ตุลาคม 2552

 
 
 
 
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
26
27
28
30
31
 
All Blog
บทที่ 17 ไปเที่ยวลอนดอน (ii)
หลังจากมื้อกลางวันที่ร้านเป็ดย่างชื่อดังแล้ว แตนพาวิทนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินต่อไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดังของลอนดอนในย่าน Knightsbridge ...

วิทไม่รู้ว่าห้างนี้ขายของประเภทไหน ... แต่ที่แน่ๆ สิ่งเคยเห็นคนไทยและคนญี่ปุ่นชอบไปซื้อจากห้างนี้คือถุงหิ้งพลาสติกสกรีนโลโก้ของห้าง ... ก่อนที่จะเข้าประตู วิทหยุดยืนอ่านป้ายประกาศหน้าห้างอย่างสนใจ ป้ายนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ บอกถึงข้อกำหนดต่างๆสำหรับลูกค้าที่มาเดินห้างนี้ เช่นห้ามใ่ส่กางเกงที่มีรอยขาด รองเท้าที่ีใส่ต้องหุ้มส้น และห้ามสะพายเป้ระหว่างการเดินในห้าง เป็นต้น ...

วิทมีเป้สะพายหลังติดตัวมาด้วยใบหนึ่ง สำหรับใส่ของใช้เล็กๆน้อยๆระหว่างเดินทาง ก็เลยลองแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้เดินผ่านประตูเข้าไปทั้งๆที่เป้ยังอยู่บนหลัง ... ไม่ทันพ้นประตู รปภ หนุ่มแต่งชุดยูนิฟอร์มท่าทางเคร่งขรึมก็เดินเข้ามา และพูดจาสุภาพแต่เด็ดขาด ประมาณว่า "ขอประทานโทษครับ ... คุณไม่สามารถสะพายกระเป๋าไว้บนหลังในห้างนี้"

วิทเลยเอาเป้ออกจากหลัง แล้วสะพายที่ไหล่ด้านขวาแทน รปภ พยักหน้าเหมือนอนุญาตให้เดินเข้าไปได้ ... แต่หลังจากที่เดินออกไปได้ไม่ถึง 10 ก้าว ก็เจอ รปภ อีกคนท่าทางแบบเดียวกันมาบอกให้หยุดอีก คราวนี้บอกว่าห้ามสะพายเป้เด็ดขาด และต้องหิ้วเข้าไปเท่านั้น ... วิทเอาเป้มาหิ้วไว้ แต่เริ่มหมดอารมณ์ที่จะเดินห้างนี้แล้ว

แตนเห็นสีหน้าของวิทก็รีบบอก "เอาน่า ไหนๆก็มาแล้ว เข้าไปเิดินดูของก่อนก็แล้วกัน"

หลังจากที่เดินดูของยี่ห้อดังราคาสูงที่มีขายในห้างนี้ วิทก็เริ่มเซ็งเพราะไม่รู้จะดูไปทำไมและไม่อยากซื้ออะไรที่นี่ แตนเลยพาเดินไปที่ส่วนของซุปเปอร์มาร์เกต ซึ่งถ้าไม่นับสินค้าทั่วๆไปที่มีในซุปเปอร์มาร์เกตอื่นๆแล้ว ที่เหลือก็จะเป็นสินค้าราคาแพงประเภท ไข่ปลาสเตอร์เจียนที่ขายเป็นตลับเล็กๆ ซึ่งผู้ที่ได้ค่าแรงขั้นต่ำในอังกฤษต้องทำงานเกือบ 2 วันจึงจะมีเงินพอซื้อได้ หรือตับห่านจากฝรั่งเศส ทั้งอาหารสำเร็จรูปก็เป็นเกรดที่หรูกว่าที่ขายในห้าง M&S ในเมืองที่เขาอยู่ และราคาก็แพงกว่ากันอย่างแน่นอน ... แต่สิ่งที่ิวิทพอจะเปรียบเทียบได้ในซุปเปอร์ฯแห่งนี้ก็คือโค้กกระป๋อง ซึ่งราคาแพงกว่าที่ขายในตู้หยอดเหรียญ 2 เท่า และแพงกว่าราคาขายที่ร้านขายของจิปาถะในมหา'ลัยเกือบ 3 เท่า ทั้งที่เป็นขนาดและหน้าตากระป๋องแบบเดียวกันทุกประการ

เมื่อวิทเดินดูจนทั่วแล้วก็ไม่ได้อยากซื้ออะไรจากห้างนี้ทั้งนั้น เลยบอกแตนให้พาไปที่อื่นต่อ และก่อนออกจากห้างนั้นแตนหันมาถาม "ซื้อถุงหิ้วมั้ย?" พลางชี้ไปที่ถุงหิ้วที่แขวนอยู่ตรงใกล้ๆช่องแคชเชียร์ วิทได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มขำๆ ...

********************************************************************************

หลังจากนั้น แตนพาวิทไปถนน Oxford ซึ่งเป็นย่านชอปปิ้งอีกแห่งหนึ่งของลอนดอน ... ห้างสรรพสินค้าแถวนี้ แม้ว่าจะมีสินค้าไม่ไฮโซเท่าอีกห้างหนึ่ง แต่ก็มีเสื้อผ้ายี่ห้อดังขายเช่นเดียวกัน แต่บรรยากาศไม่อึดอัดเหมือนห้างนั้น ... อย่างไรก็ดีแตนบอกว่า "เห็นพี่คนไทยเค้าบอกว่า ถ้าอยากได้อะไรอย่าเพิ่งรีบซื้อตอนนี้ เอาไว้รอหลังคริสต์มาส ตอนนั้นทุกห้างจะลดราคาเพียบ บางอย่างลดตั้ง 50% แน่ะ"

"ตอนนั้นเราคงไม่ได้มาแล้วหละ เอาไว้เราไปรอซื้อที่โน่นก็แล้วกัน"

********************************************************************************

จากนั้นทั้งสองก็ไปยัง Covent Garden ซึ่งมีร้านขายพวกสินค้าตกแต่งบ้านและงานฝีมือต่างๆ ... แล้วเดินลัดเลาะมา Leicester Square และเดินต่อไปจนถึง Piccadilly Circus ... ตอนนั้นเป็นเวลาเย็นมากแล้ว แตนเลยถามขึ้นว่า "จะกินข้าวเย็นก่อนกลับมั้ย?"

วิทพยักหน้า กว่าจะกลับถึงโน่นก็ราวๆ 4 ทุ่ม ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาของกินที่ไหนในเวลาแบบนั้น ก็เลยตกลงกันว่าจะไปกินอาหารจีนมื้อเย็นก่อนขึ้นรถโคชกลับ

แตนจึงพาลัดเลาะไปย่าน Soho ซึ่งส่วนหนึ่งเป็น China Town ที่มีภัตตาคารจีน และร้านขายของสดของชำของจีน และรวมถึงไทยและเวียตนามด้วย ... แต่ก่อนที่จะไปตรงนั้น ก็ดันไปเจออีกส่วนหนึ่งของ Soho ที่เป็นซอยเล็กอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านเล็กๆที่มีม่านทำด้วยแถบพลาสติกสีๆกั้นอยู่ที่ประตู ... ทั้งสองไม่กล้าเข้าไป แต่จากป้ายหน้าร้านก็พอจะเดาได้ว่าเป็นร้านเซ็กส์ช็อป ... และในย่านเดียวกันก็มีร้านโชว์ที่มีผู้หญิงวัยกลางคนใส่ชุดน่าหวาดเสียวมานั่งหน้าร้าน คอยเชิญชวนลูกค้าให้เข้าไปข้างใน

********************************************************************************

เมื่อเดินดูของในร้านชำใน China Town ได้ซักพักก็ใกล้ค่ำเต็มที ทั้งสองจึงแวะเข้าร้านอาหารจีนที่อยู่แถวนั้น ทั้งสองตัดสินใจสั่งข้าวหน้าเป็ดมาคนละจาน ... ตอนเดินเข้ามาวิทเห็นที่ตู้หน้าร้านนอกจากจะมีเป็ดย่าง หมูแดงแล้ว ก็ยังมีปลาหมึก กับไส้หมู ซึ่งทำเป็นสีแดงคล้ายๆหมูแดงแขวนอยู่ด้วย ... วิทอยากลองไส้หมูสีแดงว่าจะมีรสชาติแบบไหน เลยสั่งกับบริกรชาวจีน

"... And intestine, please."

"Sorry?" บริกรทำหน้างง

"Intestine." วิทบอกซ้ำอีกที แต่ตาบริกรก็ยังงงอยู่เหมือนเดิม

"ตือฮวน" แตนโพล่งออกมาเป็นภาษาไทย "ํYou know?" ส่วนตาบริกรก็ยังส่ายหน้าในขณะที่วิทพยายามกลั้นหัวเราะ

ว่าแล้วแตนก็เลยลุกขึ้น เดินนำหน้าตาบริกรไปที่ตู้หน้าร้าน แล้วชี้ที่ไส้หมู บริกรพยักหน้าเข้าใจ แล้วพูดชื่ออา่หารนั้นออกมาเป็นภาษาจีน ซึ่งก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าออกเสียงว่าอะไร ... แต่ในที่สุดทั้งสองก็นั่งกินข้่าวหน้าเป็ดกับไส้หมู (แดง) อย่างเอร็ดอร่อย ... ก่อนจะกลับตาบริกรคงยังคาใจ อุตส่าห์กลับมาถาม "ยูสองคนเป็นชาวอะไร ... เวียตนามเหรอ?"

แตนตอบกลับไปแบบเคืองๆ ส่วนวิทได้แต่อมยิ้ม

********************************************************************************

บนรถโึคชขากลับค่อนข้างเีงียบ ไม่มีการเปิดเพลงหรือหนังเหมือนรถโคชเมืองไทย มีเพียงเสียงผู้โดยสารบางคนคุยกันเบาๆแว่วมา ในขณะที่บางคนก็ถือโอกาสงีบหลับ ... เมื่อรถออกมาพ้นเขตเมือง สองข้างทางดูมืดสนิท ... วิทนั่งมองฟ้าข้างนอกเงียบๆ รู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ ...

สงวนลิขสิทธิ์บทความ ห้ามเผยแพร่ ทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร



Create Date : 29 ตุลาคม 2552
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 20:18:37 น.
Counter : 567 Pageviews.

4 comments
  
ตามมาเที่ยวโซโหด้วยคนค่ะ คิดถึงอาหารจีนแถวนั้นจัง ปลาหมึกก็อร่อยนะคะ
โดย: แม่ปุ้มปุ้ย วันที่: 29 ตุลาคม 2552 เวลา:22:12:15 น.
  
อยากไปเที่ยวบ้างจังค่ะ
โดย: Eva_MiKi วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:8:25:34 น.
  
ไม่เคยเข้ามา comment ค่ะ แต่ตามอ่านอยู่นะคะ วันนี้ขอเข้ามาให้กำลังใจหน่อยค่ะ
ยังไงก็อย่าหายไปนานๆ
โดย: PrettyNovember IP: 203.152.57.5 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:48:46 น.
  
"ตือฮวน" 55
โดย: acid IP: 110.175.249.151 วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:11:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Historicus
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คุณพ่อลูกสอง (ตัว)
"Have mercy, O Lord, and strengthen all broken wings." Kahlil Gibran

free counters



Waltz in B minor, Op. 69, No. 2 by Frédéric Chopin