ฉันมองเห็นแววตาคุณ ดูเปล่าดายคล้ายดาวเปลี่ยว โดดเดี่ยวในฟ้าไกล
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
2 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ถนนโลกีย์ 41

ถนนโลกีย์ 41

Nov 23 09:45 Pm

"เฮ้ย!!!! โอ้โห... ล่อซะเละเลยนะมึง.." งูปราดเข้ามายกไอ้แก่ออกจากตัวผม พลางดึงผมให้ลุกขึ้น แตนถลันเข้ามาหิ้วปีกอีกข้าง
"ตายห่ารึเปล่าวะนี่.... " งูขมวดคิ้ว ผมส่ายหน้า "กูไม่รู้ว่ะ... "เสียงผมฟังแหบโหย..
"รีบเผ่นกันเถอะ... พวกไอ้เดียร์กำลังมา เดี๋ยวได้ฉิบหายกันหมด" งูกระโดดคร่อมสตาร์ทไอ้แก่ มันยังทำงานอย่างซื่อสัตย์ แตนกึ่งผลักกึ่งพยุงให้ผมขึ้นไปคร่อมอานรถ
"เจอกันที่บ้านแตนนะ.. " แตนบอกงูแล้วตบแรงๆเข้าที่หลังผม ก่อนจะวิ่งไปคว้าเป้พร้อมไอ้กล่องขนมปังต้นเรื่องนั่น
"ไม่ไม่.. เดี๋ยวกูพามันไปหาหมอก่อน.." งูตะโกนบอกแตนพร้อมเบิ้ลเครื่องรถ... ผมรวบรวมเรี่ยวแรงส่งเสียงออกไป
"........................................" เพื่อนทั้งสองหันมามองหน้าผมเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ผมย้ำอีกครั้ง...
"พากูไปหานกก่อน... น้องรอกูอยู่... " เสียงของผมเหมือนไม่ใช่เสียงตัวเอง.. ผมตบหลังงูเบาๆเหมือนยืนยันในสิ่งที่ผมพูด...
เพื่อนผมมองหน้ากันเอง งูกัดริมฝีปากล่างไว้แน่นเหมือนกำลังตัดสินใจ
"ตามใจมันเถอะพี่งู เดี๋ยวแตนขี่ตามไป... รีบไปกับเถอะพี่ เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมดนี่แหล่ะ" งูพยักหน้า ตบเกียร์ ปล่อยครัช บิดคันเร่ง ผมผวาตามแรงเครื่องยนต์นิดนึง
มือผมยังกระชับอยู่กับเป้ที่แตนส่งให้.. เสียงปลอกลูกปืนยังดังกรุ๋งกริ๋งอยู่ข้างใน
ผมเริ่มสบายใจขึ้น... ความโหดร้ายในคืนนี้คงจะหยุดแค่นี้ละมั้ง......
อืมม... เดี๋ยวพี่ก็กลับไปหานกแล้วนะ อีกแป๊ปเดียวเอง... เดี๋ยวก็ได้เจอกันละ... ดีจัง....

...................................................................................

เกิดอะไรขึ้นกับผมวะ ความผิดพลาดนี้มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่กัน?
ผมไม่ใช่เด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายตีน ออกจะพร้อมกว่าเด็กคนอื่นๆด้วยซ้ำ
ผมได้รับการอบรมสั่งสอนที่ดี แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่ได้มาจากพ่อกับแม่ก็เถอะ
โคตรเง่าผมมีชื่อเสียงในวงสังคม อันที่จริงเครือญาติทางพ่อก็มีชื่อเสียงระดับประเทศ
ทางแม่ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนกว่า สืบเชื้อสายมาจากขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเราด้วยเหมือนกัน
นามสกุลที่ผมใช้อยู่ ก็ได้รับการต้อนรับที่ดีจากบุคคลรอบข้าง
ผมไม่ได้ขาดอะไรเลย.....
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น.....................
ทั้งที่ผมมีเส้นทางที่สวยงามรอให้เลือกเดินอยู่.... ผิดกับคนอื่นที่ต้องดิ้นรนตะเกียกตะกายไขว่คว้า
แล้วทำไมผมไม่เดิน......
ผมมาทำอะไรที่นี่? ผมพยายามที่จะพิสูจน์อะไร? ผมเสียอะไรไป? ผมจะได้อะไรกลับคืนมา?
เหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้บอกแล้วว่า ผมไม่เหี้ยมเกรียมมากพอที่จะปลิดชีวิตคน...
ทั้งที่มันคิดจะฆ่าผม...
และเหตุการณ์อื่นๆก็บอกว่า ผมเป็นนักดนตรีที่ดีไม่ได้!!! เป็นนักค้ายาคุมบ่อนก็ไม่ได้!!!!!
สรุปว่า ผมทำห่าอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่างเดียว....
วันนี้ผมถูกแทง พรุ่งนี้ผมอาจจะถูกยิง............
ในชีวิตผม ไม่เคยถูกความตายสะกิดไหล่มาก่อน
มันใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เสียจนผมได้กลิ่นลมหายใจเหม็นเอียนของมัน...
ผมเริ่มกลัวจริงๆแล้วสิ.......
พวกมันทำสำเร็จ มันขู่ขวัญผมให้กลัวได้แล้วจริงๆ และมันก็คงเริ่มกัดกินความกลัวของผมเป็นอาหารกันแล้วล่ะ

ถ้าผมจะสู้.. เราจะมีโอกาสชนะมั๊ย?
ถ้าผมพานกหนี... ผมจะมีโอกาสไปรอดแค่ไหน แล้วเพื่อนๆล่ะ.... พวกเค้าจะเป็นยังไงต่อ
ไม่ต้องถามผมก็พอจะเดาได้ว่า งูมาช่วยผมได้ยังไง..
ไอ้เป็ดคงได้กลิ่นอะไบางอย่าง....
และนั่นก็หมายถึง... ตอนนี้ ไอ้เป็ดอาจจะโดนมีดคมๆ จ่อรอที่คอหอยอยู่ที่ไหนสักที่...
หรือไม่ก็อาจจะถูกจับมัด แล้วหย่อนลงถังเหลือแต่คอ เพื่อรอให้ซีเมนต์แข็งตัว ก่อนถูกถีบลงอ่างเก็บน้ำ...
แปลว่าที่ผ่านมา.. ผมคงจะมองเป็ดผิดไป.. คงจะมีแต่สถานะการณที่คับขันจนถึงขีดสุดกระมัง
จึงจะบอกได้ว่า..... หัวใจของใคร จะประกอบด้วยอะไรบ้าง.......
ผมอาจจะต่อรองอะไรกับไอ้เดียร์ได้... ถ้าไม่เล่นงานลูกน้องมันซะปางตายขนาดนั้น
แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ นาทีนี้ผมจะมีอำนาจต่อรองอะไรกับมันได้ ไม่มีเงิน ไม่มีพวก ไม่มีผู้ใหญ่
หึ หึ แถมไอ้อย่างหลังนี่ นอกจากจะไม่เป็นพวกด้วยแล้ว มันยังกำลังเล่นงานผมอยู่อีกต่างหาก
ไอ้เดียร์ศัตรูใหม่ของผม เป็นพวกที่ตอแยได้ยาก..
มันเป็นเด็กที่เติบโตมาจากชายหาด และเด็กที่โตมาจากชายหาดพัทยาด้วยตัวเองได้ ถ้าไม่แข็งแกร่งจริง ก็คงโดนพายุร้ายพัดตกทะเลไปนานแล้ว
ธุรกิจการให้ความดูแลคุ้มครองเปลชายหาด หรือ อาหารเครื่องดื่ม ทำให้ไอ้เวรนี่มีเด็กๆหรือลูกน้องเป็นโขยง
มันไม่โดดเด่นนักในแง่ธุรกิจ แต่เรื่องความใจถึงนี่น่าจะถูกติดโบว์ไว้อันดับแรกๆ
กับถนนสายหลักของพัทยาที่มีอยู่แค่สามสาย และฝูงลูกน้องไอ้เดียร์ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ร่อนกันทั้งวัน
มันก็เหมือนกับว่าทางรอดของเรายิ่งตีบตันมากขึ้น...

เราลัดเลาะกันไปตามชายหาด เข้าซอยเล็กผ่านซอยน้อย เพื่อจะเลี่ยงผู้คน
เส้นขอบฟ้าที่แบ่งฟ้ากับทะเลออกจากกันหายไปนานแล้ว เหลือแต่ผ้าสีดำผืนใหญ่ที่กางคลุมเต็มท้องฟ้า
ไม่มีความลึก ความตื้น มีแต่ความหม่นหมองฉาบระบายไปทั่ว
เฆมฝนสีน้ำตาลเข้มลอยตัวลงต่ำ เสียงครืนครันราวกับเหล่าผีร้ายเตรียมตั้งสายเครื่องดนตรีเพื่อที่จะเล่นบทเพลงมรณะ..............

ความเจ็บปวดที่ชายโครงผมดูจะซาๆไป เหลือแค่อาการหนึบที่ปากแผล ลมที่ตีหน้าทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก
อืมม เมื่อซักครู่ผมอาจจะเหนื่อยและตื่นเต้นมากเกินไป เพราะถ้ามันโดนอะไรที่สำคัญๆ อาการผมน่าจะหนักไปกว่านี้แล้ว ขอให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะ...

งูดับเครื่องยนต์ ก่อนปล่อยให้รถไหลลงไปตามเนินเพื่อลดความสนใจ
ไม่เลวแฮะไอ้นี่ บางทีเรื่องความรอบคอบ มันก็สอนกันไม่ได้

"มึงแน่ใจนะ...ว่าไหว.. " งูส่งเป้ที่พรุนไปด้วยรูลูกปืนให้ผม..
"ไม่เป็นไร.. โดนไม่จัง.. อีกอย่าง กูว่าพวกมันไปตั้งขบวนรอกูที่คลีนิคแล้วแน่ๆ " เสียงผมยังแหบอยู่
งูพยักหน้าก่อนยกชายเสื้อผมขึ้นดู... แล้วขมวดคิ้ว
"ก็ดูไม่แย่เท่าไหร่... งั้นพรุ่งนี้กูเข้ามาหา วันนี้มึงไปนอนก่อน อย่าเสือกทะลึ่งออกไปไหนล่ะ " ผมพยักหน้ารับ แต่งูคงไม่ได้มอง สายตามันมองข้ามไหล่ผมไป..
"คนนี้น่ะหรอ... ที่ทำให้มึงกล้าวัดรอยตีนเฮียตง.." ผมเงียบ และพยายามที่จะไม่หันกลับไปมอง
"สำหรับมึง.. มันคุ้มใช่มั๊ย.. " งูจากไปพร้อมกับคำถามสุดท้าย....

คุ้มหรอ... มันไม่มีอะไรคุ้มหรอก
คือ.. มันไม่มีอะไรคุ้มค่ามากพอที่จะแลกกับเธอ แม้แต่กระทั่งความรักของกู...
มึงเข้าใจมั๊ยเพื่อน........

ผมกระชับแจ๊กเก็ตสีเข้มให้ปิดรอยเปื้อนที่เสื้อยืด ปรับสายตาให้มั่งคง นับหนึ่งถึงห้าช้าๆในใจ แล้วจึงหันไปหาเธอ......

นกยืนรอผมอยู่ที่หน้าบ้าน เธอไม่ได้ปิดไฟและรอผมอยู่ในบ้านตามที่ผมสั่ง
ทุกอย่างดูปกติดี เหมือนกับว่าผมเองนั่นแหล่ะ ที่กลับมาจากโลกอื่น..
สายตาตาเธอดูสว่างและสงบ ทุกก้าวที่เดินเข้ามาหาผมช่างมั่นคง ไม่ลุกลนกระวนกระวาย
ผมยังนิ่งงัน คำแก้ตัวและอธิบายถูกกลืนหายลงไปในลำคอจนหมด
เธอเอื้อมมือมารับเป้จากผม และจูงมือผมให้เดินเข้าบ้าน
ไม่มีน้ำตา ไม่มีการร่ำร้องคร่ำครวญต่อว่า หรือแม้แต่อาการตกใจจากสภาพที่เต็มไปด้วยคราบเลือดและฝุ่นโคลนของผม
มันคงจะจริง ที่ใครบางคนเคยพูดไว้ว่า... ความเจ็บปวดและการรอคอยมันช่างยาวนาน ซึ่งมันคงจะยาวนานเสียจน..
แค่เวลาไม่กี่ชั่วโมง.... ก็เหมือนว่า เด็กผู้หญิงคนนั้นได้จากไปแล้ว เหลือแต่ผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงที่รอคอยอย่างเชื่อมั่น และมั่นใจ
ว่า.. คนรักของเธอจะต้องกลับมา....
เราคงเดินกันไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูบ้าน.. แต่ทุกก้าวที่ย่างออกไปนั้น มันเหมือนการให้สัญญาต่อกัน.....................

..............................................

-มีต่อ-


Create Date : 02 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 10:27:15 น. 1 comments
Counter : 317 Pageviews.

 
แอบมาอัพครับ ช่วงนี้งานยังเยอะมากๆ เลยอีดิทได้ช้า ยังไงก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ


โดย: aftertime วันที่: 2 พฤศจิกายน 2552 เวลา:12:56:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aftertime
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ผ่านทาง เพื่อนร่วมเวลา
Friends' blogs
[Add aftertime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.