ฉันมองเห็นแววตาคุณ ดูเปล่าดายคล้ายดาวเปลี่ยว โดดเดี่ยวในฟ้าไกล
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ถนนโลกีย์ 47

ถนนโลกีย์ 47

Nov 25 11:45 Pm


การข้ามกลับมาของผมเช้านี้ต่างจากขามา ผมกลับด้วยเรือเร็วจากการจัดการของจักร เราคงใช้เวลากันแค่ไม่เกินสิบห้านาที
หัวเรือเร็วที่เกาะหลังด้วยเครื่องยนต์ขนาดไม่ต่ำกว่า 150 แรงม้า กระโจนเข้าฟันยอดคลื่นลูกแล้วลูกเล่าอย่างไม่เกรงกลัวว่าเรือทั้งลำจะแตกกระจาย
น้ำทะเลแยกตัวกันจากแรงกระแทกเป็นร่องสาย บางส่วนฟุ้งกระจายขึ้นมาเป็นละอองยิบยับเค็มปร่า
ทุกครั้งที่ผมหันหลังกลับไปมอง ผมก็จะเห็นรุ้งสีสวยเป็นรูปครึ่งวงกลมที่เกิดจากละอองน้ำกับแดดเช้าผุดเด่นขึ้นอวดสีสรรก่อนที่จะจางหาย
แล้วก็ผุดขึ้นอีกตามจังหวะที่หัวเรือฟาดเข้ากับคลื่นลูกขนาดย่อม...
มันสวย แต่คุณจับต้องมันไม่ได้หรอก......

ผมเปลี่ยนใจที่จะบอกนกถึงเรื่องที่ผมกำลังจะลงมือทำ ผมเริ่มมันไม่ถูกว่ะ มันไม่มีเหตุผลที่ดีรองรับเลยแม้สักกระผีก
มันมีเป็นล้านๆเหตุผลที่จะชักจูงเธอ แต่ทุกเหตุผลก็จะเข้าข้างตัวผมเอง....
แย่นะ... เพราะเมื่อคนสองคนเลือกที่จะเผชิญหน้ากับทุกเรื่องราวด้วยกัน ผมก็ควรจะฟังเธอบ้าง
แต่นี่ผมไม่.... ผมตัดสินใจเองทั้งหมด ถึงแม้จะรู้ว่าผลที่เกิดขึ้นมันจะไม่ได้ตกอยู่กับผมคนเดียวก็เถอะ... ช่างน่ารังเกียจเสียจริง
ผมเลือกที่จะทิ้งโน๊ตสั้นๆไว้ให้เธอแทน จริงๆแล้วมันยาวกว่านี้ แต่มันกลับหาข้อสรุปไม่ได้ ยิ่งเขียนยิ่งยืดยาวมากขึ้น
มันก็เลยเหลือแค่ ' รอที่นี่ พี่ไปทำธุระ สองวันกลับ ' ครับ.. แค่นั้นแหล่ะ
มันถูกสอดไว้ใต้หมอนตอนเช้ามืด ไม่รู้สินะ.. เธออาจจะรู้ก็ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
และเธอก็เลือกที่จะเข้าใจ... อาจบางที เธอเองก็คงไม่ต้องฟังการเอ่ยลา แม้ว่าจะชั่วครู่ก็เถอะ
ผมฝืนใจที่จะไม่หันหลังกลับไปมองตอนขึ้นเรือ... เพราะอาจเป็นผมเอง ที่ใจไม่แข็งพอที่จะจากไป...
สิ่งที่ผมเข้าใจก็น่าจะจริง..... เพราะจักรยืนยันหลังจากที่เราขึ้นเรือว่า... เห็นม่านที่หน้าต่างบ้านพักผมเปิดออกโดยมีเธอใช้สายตาออกมาส่งเราที่ชายหาด
อืม.. เธออาจจะเคารพการตัดสินใจของผม หรือไม่... เธอก็คงเหนื่อยจนไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว....
'จิ๋ว'เด็กผู้หญิงรุ่นน้องที่เทิดทูนจักรเหมือนพระเจ้า อาสาที่จะดูแลเธอให้อย่างสุดกำลัง ทุกอย่างถูกทวนแล้วทวนอีกเพื่อป้องกันความผิดพลาด
แต่ถ้ามันจะเกิด ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามประสงค์ของพระพรหมเจ้าผู้ขีดชะตาชีวิตมนุษย์ทุกผู้ก็แล้วกัน
ตอนนี้ เวลานี้ ผมก็คิดได้แค่นี้นั่นแหล่ะ.......

........................................................
........................................................

"โอ้โหเว๊ยยยยย... นี่มัน MTX หรอวะเนี่ย..... " ไอ้จักรส่งเสียงพร้อมกับทำตาโตเมื่อเห็นโฉมไอ้แก่ที่เปลี่ยนไปชนิดไม่เหลือเค้าเดิม น้องรักปรี่เข้ามาลูบคลำพร้อมกับจุ๊ปากถี่ยิบ
"งามมากเลยพี่ งามมากๆ " จักรชมไอ้แก่อย่างชอบอกชอบใจ ไม่ต่างจากผม ผมก็อดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นมันสวยขึ้นและเปรียวจนผิดหูผิดตา
" เอาไปลองเลยพี่ ... " ช่างรุ่นพ่อเข้ามาค้อมตัวพร้อมส่งกุญแจให้ผม ผมบุ้ยปากให้จักร แน่นอน.. จักรไม่พลาดโอกาสนี้แน่
เสียงไอ้แก่ที่ใสกิ๊งเมื่อถูกกระทืบคันสตาร์ท บอกถึงความสดชื่นของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี ควันขาวหายไปแล้ว
รอบเครื่องยนต์ที่สูงจัดจ้านหมุนเฟืองส่งกำลังผ่านโซ่ไปที่ล้อหลังที่ตะกุยยางจนไหม้ควันคลุ้งไปทั่วร้าน ก่อนพาจักรยกล้อหน้าออกจากร้านได้อย่างไม่กินกำลัง
อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ฟุ่มเฟือยถูกถอดออกจนหมด ส่วนที่สะท้อนแสงได้ถูกพ่นทับด้วยสีดำด้าน ช่องพิเศษที่ให้ติดตั้งเพิ่มก็ดูจะเรียบร้อยดี
ไฟหน้าเดิมถูกยกออก เปลี่ยนเป็นสปอร์ตไลต์ดวงกำลังเหมาะหนึ่งคู่
ดิสเบรคขนาดใหญ่รับกับยางใหม่เอี่ยมที่ดอกหนาแน่น พร้อมลุยทั้งทางเรียบทางฝุ่น...
มองรวมๆแล้วมันเหมือนตั๊กแตนขนาดยักษ์สีดำด้านที่กำลังโกรธจัด ให้ตายห่าเถอะ....ถูกใจผมมาก..
ผมอดเสียดายไม่ได้ เมื่อคิดถึงชะตากรรมของมัน......... ทำไงได้.. ทุกการก่อเกิด... ย่อมมีการแตกดับ...

จักรควบไอ้แก่กลับเข้ามาที่ร้าน หน้าตาบอกอารมณ์สะใจ
"สุดตีนมากว่ะพี่ แรงจี๊ดจ๊าด.." ไอ้น้องหัวหยิกสูดปากซี๊ดซ๊าด
"เออ.. พี่ครับ...." ช่างรุ่นพ่อคนเดิมเข้ามาสะกิดที่แขนผม
"นี่ครับ... " ผมรีบควักเงินที่เหลือส่งให้อย่างเข้าใจความหมาย "เยี่ยมมากครับ... ได้อย่างที่อยากได้"
ช่างยิ้มกว้างจนเห็นฟันหน้าที่หายไปสองสามซี่ โบกมือขวาไปมาแต่ใช้มือซ้ายยื่นมารับเงิน "เปล่าครับพี่.. แค่จะถามว่าแฟนพี่ไม่มาด้วยเหรอครับ "
ผมยิ้มตอบ... แต่ไม่มีคำตอบให้.. มาก็เห็นแล้วสิวะ...
แม่งเสือกจริงๆ...... ถ้ามนุษย์เราวุ่นวายเรื่องคนอื่นน้อยลงและใส่ใจกับเรื่องตัวเองให้มากขึ้น ( แม้กระทั่งผม ) เราจะอยู่กันเป็นสุขมากกว่านี้มั๊ยนะ??
คงจะยาก มันเป็นส่วนหนึ่งของของร่างกายเราไปแล้ว.... งั้นก็จงวุ่นวายกันต่อไป...

ผมปล่อยให้จักรตรวจดูไอ้แก่ให้แน่ใจอีกครั้งก่อนที่เราจะออกจากร้าน แล้วพาตัวเองข้ามมายืนหน้าตู้โทรศัพท์สาธารณะฝั่งตรงข้าม
แดดของเมืองริมทะเล ร้อนเหมือนจะคลั่ง...
ผมทวนเลขหมายของบ้านเช่าแตนในใจก่อนหยอดเศษเหรียญลงในตู้แล้วรอสัญญาน
ไอร้อนตามเกาะที่ผนังตู้พลาสติกที่แตกลายงาจนไม่เหลือความใสเผื่อแผ่เข้ามาเข้ามาผ่าวในตู้
ถ้ายังไม่มีใครรับสาย ผมก็คงจะเริ่มสุกแล้วหล่ะ...
และก่อนที่ความอดทนผมจะสิ้นสุด สายปลายทางก็ถูกรับ.....

................................................

ลมร้อนผสมกับไอแดด บวกกับกลิ่นของทะเลสดที่โชยมาจากตลาดข้างๆคาวจัด
มันคล้ายกับกลิ่นคาวเลือดที่กำลังจะเน่า......
ผมรับแบนเหล้าไทยจากจักร ด้วยมือที่ค่อนข้างสั่น ยกวูบเดียวหายไปในลำคอจนเกือบครึ่ง
ฤทธิ์ของมันทำให้อาการสั่นค่อยๆสงบลง จักรยังนั่งเงียบ อาการของผมอาจจะยังไม่เหมาะที่ถามอะไรตอนนี้
ผมกระดกเหล้าที่เหลือซ้ำ ก่อนพินิจพิจารณาขวดแบนที่บรรจุเหล้าราวกับคนที่ไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยในชีวิต
ไม่หรอก ใจผมไม่ได้อยู่ตรงนี้... ผมกำลังนึกถึงหัวข้อสนทนาของผมกับแตนเมื่อราวยี่สิบนาทีที่แล้ว
"พี่ไปอยู่ไหนมา... " แตนสะอึกสะอื้นหลังจากที่เงียบไปครู่ใหญ่เมื่อรู้ว่าเป็นผม
"ทำไมวะ... ใครเป็นอะไรวะแตน.." ผมคงร้อนรนไม่แพ้แตน
"ไอ้เหี้ยเดช ไอ้เหี้ยเดียร์.. มันพาพี่เป็ดมาหาพี่งูแล้วถามหาพี่... แล้วพวกหนูจะไปรู้ได้ยังไง.." แตนยังสำลักสะอื้นกับเสียงพูดที่แทบจะจับไม่ได้ศัพท์
ผมกำกระบอกโทรศัพท์จนมันแทบแตกคามือ... เหงื่อกาฬชุ่มไปหมดทั้งหัวทั้งตัว
ระยำเอ๊ย.......

เป็ดถูกเฮียเดชตามไปตระครุบคอหอยเอาไว้ได้ ก่อนที่จะลากมันไปหาไอ้งูโดยมีกลุ่มไอ้เดียร์เป็นกองหนุน
งูซี่โครงหักไปสามซี่ มีซี่นึงทิ่มเข้าที่ปอด ขาซ้ายและข้อมือขวาหัก
เมื่อไม่สามารถจะให้คำตอบกับพวกมันได้ว่า....ผมอยู่ที่ไหน
นี่เข้าวันที่ห้าแล้ว งูยังไม่ได้สติ คงเป็นโทษสถานเบา อย่างน้อยงูก็ยังเคยอยู่กับพวกมันมาก่อน
ถ้าสถานหนัก งูคงไปไม่ถึงโรงพยาบาลแล้ว....
ความผิดอย่างเดียวของงูก็คือ เราเป็นเพื่อนกัน...
ส่วนไอ้เป็ด... แตนพยายามติดต่อหาข่าวจากเด็กที่ทำงานในบ่อนจนได้ความว่า....
หลังจากที่กลับจากการรุมกระทืบงู เป็ดก็ถูกลากขึ้นรถเฮียเดชออกไปตั้งแต่วันนั้น จนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มีใครได้ข่าวเพิ่มเติมอีก
แตนโชคดีที่ไม่ได้โดนอะไร ทั้งๆที่วันที่เกิดเรื่อง แตนกำลังเข้าไปถึงบ้านงูพอดี
เป็ดที่หน้าตาบวมเจ่อ และงูที่กำลังโดนกินโต๊ะเห็นแตน แตนยืนยันกับผมแบบนั้น
แต่เพื่อนทั้งสองก็ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่แสดงความรู้จัก
ปล่อยให้แตนยืนตัวสั่นปะปนกับกลุ่มคนที่มารุมมุงดูอย่างหิวกระหายในความโชคร้ายของคนอื่น
แตนรับกับผมตรงๆว่า ถ้ารู้ว่าผมอยู่ไหน แตนจะบอกกับพวกมันแน่ เพราะทนเห็นงูโดนขนาดนั้นไม่ไหว...
หึ หึ.... เพื่อนผมจะบอกอะไรได้ ในเมื่อมันไม่รู้ มันไม่รู้ว่าขณะที่มันกำลังเล่นซ่อนหาอยู่กับยมบาลนั้น
ผมกลับเดินเตะฟองคลื่นอยู่ริมหาดขาดนุ่มกับสาวสวย........

หรือแม้กระทั่งที่ผมกลับมา ผมก็ไม่ได้คิดถึงชีวิตที่เหลืออยู่ของเพื่อนๆด้วยซ้ำ ผมคิดถึงแต่ตัวเอง......
ผมแค่จะกลับมาหาเงินอีกครั้ง... ถ้าจำเป็น ผมอาจจะหักหลังใครอีกครั้งก็ได้
ครับ..!!!!
ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ.......

-มีต่อ-


Create Date : 13 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2552 0:10:21 น. 1 comments
Counter : 403 Pageviews.

 
งืมๆๆๆๆด้านมืดกำลังปรากฏกาย


โดย: แสนดีคนในพื้นที่ วันที่: 13 พฤศจิกายน 2552 เวลา:8:33:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aftertime
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ผ่านทาง เพื่อนร่วมเวลา
Friends' blogs
[Add aftertime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.