กรกฏาคม 2552

 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
11
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน - ไต้ซือเจี๋ย
++บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน++
ผู้เขียน ไต้ซือเจี๋ย
ผู้แปล โตมร ศุขปรีชา


นวนิยายเล่มบางของไต้ซือเจี๋ย "Balzac et la petite tailleuse chinoise" หรือในชื่อไทยว่า "บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน" ที่ได้รับรางวัลวรรณกรรมหลายหลายรางวัลเป็นเครื่องการันตี ได้รับการแปลมากกว่า 26 ภาษา แถมยังได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์เข้าชิงลูกโลกทองคำอีกต่างหาก เมื่อได้อ่านแล้วก็ไม่แปลกใจเลยที่หนังสือเล่มนี้ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม เพราะเป็นวรรณกรรมเล่มบางแต่อิ่มด้วยอรรถรสและอารมณ์มากๆเลย



จากปกหลัง...พบกับเรื่องราวในยุคปฎิวัติวัฒนธรรมจีน ปี 1971 เมื่อหนุ่มชาวเมืองผู้เคราะห์ร้ายสองคนถูกส่งให้ไปอยู่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลของจีน เพื่อล้างความคิดแบบตะวันตก ที่นั่นทั้งสองต้องทำงานหนัก ทำตัวประหนึ่งกรรมกรไร้การศึกษา แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อทั้งคู่ร่วมกันขโมยสิ่งของต้องห้ามที่ทางการจีนถือว่าเป็นตัวอันตรายที่จะบ่อนทำลายประเทศ นั่นคือ "หนังสือวรรณกรรมชั้นเยี่ยมของโลก" ของนักเขียนนาม "บัลซัค" ทั้งคู่นำหนังสือเหล่านี้ไปอ่านให้ลูกสาวของช่างตัดเสื้อในหมู่บ้านฟัง ในขณะเดียวกันชายหนุ่มทั้งคู่ก็เริ่มตกหลุมรักสาวน้อย และทุกอย่างก็นำพาไปสู่สิ่งที่ไม่คาดคิด..."

นวนิยายกึ่งอัตชีวประวัติที่ตัวผู้เขียนเองเคยประสบกับการถูกส่งตัวไป "สัมมนาเพื่อดัดแปลงตัวเอง" หรือ Re-Education ในช่วง Cultural Revolution เรื่อง "บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน" เป็นการเล่าเรื่องผ่านสองหนุ่มชาวเมืองที่ถูกเหมารวมว่าเป็นปัญญาชนแม้จะยังไม่ได้เข้ารั้วมหาลัย เพราะทั้งคู่มีพ่อแม่เป็นแพทย์

หนังสือเล่าเรื่องราวการดำเนินชีวิตแต่ละวันของ "ผม" กับ "หลู" ในหมู่บ้านทุรกันดารที่ต้องทำงานตรากตรำเช่นเดียวกับเหล่าชาวบ้าน ภาพช่วงเวลาในสมัยปฏิวัติทางวัฒนธรรมได้รับการถ่ายทอดอย่างชัดเจน ผ่านสภาพแวดล้อมในสังคมเมือง และสังคมชนบท ผ่านความรู้สึกของคนสองฝ่าย ทั้งฝ่ายปัญญาชนเช่น "ผม" กับ "หลู" หรือนักเทศน์ศาสนาคริสต์ และฝ่ายที่นับถือสนับสนุนประธานเหมาอย่างผู้ใหญ่บ้าน

สำหรับคนที่รักการอ่านหนังสือ ของแถมอีกอย่างคือการเข้าใจได้ถึงอรรถรสความรู้สึกอยากอ่านหนังสือของ "ผม" กับ "หลู" แม้หนังสือจะถูกจัดให้เป็นสิ่งต้องห้ามในสมัยนั้นแต่ทั้งคู่ก็ยอมเสี่ยงเพื่อแลกกับมันมา หนังสือแต่ละเล่มที่ได้รับการถูกหยิบยกมากล่าวถึงต่างก็เป็นวรรณกรรมชั้นยอด (จริงๆส่วนตัวได้อ่านแค่เล่มเดียวคือ The Count of Monte Cristo ของ อเล็กซองดร์ ดูมาส์) ยิ่งทำให้เข้าใจได้ถึงความรู้สึกปลาบปลื้มของสองชายหนุ่มที่ได้อ่านวรรณกรรมระดับโลกท่ามกลางวันเวลาที่ผ่านไปในหมู่บ้านชนบท

"บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน" ก็ดูจะเป็นการตั้งชื่อเรื่องที่เหมาะสมที่สุด เพราะในตอนท้ายของเรื่อง มันก็เป็นเรื่องราวระหว่าง "บัลซัค" กับ "สาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน" อย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องราวของ "สาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน" กับ "ผม" หรือ กับ "หลู" แต่อย่างใด

อ่านไปแอบอดวิจารณ์การเมืองไม่ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าประวัติศาสตร์จีนไม่ใช่วิชาเอกและไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรลึกซึ้งจึงไม่อยู่ในฐานะที่เราจะวิพากษ์วิจารณ์อะไรได้ อีกเรื่องที่ต้องยอมรับคือ "ประวัติศาสตร์คือรากฐานของความเป็นปัจจุบัน" ไม่ว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร มันก็ล้วนมีส่วนที่ช่วยผลักดันให้ปัจจุบันดำเนินไปอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

...และก็ด้วยประวัติศาสตร์นี้แหล่ะที่ทำให้เรามีวรรณกรรมชั้นเยี่ยมอย่าง "บัลซัคกับสาวน้อยช่างเย็บผ้าชาวจีน" ในวันนี้ ว้าววววว



Create Date : 07 กรกฎาคม 2552
Last Update : 7 กรกฎาคม 2552 23:21:10 น.
Counter : 1581 Pageviews.

6 comments
  
เรื่องนี้ตอนที่อ่านก็สงสัยว่าบัลซัคมาเกี่ยวอะไร

แต่อ่านจบแล้ว ประทับใจมาก
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:00:45 น.
  

อา.. RRR ช่วยให้เรามีเรื่องอัพบลอกกันถ้วนหน้าเนอะ ^^
เล่มที่อ่านเล่มแรก ก็เอ็ดเวิร์ด ทูเลน นั่นล่ะค่ะ
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:28:40 น.
  
เล่มนี้อ่านแล้ว ยังไม่ถึงกับประทับใจมากนักอ่ะค่ะ...มันรู้สึกเหมือนคนเขียนเค้ากั๊ก ๆ อะไรไว้....บอกไม่ถูก
เคยรีวิวลงบล็อกไว้ด้วยแหละค่ะ

ส่วนเล่มการล่มสลายของสถาบันครอบครัวฯนั่นก็หม่นจนอึดอัดทีเดียว แต่ก็น่าอ่านนะคะ
โดย: แม่ไก่ วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:05:17 น.
  
มองหาเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ ดีนะที่ยังไม่ได้ซื้อไม่งั้นคงอดได้ปกนี้แน่เลย ไม่รู้ว่าในงานหนังสือคราวหน้าปกนี้จะยังอยู่รึเปล่านะคะ ยิ่งชอบเปลี่ยนปกใหม่อยู่ด้วยค่ายเนี้ย
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:29:38 น.
  
น่าสนใจอีกเล่ม...
อ่านทั้งกระทู้ อ่านทั้ง blog เพื่อนๆ
รายชื่อหนังสือที่อยากซื้อเริ่มยาวแล้วนะเนี่ย ...
ต้องมุทำงานเก็บเงินไว้ซื้อหนังสือต่อไป
โดย: นัทธ์ วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:41:53 น.
  
การเมืองที่่ปิดกั้น

มักตามมาด้วยงานวรรณกรรมที่ทรงพลัง

อ่านงาน The Count of Monte Cristo

ด้วยเหรอท่าน สุดย๊อด
โดย: Mr.chanpanakrit IP: 124.120.178.134 วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:14:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

natcharat
Location :
GaNG-NaM, SeoUL  Korea

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]



ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง)

แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun

"ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
New Comments