร่างกายคุณพี่อากาศแกสักป้าบสองป้าบ ไอ้หนูป่วนมันกลับยิ่งซุกหน้าเข้ากับอกกว้างๆของพี่อากาศจอมเจ้าเล่ห์ที่กำลังลูบมือขึ้นลงไปตามแผ่นหลังเล็กบางเหมือนจะปลอบประโลมให้คลายจากความตื่นเต้น
“เปล่าซะหน่อย เมื่อกี้นี้คือการทำโทษคนขี้แกล้ง คนทำโทษเขาไม่ต้องขออนุญาตก่อนหรอก ตัวป่วนไม่รู้เหรอ?”

“พี่ฟ้าเป็นคนแบบนี้เองเหรอ.....” ตัวป่วนมันพูดตอบโต้ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากอกเจ้าของอ้อมกอดอยู่นั่นเอง ได้แต่ส่งเสียงหงุงหงิงๆ
“แบบไหนครับ?” ฝ่ายพี่อากาศแกก็พยายามจะแงะหน้าไอ้ตัวส่งเสียงอู้อี้ให้เงยขึ้นมาสบตากัน
“ก็......เจ้าเล่ห์แสนกล”

“หึๆ แล้วตกลงจะซุกอยู่อย่างนี้อีกนานมั้ยครับ ไหนบอกว่าหิวมากไง”
“ขออยู่อย่างนี้อีกนิดนะ ผม....รู้สึกว่าถ้าลุกขึ้นตอนนี้คงแย่แน่เลย”
“ทำไมถึงจะแย่ล่ะ?”
“คือ....เหมือนขามันจะไม่มีแรง......”
“หึๆๆๆ”
“ห้ามขำ!!”


รูดการ์ดเปิดประตูเข้ามาในห้องได้ไอ้หนูป่วนมันก็ทำการสำรวจทันที โถงเล็กๆหลังประตูเป็นที่วางตู้เก็บรองเท้าความสูงประมาณบั้นเอว เหนือขึ้นไปติดประดับไว้ด้วยกระจกบานใหญ่กรอบไม้สีเข้มเข้าชุดกับตู้

“อยู่กันสองคนเหรอพี่ฟ้า?”
“อืม ฝั่งซ้ายนั่นห้องชมพู ห้องพี่ขึ้นบันไดไป”
“แล้วไหนครัว?”

“อะไรกัน อุตส่าห์บอกทางขึ้นห้อง ไม่สนใจไปดูหน่อยเหรอ?”
“ใครจะไปสน ห้องพี่นี่ ไม่ใช่ห้องผมซะหน่อย แล้วพี่ภพจะกลับกี่โมงอ้ะ?”
ตัวป่วนมันหันไปย่นจมูกให้คนที่ไม่ทันไรก็จะชวนขึ้นห้องเสียหนึ่งที แล้วก็เดินดูรูปในกรอบที่วางเรียงๆกันอยู่ตามขอบหน้าต่างกระจก
“ช่วงนี้กลับดึกทุกวัน บางวันก็ไม่กลับ มาทางนี้มา” พี่อากาศแกพยักหน้าเรียกให้ตัวป่วนที่กำลังสำรวจdvdที่วางเรียงเป็นระเบียบบนฉันวางให้เดินตามเข้าหลืบที่พาไปส่วนที่จัดไว้เป็นครัว

“อาฮะ พี่ภพฝึกงานไกลเหรอ?”
ตัวป่วนมันเดินตามเข้าไปถึงครัวก็ล้างมือที่อ่างล้างซึ่งดูออกว่าคนจัดห้องคงยกชุดครัวมาจากบริษัทขายเฟอร์นิเจอร์แบบยกชุด แค่มองผ่านๆก็ดูออกแล้วว่าทั้งเตาแก๊สทั้งเตาอบนั่นมีไว้เหมือนเป็นเครื่องประดับมากกว่า ไม่ได้ผ่านการใช้งานโชกโชนเหมือนไมโครเวฟ ที่ตั้งไว้มุมหนึ่งของเคาน์เตอร์ครัวสีดำสนิท
“อืม งามวงศ์วานโน่น ถ้าออกเย็นรถก็ติด บางวันชมพูมันขี้เกียจกลับก็นอนบ้านเพื่อน แต่เดือนหน้ามันก็ได้มาฝึกใกล้ๆแล้ว แถวสีลมนี่เอง”

“ครัวสวยอ้ะ ไหนพี่ฟ้ามีของสดอะไรบ้าง” พูดไปตัวป่วนมันก็เปิดตู้เย็นค้นดูของสดในตู้ไป
“ท่าทางดูดี ทำอะไรเป็นมั่งอะเรา หุงข้าวสุกรึเปล่า?”
“ดูถูก.... ถ้าแค่ข้าวสุกน่ะไม่ใช่ฝีมือผมหรอก อย่างผมมันต้องข้าวสวย”
“โห.....ขนาดนั้นเลย งั้นวันนี้พี่ก็สบายแล้วสิ”
“อย่ามาเนียน พี่ฟ้าเป็นเจ้าของสถานที่นะ ส่วนผมเป็นแขก ผมต้องเป็นคนได้นั่งสบายๆดูหนังรอสิ” พูดจบมันก็ทำท่าจะเดินไปนั่งเฉยๆที่โซฟาหน้าทีวีเอาจริงๆ

“ใครว่า........” คราวนี้พี่อากาศนอกจากจะดึงต้นแขนน้องมันเอาไว้ ยังรั้งให้เข้ามาใกล้จนแทบจะเป็นกอดเอาไว้ทั้งตัวอีก

“พี่ฟ้า....อะไร?” ไอ้หนูป่วนตกใจที่ถูกพี่อากาศตัวโตเข้ามาประชิดตัวกะทันหันจนนิ่งตัวแข็ง พี่อากาศผู้ใหญ่ขี้อ้อนเลยถือโอกาสโน้มตัวเอาหน้าผากมาแปะไว้กับหน้าผากที่ปกคลุมไปด้วยผมนุ่มๆของไอ้หนูป่วนที่ตอนนี้หน้าแดงแปร๊ด

“ตัวป่วนเป็นแฟนของพี่ จะถือว่าตัวเองเป็นแขกได้ยังไง.....”
“เป็น.......เป็นแฟนงั้นเหรอ....”
ไอ้หนูป่วนมันรู้สึกคอแห้งกะทันหันจนต้องกลืนน้ำลายถี่ๆ ก่อนจะปล่อยเสียงสั่นๆให้หลุดมาจากลำคอได้
“อืม....ถ้าไม่ใช่แฟนกัน เขาไม่จูบกัน ไม่กอดกันอย่างนี้หรอกนะ”
“ตะ แต่...ในรถนั่น พี่ฟ้าบอกว่าเป็นการทำโทษนี่”
“บทลงโทษเฉพาะตัว ใช้ได้กับเด็กขี้แกล้งคนนี้คนเดียว.....” ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลงจนกลายเป็นเสียงกระซิบ

“....พี่ฟ้า ปล่อยเถอะนะ ผมหิวแล้ว”
“พี่ก็หิว.........”
“ก็ ก็ปล่อยสิจะได้ทำกับข้าว.....”
“งั้นขอหนึ่งจูบ แล้ววันนี้พี่ฟ้าจะปฏิบัติตามคำสั่งคุณแฟนทุกอย่างเลย นะครับ นะ”

ตัวป่วนมันไม่ได้ตอบออกมาเป็นคำพูดหรอก แต่มันกลับใช้วิธีหลับตาลงช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นอีกนิด เท่านี้พี่ฟ้าของมันก็รู้แล้วว่าคุณแฟนของพี่ฟ้าแสนจะใจดี อ้อนเข้าหน่อย ออดอีกนิด ไม่ว่าจะอะไรก็ไม่เคยปฏิเสธสักที

~~~~~~~~~~~~~


เลิกเรียนว่ายน้ำบ่ายสามวันศุกร์ เพื่อนนุ่นกับเพื่อนแผนเดินกลับคณะผ่านหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ ไอ้เพื่อนๆในคณะคนอื่นมันก็เดินกันมาเป็นกลุ่มบ้าง แยกไปโบกสามล้อเพราะขี้เกียจเดินบ้าง.....แต่มันไม่ใช่คนสำคัญ เพราะฉะนั้นเราจะไม่สนใจ

“เบื่อไอ้ป่วนว่ะ”
“ไปเบื่อมันทำไม?”
ที่จริงไอ้เพื่อนแผนมันก็รู้หรอกว่าทำไมไอ้เพื่อนนุ่นมันถึงได้อยู่ๆก็โพล่งออกมาแบบนั้น แต่ก็...ต้องแกล้งทำเป็นสนใจเสียหน่อย สงสารไอ้นุ่นมัน พอไอ้ป่วนมันไม่อยู่อย่างนี้ไม่มีใครไว้ลับฝีปาก....ปล่อยให้มันพูดอยู่คนเดียว เดี๋ยวไอ้ตัวขี้โวยวายเป็นนิสัยข้างๆนี่มันจะเฉาปากแย่

“มันแม่ง มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อน”
“หึๆๆๆ”
“ขำไร?” ดูสิ ดูสะบัดหน้ามาถาม ตาดุไปไหมนุ่น จะกินเลือดกินเนื้อไอ้คุณแผนมันเรอะ

“ก็....เห็นตอนเขาจีบกันใหม่ๆเชียร์ออกจะตาย”
“แล้วใครว่าตอนนี้ไม่เชียร์เล่า....” ไอ้นุ่นมันทำได้ยังไงไม่รู้ แต่มันหันมาส่งค้อนเสียจนน่ากลัวคอจะหักพร้อมๆกับอมยิ้มแก้มตุ่ย
“อ้าว?”
“เหอะ ตอนนี้ก็ยังเชียร์อยู่ดี ก็พี่อากาศแกน่ารักแถมใจดีออกขนาดนั้น แสดงออกว่าร้ากกกกกรักไอ้ป่วนมันขนาดนั้น.....”

“งั้นจะเบื่อมันทำไม?”
“ก็......เหลือสองคนแบบนี้ มันเหงานี่นา”
“แล้ว....”
“อะไร?”
“แล้วถ้าหากฉันมีแฟนไปอีกคน แกจะว่าไง?”

อ้ะ.......ไอ้นี่สมแล้วที่ชื่อแผน มันมาแผนสูง หลอกถามคำถามเดียวได้เห็นปฏิกิริยาว่าไอ้คุณนุ่นมันจะคิดยังไง แต่.......เซ่อๆอย่างไอ้คุณนุ่น แน่ใจนะว่าจะได้คำตอบที่พอใจน่ะแผน
“ก็.....หาแฟนบ้างไง”

ไอ้คุณนุ่นมันนิ่งคิดอยู่ไม่ถึงชั่วแมลงหวี่ขยับปีกมันก็ตอบออกมาเสียงดังฟังชัด
“ฮะ?”
“ก็ถ้าแกไปมีแฟนอีกคน ฉันก็ถูกทิ้งโดดเดี่ยว ไม่ไหวหรอกนะ ฉันยิ่งขี้เหงาอยู่ด้วย”
“.................”

ไม่มีการโต้ตอบจากเพื่อนแผน นอกจากสายตาที่มองไอ้คุณนุ่นค้างไปแล้ว ตอนนี้ความคิดในหัวมันหมุนวนอย่างกับไต้ฝุ่น แน่ล่ะ อุตส่าห์เฝ้ามาตั้งนาน ถึงอีกฝ่ายจะไม่รู้เรื่องด้วย แต่แค่ลองคิดภาพไอ้นุ่นมันไปมีแฟน ผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่มัน....ใครก็ไม่รู้ที่จะมาเดินข้างๆ ได้สิทธิ์พาไอ้นุ่นไปกินไอศกรีม ไปดูหนัง แถมไปหาที่บ้านให้มันใช้งานอีก.....

ไอ้คุณแผนได้แต่คิดในใจ ลองไอ้หน้าไหนมันเข้ามาสิ พ่อจะกันท่าให้ถึงที่สุดเลย

---ตุ้บ---

“อู๊ย......”
ไอ้แผนมันมัวแต่จมอยู่ในความคิด ขาเลยสาวแต่ละก้าวเร็วขึ้นไม่รู้ตัว ไอ้นุ่นที่เดินตามก็งงว่าจู่ๆเพื่อนของมันเป็นอะไรไป เรียกก็ไม่ตอบเลยเร่งฝีเท้าตามแล้วลืมมองทาง

มันก็เลย....แหมๆๆอายแทนเว้ย ไอ้นุ่นมันตกฟุตบาท ตรงนั้นแหละ ไอ้ตรงสุดฟุตบาทมันจะต้องมีพื้นต่างระดับใช่ไหมล่ะ ไอ้คุณนุ่นมันไม่รู้ว่าถ้าก้าวไปอีกก้าวพื้นมันจะระดับต่ำกว่า มันเลยก้าวไปแล้วไม่ได้เหยียบพื้น ผลน่ะเหรอ ก็เลยตกฟุตบาทแล้วลงไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่บนคอนกรีตน่ะสิ

“นุ่น!! / คุณ เป็นอะไรไหม?”

สองเสียงประสานกันดังขึ้น เสียงแรกที่เรียกชื่อน่ะ เสียงไอ้คุณแผน แล้วไอ้เจ้าของเสียงที่สองล่ะ?
เออนะ....ตอนนี้ไอ้คุณแผนมันก็กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าไอ้หน้าตี๋ตาตี่เป็นสระอินี่มันมาจากไหน มาถึงก็เข้าไปประคองไอ้คุณนุ่นที่กำลังพยายามลุกขึ้นยืนอยู่ แถมมันไม่สงสัยเปล่าด้วยสิ มันตรงเข้าไปอย่างเร็วแล้วจัดการรวบตรงบั้นเอวยกตัวไอ้นุ่นขึ้นมายืนทันที

“เหวออออออ ไอ้บ้าแผน ทำไรเนี่ย ตกใจหมด” ด่าเพื่อนรักไปทีแล้วไอ้คุณนุ่นก็หันไปยิ้มให้อีกคน “ขอบคุณนะคะ อย่าไปเล่าให้ใครฟังนะคุณ ฉันอาย”
ไอ้ตี๋แปลกหน้าตาตี่เป็นสระอิได้ยินแบบนี้ ไอ้ที่ตอนแรกคิดจะช่วยแล้วผ่านไปเฉยๆเลยหันมาให้ความสนใจผู้หญิงประหลาดตรงหน้าอีกครั้ง ผิวสีน้ำผึ้งแบบไทยแท้ๆกับส่วนสูงไม่น่าเกินร้อยห้าสิบ ส่วนที่น่ามองที่สุดคงเป็นตา ตาโตๆคมๆสีดำสนิท แถมแววตาขี้เล่นแบบนั้น.....

“ผมชื่อเงี้ยบ วิศวะปีสอง.....”
“นุ่นค่ะ แล้วนี่แผน เราสองคนอยู่.....”
“เราสองคนต้องรีบไป ดีใจที่ได้รู้จักนะ คุณเงี๊ยบ!!”

ไอ้คุณนุ่นมันไม่ทันได้บอกหรอกว่าตัวเองอยู่คณะไหน ชั้นปีอะไร เพราะพอไอ้คุณแผนมันพูดสอดขึ้นมาจบมันก็ส่งสายตาหาเรื่องระดับสิบไปให้ไอ้ตี๋ตาตี่นั่นหนึ่งที สำทับด้วยเสียงเรียกชื่อเน้นๆที่แปลได้ง่ายๆว่า ผู้หญิงบ้าคนนี้ของกู มึงเข้ามามีเรื่องแน่!!

ไม่ทันให้ได้โต้ตอบไอ้คุณแผนมันก็จัดการลากแขนไอ้นุ่นให้เดินตามลิ่วๆจนแทบจะปลิวตามแรงควายๆของมันลับขอบตึกไปเสียแล้ว พ่อหนุ่มหน้าตี๋คนซื่อชื่อเงี้ยบได้แต่มองตามแล้วคิดในใจ
‘อ้าว มีแฟนแล้วนี่หว่า กูยังไม่ทันทำอะไรเลย กะแค่แนะนำตัว แม่งมองกูซะกูจะตัวหดเป็นมดแล้วเนี่ย สงสารผู้หญิงคนเมื่อกี้....แฟนหวงขนาดนั้นคงแทบกระดิกไม่ได้ ....อ้าวกูเลยลืมชื่อเลย มัวแต่ตกใจ ซวยจริงกู นานๆทีเจอคนน่าสนก็ดันมีแฟนแล้ว เฮ้อ......’


“แผน เบาๆ โอย บอกให้เบาๆไง”
“อ้าว เออ เป็นไงบ้าง?”
“โห......ล้มก็เจ็บก้นจะแย่แล้ว ช้ำแหงๆเลยด้วย แล้วนี่ยังโดนแกลากมาอีก ไอ้แผนบ้า ไอ้ใจร้าย”
“ขอโทษ.......”

“เออๆ ไม่โกรธหรอก แล้วจะรีบไปไหนอ้ะ?”
“พาคนขี้เหงาไปเลี้ยงหนังสักเรื่อง”
“จริงนะ?” ไอ้คุณนุ่นดี๊ด๊าลืมอาการเจ็บก้นเป็นปลิดทิ้งทันที
“อืม......แต่ต้องสัญญามาก่อน”

“สัญญาอะไร?”
“ก็......ถ้าแผนยังไม่มีแฟน นุ่นก็ห้ามไปมีนะ”
“หืม?”
“ก็....ก็....”

“เข้าใจแล้ว มันพูดลำบากนักก็ไม่ต้องพูด ตกลงก็ได้ ยื่นนิ้วก้อยมาดิ เกี่ยวก้อยสัญญาตกลงไหม”
“อ้ะ.....ว่าแต่ เมื่อกี้ที่บอกว่าเข้าใจแล้ว นุ่นเข้าใจว่าไงเหรอ?”
ไอ้คุณแผนก็บ้าตามยื่นนิ้วก้อยที่ยาวกว่านิ้วชี้ไอ้นุ่นซะอีกไปเกี่ยวกับมันตามข้อเสนอ

“อ้าว ก็แผนก็เหงาเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ถ้านุ่นไปมีใครก่อน แผนก็ถูกทิ้งคนเดียว คงเหงาแย่ เลยไม่อยากให้นุ่นไปมีใครไง แหม...เรื่องง่ายๆแค่เนี้ย อาการกลัวความเหงามันไม่ทำให้ผู้ชายดูแย่หรอกนะแผน พูดออกมาตรงๆเลยก็ได้ มัวแต่อ้ำอึ้ง...ดีนะเนี่ยที่นุ่นเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ”

ไอ้คุณแผนได้แต่คิด....นุ่นเอ๊ย แกนี่ก็พูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำเนอะ ว่าตัวเองเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ ทีหลังพูดให้มันครบๆสิ พูดเลย ว่าตัวเองน่ะเป็นคนเข้าใจอะไรผิดได้ง่ายๆ
.........เฮ้อ น่าสงสารแผนมันจริงๆ


~~~~~~~~~~~~~



พ่อครัวเอกประจำวันยืนหน้าแดงหูแดงซาวข้าวอยู่หน้าอ่างล้างจาน เสื้อนักศึกษาสีขาวถูกพับแขนขึ้นไปเหนือศอกอย่างเรียบร้อย

ที่หน้าแดงก็เพราะไอ้การจัดการกับแขนเสื้อนี่แหละ ตอนแรกตัวป่วนมันก็ถกๆขึ้นธรรมดา แต่พี่อากาศสิทำตัวเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่ดีเกินไป ยื่นมือมาพับให้ทั้งสองข้างอย่างรวดเร็วแล้วเลยขอรางวัลเป็นการหอมแก้มของพ่อครัวไปอีกหนึ่งฟอด ตัวป่วนมันจะทำอะไรได้ ตอบโต้อะไรไม่ได้ก็เลยทำเป็นปกติ หยิบของสดเท่าที่หาเจอในตู้เย็นออกมาทั้งหมด แล้วก็ทำเป็นพูดเรื่องโน้นเรื่องนี้กะว่าเอาให้ไกลตัวที่สุดเท่าที่จะทำได้


“เหอะ ชวนคนอื่นมากินข้าวบ้าน ทั้งที่บ้านตัวเองมีแค่ไข่ไก่สามฟอง กับกะหล่ำปลีหนึ่งก้อน”
“ใครว่า ในช่องข้างล่างเหลือหมูสับอยู่นิดนึงด้วยต่างหาก”
“โอเค งั้นผมจะแสดงฝีมือเอง พี่ฟ้าเอากะหล่ำไปล้างก่อน แล้วหั่นซะ”

“รับทราบครับ ว่าแต่จะให้พี่หั่นยังไงล่ะ?”
“เอาแบบไม่ต้องละเอียดมากน่ะ ตู้พวกนี้ผมเปิดดูได้หมดเลยรึเปล่า?”
“อยากดูอะไรอยากใช้อะไรก็เชิญเลยครับ แฟนเจ้าของบ้านทั้งคน หึๆๆ”
“พี่ฟ้า..... มาตกลงกันก่อน ถ้ายังอยากกินกับข้าวที่มั่นใจว่าคนกินได้จริงๆ พี่ต้องหยุดพูดคำว่าแฟน เดี๋ยวนี้”

“ทำไมล่ะ ตัวป่วนไม่ดีใจที่เป็นแฟนกับพี่เหรอ?” เอาอีกแล้ว ทำเสียงหมาหงอยทั้งๆที่ลูกกะตาเป็นประกายเยิ้มขนาดนั้น ทำได้ไงเนี่ยคุณอากาศ

“.....ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ผมเขิน ตอนนี้ผมเขินมาก แล้วถ้าพี่ยังทำให้ผมเขินมากไปกว่านี้นะ ผมก็จะกลับเดี๋ยวนี้แหละ”

พี่อากาศเชื่อสนิทใจทันทีว่าตัวป่วนน้อยๆกำลังเขินอย่างรุนแรงเมื่อมันหันกลับมาเผชิญหน้าด้วย และเพราะยังอยากกินอาหารด้วยกัน ถึงจะไม่มั่นใจในรสมือไอ้เด็กน้อยที่ปั้นหน้าถมึงทึงข่มขู่อยู่ตรงหน้าเท่าไหร่ แต่สำหรับพี่แก ขอแค่ได้ช่วยกันทำอาหารแล้วนั่งลงกินพร้อมกันก็คงทำให้คืนนี้นอนหลับฝันดีแล้ว พี่อากาศผู้บอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่จึงยกมือสองข้างตั้งฉากกับพื้นแสดงท่ายอมแพ้โดยสิ้นเชิงทันที


~~~~~~~~~~~~~


“หอมจัง......”
“ใช่ม้า.....อ้ะ กินกันๆๆ หิวๆ ยิ่งหอมยิ่งหิว เดี๋ยวๆพี่ฟ้าอย่าเพิ่งนั่ง ไปยกน้ำมาก่อนเลย”
“คร้าบบบบบบบบบ”
โต๊ะกระจกขนาดสี่คนนั่งตอนนี้วางจานข้าวสองจานพร้อมกับไข่น้ำหอมฉุยส่งควันกรุ่น และกะหล่ำปลีผัดกับปลาเค็ม กับข้าวมีแค่สองอย่าง เพราะขนาดตัวป่วนมันรื้อค้นจนทั่วครัว สิ่งที่ได้เพิ่มเติมมานอกจากไข่สามฟอง และกะหล่ำหนึ่งหัว ก็มีแค่เศษปลาอินทรีเค็มในน้ำมันอีกชิ้นเดียวเท่านั้น

“ชิมสิพี่ฟ้า...” เอ้า ไม่ต้องลุ้นขนาดนั้นก็ได้ตัวป่วนเอ๊ย ต่อให้น้ำต้มผักเน่าๆคุณพี่อากาศของแกก็ต้องบอกว่าหวาน กร๊ากกกกก

“อร่อยจริงด้วย ไม่น่าเชื่อ....”
“บอกแล้วว่าเรื่องอย่างนี้อย่ามาดูถูกกัน ชิมอีกจานด้วยสิ” เรียกร้องให้คุณแฟนหมาดๆชิมฝีมือตัวเองไป ปากก็เคี้ยวข้าวตุ้ยๆไป ไอ้หนูป่วนนี่มันน่ารักจริงๆ
“จานนี้หน้าตาแย่กว่าไข่น้ำอีกนะ” ปากก็วิจารณ์หน้าตาอาหารแต่ก็ตักชิมไม่มีเกี่ยงงอน ปฏิบัติตามคำสั่งได้ตามที่สัญญาจริงๆด้วยเว้ย

“เป็นไง?”
“อร่อย.....ตัวป่วนทำให้ไอ้พวกนี้อร่อยขึ้นมาได้ไงน่ะ?”
พี่อากาศแกหลากใจจริงๆแล้วคราวนี้ ตอนแรกก็เตรียมตัวทำข้าวผัดกินง่ายๆกันสองคน ยิ่งกว่านั้นพี่แกคิดไปถึงว่าแม้แต่ข้าวก็คงต้องหุงเองด้วยซ้ำ

------อยากจะหนีให้ไกล ที่ไหนก็ได้ให้ไกลแสนไกล------
“โหลๆว่าไงแผน?”
“เออ ยังอยู่ที่คอนโดพี่ฟ้าอ้ะ.....กลับสิ เออ มากินข้าวเฉยๆ เดี๋ยวพี่ฟ้าไปส่ง” หันหน้ามาป้องปากถามพี่อากาศที่กำลังอร่อยแวบนึง
“พี่ฟ้าไปส่งผมใช่ป้ะ?” พี่อากาศที่มีข้าวอยู่เต็มปากก็พยักหน้าให้
“อืม....จะให้ซื้ออะไรเข้าไปให้ป้ะล่ะ?.....อาฮะๆ เออ.....รู้แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก”
---ตื๊ดดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดด---


“น้องแผนเป็นห่วงตัวป่วนล่ะสิ”
“อืม.....สงสัยแผนมันกลัวพี่ปล้ำผมมั้ง เตือนโน่นเตือนนี่วุ่นวายไปหมด ฮ่าๆๆๆ” พี่อากาศได้ยินอย่างนั้นถึงกับสำลักข้าว คว้าแก้วน้ำมาดื่มตามแทบไม่ทัน เดือดร้อนไอ้หนูป่วนต้องลูบหลังช่วยอีก

“ตัวป่วน พี่มีเรื่องสารภาพ”
“.......?.....”
“......เมื่อบ่าย ตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัว พี่เกือบจะยั้งใจไม่อยู่แล้ว เกือบจะทำผิดสัญญาไปแล้วนะ โกรธพี่รึเปล่า?”
“................”
“ว่าไงครับ?”

“ผมไม่ได้โกรธ แค่.....ตกใจนิดหน่อย”
“แล้ว.....กลัวพี่รึเปล่า?”
“ก็ ถ้าพี่ฟ้าไม่ทำอะไรแปลกๆ แล้วก็ยังทำตามสัญญาต่อไป ผมก็ไม่กลัวหรอก”
“ขอบคุณนะครับ”
“อืม ผมก็ขอบคุณพี่เหมือนกันนะ”


~~~~~~~~~~~~~


“จะกลับเลยหรือจะดูหนังกันก่อน?”
“วันนี้กลับก่อนดีกว่า กางเกงว่ายน้ำยังอยู่ในถุงอยู่เลย เดี๋ยวเน่า”
“ตามบัญชาครับ จะเข้าห้องน้ำก่อนมั้ย?”

พี่อากาศถามไปมือก็เช็ดจานที่เพิ่งล้างเสร็จไป ในใจก็คิด ไว้คราวหน้าไปห้างต้องหาซื้อผ้ากันเปื้อนมาเตรียมไว้ ไม่งั้นเสื้อนักศึกษาสีขาวคงเลอะเทอะแบบวันนี้อีกแน่
“หึ”

ไอ้หนูป่วนที่ยืนพิงเคาน์เตอร์ครัวอยู่ข้างๆปฏิเสธพร้อมส่ายหน้าจนผมฟูๆหลังโดนคลอรีนยิ่งกระเจิง
เก็บล้างทำความสะอาดเสร็จพี่อากาศแกก็ขับรถพามันมาส่งบ้าน ตัวป่วนมันก็ทำตัวได้สมวัยเหลือเกิน กินเสร็จแล้วก็นอน ขึ้นรถมาพ้นประตูหน้าคอนโดพี่อากาศแกได้หน่อยก็หลับคอพับไปเสียแล้ว จนถึงหน้าบ้านนั่นแหละ ก็ต้องเป็นหน้าที่พี่อากาศแกต้องปลุกเด็กน้อยตามเคย


“ตัวป่วน ถึงบ้านแล้ว”
เสียงเรียกของพี่อากาศตัวโตทะลุผ่านม่านความง่วงของไอ้หนูป่วนเข้าไปจนได้ มันงัวเงียตื่นมาหยีตามองคนขับรถที่พ่วงตำแหน่งคุณแฟนหมาดๆหน่อยนึง แล้วก็ส่งยิ้มให้ ปลดเข็มขัดนิรภัย เอื้อมไปหยิบข้าวของที่เบาะหลัง พนมมือขอบคุณคนมาส่งตามประสาเด็กน้อยมารยาทงาม แล้วตั้งท่าจะเปิดประตูเตรียมเข้าบ้าน แต่ก็ถูกรั้งไว้ด้วยเสียงออดอ้อนของคนขับรถ

“จะไม่ลาพี่หน่อยหรือครับ?”
“.............”
“หึๆๆ โอเคครับ พี่ล้อเล่น ไว้วันหลังก็ได้เนอะ”
ไอ้หนูป่วนมันเลยยิ้มอายๆให้อีกที แล้วเลยโน้มตัวเข้าไปหา แตะปากลงบนแก้มที่เริ่มจะสากเพราะไรหนวดของคนเรียกร้องอยากได้การลาที่ตอนนี้นั่งอ้าปากค้างแถมยังเบิ่งตาโตอย่างคาดไม่ถึง

“ขับรถกลับดีๆนะพี่ฟ้า”


~~~~~~~~~~~~~



Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 1 มีนาคม 2554 19:38:50 น.
Counter : 348 Pageviews.

1 comments
  
หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนเกิ๊นอิจฉาอ่ะ อิอิ
โดย: sai IP: 118.174.105.42 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:31:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
กุมภาพันธ์ 2554

 
 
1
3
6
8
16
18
19
20
21
22
24
27
 
 
All Blog