เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนที่๑๖
ตอนที่๑๖: มีนัด


“แกมีทางเลือกสองทาง”

“ว่ามา?”
“ยอมด้วยความสมัครใจ กับ ยอมด้วยการถูกบังคับ”
“เฮ้ยยยยยยยยยย”

“เอ่อ.....ไม่มีไร ตกใจนิดหน่อย ใครใคร่หลับหลับ ใครใคร่ลอกลอกนะเพื่อนๆนะ แหะๆ”

เช้าวันจันทร์สุดท้ายก่อนฤดูสอบปลายภาคของไอ้ตัวป่วนและเพื่อนๆเริ่มต้นขึ้น ที่โต๊ะคณะเหมือนเดิม ตัวป่วนมันเพิ่งเล่าเหตุการณ์ระทึกที่คอนโดพี่อากาศแกให้เพื่อนรักเพื่อน เลิฟสองคนฟัง

ที่จริงแล้วตัวป่วนมันก็ไม่ได้อยากเล่าเท่าไหร่หรอก แต่ไอ้เพื่อนนุ่นสิ เซ้าซี้ถามเหลือเกิน แถมมีขู่จะงอนด้วยถ้าไม่ยอมเล่า ส่วนไอ้เรื่องเอามาขู่น่ะเหรอ ก็แค่ประโยคง่ายๆ
‘ใช่สิ! ฉันมันไม่สำคัญแล้วนี่’ พร้อมกับส่งสายตาหมาหงอยมาให้ ตีจุดอ่อนที่ความใจอ่อนของไอ้หนูป่วนมันชะงัดนัก

พอเล่าจบ ไอ้หนูป่วนมันเลยขอความเห็นเสียเลยว่าจะทำยังไงดี แล้วคำตอบจากไอ้นุ่นก็อย่างที่ว่านั่นแหละ คือมีทางเลือกแค่สองทาง คือยอมๆไปแบบสมัครใจกับต้องยอมอยู่ดีเพราะถูกบังคับ แล้วไอ้ป่วนมันก็เลยอุทานออกมาเสียงดังจนไอ้เพื่อนๆคนอื่นที่กองสุมกันไม่ ห่างโงหัวขึ้นมามองเป็นตาเดียว

“ทำไมวะ มันไม่มีทางที่ฉันกับพี่เขาจะไม่ต้องมีอะไรกันเลยเหรอ?”
หลังจากแก้ตัวน้ำขุ่นจัดกับเพื่อนๆไปแล้วไอ้หนูป่วนมันก็ถามใหม่แบบหรี่เสียงลงให้พอได้ยินกันแค่สามคน

“คืองี้นะป่วน แกอ้ะ ทำให้ตัวเองอยู่ในภาวะเสี่ยงเองรู้ตัวมั้ย?”
“หืม?”

“ฟังนะ อาจารย์ที่โรงเรียนฉันเคยสอนว่า ผู้ชายทุกคนมีนิสัยอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือการได้คืบจะเอาศอก”

ไอ้เพื่อนนุ่นมันพูดมาถึงตรงนี้ ไอ้คุณแผนที่วางท่าว่าไม่ได้สนใจในบทสนทนามาตลอดก็ยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงเอา มือสองข้างประสานกันไว้บนโต๊ะแสดงท่าสนใจเต็มที่
“อ้าว งั้นฉันกะไอ้แผนก็ด้วยอะดิ”

“เออสิ.......แต่เผอิญพวกแกเป็นเพื่อนฉัน ฉันเลยไม่นับ”
“แล้วไง? ได้คืบจะเอาศอกแล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ไอ้ป่วนมันจะต้องมีเซ็กกับแฟน มัน?” โห.....ไอ้แผนนี่ก็เลือกใช้คำนิดนึงเฮอะ ตัวป่วนมันหน้าตาแดงก่ำหมดแล้ว

“ก็เพราะไอ้ป่วนน่ะมันยอมให้เขากอด ยอมให้เขาจูบ แล้วพวกแกสองคนคิดดูนะ ผู้ชายน่ะมีนิสัยได้คืบจะเอาศอกก็คือพอได้เท่านี้ก็อยากจะได้รับอะไรที่มัน มากกว่า เพิ่มขึ้นๆไม่มีสิ้นสุด ทีนี้เข้าใจรึยังว่าเกี่ยวยังไง”

“เออว่ะ” ไอ้คุณแผนเออออขึ้นมาทันที ในขณะที่ไอ้ตัวป่วนยังคงนิ่งเงียบ แถมทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเสียด้วย

“อาจารย์แกบอกว่า ‘นักเรียนคะ เราน่ะเป็นลูกผู้หญิง เราต้องรักนวลสงวนตัว ผู้ชายน่ะนะคะ ถ้าเราอนุญาตให้จับมือ เผลอแป๊บเดียวมันจะกลายเป็นโอบไหล่ ถ้าเราอนุญาตให้โอบไหล่ เผลออีกแป๊บก็จะได้ใจใกล้เข้ามาอีกเป็นโอบเอว’ เนี่ย อาจารย์ฉันสอนเอาไว้อย่างนี้แหละ”

“หึๆๆ เออๆสอนดี อาจารย์แกนี่รู้จริงเว้ย”
ไอ้คุณแผนมันกลั้นไว้ไม่อยู่ต้องขำสำเนียงแบบอาจารย์แม่ของไอ้นุ่นมันจนได้ ส่วนไอ้หนูป่วนน่ะเรอะ ทั้งๆที่ยังกังวลอยู่ก็หลุดขำออกมาซะงั้น

“ไอ้นุ่นบ้า แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะเว้ย ฮ่าๆๆๆๆ”
“เออ แต่แฟนแกก็ผู้ชายนี่หว่า ใช้ได้เหมือนกันแหละ”

“งั้น ถ้าฉันไม่พร้อมจะมีอะไรกับพี่ฟ้า ฉันก็ต้องไม่ให้พี่เขา...เอ่อ..เข้าใกล้สินะ”
“ก็คงงั้น....ว่าแต่ แกจะทำได้เร้อ??? แกเองก็ติดพี่อากาศแกอย่างกับอะไร”
“เออสิ ถ้าไม่ได้กอดเลย จะทนไหวรึเปล่าก็ไม่รู้......”

ไอ้เพื่อนแผนกับไอ้เพื่อนนุ่นได้ยินตัวป่วนมันเปรยออกมา แล้วสองคนก็ได้แต่มองตากันแล้วก็ส่ายหน้าไปมา ในใจคิดตรงกันโดยไม่ได้นัดหมายเป็นครั้งแรก ‘แกทนไม่ได้แน่ว่ะ ไอ้ป่วน’

~~~~~~~~~~~~~


12.00 น.
เสียงโทรศัพท์มื้อกลางวันดังขึ้นตรงเวลาเป๊ะ
“พี่ฟ้า?”
“มื้อกลางวันกินข้าวที่ไหน?”

“โรงอาหารที่ตึกคณะ กำลังเดินกลับกับไอ้แผนไอ้นุ่นอยู่ พี่ฟ้าล่ะ?”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปกินด้วยนะครับ คิดถึง เมื่อเช้าก็ไม่ได้ไปหา.....”
“อืม....จะให้ซื้ออะไรไว้ก่อนมั้ย?”
“ไม่เป็นไรครับ พี่รีบไปคงไปถึงพร้อมๆกันแหละ”

“โอเค”
“รักนะครับ”
“อืม.......ผมรู้”
---ตื๊ดดดดดดดด ตื๊ดดดดดด---

“ห่างกันพ้นวันยังไม่ได้.......เฮ้อ......”
“บ้าแล้ว พี่เขาแค่จะมากินข้าวกลางวันด้วยเฉยๆเอง”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ว่าแต่เมื่อกี้ที่คุยโทรศัพท์พี่อากาศแกบอกว่ารักรึว่าบอกว่าคิดถึงล่ะ?”
“ทั้งสองอย่าง..... เฮ้ยยยย!! แกรู้ได้ไงอ้ะ?”

“ก็หน้าแกไง ยิ้มอย่างกับโลกทั้งโลกอยู่ในกำมือ ชิ แล้วยัง ‘อืม....ผมรู้’ เสียงอ่อนเสียงหวานนั่นอีก อิจฉาโว้ยยยยยยยย”
ไอ้คุณนุ่นมันไม่ตอบเฉยๆแต่ยังจิ้มหน้าผากไอ้ตัวป่วนไปอีกทีอย่างหมั่นไส้ สุดขีด ฮ่าๆๆๆ เล่นเอาไอ้ตัวป่วนที่เขินจากคำบอกรักทางโทรศัพท์อยู่แล้วยิ่งเขินเข้าไปใหญ่ จะหลบหน้าไอ้นุ่นคนชอบแซวหันไปขอความเห็นใจจากไอ้แผน ก็กลับอายเพิ่มไปอีก

ก็ไอ้คุณแผนน่ะ ถึงมันไม่แซวออกมาเป็นคำพูด แต่มันกลับใช้วิธีมองหน้ายิ้มๆแบบรู้ทัน ไม่อายตอนนี้ไอ้หนูป่วนมันจะไปอายตอนไหน เลยยิ่งเร่งเดินกลับคณะจนขาแทบขวิด และแน่ล่ะ เพื่อนนุ่นที่ปากอยู่ไม่สุขย่อมไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือ

“โห.......นี่แกคิดถึงพี่เค้ามากจนต้องรีบเดินขนาดนี้เลยเหรอ พี่อากาศรู้เข้าคงดีใจแย่เลยเนอะ โฮะๆๆๆ”

“เงียบปากไปเลยไอ้นุ่น ไม่งั้น......”
“ทำไม ไม่งั้นอะไร?”

“ไม่งั้นต่อไป ฉันจะไม่เล่าอะไรให้แกฟังอีกแล้ว”

ได้ผล คำขู่นี้ห้ามปากไอ้คุณนุ่นได้ชะงัด มันปิดปากเงียบแล้วหันไปส่งสายตาฟ้องกับไอ้คุณแผนทันที ไอ้คุณแผนน่ะเหรอ ก็ได้แต่ยิ้มน่ะสิ ยักไหล่ให้กับท่าทางหาพวกของไอ้นุ่นมัน แล้วก็อมยิ้มกับตัวเองจนแก้มตุ่ยเชียว

ส่วนไอ้หนูป่วนผู้คิดจะลดความเสี่ยงในการเสียตัวของตัวเองอยู่เมื่อเช้านั่น ตอนนี้มันจ้ำนำไปข้างหน้าอย่างเร็ว..... ใจน่ะ ล่วงหน้าไปหาพี่ฟ้าของมันนานแล้ว แถมยังคิดเสียด้วยนะว่า ในเมื่อเพื่อนรักเพื่อนเลิฟทั้งสองตัวตั้งท่าแซวกันขนาดนี้ เดี๋ยวเจอพี่ฟ้าคนใจดีต้องอ้อนขอความเห็นใจสักหน่อย

คิดได้อย่างนี้ไอ้หนูป่วนก็มีความสุข วางแผนเสร็จสรรพว่ากินข้าวเสร็จจะถามพี่ฟ้า ว่าวันนี้เย็นมีธุระอะไรมั้ย ถ้าไม่มีจะได้ขอไปบ้านด้วย.........

เดอะ ไลอ้อน คิง ที่ดูค้างไว้ยังไม่จบเลยเพราะว่าเผลอหลับไปก่อน เดี๋ยววันนี้ไปดูต่อดีกว่า......

~~~~~~~~~~~~~


“ตกลงแกจะไปบ้านพี่เขา?”
“อือฮึ”


ตอนนี้เลิกเรียนแล้วตัวป่วนมันรอโทรศัพท์พี่อากาศของมันอยู่ รอไปก็เล่นปิงปองไป ก็คณะมันเล็กถ้าจะเล่นอย่างอื่นก็ต้องไปขอใช้สนามกับคณะข้างๆ มีแต่ปิงปองนี่แหละที่กลางวันก็พับโต๊ะเก็บ พอตกตอนเย็นก็ลากออกมากาง โต๊ะปิงปองโต๊ะเดียว ใครว่างเมื่อไหร่ก็มาเล่นกันได้ทั้งคณะ

“งั้นรอแป๊บ”
สั่งเสร็จไอ้เพื่อนนุ่นก็วิ่งกระโปรงปลิวหายไปทางห้องสโมสรนักศึกษา ตัวป่วนมันก็รับคำเออออไปงั้นแหละ สนใจอยู่แต่กับลูกปิงปองที่กำลังตีโต้ตอบกับรุ่นพี่ปีแก่กว่าอยู่

ไอ้นุ่นหายไปได้สักพักก็กลับมาเชียร์ให้ตัวป่วนมันแพ้เค้าเหยงๆ จะได้เลิกเล่นสักที ผ่านไปอีกไม่ถึงสองนาทีไอ้หนูป่วนมันเลยแพ้ตามแรงยุของไอ้คุณนุ่นจนได้

--แป๊ะ!!--
อย่าได้ตกใจไม่มีอาแป๊ะที่ไหนเดินผ่านมาหรอก แต่เป็นเสียงหน้าผากเหม่งๆของไอ้นุ่นถูกไอ้หนูป่วนมันดีดเอาเต็มแรง

“นี่แน่ะ แช่งดีนัก”
“เลววววววว ดีนะฉันเกิดมาหัวแข็ง อ้ะ เอาไป” ด่าเพื่อนพอเป็นกระษัยแล้วไอ้คุณนุ่นมันก็ยัดกล่องกระดาษใส่มือไอ้หนูป่วน พร้อมส่งสายตาว่าทำภารกิจเพื่อชาติสำเร็จไปให้ ตัวป่วนมันดูของในมือแล้วได้แต่อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก มองหน้าไอ้นุ่นสลับกับของในมือไปมา

“มีอะไรกัน?” ไอ้แผนที่รอคิวเล่นปิงปองอยู่คงหันมาเห็นอาการแปลกๆของเพื่อนสองคนพอดี เลยทนไม่ไหวต้องปรี่เข้ามาหาสาเหตุความผิดปกติของไอ้เพื่อนที่คบกันมา ตั้งแต่อนุบาลอีกคน

“ไม่มีอะไรหรอกแผน แค่คอนด้อมน่ะ” อย่าได้คิดเชียวว่าเป็นเสียงไอ้หนูป่วน ก็มันเพิ่งจะหยุดอ้าปากค้างแล้วหุบปากลงได้เมื่อกี้เอง สงสัยกลัวแมลงวันบินเข้าปากมั้ง

“หึๆๆๆๆๆ”
ไอ้แผนมันมองสีหน้าแอ๊บเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นของไอ้คุณนุ่น กับหน้าตาทั้งเหวอทั้งแดงแปร๊ดของไอ้หนูป่วนแล้วก็หลุดขำออกมาจนได้ ก็ไอ้คุณนุ่นน่ะ หน้ามันนิ่งจริงอยู่หรอก แต่ตานี่สิเต้นริกๆแบบกำลังสนุกมากที่ได้แกล้งไอ้ป่วนมันเห็นๆ ในขณะที่ไอ้คนถูกแกล้งก็รู้ทั้งรู้นะว่าเพื่อนแกล้งแต่กลับตอบโต้อะไรไม่ได้

“พกติดตัวไว้นะป่วน เผื่อฉุกเฉิน ฉันช่วยลดความเสี่ยงในการเสียตัวให้แกไม่ได้ แต่เรื่องอื่นๆฉันก็ช่วยได้เท่านี้ล่ะนะ”
แหม....น้ำเสียงคุณเพื่อนผู้แสนดีแสนจะจริงใจมันไม่ได้เข้ากับแววตาเห็นเรื่องเสียตัวของเพื่อนเป็นเรื่องสนุกของแกเลยไอ้นุ่นเอ๊ย

“หึๆๆ ลงทุนซื้อมาให้มันเลยเหรอ?”

“ซื้อซะที่ไหนล่ะ เพิ่งไปหยิบมาจากกล่องพยาบาลในห้องสโมเมื่อกี้นี้เอง”
“เฮ้ย....กล่องพยาบาลเนี่ยนะ?”
“เออสิ เห็นว่ามีอยู่ตั้งแต่ตอนไปค่ายแล้ว เลยไปลองค้นๆดู กะแล้วเชียวว่าต้องยังอยู่”

---อยากจะหนีให้ไกล ที่ไหนก็ได้ให้ไกลแสนไกล---

“พี่ฟ้า?”
“พี่เลิกแล้ว กำลังจะไปหาที่คณะนะ”
“เอ่อ......ไว้ ไว้ค่อยไปวันหลังดีกว่า...”

“หืม? มีอะไรรึเปล่า?”
“คือ......ว้า!!”
“มีอะไรครับ บอกพี่มาเถอะ แบบนี้พี่ไม่สบายใจเลย”

“พี่ฟ้า...จะไม่ทำอะไรผมใช่มั้ย?”
“....พี่สัญญาไปแล้วไงครับ พี่จะไม่ฝืนใจป่วน แล้วก็จะไม่ทำอะไรที่ป่วนไม่อนุญาต”
“งั้นเดี๋ยวพี่ฟ้าไปเจอผมที่ซุปเปอร์ชั้นล่างนะ ไปซื้อป๊อปคอร์นไปอบกินเล่นด้วยดีกว่า”

“ตกลงครับ”
“พี่ฟ้า......”
“ว่าไงครับ?”
“ผมรักพี่นะ”


---ตื๊ดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดดดดด---

~~~~~~~~~~~~~



“เอาไงดี เริ่มใหม่เลยหรือจะดูต่อจากวันก่อน?”

“เริ่มใหม่เลยดีกว่า แต่พี่ฟ้าอย่าเพิ่งเปิดนะ รอผมไปเข้าห้องน้ำก่อน”

คนพร้อมของกินพร้อม เดอะ ไลอ้อน คิง ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง พี่อากาศกับตัวป่วนต่างคนต่างนั่งอยู่บนโซฟายาวตัวเดียวกัน หันหน้าเข้าจอโทรทัศน์ คั่นกลางด้วยโถกระเบื้องที่บรรจุข้าวโพดคั่วที่ถูกทำให้พร้อมหม่ำด้วย ไมโครเวฟ หอมกลิ่นเนยคลุ้งไปทั่วห้อง

ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไอ้ตัวเล็กที่นั่งตรงๆก็เริ่มเลื้อย โถข้าวโพดน่ะ ถูกสองคนจ้วงหมดไปตั้งแต่สิบนาทีแรกแล้ว ไอ้ตัวเลื้อยๆเลยไม่ต้องกะระยะอะไรมากก็วางหัวแหมะลงกับตักของพี่อากาศแก อย่างเหมาะเหม็ง

“ง่วงแล้วเหรอ?”

“เปล่าอะ เมื่อยเฉยๆ”
ขยับหัวยุกยิกจนได้มุมสบายแล้วตัวป่วนมันก็จัดการคว้ามือของพี่อากาศที่เริ่มนั่งตัวเกร็งมาวางแหมะลงบนผมนิ่มๆของมัน แถมออกคำสั่งอีก
“พี่ฟ้าอย่าทำตัวแข็งสิ มันนอนไม่สบาย”

พี่อากาศคนเคยเจ้าเล่ห์ได้แต่ทำใจ ก็คุณแฟนมานอนหนุนตักทำหน้าตาน่ารักใกล้ขนาดนี้ อยากจะทำอะไรๆให้มันรู้แล้วรู้รอดไปแต่ก็ไม่กล้า กลัวไอ้หนูป่วนมันจะโกรธแล้วจะเสียใจร้องไห้อีก ได้แต่ข่มอารมณ์ไม่ยอมมองหน้าขาวๆปากแดงๆที่มาอาศัยตักเป็นหมอน ตีกรอบสายตาตัวเองให้จ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างเดียว

จนซิมบาโตเป็นหนุ่มคิดจะกลับมาทวงความเป็นเจ้าป่าคืนจากอาแท้ๆอย่างสกา ร์นั่นแหละ พี่อากาศแกถึงได้เริ่มเอะใจว่าทำไมไอ้ตัวบนตักมันถึงได้นิ่งเงียบผิดปกติ พอเหลือบๆสายตามองดูถึงได้รู้ว่าไอ้คนอยากมาดูหนังต่อให้จบมันหลับสนิทไป แล้ว แถมพอก้มหน้าลงไปใกล้ๆยังได้ยินเสียงกรนเบาๆอีกต่างหาก


ไม่รู้ว่าเพราะแรงขยับตัวของพี่อากาศแกหรืออะไร อยู่ๆไอ้ตัวที่นอนตะแคงหันหน้าออกไปหาโทรทัศน์ก็พลิกกลับมานอนหงาย

สงสารพี่อากาศแกนะ อยากจูบไอ้ตัวปากแดงๆนั่นจะแย่ ได้แต่จดๆจ้องๆ พอโน้มตัวลงไปใกล้ก็นึกถึงที่เพิ่งถูกหักคะแนนไปเมื่อตอนไม่สบาย ในที่สุดเลยเอนตัวพิงพนักโซฟาหลับตาปี๋ อย่างกับอยากจะให้ตัวเองจมโซฟาตายไปเสียเลย

หารู้ไม่ว่าไอ้ตัวที่มันฟอร์มว่าตัวเองหลับเป็นตายไปแล้วนั่น ลืมตาขึ้นมามองเห็นอาการคนที่เคยให้คำกำจัดความว่าเจ้าเล่ห์แสนกลแล้วต้อง ยิ้มจนปากจะฉีกถึงรูหู แต่แค่นี้ยังไม่พอหรอก คิดจะทดสอบทั้งทีต้องเอาให้ถึงที่สุด......

เห็นอาการพี่อากาศของมันอย่างนั้นแล้วไอ้หนูป่วนเลยสบายอกสบายใจ สบายจนเผลอหลับไปจริงๆ พี่อากาศของมันก็แสนดี ปล่อยมันนอนไปได้สักพักก็กลัวไอ้ตัวเล็กนั่นมันจะหิว

ก็ทุกทีเห็นกินเก่งจะตาย เลยค่อยผ่อนศีรษะมันวางลงกับหมอนอิงเล็กๆแถวนั้น ส่วนตัวเองก็ลุกมาหุงข้าวแล้วก็ทำอาหารหลักประจำตัวคือไข่เจียวเอาไว้ รื้อกระปุกน้ำพริกเผา น้ำพริกตาแดงที่แม่จ๋าใส่หลังรถมาให้เป็นเสบียงตั้งแต่คราวก่อนออกมาอีก สองกระปุก แตงกวากับถั่วฝักยาวในตู้เย็นเอาออกมาล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำไว้เรียบร้อย แล้วเลยเดินไปปลุกไอ้ตัวที่แกล้งหลับจนหลับจริงๆนั่น


“ตัวป่วน ตื่นได้แล้ว” ไอ้เด็กขี้เซามีเรอะจะตื่นง่ายๆ
“ป่วน ลุกมากินข้าวเย็นก่อนเร็ว”
“อืม....กี่โมงแล้วอ้ะพี่ฟ้า ทำไมหิวจัง” ไอ้นี่ก็สเต็ปเดิม ตื่นมาใหม่ๆต้องหยีตาเอาไว้เพราะกลัวแสงไฟ เด็กมันวัยกำลังกินกำลังนอนจริงๆ

“หิวก็ลุกไปล้างหน้าก่อนเลย แล้วจะได้มากินข้าว”

คราวนี้ไอ้ตัวดีไม่พูดอะไร แต่ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปหาพร้อมกระพริบตาขอความเห็นใจอีกสองปริบ พี่อากาศแกก็ยื่นมือมาช่วยฉุดมันขึ้นมาจากโซฟาตามที่ต้องการ พอยืนขึ้นได้ไอ้หนูป่วนมันก็เดินไปล้างหน้าล้างตาตามคำสั่งโดยดีแล้วพอเดิน กลับมาที่โต๊ะอาหารก็ถามคำถามเดิมอีกครั้ง

“พี่ฟ้า กี่โมงแล้วอ้ะ?”
“อีกสิบนาทีสองทุ่ม มากินข้าวกันเร็ว พี่จะได้ขับรถไปส่ง เดี๋ยวดึกเกินน้องแผนเป็นห่วงตัวป่วนแย่นะ”

“อืม........งั้นเอางี้ดีกว่า”
“หืม?”

“เดี๋ยวโทรศัพท์แป๊บ” ไอ้หนูป่วนหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมๆกับที่พี่อากาศตักข้าวมาวางให้
“โหลๆแผน....เออ ยังอยู่บ้านพี่ฟ้า....... เออ ไม่ต้องห่วงนะ วันนี้ไม่กลับ ช่ายยยยย จะค้างบ้านนี้อ้ะ อ้าว ก็นอนกะพี่ฟ้าอะดิ เออ แค่นี้แหละ ปิดบ้านได้เลยนะ......อืมๆ”

คุยเสร็จไอ้ตัวดีมันก็เริ่มตักข้าวกินอย่างเอร็ดอร่อย ในขณะที่คนนั่งตรงข้ามยกช้อนค้างไปแล้ว
“ทำไมไม่กินล่ะพี่ฟ้า ไข่เจียวมันต้องกินตอนร้อนๆสิถึงจะอร่อย อ้ะ.....ผมตักให้”

“เมื่อกี้ตัวป่วนบอกน้องแผนว่าจะนอนนี่งั้นเหรอ?”
“อาฮะ”
รับปากรับคำว่าที่พี่ท่านได้ยินน่ะไม่ผิด แต่ตาน่ะสนใจมองอยู่แต่ที่จานข้าว ไม่กล้าจะมองหน้าพี่เขาล่ะสิแกไอ้ตัวป่วน กลัวเขาจะรู้ล่ะสิว่าตัวเองคิดอะไรอยู่และกำลังรู้สึกสนุกแค่ไหนที่ได้แกล้ง คนแก่อีกแล้ว

“นอนที่นี่.......คือ หมายถึงนอนเฉยๆ งั้นใช่มั้ย?”
แหมๆๆทางนี้ก็แอบหวังนะเนี่ย ถามซะตะกุกตะกักเชียว
“อาฮะ ก็นอนเฉยๆน่ะสิ พี่ฟ้า.......คิดอะไรน่ะ?”
“ไม่มีอะไร งั้นคืนนี้ตัวป่วนนอนห้องพี่ เดี๋ยวพี่ไปนอนห้องชมพูแล้วกัน”
“หึ.....ไม่เอาอ้ะ พี่ฟ้าต้องนอนกับผมสิ”
“หา?”


“ก็นี่มันก็มืดแล้ว แล็บพรุ่งนี้ก็เก็บไปหมดแล้ว เพราะงั้นพรุ่งนี้เช้าผมก็ว่างตื่นสายได้ อีกอย่างผมไม่เคยนอนบ้านนี้สักครั้ง ผมไม่กล้านอนคนเดียวหรอก กลัวผี......”
“บ้านนี้ไม่มีผีหรอกครับ ทั้งพี่ทั้งชมพูไม่เคยเจอเลยสักครั้ง” สงสารพี่อากาศแกเว้ย ปฏิเสธปากคอสั่นเชียว

“ก็พี่ฟ้ากับพี่ภพอยู่มานานนี่ แต่ผมมาใหม่ ผีมันอาจจะอยากหลอกก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ”
“แต่.....”
“แต่?”

“ไม่แต่แล้วครับ นอนเฉยๆในห้องเดียวกัน ไม่เห็นต้องมีแต่อะไรเลย” โถ.......ปากก็พูดได้ แต่ทำไมต้องถอนหายใจเฮือกๆด้วยนะพี่อากาศ แน่ะ....ถอนหายใจอีกแล้ว
“ใช่ม้า........อ้ะ กินซะ ข้าวผมจะหมดจานแล้ว พี่ฟ้ายังไม่ถึงไหนเลย น้ำพริกแม่จ๋าออกจะอร่อย”

~~~~~~~~~~~~~


“เดี๋ยวตัวป่วนอาบน้ำบนห้องพี่นะ พี่วางชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวไว้ให้บนเตียงแล้ว เดี๋ยวพี่อาบห้องข้างล่างเอง”
“ครับ”

อาบน้ำเสร็จไอ้หนูป่วนมันก็เดินลงมาหาน้ำในตู้เย็น เจอกับพี่ฟ้าของมันในคอสตูมผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

ก็ไม่ใช่ว่าตัวป่วนมันจะไม่เคยเห็นพี่แกเวลาเปลือยท่อนบนนะ แต่ตอนที่เช็ดตัวให้นั่นมันต่างกันลิบลับ ตอนนั้นพี่อากาศแกมีสติครึ่งๆกลางๆเป็นคนป่วยที่ทำตามคำสั่งทุกอย่าง เรี่ยวแรงก็แทบไม่มี

แต่ตอนนี้ พี่อากาศของไอ้หนูป่วนหลังอาบน้ำใหม่ๆกลิ่นสบู่หอมๆโชยมา กับกล้ามเนื้อสวยๆ ไอ้หนูป่วนมันก็เริ่มหน้าร้อนจนต้องลองเอามือมาทาบแก้มตัวเองไว้ พอไอ้หนูป่วนเริ่มรู้สึกตัวว่าเผลอมองร่างกายพี่อากาศแกนานไปหน่อยเลยคิดว่า เงยหน้าขึ้นมองไปที่ช่วงบนดีกว่า กลับได้เจอกับพี่เขาในแบบที่ไม่เคยเห็นอีกแล้ว

“พี่ฟ้า...เอ่อ.....แว่นตาล่ะ?”
“วางไว้ในห้องชมพู”
“นี่กี่นิ้ว?”
กร๊ากกกกกกกก แหมๆๆตัวเองเขินเลยแกล้งเบี่ยงประเด็นได้ตลกคาเฟ่มากนะไอ้ตัวป่วน

“เอ่อ....ไม่รู้ครับ”
“โห....สั้นเยอะเลยสิเนี่ย”
“ครับ แต่.....พี่ว่าพี่ไปแต่งตัวก่อนดีกว่า”
“อืมๆ แล้วห้ามหนีผมไปนอนห้องพี่ภพนะ”

พี่อากาศตัวโตใช้เวลาทำใจอีกเกือบครึ่งชั่วโมงถึงได้ยอมเปิดประตูห้องนอนตัว เองแล้วค่อยๆย่องเข้าไปในห้องเดินไปชะโงกหน้าดูไอ้ตัวเล็กบนเตียง ก็เห็นมันนอนตะแคงยึดเตียงฝั่งซ้ายไปเรียบร้อย แกเลยอ้อมไปขึ้นเตียงอีกด้านก่อนค่อยๆสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันอย่าง เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ไอ้ที่แกคิดว่าเบานั่นมันคงเบาไม่พอ พอพี่อากาศแกจะปิดเปลือกตาลงถึงได้รู้สึกตัวว่าไอ้ตัวบางๆหอมสบู่กลิ่นผลไม้ ที่ตัวเองเคยใช้อยู่เป็นประจำแต่ตัวป่วนมันใช้แล้วหอมกว่าพลิกตัวมาซุกอยู่ แนบข้าง แถมมันยังมายึดเอาไหล่ซ้ายเป็นหมอนอีกต่างหาก

พี่อากาศคนน่าสงสารเลยได้แต่ภาวนายุบหนอ ยุบหนอ จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงนั่นแหละ ความอ่อนล้าที่เผชิญมาทั้งวันถึงทำให้แกหลับไปจนได้


เช้าวันรุ่งขึ้นพี่อากาศตัวโตตื่นมาพร้อมกับอาการชาร่างกายไปแถบนึง เหมือนถูกอะไรหนักๆทับไว้งั้นแหละ พอลืมตาขึ้นสิ่งแรกที่เห็นก็คือหัวยุ่งๆเป็นลูกตาลยีที่นอนหลับท่าไหนก็ไม่ รู้ขึ้นมาเกยอยู่บนอก
แล้วถ้าคิดไม่ผิดไอ้ที่หนักๆที่พาดอยู่ตรงหน้าขานั่นก็คงเป็นขาทั้งท่อนของ ไอ้หนูป่วนมันแน่ๆ จะลุกก็ลุกไม่ขึ้นเพราะชาไปทั้งแถบ เลยตัดสินใจปลุกไอ้ตัวที่มาเบียดเบียนทั้งคืนเสียก่อน

“ป่วน ตัวป่วนครับ เช้าแล้วนะ”
“ขอนอนต่ออีกนิดนะ กำลังสบายเลย....” อ้าว ไอ้นี่ โต้ตอบมาได้เป็นประโยคแต่ไม่ยอมลืมตาซะงั้น
“หึๆๆ ตื่นเร็ว ถ้าจะยังไม่ตื่นก็ขยับนิดให้พี่ลุกหน่อย”

“ไม่เอาอ้ะ”
ปากมันว่าไม่เอาแต่ตัวมันกลับขยับยุกยิก จนตอนนี้จมูกกับปากของไอ้หนูป่วนมันมาแนบอยู่แถวซอกคอของพี่อากาศแกเสียแล้ว ตัวป่วนมันขยับให้แล้วนะพี่ แต่ผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อยเท่านั้นเอง

ผู้ชายสุขภาพดี อายุ 25 ปี ที่ตรงต่อเวลา ลุกขึ้นมาเคารพธงชาติทุกเช้าที่ทุกทีก็สงบลงได้เอง เลยได้ตัวกระตุ้นเป็นลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดอยู่ตรงซอกคออย่างเป็นจังหวะ ไอ้หนูป่วนเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรสักหน่อย

ก็นะ เป็นผู้ชายเหมือนกัน มันจะต่างกันอะไรหนักหนา พอถึงเวลาแถมยิ่งมีตัวกระตุ้นแบบนี้ด้วย ไอ้ที่ควรพองมันก็เลยพองกันทั้งคู่นั่นแหละ แต่ไอ้ตัวป่วนมันมีแผนนี่ แผนที่จะดูให้ถึงที่สุดว่าพี่อากาศของมันจะทำยังไง

แล้วในที่สุดก็ได้คำตอบ เมื่อพี่อากาศแกไม่สามารถจะใช้วิธีกำหนดสติภาวนายุบหนอได้ผลอีกต่อไป แกก็ใช้แขนข้างที่ไม่ชาแหละมอบมะเหงกให้ไอ้ตัวเบียดเบียนไปหนึ่งที แรงขนาดที่ต่อให้ขี้เซาแค่ไหนก็ต้องตื่น ไอ้หนูป่วนเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วแทนที่พี่อากาศจะได้รอยยิ้มทักทายยามเช้า เลยได้รับหน้ามุ่ยๆไปแทน

“เจ็บ......”
“ก็พี่เรียกดีๆไม่ยอมตื่นนี่ ห้ามโกรธพี่นะ”
“ไม่โกรธก็ได้ แต่พี่ฟ้าอะใจร้าย จะให้รีบตื่นทำไมก็ไม่รู้ ก็บอกแล้วว่าไม่มีแล็บเช้าแล้ว พี่ฟ้าวันนี้ก็ไม่ต้องเข้าคณะไม่ใช่เหรอ?”

“พี่ต้องรีบตื่น เพราะเราแหละ”
“หืม?”

“ก็เรามาทับพี่อยู่แบบนั้น พี่เลยต้องรีบไปเข้าห้องน้ำน่ะสิ”

ไม่ใช่แค่พูดอธิบาย พี่อากาศตัวโตยังบุ้ยปากให้ดูบางอย่างที่ลุกขึ้นมาโชว์ตัวอย่างไม่มีวี่แวว จะกลับไปสงบเสงี่ยมง่ายๆอีกด้วย ไอ้หนูป่วนมองตามแล้วเลยได้เขินหน้าแดงตั้งแต่เช้า แล้วทั้งๆที่ยังเขินอยู่นั่นแหละ มันก็บอกกับพี่ฟ้าของมันว่า


“พี่ฟ้า.....ผมสอบเสร็จวันที่27”
“แล้ว?”
“วันนั้นพี่ฟ้าอยู่กรุงเทพรึเปล่า?”
“27 อยู่ครับ ตัวป่วนมีอะไรรึเปล่า อยากไปเที่ยวไหนเหรอ?”

“ไม่ได้จะไปเที่ยวไหน แต่.....วันนั้นผมจะมานอนบ้านนี้อีก แล้ว....แล้วก็จะไม่นอนเฉยๆด้วย”
“............................”


“พี่ฟ้าไปห้องน้ำด้านล่างแล้วกันนะ”

พูดจบโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา ไอ้หนูป่วนมันก็ลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วผลุบเข้าไปในห้องน้ำปิดประตูตามหลังเสียงดังโครมเบ้อเร่อ


ทิ้งให้พี่อากาศของมันนั่งอึ้งอยู่กับที่อีกพักใหญ่ ก่อนสมองจะค่อยประมวลผล แล้วเข้าใจว่า ไอ้ที่บอกว่าจะมานอนที่นี่ แล้วไม่แค่นอนเฉยๆน่ะ มันหมายความว่ายังไง

~~~~~~~~~~~~~


ปล.ตัวป่วนเป็นเด็กน้อยก้าวหน้า จะทำอะไรก็ต้องนัดวันเป็นมั่นเป็นเหมาะ งุงิ



Create Date : 06 มีนาคม 2554
Last Update : 6 มีนาคม 2554 22:54:33 น.
Counter : 280 Pageviews.

4 comments
  
ฝันดีนะครับ

ลดความอ้วน อาหารเสริม วิตามิน ผิวขาว เครื่องสำอางอาหารเสริมลดความอ้วนเครื่องสำอางผิวขาววิตามิน
โดย: MaFiaVza วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:23:20:17 น.
  
ขอบคุณค่ะ ^o^
โดย: paina วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:8:02:12 น.
  
ป่วนขาแรงส์ได้ใจมากอ่ะ 555

มีการนัดวันล่วงหน้าด้วย เขิลแทนเลยยย
โดย: sai IP: 58.137.154.162 วันที่: 7 มีนาคม 2554 เวลา:10:35:31 น.
  
ตัวป่วนเป็นเด็กฉลาด ชาติเจริญค่ะ
จะทำอะไรต้องคิดให้ดีก่อนทำ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
โดย: paina วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:7:09:44 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

paina
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ผ่านเข้ามานะคะ


ที่นี่ก็แค่ห้องเล็กๆของผู้หญิงธรรมดา......ที่พยายามจะเป็นคนดี.....เท่านั้นเอง
มีนาคม 2554

 
 
2
3
4
7
10
11
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog