สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
31
 
 
All Blog
[DIVE 〈4〉 コンクリート・ドラゴン - 森 絵都] Dive 4 ตอน มังกรคอนกรีต - โมริ เอโตะ
++Dive 4 ตอน มังกรคอนกรีต++
ผู้เขียน โมริ เอโตะ [森 絵都]
ผู้แปล ปาริชาติ ฉิมคล้าย


ในที่สุดก็ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จนได้หลังจากรอแล้วรอเล่าก็ไม่ยอมออกมาสักที แถมเล่มนี้เป็นเล่มจบซะด้วย พอมีเวลาเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิห้าชั่วโมง ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ออกไปซื้อ Dive 4 ที่บีทูเอสเซ็นทรัลบางนาดีกว่า เห็นเพื่อนๆใน Bloggang หลายคนประทับใจและเขียนถึงหนังสือเรื่อง "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" ก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีใครพูดถึงหนังสือชุดเรื่อง "Dive" เลย เพราะเป็นหนังสือของคนแต่งคนเดียวกัน ถ้าพูดถึงในแง่ความประทับใจแล้ว แม้ "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" จะประทับใจมากจนขี้นแท่นเป็นหนังสือที่เราชอบมากที่สุด แต่ "Dive" ถือเป็นหนังสือที่น่าประทับใจระดับคูณสี่เลยทีเดียว (ส่วนนึงเพราะว่ามันมีสี่เล่มสี่ตอนนั่นเอง) เคยเขียนถึง "Dive" เล่มหนึ่ง สอง สาม ไปแล้วอย่างคร่าวๆ ลองกลับไปอ่านดูได้นะคะ

หนังสือชุดเรื่อง "Dive" นี้พูดถึงกีฬาการกระโดดน้ำของเหล่านักเรียนมัธยมกลุ่มหนึ่ง กีฬากระโดดน้ำซึ่งปกติเป็นรองกีฬาว่ายน้ำอยู่เสมอๆ ถ้าใครได้อ่านหนังสือชุดเรื่อง "Dive" นี้จะเปลี่ยนแนวคิดโดยสิ้นเชิงเพราะการกระโดดน้ำนั้นมีอะไรมากมายกว่าที่คิด อุปสรรค การเตรียมพร้อมร่างกาย การฝึกฝนเทคนิคใหม่ๆ กำลังใจ ความยากเย็นของท่ากระโดด หนังสือชุดเรื่อง "Dive" ชี้ให้เห็นถึงความยากลำบาก ความน่าตื่นตาตื่นใจ เสน่ห์ของการกระโดดน้ำซึ่งแต่เดิมไม่มีใครสนใจมากนักโดยผ่านตัวละครหลักๆ คือนักกีฬารุ่นเยาว์สามคน และการปรากฎตัวของโค้ชสาวไฟแรงที่มีเทคนิคการสอนที่ไม่เหมือนใครที่จะมาดึงเอาความสามารถที่หลับไหลของเหล่านักกีฬาทั้งหมดออกมาสู่สายตาผู้ชม


นักกระโดดน้ำคนแรกคือโทโมะกิซึ่งได้พูดถึงในเล่มแรก "ตอนที่ 1 ลังกาหน้าเข่าคู้สามรอบครึ่ง" โทโมะจังเป็นคนที่ยังไม่เติบโตเต็มที่ แม้จะชอบกระโดดน้ำแต่ก็ยังไม่อาจตัดใจจากชีวิตมัธยมต้นอันแสนสนุก โทโมะกิเองนั้นมีพรสวรรค์ที่น้อยคนบนโลกนี้จะมี และเป็นน้อยคนบนโลกนี้ที่สามารถฝึกฝนเทคนิกท่าลังกาหน้าเข่าคู้สี่รอบครึ่งได้


คนที่สองคือชิบุกิใน "ตอนที่ 2 สวอนไดร์ฟ" หลานของนักกระโดดน้ำชั้นยอดผู้ลึกลับ เป็นลูกทะเลตัวจริงที่กระโดดน้ำตามความเชื่อของบรรพบุรุษ หากแต่ว่าเค้าไม่เคยคิดที่จะกระโดดน้ำจริงๆจังๆเป็นอาชีพทั้งที่ตัวเองมีพรสวรรค์ในการดึงดูดสายตาผู้คนกับท่าทางการกระโดดน้ำที่สามารถสะกดสายตาผู้ชมได้อย่างน่าอัศจรรย์


และนักกระโดดน้ำคนที่สามคือโยอิจิที่พูดถึงไว้ใน "ตอนที่ 3 SS special '99" ลูกชายนักกีฬาโอลิมปิคนักกระโดดน้ำ เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ในการกระโดดน้ำด้วยเทคนิคชั้นเยี่ยมสมบูรณ์แบบตามตำรา ฝึกฝนเอาจริงเอาจังและยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อกีฬากระโดดน้ำ หัวหน้าทีมนักกระโดดน้ำที่รุ่นน้องทุกคนต่างชื่นชมในความสามารถ แบกรับภาระการกอบกู้ชมรมกระโดดน้ำด้วยการฝึกฝนจนเกินขีดระดับความสามารถของตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งท่าไม้ตายระดับความยากสุดยอดอย่าง "SS special '99"


และในเล่มที่สี่คือบทสรุปของพวกเขาทั้งสามว่าสามารถคว้าในสิ่งที่มุ่งหวังไว้ได้หรือไม่ กับการแข่งขันคัดเลือกตัวแทนไปโอลิมปิคที่เป็นการเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเค้าทำมาทั้งหมดตั้งแต่เล่มที่หนึ่งจนถึงเล่มที่สาม ไม่ว่าคนอ่านจะเชียร์ใคร แม้สุดท้ายแล้วจะมีแค่หนึ่งคนเท่านั้นทีได้คว้าสิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิก ก็อดประทับใจไปกับนักกระโดดน้ำรุ่นเยาว์ทั้งหมดไม่ได้ และชัยชนะบางทีก็ไม่ได้วัดผลกันที่อันดับคะแนนเสมอไป

จากปกหลัง..."ตอนที่ 4 มังกรคอนกรีต" ในการแข่งขันคัดเลือกตัวแทนครั้งสุดท้ายสู่โอลิมปิก เด็กหนุ่มทั้งสามปรากฎตัวบนเวทีแห่งฝันอันยิ่งใหญ่ด้วยความรู้สึกหลากหลายต่างกัน โทโมะกิต้องการพิสูจน์ตัวเองและก้าวข้ามกรอบเพื่อมองเห็นทิวทัศน์แห่งโลกใบใหม่ ชิบุกิต่อสู้แม้จะตระหนักถึงข้อจำกัดทางร่างกายหวังเพียงได้เห็นแสงสว่างโพ้นทะเลแบบเดียวกับที่ปู่เคยได้เห็น โยอิจิอดทนต่อแรงกดดันแห่งศักดิ์ศรี และหน้าที่กอบกู้เอ็มดีซี จนต้องเผชิญกับเหตุไม่คาดฝัน"

แม้ว่าหนังสือชุดเรื่อง "Dive" นี้จะเน้นถึงกีฬาการกระโดดน้ำ การแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่สิ่งหนึ่งที่เด่นที่สุดคือเรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อนนักกีฬาในชมรม การเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนนักกีฬาด้วยกัน การไม่ยอมละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง การไม่ยอมให้อำนาจเงินตราหรือการเจ้ากี้เจ้าการของผู้ใหญ่โลภมากเข้ามาทำให้แปดเปื้อน การไม่ยอมเหยียบหัวเพื่อนเพื่อไปถึงชัยชนะ สิ่งเหล่านี้มีอยู่ในหนังสือเรื่องนี้อย่างเต็มเปี่ยมชนิดที่อ่านแล้วซึ้งจนน้ำตาไหลประทับใจกับเด็กๆเหล่านี้ที่มีโลกอันบริสุทธิ์ ตัวละครอื่นๆอีกหลายตัวก็น่าประทับใจไม่แพ้กันอย่าง เรอิจิ แม้จะไม่มีพรสวรรค์เหมือนคนอื่นๆ แต่ก็พยายามต่อสู้กับตัวเองอย่างเต็มที่ ซะจิยะ ที่แม้จะเข้าชมรมเพื่อแก้อาการกลัวความสูงแต่ก็เชียร์สุดใจกับเพื่อนร่วมชมรมทุกคน
และเพราะเป็นหนังสือสำหรับเยาวชน ภาษาและการดำเนินเรื่องก็เป็นไปอย่างง่ายๆแต่แฝงด้วยเนื้อเรื่องอันน่าติดตาม ตื่นเต้น กดดันและเครียดไปพร้อมๆกับตัวละครเหมือนกับเป็นนักกีฬากระโดดน้ำซะเอง อ่านไปแล้วนอกจากจะสนุกน่าติดตาม ยังแฝงไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตาแน่นอน ถ้าใครชอบ "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" ต้องลองไปหาอ่านเรื่องนี้ให้ได้นะคะ

ป.ล. ตัวเราเองแอบเชียร์โทโมะกิล่ะค่ะ ที่ชอบโทโมะจังเพราะเค้าเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารักมากเลย ใจดี รักเพื่อนรักคนรอบข้าง มีความน่ารักในแบบฉบับของเด็กๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่กล้าแกร่งขึ้นได้อย่างอ่อนโยน อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ ใจจริงก็ชอบโยอิจิมากอยู่เหมือนกัน ในเล่มที่สามอ่านเรื่องของโยอิจิแล้วประทับใจกับศักดิ์ศรีที่เค้ามีมากๆ แม้จะเปิดฉากมาเหมือนเด็กที่เย่อหยิ่งในความสามารถของตัวเอง แต่จริงๆแล้วเป็นเด็กที่ดีมากๆรักเพื่อนพ้องอีกคนนึง เป็นคนที่มีสปิริตสุดยอดที่สุดในเรื่องเลย ถ้าใครได้อ่านเรื่องนี้แล้วลองบอกกันด้วยว่าชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุด (^-^)



Create Date : 26 สิงหาคม 2550
Last Update : 25 ตุลาคม 2551 16:02:01 น.
Counter : 821 Pageviews.

14 comments
  
สวัสดีค่า
ว้าววันนี้คนแรกเลยแฮะ
วันนี้มีหนังสือเยอะจังเลย
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:22:03:28 น.
  
เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจดีนะคะ แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้ติดตามเลย มาอ่านบล็อกของคุณนี่ล่ะคะ เลยรู้จักมาเล็กๆ แล้วล่ะ แล้วก็ถ้ามีโอกาสก็อาจจะได้ซื้อหามาอ่านอ่ะคะ ...


สำหรับเรื่องสองเงาในเกาหลี... เราว่ามันก็คงเป็นมุมมองเพียงบางเสี้ยวเกี่ยวกับสถานที่น่ะค่ะที่ทางคนเขียนคือคุณ ทรงกลด เอามาพูดถึงเอาไว้ แต่ว่ามันไม่ได้เป็นทั้งหมดของเรื่องอ่ะคะ ... เพราะจริงๆ เราว่ามันจะเป็นอารมณ์กรุ่นๆ ของบางอย่างมากกว่า แล้วยิ่งกับเพื่อนร่วมทางอีกคนก็ด้วย เราเลยว่าเค้าเขียนออกมานุ่มๆ นวลๆ อ่านแล้วชอบแนวนี้อ่ะค่ะ (ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ค่อยได้อ่านแนวหวานแบบนี้มานานแล้วนะคะ แต่ก็ยังชอบอยู่ล่ะ)
โดย: JewNid วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:16:31:13 น.
  
"โทโมะกิต้องการพิสูจน์ตัวเองและก้าวข้าวกรอบเพื่อมองเห็นทิวทัศน์แห่งโลกใบใหม่"

ข้าวกรอบ ????
โดย: โอววว ให้ตายสิแอ๊ดดด IP: 124.157.200.146 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:1:36:16 น.
  
โอ้ว อ่านละเอียดมากเลย ขอบคุณค่ะ แก้แล้ว สงสัยตอนนั้นหิวเกินไป ฮ่าๆ
โดย: TaMaCHaN (narumol_tama ) วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:6:33:22 น.
  
รอให้ออกครบอยู่ค่ะ นี่ก็ครบแล้วต้องไปสอยที่งานหนังสือแล้วล่ะ

เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผมเป็นหนังสือเล่มโปรดเช่นกันค่ะ
โดย: BoOKend วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:17:16:16 น.
  
สวัสดีคะ
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมและไปส่งกำลังใจให้นะคะ
หนังสือน่าอ่านนะคะเนี้ย

เห็นด้วยคะเรื่องข้อสามและข้อสุดท้าย
โดย: weraj วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:19:32:20 น.
  
ยังอ่านอยู่ที่เล่ม 1 อยู่เลยค่ะ กำลังอ่านเรื่องอื่นอยู่เรื่องนี้เลยถูกดองไว้ (จริงๆอยากรอให้ออกมาจนจบก่อนแล้วค่อยอ่านด้วย เดี๋ยวมันจะค้างคาค่ะ)
อ่านเรื่องนี้แล้วมีกำลังใจเพิ่มขึ้นเยอะเลย
โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:20:09:56 น.
  
จำได้เลาๆ ว่าเหมือนเคยมีใครพูดถึงหนังสือชุดนี้ค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านเลย แหะๆ


เราว่าคนที่เป็นอย่างสตาร์เกิร์ลน้อยคนค่ะ ที่จะรักษาอย่างที่ตัวเองเป็นไปได้ตลอดน่ะค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:12:32:23 น.
  
น่าสนใจมากเลยค่ะหนังสือชุดนี้..ไม่เคยอ่านหนังสือที่เป็นแนวนี้มาก่อนค่ะ
ถ้าหาซื้อได้..(พิจารณาจากเงินในกระเป๋า 555) คงจะต้องหามาครอบครองค่ะ

ขอบคุณมากนะคะที่แวะไปทักทายค่ะ
โดย: NongHome วันที่: 30 สิงหาคม 2550 เวลา:19:32:34 น.
  
ถ้าใครชอบ "เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม" ต้องลองไปหาอ่านเรื่องนี้ให้ได้นะคะ

แล้วจะพลาดได้ไง แต่รอเดือน ตค ค่ะ ช่วงนี้พยายามจำศีล เป็นความพยามยามที่ท้าทายมาก 55++ เพราะมีร้านหนังสือใต้ตึกต้องเดินผ่านวันละหลายหน

กลับมาจาก ตปท. หรือปล่าว หายไปนานมากกก

โดย: wake me up when October comes (อั๊งอังอา ) วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:9:12:05 น.
  
เราก็ชอบสวรรค์ให้รางวัลผมนะคะ
แต่ไดฟ์ยังไม่เคยอ่านเลยล่ะ
โดย: fonkoon วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:14:14:32 น.
  
มาช่วยโปรโมตค่ะ หนังสือชุดนี้ดีมากๆ ประทับใจไม่แพ้ เมื่อสวรรค์ฯเลยนะ สำหรับเราพอรู้ว่ามีผลงานของ โมริ เอโตะ ออกก็ใจจดใจจ่อรอวันวางแผงเลยล่ะค่ะ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

สำหรับเราในเล่มสุดท้าย เราเชียร์ โทโมกิ ค่ะ เราว่าโทโมกิน่ารัก แล้วก็เติบโตในแบบของตัวเองโดยที่ไม่ได้มอง
ว่าแข่งขันกับใคร เค้าเลยเท่ห์มากๆ แต่จริงๆที่เราเชียร์โทโมะ อาจเป็นเพราะว่า เล่ม1 เปิดตัวมาให้โทโมะเป็นพระเอก มันเลยฝังใจเราว่า คนนี้แหล่ะ พระเอกของเรื่องอ่ะค่ะ ^ ^"
โดย: uminaka IP: 124.121.160.119 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:23:04:29 น.
  
คุณ uminaka จริงด้วยแฮะ ส่วนนึงที่ชอบโทโมะก็เพราะเค้าเปิดตัวมาเล่มแรก เลยฝังใจว่าเค้าเป็นพระเอกเหมือนกัน
โดย: TaMaChAN (narumol_tama ) วันที่: 25 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:42:54 น.
  
ได้อ่านแล้วนะคะ ชอบมากๆ เลยค่ะ

มาแปะลิงค์

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pakwan&month=13-08-2008&group=5&gblog=71


สำหรับเรา ค่อนข้างเอนเอียงไปทางโทโมะกิเหมือนกันค่ะ

แต่ก็ชอบอีกสองคนด้วย ชอบโค้ชด้วย ชอบทุกคนเลยง่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:8:30:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments