สำหรับทุกคนที่มีความฝัน...ในหัวใจ
ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน


ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน วันเป็งปุ๊ด






วันเป็งปุ๊ด หรือ เพ็ญพุธ หรือประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน เป็นประเพณีของทางภาคเหนือ ในทุกปีที่มีวันขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกับวันพุธ
โดยไม่เจาะจงว่าต้องอยู่ในเดือนใด พระภิกษุสามเณรทุกรูปจะออกบิณฑบาตในตอนเที่ยงคืน โดยมีความแตกต่างของการนับเวลาคือ 
ที่ จังหวัดเชียงใหม่ จะตักบาตรคืนวันอังคารหลังเวลา 00.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เข้าสู่วันพุธ 
ในขณะที่จังหวัดเชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน และแพร่ จะใส่ตักบาตรในคืนวันพุธเวลา 24.00 น. เป็นต้นไป 
บรรดาพุทธศาสนิกชนชาวเหนือจะเตรียมข้าวสารอาหารแห้งไว้คอยใส่บาตรตั้งแต่หลังเที่ยงคืน 
โดยจะไปคอยใส่บาตรที่หน้าบ้าน ตามถนนสายต่าง ๆ หรือตามแยกใกล้ชุมชน เป็นต้น

ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด แต่เข้าใจว่าทางภาคเหนือคงรับเอามาจากประเทศพม่า 
มีความเชื่อว่า พระอุปคุตซึ่งเป็นภิกษุที่พระพุทธเจ้าทรงเป็นองค์อุปัชฌาย์ เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จลงไปจำศีลภาวนาอยู่ ณ สะดือทะเล
 ในรอบ 1 ปี จะขึ้นมาโปรดชาวเมืองก่อนเวลารุ่งอรุณชาวพม่ามักตื่นแต่ดึก เพื่อเตรียมอาหารไว้ใส่บาตรพระอุปคุตโดยมีคติความเชื่อว่า 
หากผู้ใดได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตแล้วจะได้บุญใหญ่หลวง เกิดโชคลาภและความเป็นสิริมงคลในชีวิต 
คติความเชื่อนี้จึงทำให้พุทธศาสนิกชนถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ในประเทศไทยการใส่บาตรเที่ยงคืนนี้ชาวเหนือเชื่อกันว่า
พระอุปคุตจะแปลงกายเป็นสามเณรออกมาโปรดสัตว์ถ้าผู้ใดได้ใส่บาตรกับพระอุปคุตแล้วบุคคลนั้น 
จะประสบแต่ความสุขร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองได้อานิสงส์แรง ดังนั้นเมื่อถึงวันเพ็ญตรงกับวันพุธชาวเหนือทุกคนจะไปคอยใส่บาตรเป็นพิเศษ





สำนักสงฆ์เขาพระครู ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ชมวิวเมืองศรีราชา ยามค่ำคืน








พระพุทธลีลานาคะบารมี










พญานาค ที่จะมีความพิเศษอยู่ที่ลูกแก้ว
หรือเรียกอีกอย่างว่า มณีนาคราช ซึ่งมณีนาคราชนี้สามารถสะท้อนภาพ
วิวทิวทัศน์ของเมืองศรีราชา ได้แบบกลับหัวอีกด้วย












กระทงสีตามวันเกิด สำหรับบูชาพระอุปคุต





ประวัติความเป็นมาของพระอุปคุต

พระอุปคุต ผู้เป็นพระอรหันตสาวกที่ทรงมหิทธานุภาพ มีฤทธิ์อำนาจในทางปราบศัตรูหมู่มารทั้งหลาย พระอุปคุต แปลว่า “ผู้คุมครองรักษา” เป็นศิษย์ของพระมหากัสสปะ
ชอบความวิเวกสงบ และอยู่ตามลำพังผู้เดียว ไม่ชอบเกี่ยวข้องกับผู้อื่น ท่านจึงเข้านิโรธสมาบัติ จำพรรษาภายในกุฎิเรือนแก้ว กลางสะดือทะเล
โบราณจารย์มักจะสร้าง เป็นรูปพระอุปคุตแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ เช่น นั่งอยู่ภายในกุ้ง หอย ปู ปลา หรือพระบัวเข็มอันเป็นสัญลักษณ์สำคัญทำให้ศีรษะแหลม
เพราะที่ศีรษะคลุมด้วยใบบัวมีลักษณะแหลม จึงเรียกกันว่า "พระบัวเข็ม"

เรื่องราวของท่านปรากฏเมื่อพระพุทธองค์ปรินิพพานไปแล้ว 218 ปี พระอุปคุตเกิดในตระกูลวานิช บิดาประกอบอาชีพค้าเครื่องหอม อยู่ในเมืองมถุรา แคว้นสุรเสนะ
ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนา  ท่านมีพี่ชาย 2 คน ส่วนท่านนั้น เป็นคนสุดท้อง
มูลเหตุที่ทำให้พระอุปคุตได้บวชนั้น ก็สืบเนื่องมาจาก บิดาของท่าน ได้เคยให้สัญญาไว้กับ พระเถระรูปหนึ่ง คือ พระสาณวาสี (สาณสัมภูติ)
ไว้ว่าหากมีบุตรชายจะให้อุปสมบทในพุทธศาสนา ทีนี้พอมีบุตรชายคนแรก ก็ก็บ่ายเบี่ยง ด้วยอ้างว่าจะต้องเอาไว้ดูแลทรัพย์สิน ในเหย้าเรือน
เอาไว้ถ้ามีบุตรชายคนที่ 2 เมื่อไร แล้วจะยอมให้บวช แต่พอมีลูกชายคนที่ 2 เข้าจริง ๆ ก็หาเรื่องบิดเบือนอีก
ว่ามีความจำเป็น ต้องเอาไว้สำหรับ ทำธุระตามหัวเมือง ขอให้รอไว้มีลูกชายคนที่ 3 แล้วจะต้องบวชให้อย่างแน่นอน
จนกระทั่งมีบุตรคนที่สาม คือ “อุปคุต” เกิดมาก็แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้กับสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระเถระ พระเถระท่านเห็นว่า ยังไม่ถึงเวลา ท่านจึงนิ่งไว้ก่อน
และก็ไม่ได้ไปทวงถามถึงสัญญานั้น จนกระทั่งอุปคุตโตเป็นหนุ่มตอนนั้นอุปคุตได้มาช่วยบิดาขายเครื่องหอมอยู่ที่ร้านในตลาด ตั้งแต่อุปคุตมาอยู่ที่ร้าน ก็ปรากฏว่า
เครื่องหอม ขายดิบขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ผู้คนมาซื้อหากันไม่ขาดสาย นี่เป็นธรรมดาของผู้มีบุญไปอยู่ที่ไหน ทรัพย์สิน ก็จะหลั่งไหลมา ด้วยอำนาจแห่งบุญ

เพราะฉะนั้นจึงเชื่อกันว่า ผู้ที่ค้าขาย หากได้บูชาพระอุปคุตเป็นประจำทุกเช้าตอนเปิดร้าน ก็จะทำให้ค้าขายดี มีคนมาซื้อหาไม่ขาดสายทรัพย์สิน
ก็จะหลั่งไหลมาเทมา กิจการเจริญก้าวหน้าเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป

วันหนึ่งพระสาณวาสีเถระ ได้แวะเข้าไปในร้านที่อุปคุตขายของ และได้กล่าวธรรมกถาให้อุปคุตฟัง ปรากฏว่า อุปคุตฟังแล้วเกิดดวงตาเห็นธรรม
บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น ในพระพุทธศาสนา เมื่อพระสาณวาสีเถระเห็นว่า อุปคุตได้ดวงตาเห็นธรรมแล้ว จึงได้ไปทวงสัญญากับนายพาณิชย์
ผู้เป็นพ่อของอุปคุต พอนายพาณิชย์ถูกทวงถามเช่นนั้น ก็อับจนปัญญา ไม่อาจหาวิธีพูดบ่ายเบี่ยงหลีกเลี่ยงได้อีก จึงตัดสินใจอนุญาตให้อุปคุตออกบวชได้

เมื่อออกบวชแล้ว ท่านพระอุปคุตก็ได้เจริญวิปัสสนาญาณโดยลำดับ จนบรรลุพระอรหันต์ผล นอกจากนี้แล้ว ท่านยังสำเร็จอภิญญาต่างๆ
จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่า ท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล)
แล้วก็ลงไปอยู่ประจำที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ
ต่อมาพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้สร้างวิหารและสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กำหนดจัดให้มีการสมโภชครั้งใหญ่
ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เพื่อให้งานสมโภชสำเร็จเรียบร้อยด้วยดี จึงขอให้พระสงฆ์ขีณาสพที่ทรงอิทธิฤทธิ์เป็นผู้คุ้มครองงานให้ปราศจากอุปสรรคปัญหาต่างๆ
คณะสงฆ์ในนครปาตลีบุตร จึงตกลงกันว่าให้ไปอัญเชิญพระอุปคุตเถระที่จำพรรษาอยู่กลางสะดือทะเลมาช่วยรักษาความปลอดภัยในงานสมโภชพระสถูปเจดีย์
พระอุปคุตเถระรับนิมนต์ พระเจ้าอโศกมหาราช เห็นว่าท่านมีร่างการผายผอมอ่อนแอ เกรงจะทำหน้าที่ไม่สำเร็จจึงทดสอบฤทธิ์ด้วยการปล่อยช้างตกมัน
ให้วิ่งมาทำร้ายระหว่างพระอุปคุตกำลังบิณฑบาต ช้างก็ถูกพระอุปคุตสะกดให้แข็งเป็นหินนิ่งอยู่กับที่ ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชเลื่อมใสศรัทธามาก
ครั้นถึงงานสมโภชพระสถูปเจดีย์พญาวสวดีมารก็มุ่งมาทำลายงานสมโภช โดยใช้ฤทธิ์อำนาจของตนเอง ในที่สุดพระอุปคุตเถระก็ปราบมารจนสิ้นฤทธิ์
พระอุปคุตอธิฐานประคตเอวเป็นโซ่รัดพญามารไว้กับภูเขา และเนรมิตให้ซากสุนัขเน่าไปคล้องคอพญามารไว้ไม่มีใครสามารถช่วยพญามารได้

เสร็จงานสมโภชแล้วพระอุปคุตจึงปล่อยพญามาร ทำให้พญามารเลื่อมใสศรัทธาอธิฐานเข้าสู่บวรพระพุทธศาสนา
และตั้งจิตอธิฐานปรารถนาสำเร็จเป็น พระสัพพัญญู ในอนาคต พระอุปคุตจึงขอให้พญามารเนรมิตการเป็นรูปพระพุทธเจ้าเพื่อให้พระสงฆ์สาวกได้เห็น
เหมือนเมื่อครั้งที่พระองค์ยังคงมีพระชนม์ชีพพญามารก็แสดงฤทธิ์เนรมิตกายเป็นพระพุทธเจ้าให้พระสงฆ์สาวกนับแสนรูปได้เห็นเป็นที่เจริญศรัทธายิ่งนัก
ตั้งแต่นั้นมาจึงถือคติว่าพระอุปคุตเป็นพระอรหันต์มีฤทธิ์ทางปราบมาร บันดาลโชคลาภ ได้มีการสร้างรูปพระอุปคุตเป็นวัตถุมงคลรูปแบบต่าง ๆ
ทั้งพระกริ่งอุปคุต พระบัวเข็ม พระอุปคุตบูชา พระอุปคุตจกบาตร

ปัจจุบันยังมีความเชื่อว่าพระอุปคุตยังมีชีวิตอยู่ ทุกวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำตรงกับวันพุธ ชาวล้านนาจะเรียกว่า "วันเป็งปุ๊ด" หรือ "วันเพ็ญพุธ"
พระอุปคุตจะออกมาบิณฑบาตในร่างของสามเณรน้อย โดยจะออกมารับบาตรเริ่มตั้งแต่ตีหนึ่งของวันพุธ ผู้คนจึงมักเห็นสามเณรน้อยเดินบิณฑบาตไปตามถนน
ทางสี่แพร่งสามแพร่ง ตลอดจนถนนหนทางตามริมน้ำท่าน้ำต่างๆ จนกระทั่ง ตี๋นฟ้ายก หรือแสงเงินแสงทองออกมา จึงเนรมิตกายหายไป
ทำให้เกิดประเพณีตักบาตรกลางคืนด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ดอกไม้ธูปเทียน เชื่อกันว่า หากผู้ใดมีบุญบารมีได้ใส่บาตรพระอุปคุตมักทำให้ร่ำรวยเงินทอง มีโชคลาภ
เจริญรุ่งเรือง มีสติปัญญาเฉียบแหลม มีสมาธิจิตดี ปราศจากภัยทั้งปวง
พระอุปคุต ปางจกบาตร หมายถึง กิ๋นบ่เสี้ยง หรือกินไม่หมด ให้คุณทางทรัพย์สินเนืองนอง มากมาย ร่ำรวย














สำนักสงฆ์เขาพระครู ได้อัญเชิญพระอุปคุตปราบพญามารขึ้นประดิษฐานในปีนี้ 
จึงได้จัดพิธีตักบาตรวันเป็งปุ๊ดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้ทำบุญตักบาตรพระอุปคุตปราบพญามาร 
โดยในคืนวันอังคารที่ ๔ เมษายนนี้ ข้ามคืนเป็นวันที่ ๕ เมษายน นั้นจะเป็นวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๕ 








หลวงพ่อทันใจ












ของใส่บาตร 3 ชุด พระอุปคุต 1 องค์ พระภิกษุ 2 รูป 











22.30 น. สวดมนต์พระปริตร สวดคาถาบูชาพระอุปคุตปราบพญามาร





00.09 น. ตักบาตรพระอุปคุต (ดอกไม้,อาหารแห้ง)








วิวเมืองศรีราชา ตอนกลางวันบ้าง





















































พญานาคชมเมือง
















































มณีนาคราช สะท้อนภาพวิวทิวทัศน์
ของเมืองศรีราชา ได้แบบกลับหัว












ลาไปกับภาพนางแบบ หน้าพระพุทธลีลานาคะบารมี
กับครั้งหนึ่ง ที่ได้มีโอกาสตักบาตรวันเป็งปุ๊ด
(คืนวันที่ 4 เมษายน 2566)








"Diarist"









 
ขอขอบคุณดนตรีบรรเลงเพื่อทำสมาธิและปฏิบัติธรรม Buddha Spa Music Vol 1
ข้อมูลต่างๆ จากสำนักสงฆ์เขาพระครู ศรีราชา ชลบุรี

และเพื่อนๆทุกคนที่คิดถึงกัน


​​​​​​​



Create Date : 14 เมษายน 2566
Last Update : 14 เมษายน 2566 20:32:47 น. 16 comments
Counter : 683 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณกิ่งฟ้า, คุณnewyorknurse, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณเนินน้ำ, คุณkae+aoe, คุณhaiku, คุณ**mp5**


 
มาไห้วพระด้วยคนค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 14 เมษายน 2566 เวลา:20:50:01 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยครับ

ขอบคุณครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 14 เมษายน 2566 เวลา:23:13:17 น.  

 
ภาพสวยมากค่ะ
ขออนุโมทนาบุญกับคุณวรรณด้วยนะคะ

ขอบคุณคุณวรรณสำหรับกำลังใจค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:0:27:34 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องวรรณ พี่กิ่งขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ภาพสวยงามมากค่ะ นางแบบน่ารักมากมายเห็นแล้วคิดถึงจังเลย

พิธีการตักบาตรพระเที่ยงคืนน่าไปๆค่ะ พี่กิ่งไม่เคยไปเลยค่ะ

มณีนาคราช สะท้อนภาพวิวทิวทัศน์
ของเมืองศรีราชา ได้แบบกลับหัวสวยงามมากค่ะ สาธุ สธุ สาธุ

Diarist

ขอบคุณที่ไปทักทายนะคะมีหลังไมค์ด้วยค่ะ

น้องวรรณหลับฝันดีนะคะ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:2:31:49 น.  

 
พญานาคสวยค่ะ


โดย: เจ้าหญิงไอดิน วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:5:59:16 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
วัดนี้เขาก็ช่างประดิดประดอยนะคะ





โดย: หอมกร วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:7:16:51 น.  

 
สำนักสงฆ์เขาพระครู
ผมไปปฏิบัติธรรมกินนอนที่นั่นหลายครั้ง สงบ...
...
เห็นภาพข้างบนแล้วแหะๆ ผมเขียนเรื่องสำนักสงฆ์เขาพระครูเสร็จเมื่อวาน ว่าจะอัพ
บล๊อกวันจันทร์นี้ครับ..
รูปผมไม่สวยเท่าทำไงดี 555


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 เมษายน 2566 เวลา:10:31:16 น.  

 
สวัสดีครับพี่วรรณ

ทางเหนือมีประเพณีนี้
แต่ผมไม่เคยไปเลยครับ
รู้แต่ว่ามีงานยิ่งใหญ่ คนเยอะ
ยิ่งหยุดจากโควิดมา 3 ปี
คนยิ่งน่าจะเยอะเลยนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2566 เวลา:19:03:10 น.  

 
ผมไม่ค่อยได้ออกเที่ยวตอนช่วงเทศกาลเลยครับพี่
เพราะคนจะเยอะมากเป็นพิเศษ
หลบคนครับ
รอคนซาแล้วค่อยเที่ยวครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 เมษายน 2566 เวลา:21:08:28 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องวรรณ
เงียบหายไปนานเลย สบายดีนะคะ
ศรีราชาเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมากเลยค่ะ
ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน น่าสนใจมากค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 เมษายน 2566 เวลา:21:26:15 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่วรรณ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2566 เวลา:5:27:43 น.  

 
ใช่ครับพี่วรรณ
ตอนอายุน้อยๆ
ผมก็ไม่เคยคิดเรื่องความตาย
จนพี่ชายผมตายนี่ล่ะครับ
เลยเริ่มตระหนักแล้ว
ว่าความตายนั้นอยู่ใกล้ตัวมากๆ
ทุกคนรวมทั้งตัวเราด้วย
ก็อายุมากขึ้นทุกวันๆครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 เมษายน 2566 เวลา:19:48:40 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่วรรณ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 เมษายน 2566 เวลา:5:36:52 น.  

 
ผมเกือบยกเทปให้คนอื่นไปแล้วครับ
มีเป็นพันๆตลับเลย
แต่หมิงบอกว่าจะฟัง
ก็เลยไปซื้อเครื่องเล่นเทปให้ลูก 1 อัน
แต่ก็ไม่ค่อยเห็นฟังนะครับ
ผมเห็นฟังแต่ยูทูปครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 เมษายน 2566 เวลา:20:24:34 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่วรรณ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 เมษายน 2566 เวลา:5:16:44 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 20 เมษายน 2566 เวลา:10:51:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาวริมทะเล
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2566
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
14 เมษายน 2566
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ดาวริมทะเล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.