ฉันมองเห็นแววตาคุณ ดูเปล่าดายคล้ายดาวเปลี่ยว โดดเดี่ยวในฟ้าไกล
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ถนนโลกีย์ 27

ถนนโลกีย์ 27

Nov 09 05:00 Pm

ผมใช้เงินก้อนสุดท้ายของผมซื้อกีต้าร์โปร่งเก่าๆจากร้านขายของหลุดจำนำ คงต้องเริ่มจากตรงนี้ก่อน
ค่าที่พักผมยังได้อีกสองคืน บุหรี่ยังมี อาหารไว้คิดทีหลัง ผมคงต้องหาเงินเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ผมพยายามขอสมัครเข้าไปเล่นดนตรี ตามผับ บาร์ แต่โชคไม่เข้าข้างเหมือนที่ผ่านมา ไม่มีที่ไหนต้อนรับ
อืม.. มันคงไม่ใช่เรื่องของโชคหรอกนะ สภาพผมคงดูไม่น่าจะพร้อมที่ยืนอยู่บนเวที บางที่ไม่ยอมให้ผมออดิชั่นด้วยซ้ำไป..
...................
.................
ผมเดินเร่หาที่เล่นกีต้าร์เปิดหมวกริมชายหาด มันเป็นทางที่ผมไม่ได้เลือกเอาไว้ แต่ก็นะ.......... ตอนนี้ผมต้องการอยู่รอดให้ได้ก่อน.. เรื่องอื่น..ยังไกลตัวเกินไป...
แสงแดดยังไม่ชวนกันไปซ่อนตัวหลังทะเล มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะเล่นเพลงชีวิต..........(ผมไม่ได้เขียนตก มันไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต)
คงต้องรออีกซักหน่อย.. มันสว่างเกินไปด้วย... เหล่าผีเสื้อราตรีที่ออกมาจับจองทำเลเพื่อแย่งลูกค้ากันตั้งแต่กลางวัน เหลือบมองผมอย่างไม่ไว้ใจ
บางคนก็ปรายตาเยาะเย้ย เพียงเพื่อจะปกปิดความปวดร้าวของตัวเอง....
อย่าโทษเธอเลย ก็นี่มันบนถนน มันเป็นถนนโลกีย์ ใครจะไว้ใจใครได้เล่า....
ผมแกว่งๆกระเป๋า คะเนเหรียญที่เหลือในใจ มันอาจจะได้ข้าวสักจานแก้หิว
หรือเหล้าสักกั๊ก แก้อาย ใช่...แก้อาย ผมไม่เคยทำแบบนี้ ผมไม่คิดว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยน
ผมคิดว่ามันคือการขอทานโดยใช้อุปกรณ์นิดหน่อย ใครจะมาฟังคุณเล่นวะ เครื่องขยายก็ไม่มี เสียงรบกวนก็มากมาย พวกเค้าก็แค่รำคาญ แล้วก็โยนเศษเงินให้ แก้รำคาญ ก็เท่านั้น
ผมเหยียดหยามเหล่าวณิพกมาตลอด..... พวกเขาไม่เคยอยู่ในสายตาผม หรือในเสี้ยวหนึ่งของห้วงคำนึง...
ตลกดี... วันนี้ผมกำลังจะทำอย่างนั้น.......
............................
เกือบจะทุ่มนึงแล้ว ผมยังยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม แสงสีเสียงจากถนนฝั่งตรงข้าม ดังข้ามมาจนผมได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจของคนร้องจากเครื่องเสียงของร้าน
แล้วไอ้กีตาร์โปร่งกร๋องแกร๋งของผม จะเอาอะไรไปสู้แม่ง....
มันผิดคาด เหมือนทุกอย่างมันจะผิดพลาดไปหมด.... ระยำเอ๊ยยย !!!! นี่แหล่ะ.. บทเรียนที่หนึ่ง
ผู้คนเดินผ่านหน้าผมไปมาขวั่กไขว่ เหล่านางฟ้าปีกหักเริ่มชักชวนลูกค้า
หลังจากแบ่งกันควักข้าวเหนียวจิ้มน้ำส้มตำ(เนื้อมันหมดตั้งแต่วางจานลงแล้ว)จากหาบเร่พอกันตาย แล้วรี่ลงไปล้างมือในน้ำทะเล
และก็มือคู่เดิมนั่นแหล่ะ ที่เกาะแขนฝรั่งที่เดินผ่านไปมา.... อย่าถามถึงยางอาย มันเป็นอาชีพ และมืออาชีพก็รู้ว่าควรจะผลิตไอ้ยางบ้านั่นตอนไหน
ฝรั่งแก่ๆหลายคนดูปลื้มอกปลื้มใจ ก็นะ...นานๆทีจะได้รู้สึกว่าตัวเองหล่อเหลาราวเทพบุตร มีสาวรุมล้อม
และฝรั่งบางคนที่ควงเมียหุ่นราวถังสองร้อยลิตร ก็ลอบแสดงความอิจฉาออกมาหางตา...
มันเป็นภาพชีวิตที่คุณอาจจะเห็นกันจนคุ้นชิน แต่มุมมองมันจะเปลี่ยนไปถ้าคุณมายืนอยู่ตรงนี้
ยืนให้เป็นแกน และให้สรรพสิ่งหมุนไปรอบๆ.. รอบๆ... ภาพที่ได้จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง.... อ้อ!!! อย่าเวียนหัวอ้วกแตกกันไปก่อนล่ะ....

ผมรู้สึกสิ้นหวัง... อยากจะฟาดกีตาร์เข้าที่กบาลใครซักคน.... คงต้องคิดกันใหม่อีกที...... หรือว่า.......ผมจะลองขายตูดแข่งกับนางฟ้าพวกนี้ดีวะ......

ทรายเม็ดคมหลุดเข้ารองเท้าตอนที่ผมเดินจากมา... มันเจ็บยุบยิบ มันไม่เจ็บมาก แต่สุดจะทนรำคาญได้...
ผมก้มลงถอดมันสะบัดไปมา พยายามทรงตัวด้วยขาข้างเดียวพลางกร่นด่าดินฟ้าอากาศ จนปลายตาผมเหลือบไปเห็นแนวหลอดไฟบนสะพานที่ยื่นลงไปในทะเลอย่างอังเอิญ
อืมมม.... มันดูไม่เลว หนุ่มสาวที่เกาะเกี่ยวกันเป็นคู่ๆ พวกเขาอาจจะอยากฟังเพลงผมก่อนขึ้นเตียงกันก็เป็นได้ บางทีผมอาจจะได้ทิปหนักๆ
ผู้ชายที่กำลังจะลากผู้หญิงไปเสพสังวาสมักจะทำให้ตัวเองดูดีกว่าความเป็นจริงเสมอ.... มันเป็นกฏ...

ผมเริ่มเล่นกีตาร์อย่างเก้ๆกังๆ หลังจากที่มั่นใจในทำเล แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ เสียงกีตาร์โปร่งที่เบาหวิว จะสู้กับลมทะเลได้ยังไง
................................บทเรียนที่สอง .. ผมต้องหันหลังให้ลมทะเล...
ผมย้ายมาฝั่งตรงข้าม ตาหลายคู่มองมาอย่างขบขันแต่ไม่ยิ้มเยาะ ผมพยายามตั้งสติ...และเริ่มเล่นอีกครั้ง มันไม่สำเร็จ มันออกมาเป็นเพลงห่าอะไรก็ไม่รู้..
ผมยอมแพ้ พิงกีตาร์ไว้กับราวสะพาน แล้วเดินย้อนกลับขึ้นไปบนหาด...

หลังจากได้เหล้าขาวเกือบครึ่งขวดที่เทลงในคอเกือบจะวูบเดียว ผมก็กลับมายืนที่เดิมอีกครั้ง
แต่คราวนี้แตกต่างออกไป ผมเปิดด้วยเพลงร็อกอ่อนๆคุ้นหูของบีทเทิ่ล 'ไอซอร์เฮอสแตนด์ดิ้งแด' แหกปากสุดเสียง กระแทกสายแบบไม่กลัวสายขาด
เมื่อมันจบ ผมก็เล่นและร้องต่อทันที เข้าเพลงที่สาม เหรียญแรกก็ถูกโยนเข้ามาที่หมวกของผม.......

เหล้าขาวทำหน้าที่ของมันจนเกินราคา เมื่อผมหยุดเพื่อเริ่มเพลงในช่วงต่อไปหลังจากที่ซัดไปร่วมสิบเพลง... ผมก็ได้ยินเสียงปรบมือจากรอบๆตัว
ความไพเราะของมันไม่ได้ต่างจากมือเป็นร้อยๆคู่จากผับขนาดใหญ่.. เสียงปรบมือ ก็คือเสียงปรบมือ.. มันไม่หลอกลวงคุณหรอก...
เศษเงินเต็มหมวกจนล้นออกมาข้างๆ..... ห้วงนาทีนั้น ภาพนักดนตรีขี้เมาแก่ๆที่เคยมองผมอย่างเห็นขัน ก็ลอยเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้...
ผมโค้งคำนับอย่างอ่อนน้อมสุดชีวิต พลางซ่อนน้ำตาที่ไหลรื้นออกมาอย่างยากเย็น................

.......................................

-มีต่อ-


Create Date : 17 ตุลาคม 2552
Last Update : 17 ตุลาคม 2552 14:50:36 น. 0 comments
Counter : 463 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aftertime
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผู้ผ่านทาง เพื่อนร่วมเวลา
Friends' blogs
[Add aftertime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.