กรกฏาคม 2552

 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
11
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
18 กรกฏาคม 2552
All Blog
The Book Thief - Markus Zusak
++The Book Thief++
ผู้เขียน Markus Zusak
ผู้แปล บีจา


ฉากหลังช่วงสงครามโลก นาซี ฮิตเลอร์ ยิว เยอรมัน กับการเล่าเรื่องแนววรรณกรรมเยาวชน ทั้งหมดนี้เพียงพอแล้วกับการดึงดูดให้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาจากชั้นวางในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง ยิ่งการันตีด้วย No.1 New York Times Bestseller ยิ่งทำให้การเดินไปจ่ายตังค์โดยมีหนังสือเล่มนี้หนีบติดมือไปด้วยเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้น แม้ว่าหนังสือจะเล่มหนาชวนให้ถอดใจ และแม้จะหนีบหนังสือกลับจากร้านหนังสือมาเป็นกอง แต่หนังสือเล่มแรกที่ถูกหยิบขึ้นมาอ่านก็คือเล่มนี้ "The Book Thief" และแล้ว....



จากปกหลัง...ไม่มีคำโปรยใดๆเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ มีเพียงคำนิยมจากบรรดาหนังสือหัวนอกระดับชาติ (อเมริกัน) เช่น "นี่คือหนึ่งในหนังสือที่สมควรอ่านอย่างยิ่ง เพราะบอกเล่าเรื่องราวที่ทำให้หนังสือกลายเป็นสมบัติล้ำค่า และเปี่ยมด้วยความรู้สึก" จาก New York Times หรือ "จอมโจรหนังสือ ถักทอเรื่องราวอย่างสวยงาม เปี่ยมอารมณ์ ราวกับบทกวี ความเขร่งขรึมและโศกนาฎกรรมพลุ่งพล่านในหัวใจผู้อ่านราวกับภาพยนตร์เรื่องเยี่ยม เหมือนสีสันของชีวิต ชูชัคอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตในยุกที่นาซีเรืองอำนาจ กระนั้นก็ดี จอมโจรหนังสือสมควรนำไปวางบนชั้นเคียงคู่บันทึกของแอนน์ แฟรงค์ เลยทีเดียว เตรียมขึ้นชั้นหนังสือคลาสสิกได้เลย" จาก USA Today

คำนิยมหลังปกนี่ช่างเชิญชวนให้อ่านเหมือนเป็นหนังสือระดับโลกที่ทุกคนไม่ควรพลาดยังไงยังงั้น บวกกับเหตุผลที่เกริ่นไว้ในย่อหน้าแรก ทำให้เริ่มอ่าน "The Book Thief" ด้วยความคาดหวังอันเต็มเปี่ยมและแรงกล้า และแล้ว...ผ่านไปหนึ่งบท "เปิดฉาก..ซากกองพะเนิน" ความรู้สึกแรกคือ "งง" ยมทูตเล่าเรื่องแต่อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง เรื่องราวของสีอะไรกัน และความรู้สึกสองที่ตามมาติดๆคือ "แปลก" มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยคั่นระหว่างย่อหน้าตรงนั้นทีตรงนี้ที

ผ่านไปอีกสองบท "The Book Thief" เริ่มเล่าเรื่องของตัวเอก "ลีเซล" สาวน้อยที่ถูกนำมาให้ครอบครัวหนึ่งบนถนนฮิมเมลเลี้ยงเนื่องจากสภาวะบีบคั้นที่ทำให้ครอบครัวที่แท้จริงไม่สามารถเลี้ยงดูหนูน้อยไว้ได้ ความสูญเสียของลีเซล การขโมยหนังสือ เหตุการณ์ประจำวันของลีเซลในบ้านหลังใหม่ ปาปา มามา โรงเรียน เพื่อน และผู้คนที่อาศัยรวมกันบนถนนฮิมเมล ยมทูตยังคงเป็นคนเล่าเรื่องด้วยอารมณ์ตื่นเต้นในชีวิตประจำวันของลีเซล และที่ยมทูตตื่นเต้นที่สุดก็คือการ "ขโมยหนังสือ" ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่เห็นว่ามันจะน่าตื่นเต้นตรงไหน อารมณ์ที่สามที่ตามมาก็เลยเป็นการ "ผิดหวัง" ฉากหลังช่วงสงครามโลก นาซี ฮิตเลอร์ ยิว เยอรมันที่คิดว่าจะอัดแน่นเต็มเปี่ยมเหมือนบันทึกของแอนน์ แฟรงค์ ยังเป็นกลิ่นอายห่างๆ จนเหมือนกลายเป็นหนังสือธรรมดาๆที่เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงคนนึงในประเทศเยอรมันไป หรือเราเป็นคนกระหายสงครามเกินไป (วะ) ผลที่ตามมาคือ "ดอง"

เริ่มตอนที่สาม "ไมน์ คัมฟ์" ไปจนถึงบทส่งท้าย กลิ่นอายสงครามโลก นาซี ฮิตเลอร์ ยิว เยอรมันตามมาสมใจอยากตามคำเรียกร้อง เรื่องราวตั้งแต่บทที่สามเป็นต้นไปไม่ได้พูดถึงสัพเพเหระของหนูน้อยลีเซลเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว ความเป็นดราม่า (ที่พึงมี) ถูกส่งเข้ามาเป็นระลอกๆ เริ่มตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างปาปากับลูกชายที่เทิดทูนฮิตเลอร์ที่หยอดมาเป็นน้ำจิ้ม และอาหารจานหลักก็มาถึงกับการปรากฎตัวของ แมกซ์ แวนเดนเบิร์ก ที่ทำให้หนังสือ "The Book Thief"กลายเป็นหนังสือที่ไม่อยากจะวางตั้งแต่นั้นจนถึงบทส่งท้าย ความเศร้าสะเทือนใจกับสงครามที่ก่อให้เกิดการสูญเสีย การพลัดพรากของคนในครอบครัว การถูกยัดเยียดให้เป็นชนชั้นสกปรกเพียงเพราะสัญชาติที่ต่างกัน มิตรภาพและคำสัญญาที่เหนือกว่าทุกสิ่ง เป็นไปตามคำนิยมที่ USA Today บรรยายไว้ว่า "สวยงาม เปี่ยมอารมณ์ ราวกับบทกวี ความเขร่งขรึมและโศกนาฎกรรมพลุ่งพล่านในหัวใจผู้อ่านราวกับภาพยนตร์เรื่องเยี่ยม"

ไม่ว่าสองบทแรกจะเป็นยังไง ความรู้สึกสามอย่างแรกจะเป็นเชิงลบในแง่ไหน แต่สุดท้ายแล้ว "The Book Thief" ได้กลายเป็นหนังสือที่เปี่ยมอารมณ์ เรียกน้ำตาเพราะความสะเทือนใจในโศกนาฎกรรม "มีด้วยหรือที่การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่บริสุทธิ์ (ยิว) กลายเป็นความผิด" ในขณะเดียวกัน "The Book Thief" ก็สื่อให้เห็นด้านที่สวยงามของมิตรภาพ ความรักระหว่างครอบครัว เพี่อนรัก เพื่อนบ้าน หรือแม้แต่กับคนที่ควรเป็นศัตรู ความมีน้ำใจของคนปากร้ายแต่ใจดีอย่างมามา (และกลายมาเป็นตัวละครที่จขบ.ชอบมากที่สุดในเรื่อง)

หากใครที่วางหนังสือเล่มนี้ลงไปแล้วเพราะรู้สึก งง แปลก ผิดหวัง ในตอนแรก ขอให้หยิบขึ้นมาอ่านต่ออย่างใจเย็น แล้ว "The Book Thief" อาจกลายเป็นหนังสือเล่มโปรดประจำปีก็ได้



Create Date : 18 กรกฎาคม 2552
Last Update : 18 กรกฎาคม 2552 22:14:49 น.
Counter : 3005 Pageviews.

10 comments
  
ไม่ได้อ่านละเอียดมาก
เพราะเป็นหนังสือที่เข้าคิว "จะอ่าน"
ยังไม่รู้เมื่อไหร่จะถึงคิวสักที ^^
โดย: BeCoffee วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:01:03 น.
  
อ๊างงง ขอบคุณที่เอาเรื่องนี้มารีวิวนะคะ เพราะอป.ก็ติดอยู่ตรงที่ "ไม่มีคำโปรยใดๆเกี่ยวกับเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้"นี่แหล่ะ ถึงหน้าปกจะดูยั่วยวนใจมากก(มียมทูต)ก็ไม่กล้าซื้อหามาดองซักที

ชอบตัวละครปากร้ายใจดีเหมือนกันค่ะ คิดว่าถ้าได้อ่านต้องชอบมามาด้วย^^

อ่านเรื่องย่อจากรีวิวประกอบคำชื่นชมของนักวิจารณ์แล้วคิดว่าอีกไม่นานต้องมีเวอร์ชั่นหนังออกมาให้ดูกันแน่ๆ อิๆ

โดย: อป (apple_cinnamon ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:34:34 น.
  
ว้าว น่าสนใจจังค่ะ

จะหยิบๆ ตั้งหลายหน แต่ตัดสินใจไม่ได้สักที

ขอบคุณนะคะที่ให้ข้อมูล

โดย: ฑาม (ThaMN ) วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:47:40 น.
  
เกี่ยงตรงขนาดหนังสือนั่นแหละ ...
อ่านรีวิวแล้ว น่าสนใจนะเนี่ย
โดย: นัทธ์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:35:55 น.
  
ว๊าว...เรื่องนี้เล็งอยู่ค่ะ
มีเพื่อนเชียร์ให้อ่านอยู่

แต่ช่วงนี้ต้องดูก่อนว่า ถ้าอ่านแล้วจะเอาไปตอบโจทย์ข้อไหนของ RRR ได้บ้าง หุหุ
โดย: แม่ไก่ IP: 118.174.42.107 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:54:28 น.
  
น่าหามาลองอ่านค่ะื ได้หนังสือหลายเล่มจากบล็อกนี้ ขอบคุณค่ะ
โดย: cottonbook วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:34:42 น.
  
เทียบชั้นบันทึกของแอนน์ แฟรงค์

แสดงว่าไม่ธรรมดา
โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:13:22 น.
  
ดีจ้า เด็กเกาหลี เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ที่ไทยมีสัปดาห์หนังสือ

โดย: joy (cyberlearn ) วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:14:35:00 น.
  
I've read this book.

It was worthwhile to read

You can get the richness of the language.

read it and you will like it.

Confirm.
โดย: Nicha IP: 110.168.19.196 วันที่: 4 มกราคม 2554 เวลา:22:01:31 น.
  
อยากครอบครองหนังสือเรื่องนี้
ไม่รู้หาซื้อได้ที่ไหน ช่วยที่คับ
0814758606
โดย: bas IP: 124.121.44.205 วันที่: 8 กรกฎาคม 2558 เวลา:14:03:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments