เมษายน 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ปริศนาคำสารภาพ - โยโกยามา ฮิเดะโอะ
++ปริศนาคำสารภาพ++
ผู้เขียน โยโกยามา ฮิเดะโอะ
ผู้แปล วราภรณ์ พิรุณสวรรค์


ถ้าใครเป็นนักอ่านประจำของนิยายแปลสืบสวนญี่ปุ่นของ Bliss Publising ก็คงพอเดาได้ว่าจขบ.ดองหนังสือเล่มนี้มานานเป็นปี (-_-") แต่ไม่ว่าจะดองมากี่ปี ก็อ่านเล่มนี้จบในหนึ่งวันนะคะ (พอจะเป็นคำแก้ตัวได้มั๊ยเนี่ย ถ้าอ่านจบเร็วแล้วทำไมไม่หยิบมาอ่านแต่แรกเล่า แป่วๆๆ) ต่อจากนี้ก็อาจจะมีหนังสือที่ดองมานานมารีวิวเป็นระยะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะรีวิวทำไมเพราะหลายๆคนคงอ่านกันไปหมดแล้ว แต่ก็ดีนะคะ จะได้ช่วยกันแชร์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน



จากปกหลัง...คะจิฆ่าภรรยาที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ตามตามคำขอของเธอ เขาเข้ามอบตัวและสารภาพด้วยตนเอง และยอมรับโทษทัณฑ์โดยไม่มีเงื่อนไข คดีนี้ควรจะปิดได้อย่างง่ายดาย แต่กลับกลายเป็นว่าตำรวจ อัยการ ทนายความ ศาล และผู้คุมนักโทษผู้เกี่ยวข้องบนสายพานแห่งการลงโทษกลับคิดว่าคำสารภาพของคะจิมีปริศนาซ่อนอยู่ ปริศนาที่ว่าคือ สองวันหลังจากคำจิฆ่าภรรยาและก่อนเข้ามอบตัวนั้น เขาหายไปไหน...และเหตุไรเขาจึงไม่ยอมปริปากพูด...

พบกับเงื่อนงำเบื้องหลังฆาตรกรรมที่จะทำให้ต้องตั้งคำถามกับชีวิต อีกหนึ่งผลงานของนักเขียนนิยายสืบสวนชื่อดังของญี่ปุ่น โยโกยามา ฮิเดะโอะ เจ้าของรางวัลจากสมาคมนักเขียนนิยายสืบสวนแห่งญี่ปุ่นผู้ทำสถิติยอดขายอยู่ในระดับแถวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง...


ยอมรับว่าเป็นคนชอบอ่านหนังสือรางวัลโดยเฉพาะพวกนิยายแปลของญี่ปุ่น เพราะเป็นการยากที่เราจะรู้จักชื่อนักเขียนเหล่านั้น การที่จะดูว่าหนังสือเล่มนึงน่าอ่านมากแค่ไหนก็อยู่ที่เนื้อเรื่องปกหลังกับรายชื่อรางวัลที่ตามมา "ปริศนาคำสารภาพ" ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกดึงดูดให้อ่านด้วยรายชื่อรางวัลโดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งจากการจัดอันดับสุดยอดหนังสือแนวลึกลับ จากวารสารจัดอันดับหนังสือชื่อดังของญี่ปุ่นถึงสองฉบับ ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนจัดอันดับ จะเป็นผลโหวตจากทางบ้านหรือเป็นการจัดอันดับโดยผู้เชี่ยวชาญ แต่ยังไงก็ตาม "ปริศนาคำสารภาพ" ยังได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วยในปี 2004

นี่เป็นครั้งที่สองที่ประเด็น "อัลไซเมอร์" มาอยู่ในหนังสือแปลของญี่ปุ่นแนวฆาตรกรรมสืบสวนเท่าที่อ่านมาหลายเล่ม อีกเล่มหนึ่งก็คือเรื่อง "นิ้วสีแดง" ของฮิราชิโนะ เคโงะ พอจะเดาๆได้ว่าท่าทางญี่ปุ่นเองจะมีปัญหาในเรื่องการจัดการผู้ป่วยอัลไซเมอร์มากเลยทีเดียว ส่วนเมืองไทยไม่รู้ว่าเรามีวิธีจัดการกันอย่างไรเพราะยังคงเป็นเรื่องไกลตัวอยู่ และหวังว่ามันจะเป็นเรื่องไกลตัวตลอดไปเพราะยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกหนักใจกับประเด็นนี้ทั้งตัวผู้ป่วยเองและคนรอบข้างผู้ป่วยด้วย นอกจากเรื่องประเด็นอัลไซเมอร์แล้ว ยังมีประเด็นชีวิตหนักๆอยู่ในหนังสืออีกเรื่องคือเรื่องหน้าที่การงาน การทำงานกับผู้บังคับบัญชา และการพยายามเป็น "somebody" ในวงสังคม

"ปริศนาคำสารภาพ" เล่าเรื่องราวของคะจิ ตำรวจระดับสูงที่ผู้คนมากหน้าหลายตาให้ความเคารพนับถือเพราะบุคลิกส่วนตัวที่แสนจะใจดีและอบอุ่น แต่ทว่าวันหนึ่งกลับเข้ามอบตัวในฐานะผู้สังหารภรรยาโดยไม่ยอมปริปากถึงเรื่องราวสองวันหลังจากที่ฆ่าภรรยาแล้วเข้ามอบตัว เรื่องราวของคะจิถูกถ่ายทอดผ่านทางตัวละครที่มีอาชีพแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นตำรวจ อัยการ นักข่าว ศาล ทนายความ ผู้คุมนักโทษ ตัวละครแต่ละตัวก็จะเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของตนและคะจิในแง่หน้าที่การงานที่ต้องมาโยงกับคดีของคะจิที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นแต่ละบท ก็จะมีชื่อตัวละครแต่ละคนเป็นชื่อบทนำด้วย เท่ทีเดียว ตัวละครแต่ละตัวต่างก็ต้องการขุดคุ้ยประเด็นการหายตัวไปสองวันของคะจิด้วยเหตุผลที่ต่างกันำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสามัญสำนึกในหน้าที่การงานของตัวเอง หรือเพื่อความยุติธรรมถูกต้อง หรือแม้แต่เพื่อเป็นใบเบิกทางของหน้าที่การงานตัวเอง

หลังจากที่อ่านจบไป ประเด็นการหายตัวไปของคะจิดูจะไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญสักเท่าไหร่ ประเด็นการหายตัวไปเป็นเพียงแค่จุดๆหนึ่งเพื่อการตีแผ่ประเด็นที่สำคัญกว่านั่นคือการสะท้อนภาพสังคมการทำงานที่ต่างก็ต้องทำงานตามใบสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งบางครั้งอาจจะขัดกับสามัญสำนึกส่วนตัว การสะท้อนภาพการต่อสู้ในหน้าที่การงานเพื่อการไปสู่สภาพชีวิตที่ดีกว่าและการยอมรับที่ดีกว่าในวงสังคม

หรือว่า คนทุกคน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรต่างก็ต้องเจอกับปัญหาชีวิตการงานด้วยกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกแก้ปัญหาเหล่านั้นในรูปแบไหนและเราจะเดินต่อไปยังไงต่างหากที่จะเป็นจุดเปลี่ยนสู่สิ่งที่ดีกว่า



Create Date : 06 เมษายน 2552
Last Update : 6 เมษายน 2552 16:22:42 น.
Counter : 1786 Pageviews.

8 comments
  
เล่มนี้ตอนอ่านจบไปก็ชอบมากๆ เลยค่ะ

เอ...ปกที่มีเป็นปกนี้หรือเปล่าหว่า ทำไมไม่คุ้น แหะๆ ((สงสัยแต่ขี้เกียจไปค้นอีก ^^"))
โดย: Clear Ice วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:18:48:08 น.
  
ส้มมาขอแอ๊ดไฮไฟใหม่นะคะ เพราะช่วงก่อนหน้านี้ได้เคลียร์เพื่อนๆ ออกสงสัยเผลอไปลบออกน่ะค่ะ
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 6 เมษายน 2552 เวลา:22:13:05 น.
  
อ๊ะ..น่าสนใจค่ะ

ตกลงว่าสนุกใช่มะคะ? จะได้จดไว้ในลิสต์อะค่า
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 เมษายน 2552 เวลา:18:01:22 น.
  
อ่านแล้วเช่นกัน แต่นานเกินกว่าจะออกความเห็นแล้วล่ะ
จำได้แต่ว่า เราเลือกอ่าน เพราะการเล่าจากตัวละครต่างหน้าที่กัน ในคดีเดียวกันนั้น
น่าสนใจ ทำให้อยากหาคำตอบอ่ะ

แล้วมันจบยังไงละเนี่ย ....ลืม
โดย: นัทธ์ วันที่: 8 เมษายน 2552 เวลา:22:45:54 น.
  
สวัสดีอีกรอบค่ะ

อืมม์...นั่นสินะคะ

แต่เราก็เชื่อเรื่องรักยืนยงด้วยนะคะ แต่เราว่า น้อยคนเหลือเกินที่จะได้เจอรักที่ดีขนาดนั้นน่ะค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:16:33:17 น.
  
ตามมาบอกว่าเดี๋ยวอ่านเรื่อง "ปริศนาเพื่อนร่วมห้อง" จบแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะคะ แต่ต้องรอคิวหน่อยจ้า
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:22:55:47 น.
  
เรื่องนี้อ่านแล้วเช่นกัน แต่พอมาอ่านทวนจากบล็อก ก็จำได้ลางๆ แต่คิดว่าสนุกนะ

ไปงานหนังสือมาใหม่ ก็ซื้อมาอีกค่ะ วรรณกรรมแปลจากบลิสอะค่ะ
โดย: cottonbook วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:14:56:50 น.
  
เป็นเล่มที่อ่านจบแล้วก็รู้สึกเฉยๆ ทุกอย่างพยายามเน้นถึงบทสรุปที่น่าสงสัย และจบได้น่าประทับใจ...สำหรับคนอารมณ์อ่อนไหว แต่กับผม ไม่เลย หนักขมวดปมให้พยายามสงสัยว่าคุณคะจิผิดจริงหรือ แต่ก็ไม่มีศิลปะมากพอ พยายามอ่านให้ถึงบทสรุป ซึ่งนับว่าหลับไปหลายตื่น พอจบปุ๊บก็เข้าใจว่าทำไมถึงได้รางวัล คงเพราะตอนจบที่จรรโลงใจ แต่สำหรับผมมันไม่มีศิลปะดึงให้จมลงไปในหนังสือได้เลย

ให้หนึ่งดาว สำหรับตอนจบ
โดย: Madara IP: 161.200.146.55 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:11:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments