ธันวาคม 2550

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
All Blog
The Curious Incident of the Dog in the Night Time - Mark Haddon

++The Curious Incident of the Dog in the Night Time++
ผู้เขียน Mark Haddon


ช่วงนี้งานยุ่งและก็เครียดกับงานมากมาย เลยไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลย ขนาดวันหยุดยาวปีใหม่นอนหลับยังฝันถึงเรื่องงานเลย เศร้าจัง ขนาดหนังสือเล่มบางๆอย่างเรื่องนี้ The Curious Incident of the Dog in the Night Time ยังใช้เวลาอ่านตั้งเยอะเลย เพิ่งได้อ่านเต็มๆก็วันนี้เอง บางทีการอ่านหนังสือก็เพื่อคลายเครียด แต่การอ่านหนังสือมันก็ต้องใช้อารมณ์สุนทรีย์ในการอ่านด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่อยากอ่าน ไม่มีอารมณ์อ่าน หรือถ้าอ่านก็เสียอรรถรสในการอ่านแย่เลย (T-T) ถ้าอย่างนั้น ขอให้ปีใหม่นี้ เพื่อนๆบล็อคแกงค์ทุกคน (รวมทั้งตัวเองด้วย) มีอารมณ์สุนทรีย์ในชีวิตกันถ้วนหน้านะคะ จะได้อ่านหนังสือกันอย่างมีความสุขทุกๆคน (^-^)



จากปกหลัง...Chirstopher John Francis Boone รู้จักชื่อประเทศทุกประเทศบนโลก รวมทั้งชื่อเมืองหลวงและจำนวนเฉพาะมากถึง 7,057 จำนวน เค้าเป็นคนรักสัตว์ แต่ทว่าเค้าไม่สามารถเข้าใจในอารมณ์ของมนุษย์ได้เลย เค้าไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อต้องตัว และก็เกลียดสีเหลืองเป็นชีวิตจิตใจ แม้ว่า Chirstopher จะมีความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลเป็นเลิศ แต่เด็กอายุสิบห้าคนนี้เป็นเด็กออทิสติก เค้าใช้ชีวิตโดยการเก็บรวบรวมรูปแบบ แผนผังต่างๆในกระเป๋าเสื้อ อยู่มาวันหนึ่ง สุนัขข้างบ้านถูกฆ่าตาย ทำให้โลกที่ Chirstopher เคยรู้จักกลายเป็นโลกอันตรายสำหรับเค้า ดังนั้น Chirstopher เลยต้องออกตามหาฆาตกรในแบบฉบับของตัวเองเลียนแบบ Sherlock Holmes แล้วเรื่องราวที่ตามมาก็คือนิยายตลก น่าทึ่งของเด็กหนุ่มออทิสติกคนนี้

เจ้าของรางวัล 2003 Whitbread Book of the Year และ 2004 Commonwealth Writers' Prize สำหรับนิยายเรื่องแรกของ Mark Haddonหนังสือแบ่งเป็นสองเรื่องเล่าสลับตอนกัน เรื่องแรกคือเรื่องการสืบหาฆาตกรและเรื่องราวที่ดำเนินไปในชีวิตประจำวันของ Chirstopher กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ เพื่อนบ้าน ครูและเพื่อนที่โรงเรียนผ่านการเล่าเรื่องมุมมองของChirstopher เรื่องดำเนินด้วยการที่สุนัขข้างบ้านถูกฆ่าตาย และผันกลายเป็นเรื่องราวชีวิตรอบด้านของสามชีวิตพ่อแม่ Chirstopher และบรรดาเพื่อนบ้าน ที่น่าติดตามและคาดไม่ถึง เนื่องจากเรื่องดำเนินด้วยการเล่าเรื่องโดย Chirstopher เอง ทำให้นอกจากเราจะได้อ่านเรื่องราวสนุกๆของครอบครัวนี้แล้ว เรายังได้รู้เรื่องในสมองและเหตุผลของทุกการกระทำของเด็กออทิสติกด้วย อ่านแล้วน่าทึ่งมากๆที่เด็กๆออทิสติกมีขบวนการคิดที่เป็นหลักการ เป็นเหตุเป็นผล ปราศจากอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว อ่านแล้วก็ขำเล็กๆในบางตอนกับความเป็นเหตุเป็นผลระดับสุดกู่ และการไม่เข้าใจอารมณ์และคำพูดของคนรอบข้าง แต่อ่านไปอ่านมาก็เห็นใจเหมือนกัน เพราะระดับความรับรู้ข้อมูลที่เกินขีดจำกัด โดยที่ไม่มี Selective Perception ทำให้ชีวิตของตัวเองลำบาก และแน่นอน รวมไปถึงชีวิตของคนเรอบข้างด้วย

เรื่องทีสองคือการอธิบายถึงเกร็ดความรู้ต่างๆที่ Chirstopher ได้เรียนรู้ รวมไปถึงการอธิบายเท้าความถึงที่มาของการกระทำของ Chirstopher ด้วย อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเติมใหม่ๆเพียบเลยค่ะ พวกความรู้วิทยาศาสตร์ ความรู้คณิตศาสตร์ ความรู้ทั่วไป และก็ได้รู้ว่าที่มาของการกระทำแปลกประหลาดของ Chirstopher จริงๆแล้วมันมีเหตุผลส่วนตัวหรือที่มาของการกระทำแปลกๆเหล่านั้น

อ่านเรื่องนี้จบแล้วได้เรียนรู้ชีวิตและระบบการคิดของเด็กออทิสติก ได้ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยติดกระเป๋ามาอีกเพียบ และที่สำคัญก็แอบซาบซึ้งกับความรักและความอดทนของพ่อของ Chirstopher มากเลย เลยขอยกให้คุณพ่อเป็นตัวละครประทับใจของเรื่องนี้เลย การกระทำของผู้ป่วยออทิสติกยากที่คนรอบข้างจะเข้าใจ ที่สำคัญเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเค้าได้ง่ายๆ คนรอบข้างทำได้แต่เพียงให้ข้อมูลอธิบายและพยายามเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของพวกเค้า

แม้ผู้ป่วยออทิสติกจะมีพฤติกรรมหลายๆอย่างที่เรามองแล้วไม่เข้าใจ มองว่าเป็นเรื่องแปลก แต่คนปกติธรรมดาอย่างพวกเราก็มีหลายๆพฤติกรรมที่แปลกประหลาดและไม่มีใครเข้าใจเหมือนกัน เบื้องหลังของการกระทำเหล่านั้น ไม่ว่าจะของผู้ป่วยออทิสติกหรือของคนปกติ ต่างก็เป็นเพราะเหตุผลส่วนตัวหรือปูมหลังฝังใจบางอย่าง ที่ต่างกันก็คือเบื้องหลังของการกระทำของผู้ป่วยออทิสติก ตัวผู้ป่วยสามารถอธิบายได้ถึงที่มาของการกระทำเหล่านั้น แต่เบื้องหลังการกระทำของคนปกติธรรมดาอย่างเรา บางทีเราก็ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยซ้ำเพราะมันเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าใครก็มีพฤติกรรมแปลกๆ ไม่เกี่ยวว่าเราจะมีระบบการทำงานของสมองปกติหรือไม่ เพราะว่าเราทุกคนไม่เพอร์เฟ็ค และการไม่เพอร์เฟ็คนี้ก็ทำให้โลกดูมีสีสันกว่าโลกที่ทุกคนเพอร์เฟ็คซะอีก การใช้ชีวิตบนโลกที่ทุกอย่างมีคำตอบมันจะสนุกยังไง จริงมั๊ย ถ้าอย่างนั้นการไม่แตะต้องอาหารสีเหลืองเพราะเกลียดสีเหลืองของผู้ป่วยออทิสติก กับการไม่กินผักเพราะว่ามันเป็นผักของคนบางคน อันไหนมันแปลกกว่ากันน๊า

ป.ล. เจ้าของบล็อกชอบกินทุกอย่างที่มีรสสตอร์เบอร์รีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนม เค้ก แยม และอื่นๆ แต่เราไม่กินลูกสตอร์เบอร์รีที่เป็นผลไม้เลย เหตุผลเพราะว่า.....มันสตอร์เบอร์รีมากเกินไป (0-0) สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของผู้ป่วยออทิสติกทุกคนค่ะ



Create Date : 30 ธันวาคม 2550
Last Update : 17 สิงหาคม 2551 0:45:57 น.
Counter : 2082 Pageviews.

11 comments
  
อ่านแล้วสงสารตัวละครทุกตัวในเรื่องเลยค่ะ ไม่เว้นแม้แต่หมาข้างบ้าน

แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ชอบเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถ้าไปเจอเจ้าคริสโตเฟอร์จริงๆ คงต้องตบกะโหลกให้สักที ไม่มีความอดทนพอน่ะค่ะ ถึงได้ประทับใจคุณพ่อไง นิ
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:18:59:47 น.
  
Photobucket

แวะมาทักทาย และหวัดดีปีใหม่คร้า
Happy New Year!!
โดย: t_O_O_n (toonnaka ) วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:19:23:22 น.
  
กำลังอ่านเรื่องนี้อยู่เลยค่ะ
โดย: BoOKend วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:19:53:38 น.
  
ตอนนี้อยู่เกาหลีหรือไทยล่ะคะ ถ้าอยู่เกาหลีก็ไม่รู้จะช่วยยังไง แต่ถ้าอยู่ไทยก็ไปคิโนะเลยค่ะ วันก่อนก็เห็น Slam มาแล้วด้วย แต่รู้สึกมันจะเป็นหนังสือเด็กนะ

ส่วนเราเดี๋ยวไปหาคิวอ่านให้ Fever Pitch ก่อน ดันเชียร์บอลคนละทีมกับคนเขียนอีก ลำบากน้อ
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:22:25:15 น.
  
ประสาคนเลี้ยงหมา อ่านบทแรกที่หมาตาย เศร้าสุดๆ ยังอ่านไม่จบเลยนะ ผ่านบทนี้ไปไม่ได้ จะอ่านข้ามไปเลยก็กลัวต่ออารมณ์ไม่ติด เฮ้อ..

จะบอกว่าทักษะผู้คนไม่ดีก็คงได้มั้ง แถมเป็นพวกเก็บสีหน้าไม่เก่ง ขี้หงุดหงิด พอรวมกันก็เลย อยู่คนเดียวกับหมาแมว กับคนที่เข้าใจเราดีกว่า เดี๋ยวไปมีความกับคนอื่น แย่เลย
แต่ถ้าไปเที่ยวสังสรรค์เป็นช่วงๆ ก็ได้นะ เปลี่ยนบรรยากาศ เอ.. นิสัยแบบนี้ (ฟังดู นี่มันนิสัยแมวๆ นะ หึหิ
ว่าจะถาม ปีนี้ทำลิสต์หนังสือเตรียมอ่านหรือปล่าวคะ
โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.138.113 วันที่: 31 ธันวาคม 2550 เวลา:16:55:08 น.
  
ขอให้น้องสาวคนสวย มีความสุข ตลอดปี 2008 และตลอดไป ไม่จน ไม่เจ็บ พบคนดีๆ พบเพื่อนดีๆ เจ้ากบทำสิ่งใดผิดพลาดพลั้งไป ก็อภัยในกันนะครับ
โดย: กบเมืองชล วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:21:47:05 น.
  
ถามเพราะเราไม่ได้ทำลิสต์ค่ะ เคยทำแล้วไม่ได้ตามนั้น ปีนี้ไม่ทำดีกว่า
โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.114.30 วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:9:39:47 น.
  
มาสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่ะ ปีนี้ก็ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
มาส่งสคส.ก่อนน้าแล้วเดี๋ยวมาอ่านอีกที ^^

โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:16:58:12 น.
  
สวัสดีค่ะ ตามมาอ่านต่อจ้า
จขบ.รีวิวได้อรรถรสจังค่ะ
ทำให้อยากอ่านขึ้นมาทันทีเลยอ่ะ
ว่าไปแล้วงานหนังสือก็จะมาอีกแล้วนะคะเนี่ย
สงสัยต้องทำลิสแต่เนิ่นๆอิอิ

คืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์นะคะ
โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:23:55:44 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

น่าอ่านมากเลยค่ะ ถ้าว่างๆจะลองหามาอ่านดู
โดย: LpDeeDa วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:8:02:51 น.
  
สวัสดีค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนที่ชอบดื่มกาแฟ
และอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ

จุ๊บจุ๊บ
โดย: BeCoffee วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:14:44:38 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments