กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
นัดหมายในความมืด「暗いところで待ち合わせ」- โอตสี อิจิ
++นัดหมายในความมืด「暗いところで待ち合わせ」++
ผู้เขียน โอตสี อิจิ
ผู้แปล พรพิรุณ กิจสมเจตน์


"คุณรู้จักความเหงาดีพอหรือยังคะ" 

ประโยคคำถามนี้ถูกตั้งจั่วหัวไว้เป็นประโยคแรกในหน้าคำนำผู้แปล เมื่อรวมกับชื่อ "โอตสึ อิจิ" ที่ทางประเทศญี่ปุ่นยกย่องให้เป็น "ผู้เชี่ยวชาญเรื่องความเศร้า" แล้ว ประโยคคำถามเรื่องความเหงาดูมีน้ำหนักรุนแรงขึ้นมาทันที "นัดหมายในความมืด" อาจจะไม่ใช่หนังสือที่ "เศร้า" ที่สุดของ "โอตสี อิจิ" แต่แน่นอนว่ามันเป็นหนังสือที่ "เหงา" ที่สุดของโอตสี อิจิในความรู้สึกเมื่ออ่านจบลง ถ้าใครไม่ค่อยสนิทชิดเชื้อกับความเหงา หนังสือเล่มนี้จะสอนให้รู้จักกับ "ความเหงา" ได้เป็นอย่างดี



จากปกหลัง...มิจิรุต้องตาบอดเพราะอุบัติเหตุ เธอถูกความพิการกักขังไว้ในโลกไร้แสง และต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวหลังการตายของพ่อซึ่งเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว อากิฮิโระ พนักงานหนุ่มเติบโตในครอบครัวอันอบอุ่น แต่จิตใจเขากลับหม่นดำด้วยการปฏิเสธผู้คนและสังคม ทั้งสองได้มาพบกันในวันที่เกิดคดีฆาตกรรม อากิฮิโระเป็นผู้ต้องสงสัย ส่วนมิจิรุเป็นผู้ให้ที่ซ่อนผู้ต้องสงสัยโดยเธอไม่รู้ตัว เนื่องจากอากิฮิโระใช้ดวงตาอันมืดมิดของเธอเป็นเครื่องกำบัง แต่แล้วในความมืดนั้นเอง ความผูกพันของทั้งสองก็ก่อตัวขึ้นอย่าเงียบเชียบ ไปพร้อมกับปริศนาฆาตกรรมที่กำลังคลี่คลาย 

ถ้าใครเคยตกอยู่ในห้วงภาวะเหงามาแล้วสักระยะนึง คงจะอินไปกับความรู้สึกของมิจิรุ ด้วยภาษาและบรรยากาศที่เงียบงันและเยือกเย็นตามสไตล์ โอตสี อิจิ Genre ยิ่งทำให้อารมณ์ความรู้สึกของมิจิรุโดดเด่นจนเข้ามาเกาะกุมหัวใจได้ไม่ยาก จนบางครั้งแอบเผลอน้ำตาไหลให้กับมิจิรุ หรือตัวเอง...ความรู้สึกของมิจิรุบนโลกที่ดวงตามืดบอด ทำไมมันช่างคล้ายคลึงกับโลกความเหงาของคนอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่าขนาดนี้  

เริ่มจากการปิดกั้นตัวเองเพราะชีวิตที่ผ่านมาพบเจอกับการลาจากและเจ็บปวดหลายครั้ง จึงคอยย้ำกับตัวเองว่าขอเลือกทางที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดและลาจากอีก ดังเช่นที่มิจิรุว่า...

"การได้พบเจอใครบางคน ได้ดีใจ เสียใจ เจ็บปวด และในที่สุดก็ต้องแยกจากกัน เหตุการณ์ที่เกิดซ้ำไปซ้ำมาเช่นนี้ มันช่างน่าเหนื่อยใจ ถ้าเป็นแบบนั้นขออยู่คนเดียวเสียแต่แรกจะดีกว่า"

ตามมาด้วยการปกป้องตัวเองด้วยการเลือกมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพ เลิกหลงใหลใฝ่ฝันถึงชีวิตที่จริงๆก็แอบวาดหวังไว้แต่กลัวว่ามันคงไม่เป็นจริง และคอยย้ำบอกกับตัวเองว่า "ชั้นอยู่คนเดียวได้" 

"สิ่งที่มิจิรุควรทำคือ อยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องออกไปไหน ตราบใดที่ทำเช่นนั้น เธอก็จะไม่ต้องหลงใหลใฝ่ฝันสิ่งใด เมื่อไม่หลงใหลใฝ่ฝัน เวลาเอื้อมมือไขว่คว้าสิ่งใดแล้วพลาด เธอก็จะไม่ต้องเจ็บปวดหัวใจ"

"มิจิรุกลัวจนปากสั่น แต่เธอต้องทนให้ได้ ชีวิตของเธอจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนกัน ทำงาน แต่งงาน มีลูกน่ะหรือ เธอไม่จำเป็นต้องมีชีวิตแบบนั้นก็ได้ แม้จะมองไม่เห็น เธอก็สามารถอยู่ได้โดยลำพัง"

แต่ในความเป็นจริง...ลึกๆก็รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการนั้นคืออะไร และในวันที่อ่อนแอขึ้นมา ความรู้สึกนั้นก็ชัดเจนเด่นชัดขึ้น ที่ผ่านมามันก็เป็นแค่การหลอกและปลอบใจตัวเองเท่านั้น จริงๆแล้วก็แอบคาดหวังที่จะมีความสุขเหมือนคนอื่นๆเค้า

"มิจิรุยืนนิ่งบนพื้นครัว และตระหนักชัดในชั่วขณะนั้นว่า ที่เธอประกาศว่าสามารถอยู่ได้โดยลำพังนั้นเป็นการโกหก" 

"มิจิรุเคยคิดว่าวิถีชีวิตแบบนั้นไม่เลวร้ายนัก และมันคงนำความสุขอันเรียบง่าย กะทัดรัด และสมถะมาสู่ตัวเธอได้ ทว่าเมื่อมองดูคนอื่น เธอกลับอดเศร้าใจไม่ได้ เพราะความสุขของเธอเมื่อเทียบกันกับของคนอื่นแล้ว มันช่างน้อยนิด แต่เธอก็คิดไปเองว่าวิถีชีวิตคล้ายต้นไม้ในกระถางแบบนั้นไม่เลวร้ายนัก"

และในวันที่มีใครบางคนเดินผ่านเข้ามาในชีวิต ความกลัวก็จะเริ่มก่อตัว กลัวว่าตัวเองจะเปิดใจรับใครบางคนเข้ามาซึ่งทำให้ตัวเองอ่อนแอลง เมื่ออ่อนแอลง ก็อาจจะไม่สามารถกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบเดิมซึ่งพยายามทำมาจนเริ่มชินชานั้นได้อีกครั้ง ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั่งๆที่เริ่มจะคุ้นชินกับชีวิตแบบนั้นแล้ว และที่แย่ไปกว่านั้น คือความกลัวว่าคนๆนั้นจะเดินออกไปจากชีวิตในสักวันหนึ่ง และต้องเจอกับความเจ็บปวดใจอีกครั้งหนึ่ง

"เธอควรสบายใจเมื่อรู้สึกว่ามีคนคอยปกป้องไหมนะ ไม่สิ อย่าคิดถึงมันเลยดีกว่า มิฉะนั้นเธอจะรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอเหลือเกิน มิจิรุรู้สึกราวกับว่าสิ่งที่ทำมาตลอดโดยลำพังอาจพังทลายลงมา จากนี้ไปเรื่องต่างๆ ที่เธอเคยวางเฉยไม่สะทกสะท้านคงจะกลายเป็นเรื่องน่าเศร้า"

"วินาทีที่รับรู้ว่ากำลังเดินคิดเรื่องของเขา มิจิรุรู้สึกว่าตนเองช่างอ่อนแอ เพราะอย่างน้อยตอนเขายังไม่ปรากฎตัว เธอไม่เคยต้องใช้สมองคิดเรื่องแบบนั้น ไม่เคยต้องเจ็บปวดใจเมื่อนึกถึงภาพบ้านที่ไร้เงาของเขา"

นอกจากมิจิรุแล้ว ในเรื่องยังมีคนเหงาอีกหนึ่งคน "อากิฮิโระ" ชายหนุ่มซึ่งไม่สามารถเข้าเพื่อนร่วมงานได้เพราะเป็นคนเงียบเฉย เข้าสังคมไม่เก่ง อากิฮิโระก็ใกล้เคียงกับมิจิรุตรงที่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการมีชีวิตในแบบที่ตัวเองใฝ่ฝัน สำหรับมิจิรุมันคือการมีใครสักคนอยู่เคียงข้างในวันที่โลกของเธอมืดสนิท ส่วนอากิฮิโระ ความปรารถนาลึกๆแล้วนั้นคือการได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมรอบตัว ได้ยิ้มได้หัวเราะร่วมกับคนอื่น ทั้งสองเลือกทางเดินเดียวกัน คือ ปิดกั้นเมื่อประสบพบกับความล้มเหลวบ่อยครั้ง เริ่มปฎิเสธว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการ และสร้างกลไกการป้องกันตัวขึ้นมา เพื่อให้ตัวเองดำรงอยู่ในโลกที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเอง...โลกที่ "ชั้นไม่ได้ต้องการใคร" และเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บปวดกับความล้มเหลวอีกครั้ง

ลืมบอกไปว่า หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่โรแมนติกด้วยนะ สิ่งที่คนเราต้องการก็คือใครสักคนที่ยอมรับในตัวตนที่เราเป็น ใครสักคนที่นั่งเงียบๆอยู่ข้างๆกัน แต่ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นและเติมเต็ม จริงๆแล้วมันก็คงแค่นั้นแหล่ะ

นี่คงเป็นบล็อคที่เหงา เศร้า และสปอยล์ที่สุดตั้งแต่เคยเขียนมา....

ป.ล. ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าของบล็อคนะคะ ไม่ได้เป็นอะไร เจ้าของบล็อคเป็นคนอารมณ์ศิลปินเลยอินกับอะไรง่ายๆ พวกหนังสือ เพลง ภาพยนตร์ ส่วนตอนนี้ก็อินกับ "นัดหมายในความมืด" และมิจิรุ เท่านั้นเอง




Create Date : 02 กันยายน 2555
Last Update : 19 ตุลาคม 2555 22:38:38 น.
Counter : 2743 Pageviews.

11 comments
  
ชอบผลงานของโอตสึ อิจิ เหมือนกันค่ะ ติดตามอ่านได้หลายเล่มแล้วล่ะค่ะ แต่... เล่มนี้ยังไม่ได้อ่านเลย
โดย: หวานเย็นผสมโซดา วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:10:33:48 น.
  
ปกติ อ่านแต่บันทึกการเดินทาง :)
ต่อไปต้องหาแนวนี้มาอ่านลอวดูบ้างเเล้วค่ะ น่าสนใจดีจัง
แต่กลัวว่าอ่านแล้วจะอินจัดนี่สิ อิอิ
โดย: Nepster วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:11:44:57 น.
  
ป.ล. ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าของบล็อคนะคะ ไม่ได้เป็นอะไร เจ้าของบล็อคเป็นคนอารมณ์ศิลปินเลยอินกับอะไรง่ายๆ พวกหนังสือ เพลง ภาพยนตร์ ส่วนตอนนี้ก็อินกับ "นัดหมายในความมืด" และมิจิรุ เท่านั้นเอง << เล่นเอาซะยิ้ม
โดย: lifeinmono วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:13:20:47 น.
  
แค่เห็นชื่อเรื่องกะภาพหน้าปก ก็พาลไม่อยากอ่านแล้ว เพราะไม่อ่านแนวนี้ ฮ่าๆๆ แต่เคยอ่านเรื่องคิชเช่น ของบานาน่านะคะ แต่เล่มนั้นไม่หนักอกหนักใจอะไรมาก

ปล แต่อ่านบล็อกนี้แล้วก็อินตามนะ อินแบบรู้สึกว่าเจ้าของบล็อกติสท์ๆๆจริงๆแหละ
โดย: settembre วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:17:30:48 น.
  
@คุณ sebbembre 55+ เล่มนี้ต่างจากคิชเช่นมากมายค่ะ แต่จริงๆก็ไม่ใช่แนวฆาตรกรรมนะคะเล่มนี้ ให้เป็นดราม่าบวกโรแมนติกค่ะ น่าอ่านนะคะ ^^
โดย: narumol_tama วันที่: 4 กันยายน 2555 เวลา:9:55:38 น.
  
อ่านรีวิวของคุณ แล้วยิ่งอยากอ่านจังเลยค่ะ :)
โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 6 กันยายน 2555 เวลา:0:00:11 น.
  
อ่านตอนนี้ยิ่งเหงาหนัก...ฝนตกมากมายเลย นั่งหน้าคอมคนเดียว...เหี่ยวใจ
โดย: normalization วันที่: 6 กันยายน 2555 เวลา:10:57:18 น.
  
วรรณกรรมชิ้นนี้นัดหมายในความมืด
ทำให้นึกถึงซีรีย์ญีปุ่นเรื่องนึง
ทีชื่อSmile ความจริงเรื่องก็ไม่คล้ายกันหรอก

แต่ว่าเรื่องของเหงา หยามเหยียด อคติทางเชื้อชาติ
ตลอดจนการพิพากษาทางสังคม เสรีภาพบุคคล

ส่วนอิจิซัง เหมือนจะยังไม่มีซีรีย์
เอามาทำส้กเรื่องนะครับ
โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 8 กันยายน 2555 เวลา:11:50:58 น.
  
แบบว่าชอบทำตัวเป็นนักประชาสัมพันธ์เจแปนซีรีย์
ถ้าหาซีรีย์ที่เข้าหลักเกณฑ์ เหงา-ดาร์ก-ฆาตกรรม

one million stars falling to the sky ที่ทาคุยะเล่น

innocent love อันนี้เป็นพี่น้องผู้พลัดพราก โดยเชื่อว่าพี่ตนเองไม่ใช่ฆาตกรรม มีโฮชิโนะ มากิกับฮิโรกิแสดงนำ

byukuyaku คล้ายๆกับinnocent love ที่ดาร์กกว่า มีฮารุกะ อายะเสะ
และฮิโรยูกิกลับมาคู่กันอีกครั้ง

และsleeping forrest อันนี้ปมฆาตกรรมยกครัวเมื่อสิบห้าปีก่อนในคืนคริสตมาส
กับชายปริศนาที่โผล่มาเพื่อเตือนความทรงจำ
จิตวิทยาเต็มสูบ พลิกสถานการณ์ตลอด


วันไหนที่ฟ้าสว่าง แต่อยากเสพงานฆาตกรรม
วันนั้น ค่อยมาว่ากันต่อ
โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 9 กันยายน 2555 เวลา:19:07:18 น.
  
สวัสดีค่ะ ชอบชื่อเรื่องจัง "นัดหมายในความมืด" ปกติเป็นคนไม่ชอบแนวนี้ค่ะ แต่ไม่รู้เป็นไร รู้สึกได้ดูซีรีย์ตลอด 555 แต่ว่าหนังสือช่วงหลังๆ มาไม่ค่อยได้อ่านเลยค่ะ มาติดซีรีย์แทน
โดย: prysang วันที่: 10 กันยายน 2555 เวลา:16:38:10 น.
  
วันนี้แวะมาเยี่ยมบล็อกของคุณค่ะ อ่านบรรณนิทัศน์หนังสือเรื่อง นัดหมายในความมืดแล้ว รู้สึกว่า ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ ของ คนเหงา คนเคยผิดหวัง เคยพลัดพรากกันจริง ๆ แค่คนเขียนบรรณนิทัศน์ หนังสือเรื่องนี้แล้ว ก็ซึ้งในความรู้สึกที่คุณเขียนไว้ ค่ะ เขียนได้แจ่มชัด ได้อารมณ์ความรู้สึกดีค่ะ ขอชื่นชมค่ะ
โดย: อาจารย์สุวิมล (อาจารย์สุวิมล ) วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:11:15:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments